เพราะได้ทำ รายการLineกนก จึงมีโอกาสนอนในโรงภาพยนตร์ที่เก่าแก่และยังมีลมหายใจอยู่ "ศาลาเฉลิมกรุง" เปิดฉายปฐมฤกษ์ด้วยหนังฝรั่งเสียงในฟิล์ม เรื่อง "มหาภัยใต้ทะเล" วันที่ 2 ก.ค. พ.ศ. 2476 มีรายงานว่าคนดูล้นหลามออกมาถีงถนนหน้าโรง จนรถรางยวดยานต่างๆ ติดขัดหยุดชะงักชั่วคราว
ได้คุยกับ คุณ "นันทา ตันสัจจา" ประธานกรรมการบริหาร โรงภาพยนตร์ในเครือเอเพ็กซ์ เธอมี "สกาลา" เป็นบ้าน มีพนักงานขายตั๋ว เดินตั๋ว ขายข้าวโพดคั่ว..เป็นสมาชิกในครอบครัว
"สกาลา" โรงภาพยนตร์ที่มีความหมายทุกพื้นที่ตารางนิ้ว ตั้งแต่บันได (สกาลา แปลว่า บันได) โคมไฟ สีผนัง ลวดลายการแกะสลัก สีเสื้อพนักงาน ตั๋วหนัง การเปิดขายตั๋ว...
"สกาลา" เป็นโรงเดียวที่ในอดีต ก่อนฉายหนังฟอร์มใหญ่ เช่น The Last Emperor, Dances With Wolves, Rambo เขาจะเปิดให้ชมหนังตัวอย่าง โฆษณา (สวนนงนุช - ชื่อคุณแม่คุณนันทา) เคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี แล้วผ้าม่านจะปิด ทางโรงจะเปิดให้ฟังดนตรีประกอบภาพยนตร์เรื่องนั้น (score) ด้วยระบบดอลบี้ของจริงของแท้ก่อนใครในประเทศ ให้ฟังดนตรีไพเราะ ยิ่งใหญ่ ด้วยระบบเสียงรอบทิศทางสัก 5 นาที ก่อนจะเปิดม่าน..ชมภาพยนตร์จริงๆ
ถ้าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วแถบยุโรป ทางภาครัฐจะต้องยื่นมือเข้ามาช่วยอนุรักษ์ โรงภาพยนตร์ประวัติศาสตร์เช่นนี้ และถ้าโรง stand alone ในบ้านเขายังเปิดให้บริการ จะมีค่าเข้าชมที่แพงกว่าที่อื่น ไม่ใช่ถูกแบบที่ "สกาลา" ยืนหยัดอยู่ทั้งๆที่โรงในเครือเอเพ็กซ์ทุกโรง เป็นระบบดิจิตอล ภาพคมชัด สดใส เหมือนโรงมัลติเพล็กซ์
อนาคตของ "สกาลา" ยังไม่แน่นอน! อวสานของโรงหนังประเภท stand alone ในเมืองไทยจะมาถึงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ "สกาลา"
ติดตาม "Line กนก" คืนนี้ ทางเนชั่นทีวี 20.15 น.
