จากโพสนี้มีเรื่องอยากเล่า คือมีอาจารย์แพทย์ที่นับถือท่านนึง
เขาก็ทำแท้งให้คนที่มีปัญหาท้องไม่พร้อม ทำตามหลักเป๊ะๆ
แต่ถูกคนในองค์กรเดียวกัน ส่งเรื่องไปร้องเรียน บอกว่าเขาทำผิดจริยธรรม
ทำบาป ทำกรรม ให้สอบจริยธรรมเพื่อถอดใบประกอบวิชาชีพ
ทุกวันนี้อาจารย์ท่านนั้นก็ยังอยู่ในระหว่างถูกสอบอยู่
เอาเป็นว่า นอกจากจะต้องแก้ค่านิยมคนในสังคมแล้ว
แม้กระทั่งคนเป็นหมอด้วยกัน มันก็ต้องมาคุยกันเรื่องนี้นะ
เรื่องเล่าจากหมอให้บริการยุติการตั้งครรภ์ (ทำแท้ง)
.
สมัยเด็กๆ ก็ไม่ได้รับการปลูกฝังเกี่ยวกับเรื่องการทำแท้งมาแต่อย่างใด ถ้านึกย้อนไปในความรู้สึก เหมือนจะเป็นการทำบาปที่ทำลายชีวิตเด็กที่กำลังจะเกิดมา แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากมายที่จะต้องต่อต้าน หรือสนับสนุน
.
เมื่อโตขึ้นมาได้มีการได้เรียนเป็นหมอ เรียนในโรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่งที่ไม่มีการยุติการตั้งครรภ์ให้กับหญิงที่ไม่พร้อม ขณะเรียนก็มีโอกาสได้เจอคนไข้กลุ่มนี้เรื่อยๆ ในฐานะที่เป็นหมอก็คงต้องทำตัวเป็นกลางให้คำแนะนำทางเลือก ได้แก่ ตั้งครรภ์ต่อ หรือ ยุติการตั้งครรภ์
.
การแนะนำให้ตั้งครรภ์ต่อ ก็คงพูดได้แต่หลักการเอาเข้าจริงๆ ก็ไม่มีที่ไหนที่จะดูแลหญิงตั้งครรภ์คนนั้นไปตลอดชีวิต ปัญหาของเขาคือ ความไม่พร้อม ไม่ว่าจะเป็นทางครอบครัว ทางด้านการเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย ถามจริงๆ มีองค์กรไหนที่ดูแลเขาไปตลอดชีวิตมั้ย? ถ้ามีช่วยแนะนำด้วย จะได้ส่งคนไข้ไป
.
การแนะนำทางเลือกยุติการตั้งครรภ์ขณะเรียนก็รู้ว่ามีโรงพยาบาลที่เราควรส่งไป เอาเข้าจริงๆ ก็เหมือนแค่พูดชื่อโรงพยาบาล ขั้นตอนเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ เพราะอาจารย์ไม่ได้สอน อาจารย์ไม่ได้แนะนำรายละเอียด อาจารย์บางท่านไม่มีแนวทางเลือกให้ด้วยซ้ำ โรงพยาบาลที่เรียน แพทย์สภา หรือกระทรวงสาธารณสุข ก็ไม่ได้มาเน้นในหลักสูตรการเรียนการสอน ทำให้เราก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรในด้านการบริหารจัดการ
.
เมื่อเรียนจบมามีความรู้ความสามารถ ที่สำคัญคือ รู้สึกเข้าใจหญิงที่ท้องไม่พร้อม พวกคุณที่ต่อต้านการยุติการตั้งครรภ์ เข้าใจผู้หญิงเหล่านี้แค่ไหน ถึงยังต่อต้านการยุติการตั้งครรภ์?
.
ถึงตอนนี้ เราพร้อมที่จะดำเนินการยุติการตั้งครรภ์ให้เป็นเรื่องเป็นราว เคยคิดว่า แค่มีระบบก็จบแล้ว เพราะเราเป็นคนทำ แต่ความจริงนั้นไม่ใช่เลยในโลกความเป็นจริงนั้นยากเหลือเกิน ไม่ใช่ยากที่ระบบ แต่ยากที่ “คนรอบตัว”
.
ระบบการยุติการตั้งครรภ์กระทรวงสาธารณสุข และแพทย์สภา มีไว้เรียบร้อยแล้ว สามารถเบิกกับสปสช.ได้ 100% ดังนั้นการยุติการตั้งครรภ์ไม่ควรจะเป็นเรื่องยาก
.
“คนรอบตัว” คือใคร? ไล่ตามลำดับมา ได้แก่ เจ้าหน้าที่ห้องทะเบียนทำบัตรผู้ป่วย เจ้าหน้าที่หน้าห้องตรวจ เจ้าหน้าที่ห้องยา ผู้ช่วยพยาบาลเตรียมคนไข้ก่อนทำการยุติการตั้งครรภ์ พยาบาลผู้ทำการฉีดยาเพื่อให้หมอทำการยุติการตั้งครรภ์ด้วยการดูด รวมถึงวิสัญญีแพทย์ และพยาบาล บุคคลเหล่านี้ ถือเป็นบุคลากรทางการแพทย์ แต่กลับสร้างความยากลำบากให้กับแพทย์ผู้ที่จะทำการยุติการตั้งครรภ์ให้หญิงที่ท้องไม่พร้อมมากที่สุด ด้วยความคิดที่ว่า การยุติการตั้งครรภ์นั้นเป็นบาป ไม่อยากมีส่วนร่วมใดๆ ไม่อยากแม้แต่จะยืนใกล้ๆ เพื่อทำหน้าที่ของตนเอง
.
สถาบันต่างๆ ที่ผลิตบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนแพทย์ สถาบันฝึกอบรมพยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล ควรสอนให้รู้จักคำว่ายุติการตั้งครรภ์โดยมีข้อบ่งชี้ ไม่ใช่เป็นการทำบาป ทำให้ดูเหมือนว่า แม้จะเรียนจบมามีความรู้ มีใบประกาศ แต่กลับไม่มีวุฒิภาวะทางความคิดในเรื่องนี้
.
การยุติการตั้งครรภ์ในมุมมองของคนที่เป็นหมออย่างผมนะครับ คือ การให้การรักษาคนไข้อย่างหนึ่ง ไม่ใช่การทำบาป การให้การรักษา หรือการให้การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์มันจะเป็นบาปไปได้อย่างไร
.
อ่านทั้งหมดคลิก : https://www.rsathai.org/contents/16114
#ท้องไม่พร้อม #ทำแท้ง #ยุติการตั้งครรภ์ #rsathai
A story from doctor to end pregnancy (abortion)
.
When I was young, I wasn't cultivated about abortion. If I thought back in feeling like it would be a sin that ruined a child's life that was born, but I didn't think much to resist or support.
.
When you grow up, there is a doctor in a medical school that doesn't end pregnancy for women who are not ready. While studying, they have a chance to see this group of patients. As doctors, you will have to be neutral. Give advice. The choice is pregnant. Continue or terminate pregnancy
.
Recommending Pregnancy can be said, but the principle is nowhere to take care of that pregnant woman for the rest of his life. His problem is not ready, whether it's family, financial and more. Seriously, is there any organization that takes care of him for the rest of his life? If there is, please recommend so I can send the patient.
.
Introducing the choice to end pregnancy while studying, I know that there is a hospital that we should send to take it. It's like just saying the name of the hospital. Because teachers didn't teach teachers didn't recommend details. Some teachers don't even have a way to choose. Hospital that study doctor. Council or ministry of health doesn't focus on teaching courses. We don't know what to do in management.
.
When graduating, the important ability is to understand pregnant women who are not ready. How much do you who oppose pregnancy understand these women are still against pregnancy?
.
Even now we are ready to end pregnancy. I thought that there is a system is over because we did it. But the truth is not at all in the real world. It's not difficult. It's not difficult for the system, but difficult for "people around"
.
Pregnancy System. Ministry of health and doctor. Council has already. It can get it with the dea. Got 100 % so terminating pregnancy shouldn't be difficult
.
Who is "people around"? Chased in order: registration staff, patient card, staff in front of the medical staff, medical assistants, preparing patients before ending the pregnancy, nurses, injections for doctors to end the pregnancy by suction, including viss cuddle anesthesiologist and nurses. These are medical personnel, but they make difficulties for doctors who will end pregnancy for the most unready women with the idea that ending pregnancy is a sin. Don't want to participate. Don't even want to stand close to do their own duty.
.
Institutions that produce medical personnel, whether it is medical school, Nursing Training Institute, nursing assistants should teach the word ending pregnancy with indication, not sin. It seems that even if they graduate, there is knowledge, Declaration, but there is no maturity in this matter.
.
Ending pregnancy in the perspective of a doctor like me is to give a patient treatment, not sin, treatment or helping human friends. How can it be a sin?
.
Read all click: https://www.rsathai.org/contents/16114
#ท้องไม่พร้อม #ทำแท้ง #ยุติการตั้งครรภ์ #rsathaiTranslated
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過62萬的網紅Bryan Wee,也在其Youtube影片中提到,...
「principle of management」的推薦目錄:
- 關於principle of management 在 Drama-addict Facebook
- 關於principle of management 在 外交部 Ministry of Foreign Affairs, ROC(Taiwan) Facebook
- 關於principle of management 在 Roundfinger Facebook
- 關於principle of management 在 Bryan Wee Youtube
- 關於principle of management 在 Travel Thirsty Youtube
- 關於principle of management 在 スキマスイッチ - 「全力少年」Music Video : SUKIMASWITCH / ZENRYOKU SHOUNEN Music Video Youtube
principle of management 在 外交部 Ministry of Foreign Affairs, ROC(Taiwan) Facebook 八卦
【PRC夠了啦~ Let Taiwan Help】
當全世界都知道,中方的惡意阻擋是「世界衛生組織」(WHO)未能將台灣完整納入技術性討論的主要障礙,BUT,中華人民共和國外交部居然說:「已經對台灣參與全球衛生事務做出妥善安排」(讓我翻個白眼先),這凸顯中國政府公然說謊、誤導國際社會,不斷打壓台灣人民的健康人權。
「一中原則」作為阻止台灣貢獻國際的說法已是陳腔濫調,中國持續將政治凌駕於健康人權的霸道行徑,外交部對此予以強烈譴責。
只有台灣的民選政府才能在「世界衛生組織」及其他國際組織代表台灣2,350萬人民;台灣人民的健康人權由我國政府來守護,中國無權、也無能力代勞。
台灣有能力也有意願協助全世界,以台灣成功的防疫經驗,參與WHO,一定能做出更多貢獻。
#LetTaiwanHelp
.
.
#Taiwan does not belong to the PRC, and any claim to the contrary is a shameless lie, as the whole world is doubtless already aware. Nor did the PRC make any "appropriate arrangement" for Taiwan to avail of global public health mechanisms in the midst of the pandemic. This too is a shameless lie. Taiwan's pandemic management is being run by the Taiwan government and on principles, such as #democracy, #freedom #transparency and concern for #HumanRights, that are incompatible with the authoritarian rule in the PRC!
Using the anachronistic cliche that is the "One China Principle" as a way to prevent Taiwan from contributing to global public health is putting politics head of health and human rights. The 23.5 million people of Taiwan should have representation in an organization like the WHO that claims to #LeaveNoOneBehind.
It's hard to find a more appropriate definition for "shameless lie" than these claims by the PRC.
principle of management 在 Roundfinger Facebook 八卦
ใช้เวลาน้อยลง ได้ผลลัพธ์มากขึ้น
หลักคิดข้อหนึ่งในหนังสือ 'สิ่งสำคัญของชีวิต' ที่ผมได้รับจากคุณมานิต อุดมคุณธรรม คือหลัก 80/20 ซึ่งพูดถึงการให้น้ำหนักกับสิ่งสำคัญ 20% ซึ่งส่งผลมากกว่า 80% ที่ไม่สำคัญ
คุณมานิตแนะว่า ให้ลองสังเกตดีๆ ในชีวิตเราส่วนใหญ่เรามีสิ่งที่ใช้บ่อยๆ แค่ 20% เช่น เสื้อผ้าในตู้ ใส่บ่อยจริงๆ ก็คือ 20% ของมัน ที่เหลืออีก 80% มักไม่ค่อยได้หยิบ
...Continue ReadingSpend less time getting more results
One of the main thinking of ' important things of life ' that I received from Mr. Manit Udom virtue is the 80/20 which speaks of giving weight to 20 % important things which affects more than 80 % that don't matter.
Mr. Manit suggests that you can take good notice in our lives. Most of us have 20 % of the things that we use, such as clothes in the closet. It is 20 % of it's the rest of it. The remaining 80 % often don't
This is applied to work. It takes 20 % concentrate and intensive to get more results than spending 80 % without focus.
...
This principle is vilfredo pareto, an Italian thinker and economist, who noted that 20 % of lantao peas planted in his garden yield 80 % of the total productivity because it is 20 % completely strong. Then he further explored that 80 % of the market products are from only 20 % of manufacturers who are the market owner.
Then this thinking is often taken notice
+ 20 % Of Dealers Make Money 80 %
+ 20 % of customers make 80 % profit.
+ 20 % of cuddle k in software damage 80 %
+ 20 % of patients spend 80 % of the public health system.
Etc.
For Executives and core workers, this thinking is applied to work to be more efficient by spending less time and energy.
...
The principle is that
1. Realize that capital, time and energy are limited.
2. Focus on important work
3. Don't waste time on things we don't need to do or work that can let others take care of.
4. Don't regret or worry about the 80 % that doesn't matter because it may only affect 20 % let's be dedicated to 20 % that gives 80 % result.
5. Choose to spend time and energy on what really applies to the work. What is the outer shell which is made with familiar. Too long meeting should be adjusted. The unnecessary journey should adjust how to contact or gather together on the same day or same place.
6. For Freelancer, you need to know who the customer is quality focus and dedicated to him. Create quality work regularly. You will get more jobs from little customers, but good quality, which may be better than getting a job and headache with many problems. Unexpected pattern. Guess.
7. for initiatives to do new things, focus on important goals instead of pying eyes. Look for 'new opportunities' all the time. Your energy will flow to not have enough power to push important goals to stand out.
8. Sitting down to work, when you know what today's important things are, turn off all the channels and sit down and focus on that job. one inserted interference makes it takes 30-60 minutes to restore meditation while continuing. Focus makes more progress than doing many things together
9. in terms of personal life, when we know that the important things we live are only 20 % from all. We are more conscious. When we buy new items, the cravings are less. Less burden in life. We may feel lighter. Too.
10. When it takes a little time but we get a lot of work. The rest of time, we can apply in other parts of life such as exercise, meet friends, take care of parents or children. It is caused by 20 % intensive time to get
...
Mr. Manit once told me, " if you work without management, no focus, no priorities, you will spend too much time on unnecessary. Believe it or not, I work one day equal to you do four days then big smile. " Oh, I can do 20 % but you can do 80 % 20 %
---
This is just a sauce :) read the important story of life that can be deployed in the book 'matters of life' by round finger. Now the 12th print is a book that many readers say is beneficial to living in Many aspects. Leave it in your finger. :)
Order online via inbox to @[495024317175218:274:KOOB] page.Translated
principle of management 在 Bryan Wee Youtube 的評價
principle of management 在 Travel Thirsty Youtube 的評價
principle of management 在 スキマスイッチ - 「全力少年」Music Video : SUKIMASWITCH / ZENRYOKU SHOUNEN Music Video Youtube 的評價
principle of management 在 Henri Fayol's 14 Principles of Management 的相關結果
1. Division of Work 2. Authority and Responsibility 3. Discipline 4. Unity of Command 5. Unity of Direction 6. Subordination of Individual Interest 7. Remuneration ... <看更多>
principle of management 在 14 Principles of Management by Henri Fayol 的相關結果
Principles of management are basic activities that can help you plan, organize and control operations related to material, people, machines, ... ... <看更多>