"สารจากอนาคต"
สิ่งที่คุณขายได้อยู่วันนี้
วันนึง
“อาจจะขายไม่ได้อีกต่อไป”
A
---
"กบต้ม"
วันนี้ผมhookเร็วเลย
ขอพูดเรื่องทฤษฏี
“The Boiled Frog Theory”
หรือที่เรียกกันว่า “ทฤษฎีกบต้ม”
โดยทฤษฎีนี้
ได้ทำการทดลองโดย
"นำกบมาใส่ในหม้อ"
มีหม้อ2แบบ
1.หม้อใบแรก
เป็นหม้อที่มีน้ำร้อนจัดๆ
2.หม้อที่สอง
เป็นหม้อที่มีน้ำอุ่น
สบายๆ
และค่อยๆต้มให้น้ำอุ่นขึ้นจนเดือด
โดยการทดลองนี้
ต้องการศึกษาว่ากบตัวไหน
ที่จะตายก่อน
และกบตัวไหนที่จะรอดชีวิต
ผลคือกบที่ใส่ในหม้อแรกที่มีน้ำร้อนจัดนั้น
รอดชีวิตเพราะ
มันมันรีบกระโดดออกมาในทันที
หลังสัมผัสกับน้ำเดือด
ไหวตัวทันด้วยสัญชาติญาณที่จะต้องรอด
แต่กบที่อยู่ในหม้อใบที่2ที่อุ่นสบายนั้น
ไม่มีท่าทีจะหนี
และยังคงอยู่ในหม้อจนกระทั่งน้ำเดือด
แม้ว่าน้ำจะค่อยๆ อุ่นขึ้นๆ
ก็ไม่ยอมกระโดดออกมา
สรุปว่ากบตัวนั้นตายคาหม้อ
เพราะไม่สามารถหนีได้ทัน
B
---
"การทดลองนี้สอนอะไร?"
บาปกรรมทารุณ?
โอเคทีแรกผมก็คิดแบบนั้น
และคิดว่าจะเขียนดีไหม?
เพราะผมก็ไม่ค่อยชอบเรื่อง
การทรมาณสัตว์
(และก็ไม่ได้สนับสนุนให้ใครอ่านบทความนี้
แล้วคิดจะไปทดลอง)
มันมีการทดลองนี้เกิดขึ้นแล้ว
ไม่ต้องไปทำซ้ำอีก
(ไป search หาข้อมูลดูเอา)
แต่เราจะเรียนรู้เรื่องนี้ในมุมที่เป็นประโยชน์ได้ยังไง?
“การที่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแค่ทีละนิด
อาจจะทำให้เราไม่รู้ตัว
และชะล่าใจ”
C
—
“บทเรียน ”
“ Nokia- BlockBuster”
ตอนที่ Nokia รุ่งเรืองสุดๆ
จริงๆมันเริ่มมีเทรนด์ Smart Phoneออกมา
(คงไม่ต้องเล่ายาว)
เอาบทสรุปเลยแบบกระชับๆ ภาษาไม่ทางการ
เมื่อเทรนด์มา
เหมือนน้ำมันเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ
Nokia ทั้งๆที่มีฐานลูกค้าเยอะที่สุดยังไม่ขยับ
จนน้ำเดือด
จนลุกมาปรับทีหลัง
แต่ฝั่ง ios กับ แอนดรอยก็ไปไกลแล้ว
และเอาฐานแฟนไปแล้ว
จนปัจจุบันต้องไปทำอย่างอื่น
ไม่มีโทรศัพท์ Nokia อีก
Blockbusterร้านเช่าวีดีโอเจ้าดัง
ใหญ่ที่สุดจากอเมริกาก็เช่นกัน
จนวันที่NetFlixเข้ามา
เริ่มทำอะไรที่เหนือกว่า
ทั้งทำเป็นบริการรายเดือน
ไม่มีค่าปรับกำหนดวันเช่า จะกี่เรื่องก็ได้
Blockbusterปรับตาม
แต่NetFlixก็ขยับไปเป็น Streming vdo
Blockbuster จะปรับตาม
แต่ก็ห่างไกล
"น้ำเดือด กบตาย"
บทเรียนนี้ให้ข้อคิดหลายมุม
1.“เมื่อเทรนด์มา ต้องนำ
หรือไม่ก็ตามให้ไว”
2.“อย่ายึดติดกับความสำเร็จในอดีต
เพราะนั่นไม่ได้การันตีอนาคต”
3.“จงเรียนรู้และพัฒนาเสมอ”
D
----------
“ถ้าพูดเรื่องค้าขายออนไลน์
และมุมมองการตลาด
เรื่องนี้สอนอะไรเรา?”
กลับมาที่พวกเราที่ค้าขาย
ทำการตลาดออนไลน์
Product4Level(ที่ผมเขียนไปวันก่อน ใครดูแล้วอ่านผ่านๆ)
Product Levelที่1 -
Productที่เหมือนกันๆ(ต้องแข่งราคาอย่างเดียว)
ProductLevelที่2-
Productที่ยังไม่เคยมีใครเคยทำมาก่อน(แตกต่างชัดเจน)
Product Levelที่3
-Product ที่เรามีserviceที่เหนือกว่า
(ของอาจเหมือนกัน
แต่ยังไม่มีใครเซิร์ฟบริการลูกค้าได้แบบนี้)
Product Levelที่4
-Product ที่แตกต่างที่ประสบการณ์
(ของอาจคล้ายกัน แต่ลูกค้าเลือกเพราะประสบการณ์ที่เค้าได้รับ)
“จำ4Level นี้ให้ขึ้นใจ”
“มันจะทำให้เราเช็คความอุ่นของน้ำได้ตลอดเวลา”
E
—
“Leve2,3,4 จะอยู่ได้”
“เพราะมีจุดแตกต่างที่ดีกว่าเจ้าอื่น”
แต่ก็หมายถึงไม่ควรชะล่าใจ.....
เพราะเมื่อไหร่ที่ขายดี
จะมีคนอยากขายดีแบบคุณเสมอ
“ก็ต้องปรับตัวตลอดเวลา
นึกถึงเรื่องNokia/Blockbuster
“อย่ายึดติดกับความสำเร็จในอดีต”
“จงเรียนรู้และพัฒนาเสมอ”
และ.....
“เมื่อเทรนด์อะไรมา ต้องนำ
หรือไม่ก็ตามให้ไว”
F
————
“แต่ Level1จะอยู่ลำบากขึ้น”
Product ที่ขาย
ไม่ต่างในเรื่องออฟชั่น
บริการ/หรือประสบการณ์อะไรเลย
“แข่งราคาอย่างเดียว”
“สู้กันด้วยถูกสุด”
“2-7ปีก่อนมันเคยรุ่งเรื่องonlineในไทย
มาถึงก็ขายได้เลย
สบายๆ
ที่ขายได้เพราะเหตุผลเดียว
"ไม่มีใครขายแข่งกับเราบนOnline"
เรากลายเป็นProduct Level3
ที่มีบริการเหนือกว่าoffline
ทั้งการสั่งซื้อและส่งถึงที่
"และถูกกว่า"
แต่พอคุณขายดี
คนก็ลงขายกับคุณ
เค้าอยากสู้ได้
เค้าก็ลดแข่งกับคุณ
และเราก็ยิงแอดสู้
เราได้ยอดกลับมา
เราชะล่าใจ
ไม่ได้ไปลงทุนเรียนรู้การตลาด
หรือเทรนด์อะไรเพิ่มเลย
“เพราะน้ำมันก็ยังอุ่นอยู่ ยังไม่ตาย”
จนรู้ตัวอีกที
“น้ำเดือดปรับเกมส์ไม่ทัน”
"คล้ายกับคนที่ทำoffline แต่ปรับตัวมาonlineไม่ทัน"
"แต่กลายเป็นonlineที่ล้าหลัง
ปรับตัวไม่ทัยonlineยุคใหม่"
G
---------
“เทรนด์ใหม่ ในอนาคต”
ธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กับผู้คนจะอยู่ได้
"The Most Human Company Wins"
หรือธุรกิจที่มี”ฐานแฟน”
จะคงอยู่
สังเกตุแบรนด์ใหญ่
"CEOจะออกมา"
"หรือมีตัวแทนที่ออกมาเชื่อมกับผู้คนได้
เพราะคนผูกพันธ์กับคนได้มากกว่าชื่อสินค้า
ไม่ได้บอกว่าสร้างชื่อด้วยสินค้าทำไมได้นะครับ
แต่คนสัมผัสและเข้าถึงคนได้ง่ายกว่า
"ผูกพันธ์ได้ง่ายกว่า"
เลยจะเห็นยุคนี้แบรนด์ใหญ่พยามทำสิ่งนี้
ในยุคที่คุณตันทำชาโออิชิ
คุณตัน ออกมา ทำให้
ชา เค้าโดดเด่นเข้าถึงง่ายกว่า
มีโอกาสที่คนอยากดื่มชา
ที่ในร้านสะดวกซื้อมี10มีเป็น10เจ้าแยกไม่ออก
แต่ชาคุณตันจะโดดเด่นขึ้นมา
สาหร่ายเถ้าแก่น้อย
มีสาหร่ายหลายเจ้า
แต่เป็นได้สูงที่คนจะนึกถึงเถ้าแก่น้อย
เพราะนคกถึงตัวบุคคล
จริงๆแบรนด์ใหญ่ทำมานานแล้ว
เจ้าสัวเจ้าของแบรนด์ต่างออกมา
แบรนด์เริ่มต้นใหม่
เจ้าของแบรนด์ก็ออกมา
ได้ผลมากกว่า
ได้ใจคนมากว่า
"การเก็บตัว"
“คนรักคนได้มากกว่า”
“เทรนด์ปัจจุบันมันมาแบบนี้”
H
—
“แบรนเล็กก็ทำได้”
“แล้วคนที่ขายของให้คนอื่นล่ะ?”
เช่นกัน!
คนขายของเล็กๆ
เป็นตัวแทนคนอื่น
อย่างผมสมัยก่อน
ตอนสมัยผมเป็นเซลล์ขายรถ
ช่วงสมัยก่อนที่Onlineมาใหม่ๆ6-7ปีก่อน
เพจผมไม่ต้องมีความสัมพันธ์มากมาย
ไม่ต้องคิดเรื่องนี้เท่าไหร่
จะยิงแอดมันก็ขายง่าย เข้าถึงคน
เค้าอยู่บ้านเค้าก็ถามข้อมูลจากผมได้
ผมอำนวยความสะดวกได้
Serviceผมแตกต่างทันที
เพราะผมแข่งกับoffline
แข่งกับโลกเดิม
"ผมกลายเป็นProduct Level3ทันที"
ผมมีบริการที่แตกต่าง
แทนที่ผมจะเล่นกับofflineยืนเฝ้าโชว์รูม
แต่ผมได้ลูกค้าจากทั่วประเทศ
“เมื่อเทรนด์มา เรานำเทรนด์
หรือไวกว่า
ก็ได้เปรียบ”
แต่เมื่อผมเห็นกลิ่นอะไรบางอย่าง
คนเริ่มขึ้นมาขายเยอะขึ้น
"มันไม่ได้แข่งกับOfflineอีกแล้ว"
และในonline
ผมก็ไม่แตกต่างอีก
และก็เจอเรื่องเดิม
ตัดราคา วนLoop
คนขายรถก็ลุกมาทำเพจกันทุกคน
วันนั้นผมจากProduct Level3
ที่serviceเหนือกว่า
"ก็กลายเป็นProduct Level1เหมือนเดิม"
"ไม่ต่างอะไรอีก"
เมื่อเป็นแบบนี้...
2,3, คุณก็ทำไม่ได้
เพราะของคุณก็
มาจากโรงงานเดียวกัน"Level2ไม่ได้"
Serviceของคุณก็ไม่ต่าง
เพราะศูนย์บริการก็
มาตรฐานเดียวกัน"Level3ไม่ได้"
มันก็ต้องเล่นที่
“เทรนด์ใหม่ ในอนาคต”
ธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กับผู้คนจะอยู่ได้
"The Most Human Company Wins"
หรือธุรกิจที่มี”ฐานแฟน”
จะคงอยู่
“ไม่ต้องเป็นCEOใหญ่”
“เราก็เป็น CEOของตัวเองได้”
“แม่ว่าเราจะเป็นแบรนด์เล็ก หรือ ตัวแทน”
ในเมื่อคนขายรถก็ทำเพจกันทุกคน
ไม่แตกต่างอีกแล้ว
เราก็ต้องทำตัวเป็น1Plus(หรือ1+)
สร้างความแตกต่างออกมา
ในเมื่อเทรนด์
มันเริ่มวัดที่ความสัมพันธ์
ความน่าเชื่อถือ
ความถูกใจ
“คนรักคนได้มากกว่า”
ออกมาให้ความรู้ได้ไหม
"ถ้ายังไม่มีใครในวงการทำรีบทำ"
แต่ถ้ามีแล้ว
"อะไรล่ะที่เป็นปัญหาลูกค้าที่ยังไม่มีใครพูด"
มันต้องมี!
แต่ถ้าสุดแล้วจริงๆ
ให้ความรู้ในมุมที่แตกต่างได้ไหม
บันเทิงได้ไหม?
สนุกได้ไหม?
นิสัยดีได้ไหม?
มีเสน่ได้ไหม?
น่ารักได้ไหม?
ออกมาได้ไหมล่ะ?
มันยังมีโอกาส
ในความรู้เดียวกัน
มันก็ยังทำให้แตกต่างได้เสมอ
ลึกไปอีกขั้น!
ถ้าคุณออกมา
เค้ามีโอกาสเปิดใจกับคุณ
มากกว่าคนที่ขายแบบเดียวกับคุณ
"อีก10อีก100หรือ1,000เจ้าในตลาดทันที"
"ถ้าเค้าถูกใจคุณเรื่องตัดราคาอาจจะไม่ใช่ประเด็น"
ลองเช็คดูธุรกิจที่คุณทำ
"คุณอยู่ในหมวดนี้หรือเปล่า"
ถ้าอยู่ลองถามตัวเอง
ถ้าเป็นlevel2,3,4
"ก็อย่าหยุดพัฒนา"
"ให้เป็นLevel2,3,4"
ที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้นไปอีก
แต่ถ้าเป็น Level1
ทำยังไงที่จะพัฒนาเป็น
Level2,3,4ให้ได้
หรือจะทำยังไงให้
"upgradeเป็น1PLUS(1+)ให้ได้"
อย่างน้อย
"ไม่แตกต่างด้วยสินค้า"
ไม่แตกต่างด้วยบริการ
"ก็แตกต่างที่ตัวคุณ"
i
——
"คนที่เพิ่งขึ้นมาทำการตลาดออนไลน์ใหม่ๆ"
การเปิดเพจปุ๊บ
postขายดื้อๆ ยิงแอดดื้อๆ
"จะรู้ว่าน้ำเดือดแล้ว”
เมื่อเพิ่งมาทีหลัง เพิ่งมาเริ่มทำ
แล้วโดดลงมาเจอน้ำเดือดปุ๊บ
ก็เด้งกลับไปตั้งตัว
แล้วเริ่มรู้ว่ามันไม่ชิล
"รู้ว่าไม่สามารถมาPostขาย ยิงแอดดื้อๆ
แล้วขายได้เลย
โดยไม่รู้เรื่องProduct Levelมาก่อนได้"
เมื่อเค้ารู้ตัว...
เลยต้องพยายามทำอะไรให้แตกต่าง
คนกลุ่มนี้จะศึกษาเรียนรู้ในเรื่องการตลาด
จะลงทุนแรงและเงินในเรื่องนี้
ปรับตัวตั้งแต่เริ่มลงสนาม
คิดถึงการทำProduct Level2,3,4
แต่เริ่ม
ในยุคนี้
คนกลุ่มนี้จะสำเร็จได้ง่ายกว่า
เพราะเตรียมใจมาแต่แรกว่า
เค้ามาเพื่อเอาชนะ
ไม่ชิล
"มาเอาจริง"
ไม่ใช่มาลอง
"ไม่ค่อยน่ากังวล"
"เพราะเข้าใจสถานการณ์"
"Update เทรนด์"
"และศึกษาเรียนรู้ตลอดเวลา"
J
————
“ถ้าเปรียบ กับเรื่อง กบ”
คนที่เพิ่งมาทำทีหลัง
"เห็นน้ำเดือด"
ก็เข้าใจสถานการณ์ดี
เลยต้องพยายาม
ทำอะไรให้แตกต่าง
ปรับตัวแต่เริ่ม
"ไม่ค่อยน่ากังวล
แต่....
ที่น่ากังวลคือ...
"คนที่เคยขายดีมาก่อน"
ยอดน้อยลง
ยิงแอดสู้
"และก็ยังไปได้"
ไม่รู้สึกว่ากำลังจะวิกฤติอะไร
จนวันนึง
คนขายของเหมือนเรามากขึ้นเรื่อยๆ
แอดแพงข้ึนเรื่อยๆ
ไม่ได้ศึกษาหาความรู้
และเทรนด์ที่กำลังจะมาเพิ่มเติม
แล้วอยู่ดีๆ
เทรนด์ก็เปลี่ยนไปแบบไม่ทันตั้งตัว
รู้ตัวอีกที
น้ำเดือด
"จนเป็นเหมือนกบ
เหมือนNokia
เหมือน BlockBuster"
ทั้งๆที่จริงๆแล้ว
อุณหภูมิน้ำมันร้อนขึ้นมานานแล้ว
เทรนด์มันมาระยะนึงแล้ว
มันไม่ได้มาปุ๊บป๊บ
แต่มันค่อยอุ่นขึ้นๆๆ
แต่ไม่รู้ตัว
"จนเดือดในที่สุด"
K
————
คนที่เพิ่งเริ่มทำการตลาดonline
ที่อ่านบทความนี้อยู่
ผมไม่กงวลเท่าไหร่
เพราะคุณลงทุนศึกษาเรียนรู้ตลอดเวลา
แต่สำหรับคนที่ขายดี
หรือเคยขายดีอยู่จนเริ่มรู้สึกอะไรบางอย่างแล้ว
"ลองวิเคราะห์สถานการณ์ดีๆ"
"ลองตรวจเช็คน้ำดีๆว่าตอนนี้มันอุ่นอยู่รึเปล่า?"
"มันร้อนขึ้นไหม"
"และมันถึงเวลา....
ที่จะชิงลงมือทำก่อนน้ำเดือดไหม?"
"นำเทรนด์ หรือตามเทรนด์ให้ไว "
"อย่าให้กลายเป็นกบต้ม"
น้ำเดือดสะดุ้งทัน
น้ำอุ่นไม่รู้ตัว
ไหวตัวให้ทัน
"ในวันที่การตลาดเปลี่ยนไป"
-
จริงๆไม่ต้องห่วง หรือกังวลเกินไป
โอกาส....
ยังมีอีกมากเพราะนี่เป็น....
"ยุค Online Take Over"
เป็นยุคที่เปลี่ยนชีวิตได้
ด้วยonline
ด้วยเงื่อนไข...
ถ้าเราเข้าใจ
รู้ทัน..
"และลงมือทำไวก่อน"
ฝากไว้ให้ทุกคนครับ
ไม่ใช่ให้เตรียมตัวกลัวนะครับ
แต่ให้เตรียมตัวเอาการตลาดOnlineนี้ไปเปลี่ยนชีวิต
ใครอ่านแล้วก็ทักทายหน่อยนะครับ^_
ลุย!!
#A10(เอเท็น)
#iClassUniversity
#สังคมแห่งความเป็นไปได้
----
Ps; สำหรับพี่ๆ น้องๆที่อยากไปลงลึก
เรื่อง Trend การตลาดที่ update ล่าสุด
เพื่อลงมือทำก่อน และไม่พลาดเมื่อสายเกินไป
ตอนนี้ ผมเพิ่งเปิดรับสมัคร
คลาสเรียนล่าสุด
"Online Take Over"
ชนะทั้งตลาด ด้วย Online
เป็นคลาสเรียน Online
เรียนจากที่ไหนก็ได้
และสามารถถาม-ตอบผมได้สดๆ
ผ่าน Live
ตอนนี้เป็นช่วงราคาพิเศษ เฉพาะแฟนเพจ
รายละเอียดที่
https://www.facebook.com/684521091585370/posts/2454352074602254?vh=e&d=n&sfns=mo
หรือ ทักไปที่ Line: @iClass
(ราคาพิเศษ เฉพาะช่วงนี้เท่านั้นครับ)
同時也有15部Youtube影片,追蹤數超過30萬的網紅Thường Vĩ,也在其Youtube影片中提到,? Video độc quyền ®. ❔ What about this video: ? Please SUBSCRIBE my channel: ? http://goo.gl/zvlrTJ ? Thank you for watching my videos ?. ? View m...
「phone loop」的推薦目錄:
- 關於phone loop 在 Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing Facebook
- 關於phone loop 在 Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing Facebook
- 關於phone loop 在 Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing Facebook
- 關於phone loop 在 Thường Vĩ Youtube
- 關於phone loop 在 M13 Youtube
- 關於phone loop 在 SeikinTV Youtube
phone loop 在 Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing Facebook 八卦
"สารจากอนาคต"
สิ่งที่คุณขายได้อยู่วันนี้?
วันนึง
“อาจจะขายไม่ได้อีกต่อไป”
(ผมเคยพูดเรื่องนี้เป็นประเด็นไว้เมื่อ กันยายนปี62
ถึงวันนี้ปี64
ณ ปัจจุบันมันเริ่มเกิดขึ้นแล้ว
และเข้มข้นขึ้นมาก
และยิ่งเหมาะสำหรับสถานการณ์วันนี้)
เพราะฉะนั้นผมอยากให้ทุกคนตั้งใจ
และเก็บดีเทลในนี้
ไปใช้ให้มากที่สุด
ถ้ามีธุรกิจอยู่แล้ว
“คุณเอาไปทาบแล้วเริ่มปรับตามได้เลย”
ถ้ายังไม่มีธุรกิจ
มันดีมากๆที่คุณได้รู้เรื่องนี้
“ก่อนที่จะลงมือทำธุรกิจ”
A
---
"กบต้ม"
วันนี้ผมhookเร็วเลย
ขอพูดเรื่องทฤษฏี
“The Boiled Frog Theory”
หรือที่เรียกกันว่า “ทฤษฎีกบต้ม”
โดยทฤษฎีนี้
ได้ทำการทดลองโดย
"นำกบมาใส่ในหม้อ"
มีหม้อ2แบบ
1.หม้อใบแรก
เป็นหม้อที่มีน้ำร้อนจัดๆ
2.หม้อที่สอง
เป็นหม้อที่มีน้ำอุ่น
สบายๆ
และค่อยๆต้มให้น้ำอุ่นขึ้นจนเดือด
โดยการทดลองนี้
ต้องการศึกษาว่ากบตัวไหน
ที่จะตายก่อน
และกบตัวไหนที่จะรอดชีวิต
ผลคือกบที่ใส่ในหม้อแรกที่มีน้ำร้อนจัดนั้น
รอดชีวิตเพราะ
มันมันรีบกระโดดออกมาในทันที
หลังสัมผัสกับน้ำเดือด
ไหวตัวทันด้วยสัญชาติญาณที่จะต้องรอด
แต่กบที่อยู่ในหม้อใบที่2ที่อุ่นสบายนั้น
ไม่มีท่าทีจะหนี
และยังคงอยู่ในหม้อจนกระทั่งน้ำเดือด
แม้ว่าน้ำจะค่อยๆ อุ่นขึ้นๆ
ก็ไม่ยอมกระโดดออกมา
สรุปว่ากบตัวนั้นตายคาหม้อ
เพราะไม่สามารถหนีได้ทัน
B
---
"การทดลองนี้สอนอะไร?"
บาปกรรมทารุณ?
โอเคทีแรกผมก็คิดแบบนั้น
และคิดว่าจะเขียนดีไหม?
เพราะผมก็ไม่ค่อยชอบเรื่อง
การทรมาณสัตว์
(และก็ไม่ได้สนับสนุนให้ใครอ่านบทความนี้
แล้วคิดจะไปทดลอง)
มันมีการทดลองนี้เกิดขึ้นแล้ว
ไม่ต้องไปทำซ้ำอีก
(ไป search หาข้อมูลดูเอา)
แต่เราจะเรียนรู้เรื่องนี้ในมุมที่เป็นประโยชน์ได้ยังไง?
“การที่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแค่ทีละนิด
อาจจะทำให้เราไม่รู้ตัว
และชะล่าใจ”
C
—
“บทเรียน ”
“ Nokia- BlockBuster”
ตอนที่ Nokia รุ่งเรืองสุดๆ
จริงๆมันเริ่มมีเทรนด์ Smart Phoneออกมา
(คงไม่ต้องเล่ายาว)
เอาบทสรุปเลยแบบกระชับๆ ภาษาไม่ทางการ
เมื่อเทรนด์มา
เหมือนน้ำมันเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ
Nokia ทั้งๆที่มีฐานลูกค้าเยอะที่สุดยังไม่ขยับ
จนน้ำเดือด
จนลุกมาขยับปรับทีหลัง
แต่ฝั่ง ios กับ แอนดรอยก็ไปไกลแล้ว
และเอาฐานแฟนไปแล้ว
จนปัจจุบันต้องไปทำอย่างอื่น
ไม่มีโทรศัพท์ Nokia อีก
Blockbusterร้านเช่าวีดีโอเจ้าดัง
ใหญ่ที่สุดจากอเมริกาก็เช่นกัน
จนวันที่NetFlixเข้ามา
เริ่มทำอะไรที่เหนือกว่า
ทั้งทำเป็นบริการรายเดือน
ไม่มีค่าปรับกำหนดวันเช่า จะกี่เรื่องก็ได้
Blockbusterถึงอยากปรับตาม
แต่NetFlixก็ขยับไปเป็น Streaming vdo
Blockbuster จะปรับตาม
แต่ก็ห่างไกล
"น้ำเดือด กบตาย"
บทเรียนนี้ให้ข้อคิดหลายมุม
1.“เมื่อเทรนด์มา ต้องนำ
หรือไม่ก็ตามให้ไว”
2.“อย่ายึดติดกับความสำเร็จในอดีต
เพราะนั่นไม่ได้การันตีอนาคต”
3.“จงเรียนรู้และพัฒนาเสมอ”
D
----------
“ถ้าพูดเรื่องค้าขายออนไลน์
และมุมมองการตลาด
เรื่องนี้สอนอะไรเรา?”
กลับมาที่พวกเราที่ค้าขาย
ทำการตลาดออนไลน์
Product4Level(ที่ผมเขียนไปวันก่อน ใครดูแล้วอ่านผ่านๆ)
Product Levelที่1 -
Productที่เหมือนกันๆ(ต้องแข่งราคาอย่างเดียว)
ProductLevelที่2-
Productที่ยังไม่เคยมีใครเคยทำมาก่อน(แตกต่างชัดเจน)
Product Levelที่3
-Product ที่เรามีserviceที่เหนือกว่า
(ของอาจเหมือนกัน
แต่ยังไม่มีใครเซิร์ฟบริการลูกค้าได้แบบนี้)
Product Levelที่4
-Product ที่แตกต่างที่ประสบการณ์
(ของอาจคล้ายกัน แต่ลูกค้าเลือกเพราะประสบการณ์ที่เค้าได้รับ)
“จำ4Level นี้ให้ขึ้นใจ”
“มันจะทำให้เราเช็คความอุ่นของน้ำได้ตลอดเวลา”
E
—
“Leve2,3,4 จะอยู่ได้”
“เพราะมีจุดแตกต่างที่ดีกว่าเจ้าอื่น”
แต่ก็หมายถึงไม่ควรชะล่าใจ.....
เพราะเมื่อไหร่ที่ขายดี
จะมีคนอยากขายดีแบบคุณเสมอ
“ก็ต้องปรับตัวตลอดเวลา
นึกถึงเรื่องNokia/Blockbuster
“อย่ายึดติดกับความสำเร็จในอดีต”
“จงเรียนรู้และพัฒนาเสมอ”
และ.....
“เมื่อเทรนด์อะไรมา ต้องนำ
หรือไม่ก็ตามให้ไว”
F
————
“แต่ Level1จะอยู่ลำบากขึ้น”
Product ที่ขาย
ไม่ต่างในเรื่องออฟชั่น
บริการ/หรือประสบการณ์อะไรเลย
“แข่งราคาอย่างเดียว”
“สู้กันด้วยถูกสุด”
“2-7ปีก่อนมันเคยรุ่งเรื่องonlineในไทย
มาถึงก็ขายได้เลย
สบายๆ
ที่ขายได้เพราะเหตุผลเดียว
"ไม่มีใครขายแข่งกับเราบนOnline"
เรากลายเป็นProduct Level3
ที่มีบริการเหนือกว่าoffline
ทั้งการสั่งซื้อและส่งถึงที่
"และถูกกว่า"
แต่พอคุณขายดี
คนก็ลงขายกับคุณ
เค้าอยากสู้ได้
เค้าก็ลดแข่งกับคุณ
และเราก็ยิงแอดสู้
เราได้ยอดกลับมา
เราชะล่าใจ
ไม่ได้ไปลงทุนเรียนรู้การตลาด
หรือเทรนด์อะไรเพิ่มเลย
“เพราะน้ำมันก็ยังอุ่นอยู่ ยังไม่ตาย”
จนรู้ตัวอีกที
“น้ำเดือดปรับเกมส์ไม่ทัน”
"คล้ายกับคนที่ทำoffline แต่ปรับตัวมาonlineไม่ทัน"
"แต่กลายเป็นonlineที่ล้าหลัง
ปรับตัวไม่ทัยonlineยุคใหม่"
G
---------
“เทรนด์ใหม่ ในอนาคต”
ธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กับผู้คนจะอยู่ได้
"The Most Human Company Wins"
หรือธุรกิจที่มี”ฐานแฟน”
จะคงอยู่
สังเกตุแบรนด์ใหญ่
"CEOจะออกมา"
"หรือมีตัวแทนที่ออกมาเชื่อมกับผู้คนได้
เพราะคนผูกพันธ์กับคนได้มากกว่าชื่อสินค้า
ไม่ได้บอกว่าสร้างชื่อด้วยสินค้าทำไมได้นะครับ
แต่คนสัมผัสและเข้าถึงคนได้ง่ายกว่า
"ผูกพันธ์ได้ง่ายกว่า"
เลยจะเห็นยุคนี้แบรนด์ใหญ่พยามทำสิ่งนี้
ในยุคที่คุณตันทำชาโออิชิ
คุณตัน ออกมา ทำให้
ชา เค้าโดดเด่นเข้าถึงง่ายกว่า
มีโอกาสที่คนอยากดื่มชา
ที่ในร้านสะดวกซื้อมี10มีเป็น10เจ้าแยกไม่ออก
แต่ชาคุณตันจะโดดเด่นขึ้นมา
สาหร่ายเถ้าแก่น้อย
มีสาหร่ายหลายเจ้า
แต่เป็นได้สูงที่คนจะนึกถึงเถ้าแก่น้อย
เพราะนคกถึงตัวบุคคล
จริงๆแบรนด์ใหญ่ทำมานานแล้ว
เจ้าสัวเจ้าของแบรนด์ต่างออกมา
แบรนด์เริ่มต้นใหม่
เจ้าของแบรนด์ก็ออกมา
ได้ผลมากกว่า
ได้ใจคนมากว่า
"การเก็บตัว"
“คนรักคนได้มากกว่า”
“เทรนด์ปัจจุบันมันมาแบบนี้”
H
—
“แบรนเล็กก็ทำได้”
“แล้วคนที่ขายของให้คนอื่นล่ะ?”
เช่นกัน!
คนขายของเล็กๆ
เป็นตัวแทนคนอื่น
อย่างผมสมัยก่อน
ตอนสมัยผมเป็นเซลล์ขายรถ
ช่วงสมัยก่อนที่Onlineมาใหม่ๆ6-7ปีก่อน
เพจผมไม่ต้องมีความสัมพันธ์มากมาย
ไม่ต้องคิดเรื่องนี้เท่าไหร่
จะยิงแอดมันก็ขายง่าย เข้าถึงคน
เค้าอยู่บ้านเค้าก็ถามข้อมูลจากผมได้
ผมอำนวยความสะดวกได้
Serviceผมแตกต่างทันที
เพราะผมแข่งกับoffline
แข่งกับโลกเดิม
"ผมกลายเป็นProduct Level3ทันที"
ผมมีบริการที่แตกต่าง
แทนที่ผมจะเล่นกับofflineยืนเฝ้าโชว์รูม
แต่ผมได้ลูกค้าจากทั่วประเทศ
“เมื่อเทรนด์มา เรานำเทรนด์
หรือไวกว่า
ก็ได้เปรียบ”
แต่เมื่อผมเห็นกลิ่นอะไรบางอย่าง
คนเริ่มขึ้นมาขายเยอะขึ้น
"มันไม่ได้แข่งกับOfflineอีกแล้ว"
และในonline
ผมก็ไม่แตกต่างอีก
และก็เจอเรื่องเดิม
ตัดราคา วนLoop
คนขายรถก็ลุกมาทำเพจกันทุกคน
วันนั้นผมจากProduct Level3
ที่serviceเหนือกว่า
"ก็กลายเป็นProduct Level1เหมือนเดิม"
"ไม่ต่างอะไรอีก"
เมื่อเป็นแบบนี้...
2,3, คุณก็ทำไม่ได้
เพราะของคุณก็
มาจากโรงงานเดียวกัน"Level2ไม่ได้"
Serviceของคุณก็ไม่ต่าง
เพราะศูนย์บริการก็
มาตรฐานเดียวกัน"Level3ไม่ได้"
มันก็ต้องเล่นที่
“เทรนด์ใหม่ ในอนาคต”
ธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กับผู้คนจะอยู่ได้
"The Most Human Company Wins"
หรือธุรกิจที่มี”ฐานแฟน”
จะคงอยู่
“ไม่ต้องเป็นCEOใหญ่”
“เราก็เป็น CEOของตัวเองได้”
“แม่ว่าเราจะเป็นแบรนด์เล็ก หรือ ตัวแทน”
ในเมื่อคนขายรถก็ทำเพจกันทุกคน
ไม่แตกต่างอีกแล้ว
เราก็ต้องทำตัวเป็น1Plus(หรือ1+)
สร้างความแตกต่างออกมา
ในเมื่อเทรนด์
มันเริ่มวัดที่ความสัมพันธ์
ความน่าเชื่อถือ
ความถูกใจ
“คนรักคนได้มากกว่า”
ออกมาให้ความรู้ได้ไหม
"ถ้ายังไม่มีใครในวงการทำรีบทำ"
แต่ถ้ามีแล้ว
"อะไรล่ะที่เป็นปัญหาลูกค้าที่ยังไม่มีใครพูด"
มันต้องมี!
แต่ถ้าสุดแล้วจริงๆ
ให้ความรู้ในมุมที่แตกต่างได้ไหม
บันเทิงได้ไหม?
สนุกได้ไหม?
นิสัยดีได้ไหม?
มีเสน่ได้ไหม?
น่ารักได้ไหม?
ออกมาได้ไหมล่ะ?
มันยังมีโอกาส
ในความรู้เดียวกัน
มันก็ยังทำให้แตกต่างได้เสมอ
ลึกไปอีกขั้น!
ถ้าคุณออกมา
เค้ามีโอกาสเปิดใจกับคุณ
มากกว่าคนที่ขายแบบเดียวกับคุณ
"อีก10อีก100หรือ1,000เจ้าในตลาดทันที"
"ถ้าเค้าถูกใจคุณเรื่องตัดราคาอาจจะไม่ใช่ประเด็น"
ลองเช็คดูธุรกิจที่คุณทำ
"คุณอยู่ในหมวดนี้หรือเปล่า"
ถ้าอยู่ลองถามตัวเอง
ถ้าเป็นlevel2,3,4
"ก็อย่าหยุดพัฒนา"
"ให้เป็นLevel2,3,4"
ที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้นไปอีก
แต่ถ้าเป็น Level1
ทำยังไงที่จะพัฒนาเป็น
Level2,3,4ให้ได้
หรือจะทำยังไงให้
"upgradeเป็น1PLUS(1+)ให้ได้"
อย่างน้อย
"ไม่แตกต่างด้วยสินค้า"
ไม่แตกต่างด้วยบริการ
"ก็แตกต่างที่ตัวคุณ"
i
——
"คนที่เพิ่งขึ้นมาทำการตลาดออนไลน์ใหม่ๆ"
การเปิดเพจปุ๊บ
postขายดื้อๆ ยิงแอดดื้อๆ
"จะรู้ว่าน้ำเดือดแล้ว”
เมื่อเพิ่งมาทีหลัง เพิ่งมาเริ่มทำ
แล้วโดดลงมาเจอน้ำเดือดปุ๊บ
ก็เด้งกลับไปตั้งตัว
แล้วเริ่มรู้ว่ามันไม่ชิล
"รู้ว่าไม่สามารถมาPostขาย ยิงแอดดื้อๆ
แล้วขายได้เลย
โดยไม่รู้เรื่องProduct Levelมาก่อนได้"
เมื่อเค้ารู้ตัว...
เลยต้องพยายามทำอะไรให้แตกต่าง
คนกลุ่มนี้จะศึกษาเรียนรู้ในเรื่องการตลาด
จะลงทุนแรงและเงินในเรื่องนี้
ปรับตัวตั้งแต่เริ่มลงสนาม
คิดถึงการทำProduct Level2,3,4
แต่เริ่ม
ในยุคนี้
คนกลุ่มนี้จะสำเร็จได้ง่ายกว่า
เพราะเตรียมใจมาแต่แรกว่า
เค้ามาเพื่อเอาชนะ
ไม่ชิล
"มาเอาจริง"
ไม่ใช่มาลอง
"ไม่ค่อยน่ากังวล"
"เพราะเข้าใจสถานการณ์"
"Update เทรนด์"
"และศึกษาเรียนรู้ตลอดเวลา"
J
————
“ถ้าเปรียบ กับเรื่อง กบ”
คนที่เพิ่งมาทำทีหลัง
"เห็นน้ำเดือด"
ก็เข้าใจสถานการณ์ดี
เลยต้องพยายาม
ทำอะไรให้แตกต่าง
ปรับตัวแต่เริ่ม
"ไม่ค่อยน่ากังวล
แต่....
ที่น่ากังวลคือ...
"คนที่เคยขายดีมาก่อน"
ยอดน้อยลง
ยิงแอดสู้
"และก็ยังไปได้"
ไม่รู้สึกว่ากำลังจะวิกฤติอะไร
จนวันนึง
คนขายของเหมือนเรามากขึ้นเรื่อยๆ
แอดแพงข้ึนเรื่อยๆ
ไม่ได้ศึกษาหาความรู้
และเทรนด์ที่กำลังจะมาเพิ่มเติม
แล้วอยู่ดีๆ
เทรนด์ก็เปลี่ยนไปแบบไม่ทันตั้งตัว
รู้ตัวอีกที
น้ำเดือด
"จนเป็นเหมือนกบ
เหมือนNokia
เหมือน BlockBuster"
ทั้งๆที่จริงๆแล้ว
อุณหภูมิน้ำมันร้อนขึ้นมานานแล้ว
เทรนด์มันมาระยะนึงแล้ว
มันไม่ได้มาปุ๊บป๊บ
แต่มันค่อยอุ่นขึ้นๆๆ
แต่ไม่รู้ตัว
"จนเดือดในที่สุด"
K
————
คนที่เพิ่งเริ่มทำการตลาดonline
ที่อ่านบทความนี้อยู่
ผมไม่กงวลเท่าไหร่
เพราะคุณลงทุนศึกษาเรียนรู้ตลอดเวลา
แต่สำหรับคนที่ขายดี
หรือเคยขายดีอยู่จนเริ่มรู้สึกอะไรบางอย่างแล้ว
"ลองวิเคราะห์สถานการณ์ดีๆ"
"ลองตรวจเช็คน้ำดีๆว่าตอนนี้มันอุ่นอยู่รึเปล่า?"
"มันร้อนขึ้นไหม"
"และมันถึงเวลา....
ที่จะชิงลงมือทำก่อนน้ำเดือดไหม?"
"นำเทรนด์ หรือตามเทรนด์ให้ไว "
"อย่าให้กลายเป็นกบต้ม"
น้ำเดือดสะดุ้งทัน
น้ำอุ่นไม่รู้ตัว
ไหวตัวให้ทัน
"ในวันที่การตลาดเปลี่ยนไป"
-
จริงๆไม่ต้องห่วง หรือกังวลเกินไป
แม้สถานการณ์ในปัจจุบันจะเป็นตัวเร่ง
แต่โอกาส....
ยังมีอีกมาก
ถ้าคุณเข้าใจ
และเริ่มทำ Online แบบหลัง
ก็ยังเป็นยุคที่เปลี่ยนชีวิตได้
ด้วยonline
ด้วยเงื่อนไข...
ถ้าเราเข้าใจ
รู้ทัน..
"และลงมือทำไวก่อน"
ฝากไว้ให้ทุกคนครับ
ไม่ใช่ให้เตรียมตัวกลัวนะครับ
แต่ให้เตรียมตัวเอาการตลาดOnlineนี้ไปเปลี่ยนชีวิต
ณ วันนี้ปี64
ก็ยังถือว่ามีช่องทาง
ดังจะเห็นพี่น้องหน้าเพจที่เติบโตก้าวกระโดดได้อยู่ทุกวัน
แค่ต้องจริงจังมากกว่าเดิมนิดหน่อย
ก็ยังเป็นโอกาสของทุกคนครับ
ใครอ่านแล้วก็ทักทายหน่อยนะครับ^_
ลุย!!
A10(เอเท็น)
#1YearClub
คลับการตลาด online สำหรับนักธุรกิจ
#Online Take Over MasterClass2021
"วิธีทำการตลาด Online ให้ได้กำไรสูงสุด
ด้วยเงินลงทุนที่น้อยที่สุด
#สังคมแห่งความเป็นไปได้
phone loop 在 Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing Facebook 八卦
"สารจากอนาคต"
สิ่งที่คุณขายได้อยู่วันนี้?
วันนึง
“อาจจะขายไม่ได้อีกต่อไป”
(ผมเคยพูดเรื่องนี้เป็นประเด็นไว้เมื่อ กันยายนปี62
ถึงวันนี้
ณ ปัจจุบันมันเริ่มเกิดขึ้นแล้ว
และเข้มข้นขึ้นมาก
และยิ่งเหมาะสำหรับสถานการณ์วันนี้)
เพราะฉะนั้นผมอยากให้ทุกคนตั้งใจ
และเก็บดีเทลในนี้
ไปใช้ให้มากที่สุด
ถ้ามีธุรกิจอยู่แล้ว
“คุณเอาไปทาบแล้วเริ่มปรับตามได้เลย”
ถ้ายังไม่มีธุรกิจ
มันดีมากๆที่คุณได้รู้เรื่องนี้
“ก่อนที่จะลงมือทำธุรกิจ”
A
---
"กบต้ม"
วันนี้ผมhookเร็วเลย
ขอพูดเรื่องทฤษฏี
“The Boiled Frog Theory”
หรือที่เรียกกันว่า “ทฤษฎีกบต้ม”
โดยทฤษฎีนี้
ได้ทำการทดลองโดย
"นำกบมาใส่ในหม้อ"
มีหม้อ2แบบ
1.หม้อใบแรก
เป็นหม้อที่มีน้ำร้อนจัดๆ
2.หม้อที่สอง
เป็นหม้อที่มีน้ำอุ่น
สบายๆ
และค่อยๆต้มให้น้ำอุ่นขึ้นจนเดือด
โดยการทดลองนี้
ต้องการศึกษาว่ากบตัวไหน
ที่จะตายก่อน
และกบตัวไหนที่จะรอดชีวิต
ผลคือกบที่ใส่ในหม้อแรกที่มีน้ำร้อนจัดนั้น
รอดชีวิตเพราะ
มันมันรีบกระโดดออกมาในทันที
หลังสัมผัสกับน้ำเดือด
ไหวตัวทันด้วยสัญชาติญาณที่จะต้องรอด
แต่กบที่อยู่ในหม้อใบที่2ที่อุ่นสบายนั้น
ไม่มีท่าทีจะหนี
และยังคงอยู่ในหม้อจนกระทั่งน้ำเดือด
แม้ว่าน้ำจะค่อยๆ อุ่นขึ้นๆ
ก็ไม่ยอมกระโดดออกมา
สรุปว่ากบตัวนั้นตายคาหม้อ
เพราะไม่สามารถหนีได้ทัน
B
---
"การทดลองนี้สอนอะไร?"
บาปกรรมทารุณ?
โอเคทีแรกผมก็คิดแบบนั้น
และคิดว่าจะเขียนดีไหม?
เพราะผมก็ไม่ค่อยชอบเรื่อง
การทรมาณสัตว์
(และก็ไม่ได้สนับสนุนให้ใครอ่านบทความนี้
แล้วคิดจะไปทดลอง)
มันมีการทดลองนี้เกิดขึ้นแล้ว
ไม่ต้องไปทำซ้ำอีก
(ไป search หาข้อมูลดูเอา)
แต่เราจะเรียนรู้เรื่องนี้ในมุมที่เป็นประโยชน์ได้ยังไง?
“การที่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแค่ทีละนิด
อาจจะทำให้เราไม่รู้ตัว
และชะล่าใจ”
C
—
“บทเรียน ”
“ Nokia- BlockBuster”
ตอนที่ Nokia รุ่งเรืองสุดๆ
จริงๆมันเริ่มมีเทรนด์ Smart Phoneออกมา
(คงไม่ต้องเล่ายาว)
เอาบทสรุปเลยแบบกระชับๆ ภาษาไม่ทางการ
เมื่อเทรนด์มา
เหมือนน้ำมันเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ
Nokia ทั้งๆที่มีฐานลูกค้าเยอะที่สุดยังไม่ขยับ
จนน้ำเดือด
จนลุกมาปรับทีหลัง
แต่ฝั่ง ios กับ แอนดรอยก็ไปไกลแล้ว
และเอาฐานแฟนไปแล้ว
จนปัจจุบันต้องไปทำอย่างอื่น
ไม่มีโทรศัพท์ Nokia อีก
Blockbusterร้านเช่าวีดีโอเจ้าดัง
ใหญ่ที่สุดจากอเมริกาก็เช่นกัน
จนวันที่NetFlixเข้ามา
เริ่มทำอะไรที่เหนือกว่า
ทั้งทำเป็นบริการรายเดือน
ไม่มีค่าปรับกำหนดวันเช่า จะกี่เรื่องก็ได้
Blockbusterปรับตาม
แต่NetFlixก็ขยับไปเป็น Streaming vdo
Blockbuster จะปรับตาม
แต่ก็ห่างไกล
"น้ำเดือด กบตาย"
บทเรียนนี้ให้ข้อคิดหลายมุม
1.“เมื่อเทรนด์มา ต้องนำ
หรือไม่ก็ตามให้ไว”
2.“อย่ายึดติดกับความสำเร็จในอดีต
เพราะนั่นไม่ได้การันตีอนาคต”
3.“จงเรียนรู้และพัฒนาเสมอ”
D
----------
“ถ้าพูดเรื่องค้าขายออนไลน์
และมุมมองการตลาด
เรื่องนี้สอนอะไรเรา?”
กลับมาที่พวกเราที่ค้าขาย
ทำการตลาดออนไลน์
Product4Level(ที่ผมเขียนไปวันก่อน ใครดูแล้วอ่านผ่านๆ)
Product Levelที่1 -
Productที่เหมือนกันๆ(ต้องแข่งราคาอย่างเดียว)
ProductLevelที่2-
Productที่ยังไม่เคยมีใครเคยทำมาก่อน(แตกต่างชัดเจน)
Product Levelที่3
-Product ที่เรามีserviceที่เหนือกว่า
(ของอาจเหมือนกัน
แต่ยังไม่มีใครเซิร์ฟบริการลูกค้าได้แบบนี้)
Product Levelที่4
-Product ที่แตกต่างที่ประสบการณ์
(ของอาจคล้ายกัน แต่ลูกค้าเลือกเพราะประสบการณ์ที่เค้าได้รับ)
“จำ4Level นี้ให้ขึ้นใจ”
“มันจะทำให้เราเช็คความอุ่นของน้ำได้ตลอดเวลา”
E
—
“Leve2,3,4 จะอยู่ได้”
“เพราะมีจุดแตกต่างที่ดีกว่าเจ้าอื่น”
แต่ก็หมายถึงไม่ควรชะล่าใจ.....
เพราะเมื่อไหร่ที่ขายดี
จะมีคนอยากขายดีแบบคุณเสมอ
“ก็ต้องปรับตัวตลอดเวลา
นึกถึงเรื่องNokia/Blockbuster
“อย่ายึดติดกับความสำเร็จในอดีต”
“จงเรียนรู้และพัฒนาเสมอ”
และ.....
“เมื่อเทรนด์อะไรมา ต้องนำ
หรือไม่ก็ตามให้ไว”
F
————
“แต่ Level1จะอยู่ลำบากขึ้น”
Product ที่ขาย
ไม่ต่างในเรื่องออฟชั่น
บริการ/หรือประสบการณ์อะไรเลย
“แข่งราคาอย่างเดียว”
“สู้กันด้วยถูกสุด”
“2-7ปีก่อนมันเคยรุ่งเรื่องonlineในไทย
มาถึงก็ขายได้เลย
สบายๆ
ที่ขายได้เพราะเหตุผลเดียว
"ไม่มีใครขายแข่งกับเราบนOnline"
เรากลายเป็นProduct Level3
ที่มีบริการเหนือกว่าoffline
ทั้งการสั่งซื้อและส่งถึงที่
"และถูกกว่า"
แต่พอคุณขายดี
คนก็ลงขายกับคุณ
เค้าอยากสู้ได้
เค้าก็ลดแข่งกับคุณ
และเราก็ยิงแอดสู้
เราได้ยอดกลับมา
เราชะล่าใจ
ไม่ได้ไปลงทุนเรียนรู้การตลาด
หรือเทรนด์อะไรเพิ่มเลย
“เพราะน้ำมันก็ยังอุ่นอยู่ ยังไม่ตาย”
จนรู้ตัวอีกที
“น้ำเดือดปรับเกมส์ไม่ทัน”
"คล้ายกับคนที่ทำoffline แต่ปรับตัวมาonlineไม่ทัน"
"แต่กลายเป็นonlineที่ล้าหลัง
ปรับตัวไม่ทัยonlineยุคใหม่"
G
---------
“เทรนด์ใหม่ ในอนาคต”
ธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กับผู้คนจะอยู่ได้
"The Most Human Company Wins"
หรือธุรกิจที่มี”ฐานแฟน”
จะคงอยู่
สังเกตุแบรนด์ใหญ่
"CEOจะออกมา"
"หรือมีตัวแทนที่ออกมาเชื่อมกับผู้คนได้
เพราะคนผูกพันธ์กับคนได้มากกว่าชื่อสินค้า
ไม่ได้บอกว่าสร้างชื่อด้วยสินค้าทำไมได้นะครับ
แต่คนสัมผัสและเข้าถึงคนได้ง่ายกว่า
"ผูกพันธ์ได้ง่ายกว่า"
เลยจะเห็นยุคนี้แบรนด์ใหญ่พยามทำสิ่งนี้
ในยุคที่คุณตันทำชาโออิชิ
คุณตัน ออกมา ทำให้
ชา เค้าโดดเด่นเข้าถึงง่ายกว่า
มีโอกาสที่คนอยากดื่มชา
ที่ในร้านสะดวกซื้อมี10มีเป็น10เจ้าแยกไม่ออก
แต่ชาคุณตันจะโดดเด่นขึ้นมา
สาหร่ายเถ้าแก่น้อย
มีสาหร่ายหลายเจ้า
แต่เป็นได้สูงที่คนจะนึกถึงเถ้าแก่น้อย
เพราะนคกถึงตัวบุคคล
จริงๆแบรนด์ใหญ่ทำมานานแล้ว
เจ้าสัวเจ้าของแบรนด์ต่างออกมา
แบรนด์เริ่มต้นใหม่
เจ้าของแบรนด์ก็ออกมา
ได้ผลมากกว่า
ได้ใจคนมากว่า
"การเก็บตัว"
“คนรักคนได้มากกว่า”
“เทรนด์ปัจจุบันมันมาแบบนี้”
H
—
“แบรนเล็กก็ทำได้”
“แล้วคนที่ขายของให้คนอื่นล่ะ?”
เช่นกัน!
คนขายของเล็กๆ
เป็นตัวแทนคนอื่น
อย่างผมสมัยก่อน
ตอนสมัยผมเป็นเซลล์ขายรถ
ช่วงสมัยก่อนที่Onlineมาใหม่ๆ6-7ปีก่อน
เพจผมไม่ต้องมีความสัมพันธ์มากมาย
ไม่ต้องคิดเรื่องนี้เท่าไหร่
จะยิงแอดมันก็ขายง่าย เข้าถึงคน
เค้าอยู่บ้านเค้าก็ถามข้อมูลจากผมได้
ผมอำนวยความสะดวกได้
Serviceผมแตกต่างทันที
เพราะผมแข่งกับoffline
แข่งกับโลกเดิม
"ผมกลายเป็นProduct Level3ทันที"
ผมมีบริการที่แตกต่าง
แทนที่ผมจะเล่นกับofflineยืนเฝ้าโชว์รูม
แต่ผมได้ลูกค้าจากทั่วประเทศ
“เมื่อเทรนด์มา เรานำเทรนด์
หรือไวกว่า
ก็ได้เปรียบ”
แต่เมื่อผมเห็นกลิ่นอะไรบางอย่าง
คนเริ่มขึ้นมาขายเยอะขึ้น
"มันไม่ได้แข่งกับOfflineอีกแล้ว"
และในonline
ผมก็ไม่แตกต่างอีก
และก็เจอเรื่องเดิม
ตัดราคา วนLoop
คนขายรถก็ลุกมาทำเพจกันทุกคน
วันนั้นผมจากProduct Level3
ที่serviceเหนือกว่า
"ก็กลายเป็นProduct Level1เหมือนเดิม"
"ไม่ต่างอะไรอีก"
เมื่อเป็นแบบนี้...
2,3, คุณก็ทำไม่ได้
เพราะของคุณก็
มาจากโรงงานเดียวกัน"Level2ไม่ได้"
Serviceของคุณก็ไม่ต่าง
เพราะศูนย์บริการก็
มาตรฐานเดียวกัน"Level3ไม่ได้"
มันก็ต้องเล่นที่
“เทรนด์ใหม่ ในอนาคต”
ธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กับผู้คนจะอยู่ได้
"The Most Human Company Wins"
หรือธุรกิจที่มี”ฐานแฟน”
จะคงอยู่
“ไม่ต้องเป็นCEOใหญ่”
“เราก็เป็น CEOของตัวเองได้”
“แม่ว่าเราจะเป็นแบรนด์เล็ก หรือ ตัวแทน”
ในเมื่อคนขายรถก็ทำเพจกันทุกคน
ไม่แตกต่างอีกแล้ว
เราก็ต้องทำตัวเป็น1Plus(หรือ1+)
สร้างความแตกต่างออกมา
ในเมื่อเทรนด์
มันเริ่มวัดที่ความสัมพันธ์
ความน่าเชื่อถือ
ความถูกใจ
“คนรักคนได้มากกว่า”
ออกมาให้ความรู้ได้ไหม
"ถ้ายังไม่มีใครในวงการทำรีบทำ"
แต่ถ้ามีแล้ว
"อะไรล่ะที่เป็นปัญหาลูกค้าที่ยังไม่มีใครพูด"
มันต้องมี!
แต่ถ้าสุดแล้วจริงๆ
ให้ความรู้ในมุมที่แตกต่างได้ไหม
บันเทิงได้ไหม?
สนุกได้ไหม?
นิสัยดีได้ไหม?
มีเสน่ได้ไหม?
น่ารักได้ไหม?
ออกมาได้ไหมล่ะ?
มันยังมีโอกาส
ในความรู้เดียวกัน
มันก็ยังทำให้แตกต่างได้เสมอ
ลึกไปอีกขั้น!
ถ้าคุณออกมา
เค้ามีโอกาสเปิดใจกับคุณ
มากกว่าคนที่ขายแบบเดียวกับคุณ
"อีก10อีก100หรือ1,000เจ้าในตลาดทันที"
"ถ้าเค้าถูกใจคุณเรื่องตัดราคาอาจจะไม่ใช่ประเด็น"
ลองเช็คดูธุรกิจที่คุณทำ
"คุณอยู่ในหมวดนี้หรือเปล่า"
ถ้าอยู่ลองถามตัวเอง
ถ้าเป็นlevel2,3,4
"ก็อย่าหยุดพัฒนา"
"ให้เป็นLevel2,3,4"
ที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้นไปอีก
แต่ถ้าเป็น Level1
ทำยังไงที่จะพัฒนาเป็น
Level2,3,4ให้ได้
หรือจะทำยังไงให้
"upgradeเป็น1PLUS(1+)ให้ได้"
อย่างน้อย
"ไม่แตกต่างด้วยสินค้า"
ไม่แตกต่างด้วยบริการ
"ก็แตกต่างที่ตัวคุณ"
i
——
"คนที่เพิ่งขึ้นมาทำการตลาดออนไลน์ใหม่ๆ"
การเปิดเพจปุ๊บ
postขายดื้อๆ ยิงแอดดื้อๆ
"จะรู้ว่าน้ำเดือดแล้ว”
เมื่อเพิ่งมาทีหลัง เพิ่งมาเริ่มทำ
แล้วโดดลงมาเจอน้ำเดือดปุ๊บ
ก็เด้งกลับไปตั้งตัว
แล้วเริ่มรู้ว่ามันไม่ชิล
"รู้ว่าไม่สามารถมาPostขาย ยิงแอดดื้อๆ
แล้วขายได้เลย
โดยไม่รู้เรื่องProduct Levelมาก่อนได้"
เมื่อเค้ารู้ตัว...
เลยต้องพยายามทำอะไรให้แตกต่าง
คนกลุ่มนี้จะศึกษาเรียนรู้ในเรื่องการตลาด
จะลงทุนแรงและเงินในเรื่องนี้
ปรับตัวตั้งแต่เริ่มลงสนาม
คิดถึงการทำProduct Level2,3,4
แต่เริ่ม
ในยุคนี้
คนกลุ่มนี้จะสำเร็จได้ง่ายกว่า
เพราะเตรียมใจมาแต่แรกว่า
เค้ามาเพื่อเอาชนะ
ไม่ชิล
"มาเอาจริง"
ไม่ใช่มาลอง
"ไม่ค่อยน่ากังวล"
"เพราะเข้าใจสถานการณ์"
"Update เทรนด์"
"และศึกษาเรียนรู้ตลอดเวลา"
J
————
“ถ้าเปรียบ กับเรื่อง กบ”
คนที่เพิ่งมาทำทีหลัง
"เห็นน้ำเดือด"
ก็เข้าใจสถานการณ์ดี
เลยต้องพยายาม
ทำอะไรให้แตกต่าง
ปรับตัวแต่เริ่ม
"ไม่ค่อยน่ากังวล
แต่....
ที่น่ากังวลคือ...
"คนที่เคยขายดีมาก่อน"
ยอดน้อยลง
ยิงแอดสู้
"และก็ยังไปได้"
ไม่รู้สึกว่ากำลังจะวิกฤติอะไร
จนวันนึง
คนขายของเหมือนเรามากขึ้นเรื่อยๆ
แอดแพงข้ึนเรื่อยๆ
ไม่ได้ศึกษาหาความรู้
และเทรนด์ที่กำลังจะมาเพิ่มเติม
แล้วอยู่ดีๆ
เทรนด์ก็เปลี่ยนไปแบบไม่ทันตั้งตัว
รู้ตัวอีกที
น้ำเดือด
"จนเป็นเหมือนกบ
เหมือนNokia
เหมือน BlockBuster"
ทั้งๆที่จริงๆแล้ว
อุณหภูมิน้ำมันร้อนขึ้นมานานแล้ว
เทรนด์มันมาระยะนึงแล้ว
มันไม่ได้มาปุ๊บป๊บ
แต่มันค่อยอุ่นขึ้นๆๆ
แต่ไม่รู้ตัว
"จนเดือดในที่สุด"
K
————
คนที่เพิ่งเริ่มทำการตลาดonline
ที่อ่านบทความนี้อยู่
ผมไม่กงวลเท่าไหร่
เพราะคุณลงทุนศึกษาเรียนรู้ตลอดเวลา
แต่สำหรับคนที่ขายดี
หรือเคยขายดีอยู่จนเริ่มรู้สึกอะไรบางอย่างแล้ว
"ลองวิเคราะห์สถานการณ์ดีๆ"
"ลองตรวจเช็คน้ำดีๆว่าตอนนี้มันอุ่นอยู่รึเปล่า?"
"มันร้อนขึ้นไหม"
"และมันถึงเวลา....
ที่จะชิงลงมือทำก่อนน้ำเดือดไหม?"
"นำเทรนด์ หรือตามเทรนด์ให้ไว "
"อย่าให้กลายเป็นกบต้ม"
น้ำเดือดสะดุ้งทัน
น้ำอุ่นไม่รู้ตัว
ไหวตัวให้ทัน
"ในวันที่การตลาดเปลี่ยนไป"
-
จริงๆไม่ต้องห่วง หรือกังวลเกินไป
แม้สถานการณ์ในปัจจุบันจะเป็นตัวเร่ง
แต่โอกาส....
ยังมีอีกมาก
ถ้าคุณเข้าใจ
และเริททำ Online แบบยุคใหม่
เป็นยุคที่เปลี่ยนชีวิตได้
ด้วยonline
ด้วยเงื่อนไข...
ถ้าเราเข้าใจ
รู้ทัน..
"และลงมือทำไวก่อน"
ฝากไว้ให้ทุกคนครับ
ไม่ใช่ให้เตรียมตัวกลัวนะครับ
แต่ให้เตรียมตัวเอาการตลาดOnlineนี้ไปเปลี่ยนชีวิต
ใครอ่านแล้วก็ทักทายหน่อยนะครับ^_
ลุย!!
#A10(เอเท็น)
#iClassUniversity
phone loop 在 Thường Vĩ Youtube 的評價
? Video độc quyền ®.
❔ What about this video:
? Please SUBSCRIBE my channel: ? http://goo.gl/zvlrTJ
? Thank you for watching my videos ?.
? View more videos: ? https://goo.gl/UGFlij
? My phone & facebook:https://goo.gl/kCDFWF
⚠ Copyright notes: This video was made by me (Please do not copy video clips in any form).
Những bản nhạc trong video này:
1, Folk Round của Kevin MacLeod được cấp phép theo giấy phép Creative Commons Attribution (https://creativecommons.org/licenses/by/4.0/)
Nguồn: http://incompetech.com/music/royalty-free/index.html?isrc=USUAN1100357
Nghệ sĩ: http://incompetech.com/
2, Angevin 120 loop của Kevin MacLeod được cấp phép theo giấy phép Creative Commons Attribution (https://creativecommons.org/licenses/by/4.0/)
Nguồn: http://incompetech.com/music/royalty-free/index.html?isrc=USUAN1200111
Nghệ sĩ: http://incompetech.com/
3, Achaidh Cheide - Celtic của Kevin MacLeod được cấp phép theo giấy phép Creative Commons Attribution (https://creativecommons.org/licenses/by/4.0/)
Nguồn: http://incompetech.com/music/royalty-free/index.html?isrc=USUAN1100340
Nghệ sĩ: http://incompetech.com/
4, Fig Leaf Times Two của Kevin MacLeod được cấp phép theo giấy phép Creative Commons Attribution (https://creativecommons.org/licenses/by/4.0/)
Nguồn: http://incompetech.com/music/royalty-free/index.html?isrc=USUAN1200096
Nghệ sĩ: http://incompetech.com/
phone loop 在 M13 Youtube 的評價
Tour Taiwan with me: http://taiwantoursm13.com/
Private Channel: https://www.patreon.com/M13
My Facebook: https://www.facebook.com/Mordeth13
Support M13 buy my Private Series: http://www.m13online.com/?page_id=294
World's best motorcycle pants are RHOK (search Ebay for them) This is a re-upload. The original video was doing well, but someone made fraudulent charges against the video and it was taken down for a bit. The original is back up....but I guess because it was out of the loop for a while it's now not getting any views. So....reuploading it. Let the whole video play....this helps videos get noticed a lot nowadays.
Although it should be noted that self crashes have a far less mortality rate than crashes involving other cars.
phone loop 在 SeikinTV Youtube 的評價
Twitter→ http://twitter.com/seikintv
FaceBook→http://www.facebook.com/seikintv
SEIKINの「勝手にCMのコーナー」
今回は今話題の『iPhone5』です。