20 สิ่งสำคัญในชีวิตที่ผู้คนส่วนใหญ่มักเรียนรู้เมื่อสาย?
… ชีวิตคือการเดินทาง หลายครั้งที่เราต้องเจอกับเส้นทางลดเลี้ยวเคี้ยวคด หักมุม และไม่เป็นไปตามใจปารถนา มีจุดพีคให้ได้ภาคภูมิใจ มีจุดต่ำดำดิ่งให้รู้สึกท้อแท้กับตัวเอง มีภูเขาสูงให้ปืนป่ายก้าวข้ามเพื่อพิสูจน์ความพยายาม มีเนินหญ้าที่เรียบราบให้หย่อนกายพักพิงและแม้แต่มีมหาสมุทรกว้างใหญ่ให้ได้ค้นหาไม่รู้จบ
ผมใช้เวลานั่งนิ่งๆ แล้วสำรวจตัวเองอย่างช้าๆในความสงบ... อืม ... ก็เป็นเช่นนั้นละมั้ง
ไม่ต่างจากคนส่วนใหญ่ ถ้าเปรียบเป็นหนังสือ ก็คงมาได้ครึ่งเล่มแล้ว มีช่วงที่น่าตื่นเต้น มีบางบทที่แสนจะหักมุม มีช่วงที่น่าเบื่อ มีเรื่องที่น่าเศร้า แต่ก็มีเรื่องมากมายที่ทำให้ยิ้มและหัวเราะได้เช่นกัน เพียงแต่ว่าอีกครึ่งเล่มที่เหลือผมจะเขียนมันยังไงต่อดีนะ ผมยังคิดไม่ออกจริงๆ ได้แค่วางโครงไว้คร่าวๆ คงต้องรอดูกันต่อไป เพราะ Life goes on right?
พอดีบังเอิญไปอ่านบทความนึงใน Medium มา ตอนแรกก็ดูเหมือนไม่มีอะไร คล้ายๆ กับบทความแนวสำรวจความคิดจิตใจตัวเองที่หาอ่านได้ตามเว็บทั่วไป แต่พอลองอ่านแบบตั้งใจแล้วลองเปรียบเทียบกับตัวเองดีๆ แล้วผมก็พบว่า "เออแม่งจริงหวะ" เลยลองมาแปลมาให้อ่านกันดูครับ
ลองอ่านดูนะ... 20 สิ่งสำคัญในชีวิตที่ผู้คนส่วนใหญ่มักเรียนรู้เมื่อสาย?
1. คนส่วนใหญ่ยิ่งโตยิ่งกลัวการใช้จินตนาการ
และมักคิดว่าเหตุผลต้องมาก่อนเสมอ? ฟุ้ง ขี้โม้ ดีแต่พูด ไม่เห็นทำสำเร็จซักอย่าง ระหว่างทางของชีวิตเราล้วนต้องเจอกับคำพูดเหล่านี้ จนหลายๆ คนหลงลืมไปแล้วว่า ตอนเด็กๆ เราเคยสนุกกับความเพ้อฝันและการใช้แต่จินตนาการแค่ไหน คนส่วนใหญ่ชอบคิดว่าตัวเองมีความคิดสร้างสรรค์ไม่พอและชอบบอกตัวเองให้พอใจกับสิ่งต่างๆ ตามแบบที่มันควรจะเป็นอยู่อย่างนั้น
ทำให้ชัดเจนแล้วว่า ทำไม อีลอน มัสก์, สตีฟ จ๊อบส์ หรือ คริสโตเฟอร์ โนแลนด์ จึงเป็นคนส่วนน้อย
2. ความฝันของเราคือฝันของเรา มันไม่สำคัญต่อคนอื่น คนบางคนอาจจะแคร์ คนบางคนอาจจะสนใจและคนบางคนอาจจะสนับสนุนคุณถ้าเห็นว่ามันมีประโยชน์หรือทำเงินได้ แต่ในท้ายที่สุด จงจำไว้ว่า ไม่มีใครให้ความสำคัญกับความฝันของคุณเท่ากับตัวคุณเองหรอก เพราะฉะนั้นจงอย่าได้แคร์
3. เพื่อน ณ ขณะนั้น จะสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกับความสนใจของคุณ ณ ขณะนั้น อันนี้โคตรจริง เพื่อนส่วนใหญ่จะอยู่กับเราแค่เพียงช่วงหนึ่งของชีวิตเท่านั้น นอกจากเพื่อนแท้แบบ Friends for life รักกันจนวันตาย ซึ่งก็มีอยู่โคตรน้อย
ลองสังเกตุดีๆ เมื่อสิ่งที่คุณให้ความสำคัญในชีวิตเปลี่ยนไป หน้าตาของคนรอบๆตัวที่เห็นบ่อยๆ ก็จะเปลี่ยนไป แต่ถ้าใครที่แม่งไม่เคยหายไป คนๆ นั้นก็คงรักคุณจริงๆ นั่นแหละ
4. โอกาสและแนวโน้มสู่ความสำเร็จของคุณค่อยๆเพิ่มขึ้นตามวัย อันนี้ตอนแรกก็คิดว่าไม่เกี่ยว แต่พอมาสำรวจตัวเองและคนรอบๆตัวตอนนี้ 80% มันใช่เลย คนชอบคิดว่ายิ่งแก่ ความฝันและโอกาสยิ่งน้อย ซึ่งมันก็ถูก แต่อาจจะแค่ครึ่งเดียว เพราะในชีวิตจริง ความรู้และประสบการณ์ที่ผ่านการตกผลึกตามการเวลามีค่าและสำคัญอย่างยิ่ง และมักเป็นที่ต้องการมากกว่าของสดที่ฉาบฉวยสวยแต่รูปและไม่คงทน หลายๆคนอาจไม่รู้ตัวว่าคุณมาไกลแค่ไหน และเก่งขึ้นขนาดไหน
เพราะคุณอยู่กับตัวเองทุกวันจนชิน แต่จริงๆแล้ว
ความยิ่งใหญ่ไม่ได้มีมาแต่เกิด แต่มันเกิดจากการทำซ้ำๆ ในทุกๆ วัน
5. สิ่งที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติไม่ได้ตั้งใจ นั่นแหละ คือน้องสาวของสิ่งที่เรียกว่าความคิดสร้างสรรค์..
อย่าเพิ่งงง คนเขียนเค้าฝากมาบอกว่า ถ้าคุณอยากพบจุดเปลี่ยนที่เป็นจังหวะที่ดีของชีวิต ก็จงพยายามอย่าอยู่แต่ในกรอบของอะไรแบบเดิมๆ ออกจากรูทีนตัวเองบ้าง ให้คิดถึงตอนเด็ก ที่เราเชื่อเสมอว่า อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา น่าสนุกออก
6. หลังๆ มา คุณลืมคุณค่าของการ "สัมผัส" สิ่งต่างๆรอบตัวไปรึป่าว? ก็คงไม่แปลกอะไร เพราะส่วนใหญ่เราก็สัมผัสแต่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทัชสกรี หมกมุ่นอยู่ในโซเชียล ออนไลน์ ทั้งที่ความสนุกของชีวิต
บางครั้งมันก็มาจากการเล่นกับสายฝนที่โปรยกระหน่ำ
ปลักโคลนที่มีแต่กลิ่นดิน หรือแม่แต่หินเย็นๆ ที่เต็มไปด้วยรอยแตกร้าว ธรรมชาติและสิ่งจริงแท้คือสิ่งที่เราหลงลืมไป และบางทีความสุขก็เช่นกัน
7. คนส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่ทำในสิ่งที่รัก Why da F?
อย่าพูดว่าไม่มีทางเลือก คุณแค่ไม่เลือกมันมากกว่า
หันมองรอบๆ บางทีมันอาจยังไม่สายเกินไป อย่าติดกับดักความฝันของตัวเอง อย่าเอาอายุ เวลา และคนอื่นเป็นข้ออ้าง ลงมือทำซะคนดี
8. หลายคนหยุดหรืออ่านหนังสือน้อยลง หลังเรียนจบ
ถามคนรู้จักของคุณที่ชอบอ่านหนังสือ ว่าหนังสือเล่มสุดท้ายที่เค้าอ่านคืออะไร แล้วลองกลับไปหาอ่านดู คุณจะพบว่า... หนังสือดีดีหนึ่งเล่มให้อะไรคุณได้มากกว่าที่คุณคิด อย่างน้อยมันก็เอาคุณออกจากโลกโซเชียลได้หลายชั่วโมงทีเดียว
9. ผู้คนส่วนใหญ่ชอบพูดมากกว่าฟัง
เมื่อไม่มีใครฟังใคร ต่างคนต่างพูด ก็เลยพูดกันไม่รู้เรื่องซะที บางทีถ้าลองฟังอย่างตั้งใจกันมากขึ้น พูดกันให้น้อยลง ความสงบอาจจะค่อยกลับมาในสังคมก็ได้นะ
10. ความคิดสร้างสรรค์อาศัยการฝึกฝนนะ
คิดอย่างเดียวไม่มีทางสำเร็จ แต่การลงมือทำแล้วล้มเหลวบ่อยๆ ต่างหาก ถึงจะสำเร็จในท้ายที่สุด
“คิด” แล้ว “สร้างสรรค์” ก็คือลงมือทำมันอย่างตั้งใจไง
...นั่นแหละซ้อมเยอะๆ ทำเยอะๆ
11. ความสำเร็จเป็น “รีเลทีฟ เทิมส์”
มันขึ้นอยู่กับว่าคุณเปรียบเทียบกับอะไร ใช้อะไรเป็นตัววัดและนิยามมันไว้ว่ายังไง หาความหมายของ "ความสำเร็จ" ของคุณให้เจอก่อน ตั้งเป้าหมายแล้วพุ่งไป
12. คุณเปลี่ยนพ่อกับแม่ ของคุณไม่ได้และอย่าพยายามอย่าเปลี่ยน หรือ เปรียบเทียบกับใคร คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่หลังจากนั้นเราเลือกได้เกือบทั้งหมด ให้รู้ไว้ว่าเค้ารักคุณก็พอ หรือถ้าไม่รัก อย่างน้อยเค้าก็ทำให้คุณเกิดมา
13. คนที่คุณต้องเผชิญหน้าในทุกๆ เช้า คือตัวคุณเอง
คุณไม่ได้เกิดมาเพื่อทำให้คนทั้งโลกมีความสุข
เพราะฉะนั้นจงเลือกชีวิตแบบที่คุณต้องการ และสร้างทางไปสู่สิ่งๆนั้น เพราะในท้ายที่สุด คนที่รักคุณมากที่สุดก็คือคนที่กำลังจ้องมองคุณอยู่
14. ไม่มีอะไรที่ทำให้หัวใจเบิกบาน หรือรู้สึกดี
ได้เท่ากับการทำตามหัวใจปรารถนา ข้อนี้คงไม่ต้องอธิบายเนอะ
15. ยิ่งรู้จักตัวเองดี ยิ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จ
ใครก็ตามที่รู้จุดอ่อนจุดแข็งของตัวเอง ให้เลือกที่จะลืมจุดอ่อนไป แล้วพัฒนาจุดแข็งให้แกร่งที่สุดจนกลบจุดอ่อนซะมิด มองไม่เห็น หลังจากนั้นก็ค่อยๆทำตามทางที่ตัวเองสร้างไว้ มนุษย์ที่รู้จักตัวเองน้อยจะสร้างสรรค์ความสุขได้ต่ำ และมักจะมีจุดจบซ้ำๆ คือหาทางออกไม่เจอ เพราะมันผิดทางตั้งแต่แรกแล้วไง
16. ทุกๆ คนที่สงสัยหรือดูถูกคุณ มักจะกลับมาอยู่รอบๆตัวคุณไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง อันนี้เป็นอีกข้อที่อาจไม่จริงทั้งหมด แต่มันก็ตลกดี เวลาที่เด็กที่เคยรังแกคุณ ล้อเลียนคุณ วันนี้กลับไลน์มาขอยืมเงินหรือขอให้คุณช่วย เพศตรงข้ามที่ไม่เคยคิดว่าคุณมีตัวตน หรือทำคุณอกหัก วันนึงกลับมาแอบคอมเมนต์ใน เฟสบุ๊ค ในไอจีคุณ ไม่ต้องไปสนใจ โฟกัสในเป้าหมายทำตัวเองให้ดีขึ้น แล้วทุกคนจะกลับมา ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
วันใดก็วันหนึ่ง แต่ถ้าเค้าเหล่านั้นไม่กลับมา...
ใครจะสนกัน จริงมั้ย?
17. คุณคือภาพสะท้อนของคน 5 คนที่คุณใช้เวลาอยู่ด้วยมากที่สุด อันนี้จริง กฎแห่งแรงดึงดูด และการเลียนแบบซึ่งกันและกัน พูดให้ดูดีก็คือ เราต่างเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนใกล้ๆตัวเรานั้นเอง เข้าตำราที่ว่า
คบคนเช่นไรเป็นคนเช่นนั้น
18. ความเชื่อ ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณตามหา บางครั้งมันก็ไม่มีถูกไม่มีผิด และไม่มีใครอธิบายได้ เอาเป็นว่าถ้าคุณเชื่อในสิ่งใด และมันดีกับชีวิตคุณและไม่แย่กับชีวิตผู้อื่น ก็จงเชื่อและทำไปเถิด
19. ทุกอย่างสามารถหาจุดบกพร่องได้หมดและทุกอย่างก็มีพื้นที่ให้ได้พัฒนาเช่นกัน เมื่อคุณแก่ขึ้น การแก้ปัญหาจะดูสบายและตรงจุดมากขึ้น แค่พยายามรู้ตัวอยู่เสมอว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมคุณถึงอยากทำมันอีกซ้ำๆ และจงจำไว้ว่า ไม่มีความผิดพลาด
มีแต่บทเรียน แต่จงอย่าเรียนซ้ำชั้น ซ้ำแล้วซ้ำอีกก็พอ
20. เป้าหมายของคุณ ก็คือตัวคุณเอง
ทุกอย่างที่คุณเลือก ทุกอย่างที่คุณทำ คุณคือผู้สรรสร้าง คุณคือผู้กำหนด และในท้ายที่สุด ทั้งหมดก็คือตัวคุณ จงปั้นรูปปั้นตัวคุณเองให้ดีที่สุด วาดภาพตัวคุณเองให้สวยที่สุด...
เพราะคุณคือคนเดียวที่ต้องอยู่กับมันจนวินาทีสุดท้าย
ราตรีสวัสดิ์ครับ
#peoplepersona
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過62萬的網紅Bryan Wee,也在其Youtube影片中提到,...
「peoplepersona」的推薦目錄:
- 關於peoplepersona 在 People Persona Facebook
- 關於peoplepersona 在 People Persona Facebook
- 關於peoplepersona 在 People Persona Facebook
- 關於peoplepersona 在 Bryan Wee Youtube
- 關於peoplepersona 在 Travel Thirsty Youtube
- 關於peoplepersona 在 スキマスイッチ - 「全力少年」Music Video : SUKIMASWITCH / ZENRYOKU SHOUNEN Music Video Youtube
- 關於peoplepersona 在 People Person - YouTube 的評價
peoplepersona 在 People Persona Facebook 八卦
....ถ้าใจเราเป็นสุข แค่นั่งโง่ๆมองท้องฟ้าคนเดียวเงียบๆในคืนที่แทบไม่เห็นแสงดาวสักดวง เราก็มีความสุข
“Soul“ ดนตรี วิญญาณ ชีวิต ปรัชญาที่เรียบง่าย ที่ทำให้คิดได้ว่า สุดท้ายคนเราโชคดีขนาดไหนที่ได้เกิดมา
มันอาจไม่ใช่การ์ตูนสำหรับเด็กๆ เพราะ deep และดูยากกว่าที่คิด แต่มันเหมาะมากกับโลกยุคนี้ที่ผู้คนต่างแข่งขันไขว่คว้า วิ่งไล่ตามหาบางสิ่งบางอย่าง ที่แม้แต่ตัวเองก็อาจยังไม่รู้ว่า ทำอะไรอยู่และทำไปทำไม? บางครั้ง Purpose ก็อาจไม่ใช่ Meaning เสมอไป
...การ์ตูนที่อยากให้ทุกคนได้ดู จะได้รู้ว่าความสุขบางครั้งมันก็ช่างง่ายดายซะเหลือเกิน
อ้อ ที่สำคัญ เพลงประกอบเพราะมาก ตลอดเรื่องเลย very Jazzing 😁 ชอบๆ
IIP
#peoplepersona
#soul
#เขย่งก้าวกระโดด
peoplepersona 在 People Persona Facebook 八卦
“ข้อจำกัดของความฝัน”
.......ผมพยายามคิดอยู่นานว่าหลังจากหยุดไปสองวันเต็มๆเพื่อพักสมองและสองหัวใจ ของชายวัยกลางคน สองคน ที่บากบั่นตั้งหน้าตั้งตาเขียนอะไรต่อมิอะไรมาหนึ่งเดือนเต็มๆ ลงในเพจใหม่ที่เราทั้งคู่กำลังทำการทดลองอะไรบางอย่าง(กว่า 40 คอนเทนต์) แต่แล้วทุกอย่างก็หายวับไปกับตา เพราะสิ่งที่เรียกว่า “การรวมเพจ” (ตอนแรกตั้งใจจะไม่เอาทางเลือกนี้ ซึ่งก็คงโทษใครไม่ได้นอกจากความโง่เขลาเบาปัญญาน่าเขกกะโหลกของตัวเอง.....ลุงมาก) ผมควรจะลงอะไร เขียนอะไรดี หรือควรจะพอก่อนพักยาวๆ เพราะเหนื่อยละ ขี้เกียจด้วย แถมดวงไม่ดีเลย แต่แล้ว...หลังจากทบทวนอยู่สักพักใหญ่ ก็ได้รับกำลังใจมากมาย ส่งมาบอกว่า รออ่าน รอฟัง อย่าหยุดนะ........ซึ้ง...... ผมจึงตัดสินใจว่า ถ้าอย่างงั้น ขออนุญาตตัวเองเอาสิ่งที่เขียนไว้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจส่งให้คนอื่นเมื่อนานมาแล้ว มาให้กำลังใจ มาส่งพลังให้ตัวเอง เป็นโพสต์แรกดีกว่า และ พรุ่งนี้ เราจะได้ ทำต่อ เขียนต่อ ก้าวเดินต่อไป (อย่างสนุกและมีพลัง)
------- นี่เป็นเรื่องราว 1 ใน 12 สี 6 เรื่อง ที่ผมเขียนลงหนังสือ “Twelve Colours” by พิภู พุ่มแก้ว เมื่อ 6 ปีก่อน ปี 2558 ตอนครบรอบ 12 ปีของ อะ บุ๊ค ครับ ไม่ยาวมากลองอ่านดูนะ ---------------
(โพสต์แรก หลังใช้ Circuit Breaker ตัวเองไป 48 ช.ม. จากหนังสือเล่มเล็กๆ เล่มแรกและเล่มเดียวที่ผมเคยเขียน ^^)
"Anything that man can imagine is a possibility in reality."
“ทุกสิ่งที่มนุษย์สามารถจินตนาการไปถึง มีความ เป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นจริง”
Willie Gallon (Willy Karen) -One Piece-
ผมได้มีโอกาสทํางานเฉพาะกิจงานหนึ่งให้กับ องค์กรยอดเยี่ยมระดับประเทศองค์กรหนึ่ง มันเป็น งานเกี่ยวกับการวิจัยพฤติกรรมและแนวคิดของมนุษย์ ที่มักชอบจํากัดกรอบให้กับชีวิตตัวเองด้วยข้ออ้าง ที่สร้างขึ้นในจิตใจ
รูปแบบกิจกรรมเป็น”การทดลอง”ที่ ผมทําหน้าที่เป็นผู้ควบคุมและสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง ซึ่งมีทั้งชาวไทยและต่างชาติอย่างละครึ่ง
วิธีการดําเนินการทดลองนี้ก็คือ จะมีเก้าอี้วาง เรียงกันอยู่สิบตัว ผู้เข้าร่วมการทดลองจะเข้ามาทีละคน
แล้วเริ่มนั่งที่เก้าอี้ตัวแรก จากนั้นผมจะมีหน้าที่ถาม ทีละคําถาม ทุกครั้งที่ผู้เข้าร่วมการทดลองตอบได้ เขาจะได้ขยับไปนั่งบนเก้าอี้ตัวต่อไป จนกว่าจะตอบไม่ได้ ก็จะไม่ได้ไปต่อ ซึ่งแน่นอนว่า”หน้าที่ของผม”ก็คือ ต้องพยายามทําให้พวกเขาไปต่อไม่ได้นั่นเอง เป็นงานที่สนุกแต่ก็ยากมากครับ เล่นเอาเหนื่อยเลยทีเดียว
กลับบ้านไข้เกือบขึ้น
เอาล่ะ ผมขอยกตัวอย่างที่เป็นหนึ่งในบทสนทนา คําถาม (ของผม) และคําตอบ (ของอาสาสมัครการ ทดลอง) ในวันนั้นให้ดูนะครับ
.......
ผม : อะไรคือสิ่งที่ในชีวิตนี้คุณอยากทํามากที่สุด แต่ยังไม่ได้ทํา และคิดว่าอาจไม่ได้ทํา
อาสาสมัคร : เอิ่ม การเที่ยวรอบโลกมั้งคะ (เธอได้ เขยิบไปยังเก้าอี้ตัวที่สอง)
ผม : ทําไมคุณยังไม่ได้ไปเที่ยวรอบโลก
อาสาสมัคร : คงเพราะยังมีเงินไม่มากพอ (เธอได้ เขยิบไปยังเก้าอี้ตัวที่สาม)
ผม : เท่าไหร่ที่คุณคิดว่าจะมากพอ
อาสาสมัคร : น่าจะสักสิบล้าน (เธอไปยังเก้าอี้ ตัวที่สี)
ผม : แล้วทําไมคุณถึงยังไม่มีเงินสิบล้าน คุณคิดว่า อีกนานแค่ไหนคุณถึงจะมี
อาสาสมัคร : อาจจะอีกนาน (เริ่มอึกอัก) แต่ด้วย งานที่ฉันทําอยู่ คงยากแน่ๆ (ผมยังคงให้เธอไปยังเก้าอี้ ตัวถัดไป)
ผม : แล้วทําไมคุณถึงไม่เปลี่ยนงาน คุณเคย ลองหา ไม่สิ คุณเคยลองไปสมัครงานที่เงินดีกว่านี้ หรือยัง
อาสาสมัคร : เคยลองหา แต่ไม่เคยไปสมัคร (เธอได้ไปต่อที่ตัวที่หก)
ผม : ทําไมคุณถึงไม่ไปสมัคร คุณผัดวันประกันพรุ่ง หรือเปล่า คุณขี้เกียจหรือเปล่า
อาสาสมัคร : เอ่อ (เธอเงียบไปสักพัก) ค่ะ บางที
ชั้นก็คิดว่า ชั้นอาจขี้เกียจจริงๆ
เธอยังได้ไปต่อในตัวที่เจ็ด แต่นั่นคือตัวสุดท้าย เพราะเมื่อผมถามเธอต่อว่า ทําไมเธอถึงขี้เกียจ
เธอตอบไม่ได้
ผมคงไม่สามารถสรุปผลการทดลองในวันนั้นออกมาเป็นตัวอักษรได้อย่างสมบูรณ์ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้ก็คือ เราทุกคนต่างมีข้อจํากัดที่เรา สร้างขึ้นเอง อาจจะในสมองส่วนลึก หรือแม้แต่ในรูทีนของชีวิตประจําวัน กรอบที่มองไม่เห็น ทั้งหมดคือข้ออ้างที่จะทําให้เรา ไปต่อไม่ได้ไกล
การทําหน้าที่ในวันนั้น ส่งผลกระทบต่อผม โดยตรงมากกว่าใคร ๆ ในฐานะที่ต้องทําหน้าที่เป็นทั้ง ผู้ทดลอง (Experimenter) และผู้ดําเนินการสัมภาษณ์ (Moderator) อาจเพราะต้องเป็นผู้ตั้งคําถามแบบ กะทันหันพร้อม ๆ กับรับรู้ความรู้สึกที่ส่งผ่านกลับมา จากผู้คนมากมาย
คืนนั้นเมื่อกลับไปถึงบ้าน ผมคลานไปที่ชั้นวาง หนังสือปลายเตียงแล้วหยิบ The Travel Book: A Journey Through Every Country in the World ของ Lonely Planet หนังสือที่ผมขอให้คุณแม่ซื้อให้ในวันเกิดเมื่อห้าปีก่อน......... ตอนนี้มันเริ่มมีฝุ่นเกาะแล้ว ผมค่อยๆ เปิดดูภาพสีที่มีอยู่พันกว่าหน้าแบบไวๆ จากนั้นผมหันกลับไปที่หัวนอนแล้วพยายามค้นหา อะไรบางอย่างที่ชั้นวางของข้างเตียง.....
ในที่สุดผมก็เจอ มันเริ่มมีฝุ่นเกาะแล้วเช่นกัน สมุดเล่มเล็ก ๆ ที่ผมเขียนหน้าปกด้วยลายมือของ ตัวเองว่า “สมุดจด 100 ความฝัน”
อาจจะช้าไปหน่อย แต่ผมก็เริ่มต้นจดบางอย่าง ลงไปอีกครั้งก่อนนอน
หลับฝันดี ยิ้มๆนะครับ Gutnite ^^
#Twelvecolours
#ข้อจำกัดของความฝัน
#PeoplePersona
#เขย่งก้าวกระโดด
#BeginAgain
peoplepersona 在 People Person - YouTube 的八卦
Provided to YouTube by Universal Music Group People Person · Donnie The Colored Section ℗ 2003 Motown Records, a Division of UMG Recordings, ... ... <看更多>