All Things Must Pass: The Rise and Fall of Tower Records (2015)
พอบอกว่าเป็นสารคดีบอกเล่าการล้มละลายของร้านขายแผ่นซีดีเพลงชื่อดังอย่าง Tower Records หลายคนคงคิดไปในใจว่าคงเพราะการมาของอินเตอร์เน็ตและ mp3 เป็นแน่แท้ แต่สารคดีตัวนี้จะพาเราไปดูอีกมุมมองหนึ่งที่ส่อให้เห็นว่า mp3 เป็นแค่ตัวเร่งให้ร้านขายซีดีเพลงเจ๊งเร็วขึ้น ส่วนปัจจัยจริง ๆ ที่ร้านเจ๊งเพราะวิสัยทัศน์การบริหารและความโลภของค่ายเพลงมากกว่า เพราะจะว่าไปแล้ว Netflix ก็โตมาจากการเป็นร้านให้เช่าแผ่น DVD ที่สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ เริ่มจากให้เช่าทางไปรษณีย์จนผันตัวกลายเป็นสตรีมมิ่งหนังอันดับหนึ่งโคตรทรงอิทธิพลของอเมริกา
.
rise ของร้าน Tower Records คงจะเป็นภาพจำของแบรนด์ว่าเป็นร้านแผ่นเสียงตัวจริงเสียงจริง คนขายรอบรู้เรื่องดนตรี(อารมณ์ประมาณจอห์น คูแซ็คใน High Fidelity) ทำให้ร้านดึงดูดลูกค้ากลุ่มที่เป็น influencer ด้านการฟังเพลง ซึ่งตามหลักการตลาดแล้วการได้ผู้มีอิทธิพลเฉพาะด้านจะทำให้เกิดกระแสปากต่อปากให้คนอยากลองตาม โดย influencer ของร้าน Tower Records ก็ดังระดับเซอร์ เอลตัน จอห์น ซะด้วย
.
อีกปัจจัยหนึ่งที่เป็น rise ของ Tower Records คือวัฒนธรรมองค์กร นอกเหนือจากการที่พนักงานในร้านจะต้องเป็นคนรักดนตรีแล้วการเลื่อนขั้นยังต้องเริ่มจากบันไดขั้นแรกขององค์กร, คนบริหารร้านก็เป็นหยิน-หยางที่ลงตัว คนหนึ่งกล้าเสี่ยงถึงไหนถึงกัน อีกคนคอยเบรคคอยปรามตามสไตล์นักธุรกิจบริหารความเสี่ยง, พอจะขยายร้านก็ยกโขยงพนักงานไปเริ่มวัฒนธรรมแบบเดิมที่สาขาใหม่ และองค์กรก็มีลักษณะความใกล้ชิดเป็นครอบครัว
.
แต่เหมือนว่า rise ของ Tower Records ดูจะเหมาะกับองค์กรขนาดเล็กเสียมากกว่า พอเริ่มดูไปเรื่อย ๆ จึงรู้สึกว่านี่มันคือ case study บทเรียนทางธุรกิจที่เด่นชัดมาก เป็นสารคดีที่เหมาะกับคน marketing หรือทำ branding มากกว่าคนที่เป็น music lovers เพราะช่วง fall ของร้านนี้มีหลายสิ่งผิดพลาดจากการบริหารแบบเดิมกับที่ทำให้ร้านประสบความสำเร็จ (ขยายสาขากล้าลงทุนในต่างประเทศโดยไม่ศึกษาให้ถี่ถ้วน, เป็นครอบครัว, โตตามลำดับขั้น) ยิ่งพอมาเจอมรสุมปัญหาค่ายเพลงเลิกขายซิงเกิ้ลแต่ขายเป็นอัลบั้มทำให้ยอดขายลดลงเพราะคนอยากฟังแค่ซิงเกิ้ลแต่ถูกบังคับซื้อทั้งอัลบั้ม (นึกมาตลอดว่าปัญหานี้จะพูดถึงกันแค่ในไทย แต่ปรากฎว่าผู้บริหารค่ายเพลงก็ยอมรับปัญหานี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ cd พ่ายแพ้ mp3 จนปัจจุบันเราก็เห็นแล้วว่าเพลงที่ขายเป็นซิงเกิ้ลเดี่ยวมันขายได้เพราะบางทีคนเขาไม่อยากจ่ายเงินซื้อทั้งอัลบั้ม) พอรวมกับการที่ร้านปรับตัวตามอินเตอร์เน็ตไม่ทัน ไม่ทำร้านขายออนไลน์เมื่อมีโอกาสจึงทำให้ Tower Records ขาดสภาพคล่องทางการเงินอันนำมาสู่การยื่นขอล้มละลายในที่สุด
.
แต่จะว่าไปแล้ว Tower Records เองก็ปรับตัวและริเริ่มอะไรหลายอย่างได้ด้วยวิสัยทัศน์แบบผู้บริหารที่ตัดสินใจฉับไว จะมีช่วงหนึ่งที่วงการเพลงซบเซาแต่กลับมาเปรี้ยงได้ด้วย MTV, ไมเคิล แจ็คสัน อัลบั้ม Thriller, และแผ่นซีดี ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าร้านเปรี้ยงได้เพราะการตัดสินใจเข้าสู่ตลาดซีดีอย่างรวดเร็ว มีการติดตั้งหูฟังสำหรับทดลองฟังอัลบั้มก่อนซื้อจริง, การตัดสินใจเปิดตลาดญี่ปุ่นก็เป็นความเสี่ยงที่เกิดจากความที่เจ้าของบริษัทไว้ใจการตัดสินใจของพนักงาน
.
โดยสรุปแล้วต้องแนะนำคนสาย marketing ให้ลองหา All Things Must Pass ดูเป็นกรณีศึกษาแบรนด์ใหญ่ล้มดัง
Director: Colin Hanks
writer: Steven Leckart
Genre: documentary, music, history
8/10
netflix branding 在 92 Netflix Branding ideas - Pinterest 的八卦
May 4, 2021 - Explore Omario Satter's board "Netflix Branding" on Pinterest. See more ideas about netflix, branding, brand guidelines. ... <看更多>