Project Power (2020) สามารถดูได้ใน Netflix
• คิดว่าหลังจบโปรเจ็คต์นี้ ตำแหน่งที่หางานต่อไปง่ายสุดคือทีม visual effects ของเขาดีจริง
• หนังไม่ได้แย่ขนาดที่คนด่ากัน แต่ก็ไม่ได้ดีขนาดน่าเชียร์ อารมณ์ประมาณดูได้ไม่เสียดายเวลาละกัน
• ไอเดียหนังน่าสนใจดี แนวพลังพิเศษแบบพวก X-Men จำลองมาจากพวกสัตว์ แต่มีเวลาจำกัดแค่ 5 นาที ซึ่ง 5 นาทีในหนังอาจจะรู้สึกเหมือนนานหน่อยนึง ฮ่าๆๆๆ
• แต่ทำแอ็คชั่นโชว์พลังไม่ค่อยน่าตื่นเต้นและไม่น่าจดจำเท่าไร ยกเว้นว่าจะจำงาน visual effects อ่ะนะ
• พอเห็นว่าคนเขียนบทรับจ็อบ The Batman เวอร์ชั่นโรเบิร์ต แพตทินสันด้วย ก็แอบกังวลใจขึ้นมานิดนึง
• ทุนสร้างหนัง Netflix ที่จ่ายไปกับหนังสไตล์บล็อกบัสเตอร์นี่รู้สึกไม่คุ้มค่าเลย ส่วนสายรางวัลอันนั้นต้องยอมรับว่าดีจริง
-------------------------------------
ในโลกที่มีคนคิดค้นยาที่ทำให้คนมีพลังพิเศษ 5 นาทีแบบสุ่มติดตัวไปตลอด (แต่บางคนอาจจะกินแล้วระเบิดตายทันที) 'อาร์ท' (Jamie Foxx) ต้องการตามล่าหาคนอยู่เบื้องหลัง ส่วน 'แฟรงค์' (Joseph Gordon-Levitt) เป็นตำรวจที่ต้องการปราบบอสใหญ่ ซึ่งพล็อตประมาณนี้เล่าไม่ต้องลึกมาก ใส่ปมดราม่าลูกสาวให้ตัวละครเอกนิดนึงพอเป็นพิธี มีตัวละครพระเอกหัวขบถหน่อย ๆ มันก็น่าจะพอแล้วสำหรับความบันเทิงง่าย ๆ เพียงแต่เอาเข้าจริงหนังบล็อกบัสเตอร์สมัยนี้หลายเรื่องก็ยกระดับตัวเองขึ้นมาเยอะ ทั้งงานบทที่มีมิติเข้ม ๆ แบบหนังดราม่าและความสร้างสรรค์ในการให้คนดูรู้สึกสดใหม่ไม่จำเจกับงานที่ผ่านมา
.
โชคดีที่หนังเล่าไม่เยิ่นเย้อ ปุ๊บปั๊บเข้าเรื่อง มีโชว์ visual effects คูล ๆ ตลอดทั้งเรื่อง เอาเข้าจริงพวกฉากแอ็คชั่นมันไม่ค่อยมีอะไรเท่าไร อย่างเวลาดู X-Men ยังรู้สึกมีลูกเล่นของตัวละครเอามาสร้างสรรค์นู่นนี่ แต่ Project Power เหมือนถูกบีบว่าตัวละครได้พลังแบบสุ่มมา ไม่ใช่มืออาชีพด้วย เลยไม่สามารถโชว์ลูกเล่นอะไรได้เยอะ ตัวไหนมีไฟก็วิ่งไล่จับ, ตัวล่องหนก็เน้นวิ่งหนีพรางตัวไปกับวัตถุข้างหลัง แต่อันนี้งานเทคนิคพิเศษเก๋มาก, ยิ่งตัวเอลซ่าคือโชว์เทคนิคพิเศษให้เห็นกันสุดฤทธิ์ ซึ่งหนังมันไม่ได้เอาคิวบู๊หรือปล่อยพลังมาขาย แต่เอาเทคนิคพิเศษมาโชว์มากกว่า
Directors: Henry Joost, Ariel Schulman (ผู้กำกับ Nerve)
screenplay: Mattson Tomlin
Genre: action, thriller, sci-fi
6.5/10
