Li-Ning จากนักยิมนาสติก สู่เจ้าของแบรนด์กีฬา 4 แสนล้าน /โดย ลงทุนแมน
หากใครที่อยู่ในวงการแบดมินตัน หรือ บาสเกตบอล อาจจะคุ้นเคยกับแบรนด์นี้ดีเพราะ
Li-Ning ถือเป็นแบรนด์กีฬาสัญชาติจีนที่ได้รับการยอมรับ และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
แต่รู้หรือไม่ว่า เจ้าของแบรนด์นี้ ไม่ได้มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจมาก่อน
แต่กลับเป็นอดีตนักกีฬาโอลิมปิก ที่ผันตัวมาทำธุรกิจ
เรื่องราวของ Li-Ning เป็นอย่างไร
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
คุณหลี่หนิง (Li Ning) เริ่มจากการเป็นนักกีฬายิมนาสติกทีมชาติ ก่อนที่จะได้รับการคัดเลือกให้ไปแข่งกีฬาโอลิมปิกในปี 1984
โดยเขาสามารถคว้าชัยมาได้ทั้งหมด 3 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง
แล้วยังเป็นแชมป์การแข่งขันยิมนาสติกระดับโลก
โดยคว้าเหรียญทองมาทั้งหมด 6 เหรียญ
และกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ในนาม “เจ้าชายแห่งวงการยิมนาสติก”
แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปี คุณหลี่หนิง ก็มีอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าจนไม่สามารถแข่งขันต่อได้และได้ตัดสินใจอำลาวงการ ด้วยวัยเพียง 25 ปี
ถึงแม้จะเกษียณไปแล้ว แต่คุณหลี่หนิงก็ยังคงเป็นตำนานและเป็นนักกีฬาในดวงใจของชาวจีนอยู่
ซึ่งก็เห็นได้จากงานกีฬาโอลิมปิกที่จีนเป็นเจ้าภาพ เมื่อปี 2008 ณ กรุงปักกิ่ง
คุณหลี่หนิง ก็ได้ถูกคัดเลือกให้เป็นนักกีฬาวิ่งคบเพลิง ในพิธีเปิดงานด้วย
แล้วคุณหลี่หนิงเข้ามาวงการแบรนด์กีฬานี้ได้อย่างไร?
หลังจากที่เกษียณจากวงการกีฬาไป คุณหลี่หนิงก็ได้มีโอกาสได้เป็น Brand Ambassador ให้กับเครื่องดื่มยี่ห้อหนึ่ง ทำให้เขาได้มีส่วนในการดูแลการตลาดของบริษัท
เรื่องนี้จึงเป็นแรงผลักดันให้เขาตัดสินใจ ออกมาเปิดแบรนด์ของตัวเอง ในวัย 26 ปี
โดยตั้งชื่อแบรนด์ว่า “Li-Ning” ตามชื่อของเขานั่นเอง
แบรนด์ Li-Ning ได้รับความนิยมอย่างมากนับตั้งแต่เปิดตัว
แต่เมื่อมาถึงช่วงปี 2010 ก็เริ่มมีคู่แข่งจากทั้งในและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะแบรนด์อย่าง Anta ที่มีความสดใหม่ถูกใจวัยรุ่นมากกว่า สวนทางกับภาพลักษณ์ของ Li-Ning ที่นิยมในกลุ่มผู้ใหญ่และผู้สูงอายุในสมัยนั้น
ซึ่งคุณหลี่หนิงเองก็มองเห็นในปัญหานี้
ทำให้เขาตัดสินใจปรับเปลี่ยนบริษัทครั้งใหญ่
โดยดึงที่ปรึกษาชื่อดังอย่าง Texas Pacific Group
และออกแผนที่ชื่อว่า “Transformation Plan” ขึ้นมาในปี 2012
และพลิกให้ Li-Ning จากแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ดูล้าสมัย กลายมาเป็นแบรนด์แฟชั่นสุดล้ำได้ในที่สุด
โดย “Transformation Plan” ที่ว่านี้เริ่มต้นตั้งแต่
การค้นคว้าหาแก่นหลักของแบรนด์เพื่อนำไปต่อยอดในการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ
การปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้เหมาะกับ กลุ่มลูกค้าชนชั้นกลางมากขึ้น
การปรับปรุงช่องทางการจัดจำหน่าย
การบริหารคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังเน้นการสร้างประสบการณ์การซื้อให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีการติดตามข้อมูลการซื้อขายโดยละเอียด จากร้านค้าปลีกต่างๆ เพื่อสำรวจแนวโน้มหรือเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยม และนำไปปรับและพัฒนาสินค้าให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น
ซึ่งเรื่องนี้ก็ตามมาด้วยดีไซน์แบบใหม่ ที่สุดล้ำของแบรนด์นั่นเอง
เมื่อมีสินค้าที่น่าสนใจพร้อมจะส่งถึงมือผู้บริโภคแล้ว
ความท้าทายสำคัญคือ จะทำอย่างไรให้พวกเขาหันมาซื้อสินค้าของแบรนด์ Li-Ning
เรื่องนี้ทำให้ คุณหลี่หนิง ตัดสินใจเปิดตัวไลน์สินค้าแบบพรีเมียมขึ้นครั้งแรก ที่งาน New York Fashion Week เมื่อปี 2018
โดยมีทั้งเสื้อสเวตเตอร์และเสื้อยืด ที่มาในลายตัวอักษรจีน ผสมผสานกับการออกแบบในสไตล์โมเดิร์น
ซึ่งก็ถูกใจลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นเป็นอย่างมาก ทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติ
ซึ่งก็ดูเหมือนว่ากลยุทธ์ทั้งหมดนี้จะได้ผล
เมื่อดูจากรายได้ 3 ปีที่ผ่านมา..
ปี 2017 รายได้ 41,000 ล้านบาท กำไร 2,400 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 48,000 ล้านบาท กำไร 3,300 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 64,000 ล้านบาท กำไร 6,900 ล้านบาท
โดยเฉพาะปี 2019 ที่มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 32% และมีกำไรเพิ่มขึ้นอีก 109%
และรายได้ทั้งหมดนี้ กว่า 98% มาจากประเทศจีนทั้งหมด ส่วนที่เหลืออีกเพียง 2% นั้นมาจากต่างประเทศ
โดยนอกจากเสื้อผ้าแนวแฟชั่นที่กำลังเติบโตได้ดีแล้ว
สินค้าในหมวดกีฬา ก็ยังคงเติบโตได้ดีไม่แพ้กัน
โดยเฉพาะ บาสเกตบอล และ แบดมินตัน
ที่ยอดขายจากร้านค้าปลีก เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 45% และ 24% (รวมฟุตบอล) ซึ่งทาง Li-Ning ได้มีการร่วมมือกับนักบาสเกตบอล NBA ชื่อดังอย่าง Dwyane Wade ในการโปรโมตแบรนด์ และยังเป็นผู้สนับสนุนให้กับสมาคมบาสเกตบอลจีน และนักแบดมินตันทีมชาติอีกด้วย
ซึ่งทั้งหมดนี้ อาจเกิดขึ้นไม่ได้เลย
หากคุณหลี่หนิงไม่ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงแนวทางของบริษัทให้ตามทันกระแสโลก
ถึงแม้ว่าคุณหลี่หนิงจะไม่ได้มีประสบการณ์ในด้านการทำธุรกิจมาก่อน
แต่ด้วยประสบการณ์ที่ “ทำไปเรียนรู้ไป” ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา
ก็ทำให้เขา สามารถสร้างและผลักดันบริษัทให้ประสบความสำเร็จได้
และกลายเป็นแบรนด์กีฬาอันดับต้นๆ ของจีน ที่มีมูลค่าสูงกว่า 420,000 ล้านบาท..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-http://ir.lining.com/en/company/about.php
-https://www.statista.com/statistics/1119529/li-ning-revenue-by-product/
-https://www.statista.com/statistics/1119450/li-ning-revenue/
-http://ir.lining.com/en/media/press_popup.php?file=inside-3_1_90.html
-https://jingdaily.com/how-li-ning-grew-in-a-gloomy-fashion-market/
-https://www.scmp.com/lifestyle/fashion-beauty/article/3010895/chinese-olympian-li-ning-starting-sportswear-empire-and
-https://doc.irasia.com/listco/hk/lining/annual/ar228227-e02331.pdf
-http://ir.lining.com/en/ir/presentations/pre200327.pdf
-https://en.lining.com/story.html
同時也有3部Youtube影片,追蹤數超過15萬的網紅pennyccw,也在其Youtube影片中提到,For those who were there at McDonough Gymnasium on August 4, 1994, few will forget the arrival of a 6-0 freshman guard who needed no introduction. The...
「nba statistics」的推薦目錄:
nba statistics 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
วิวัฒนาการ NBA จากลีกบาสเกตบอลไม่มีคนดู สู่ธุรกิจ 2 ล้านล้าน /โดย ลงทุนแมน
หากพูดถึงลีกการแข่งขันบาสเกตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก
คงหนีไม่พ้น “NBA” ลีกบาสเกตบอลของสหรัฐอเมริกา
ที่ก่อตั้งมายาวนานกว่า 72 ปี
รู้หรือไม่ว่าฤดูกาลแข่งขันปี 2019/2020 NBA มีรายได้ 2.4 แสนล้านบาท
เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เมื่อเทียบกับเมื่อ 9 ปีที่แล้ว แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ Forbes ยังได้ประเมินว่าทีมบาสเกตบอล
ที่อยู่ในการแข่งขัน NBA ทั้ง 30 ทีม มีมูลค่าตลาดรวมกันเกือบ 2 ล้านล้านบาท
แล้ว NBA มีกลยุทธ์อย่างไร
และปัจจัยใดที่ทำให้ความนิยมของ NBA
เพิ่มขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
NBA ย่อมาจาก National Basketball Association ก่อตั้งขึ้นในปี 1949
โดยเป็นการรวมตัวกัน ระหว่างลีกบาสเกตบอลของสหรัฐอเมริกา 2 ลีก
คือ Basketball Association of America (BAA) ก่อตั้งในปี 1946
และ National Basketball League (NBL) ก่อตั้งในปี 1937
แม้ในปัจจุบัน NBA จะมีทีมบาสเกตบอลถึง 30 ทีม
แต่ในช่วงเริ่มแรกนั้น NBA มีทีมบาสเกตบอลทั้งหมดเพียง 17 ทีม
แถมในช่วงเริ่มต้น NBA ก็ไม่ได้รับความนิยมมากนัก
เพราะในปี 1955 มีทีมบาสเกตบอลแข่งขันกันเพียง 8 ทีมเท่านั้น
แต่สิ่งที่ทำให้ NBA กลับมาเป็นที่นิยม และกลับมาเติบโตได้
มาจากการปรับโครงสร้างการแข่งขันขึ้นใหม่
เริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาการแข่งขัน
ยกตัวอย่างเช่น การเพิ่มเขตทำคะแนน 3 แต้ม
จากเดิมที่มีการทำคะแนนได้เพียง 2 แต้มต่อการชูตลง 1 ลูกเท่านั้น
ซึ่งลูก 3 แต้มนี้ทำให้เกิดความหลากหลายและรูปแบบการเล่นใหม่เข้ามาในเกม
หรืออีกกฎที่เพิ่มเข้ามาคือ การเพิ่มระบบ “Shot Clock”
ที่กำหนดเวลาในการครอบครองบอลของแต่ละฝั่ง
ทำให้แต่ละทีมต้องรีบทำคะแนนภายในเวลาที่กำหนด
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ทำให้เกมการแข่งขันมีความรวดเร็ว
มีรูปแบบที่กระตุ้นให้นักกีฬาต้องแข่งกันทำแต้มตลอดเวลา
ส่งผลให้เกมดูสนุกและตื่นเต้นมากขึ้น และผู้ชมก็เริ่มให้ความสนใจเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
นอกจากนี้ อีกหนึ่งในโครงสร้างของ NBA ที่แตกต่างจากลีกกีฬาอื่น
คือรูปแบบโมเดลธุรกิจของ NBA ที่สร้างความมั่นคงให้กับทุกทีมที่มีส่วนร่วม
และลดความได้เปรียบหรือเสียเปรียบระหว่างกัน
เช่น การเลือกตัวนักกีฬาหน้าใหม่เข้าทีมหรือการดราฟต์
ด้วยระบบที่เน้นให้โอกาสกับทีมที่ทำผลงานได้ไม่ดี
มีโอกาสในการคว้าตัวนักกีฬาอันดับต้น ๆ ในระบบดราฟต์ มากกว่าทีมที่มีผลงานดี
โดยปัจจุบัน 3 ทีมที่มีผลงานแย่สุด จะมีโอกาสเท่ากันที่ 14% ที่จะคว้าสิทธิ์ดราฟต์อันดับ 1
ซึ่งสิทธิ์ดราฟต์ที่แต่ละทีมได้มา สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเจรจาแลกเปลี่ยน
ตัวนักกีฬาระหว่างทีมได้อีกด้วย
นอกจากการรักษาสมดุลระหว่างผู้เล่นในแต่ละทีม
NBA ก็ยังได้กำหนดเพดานค่าจ้างนักกีฬาของแต่ละทีม
โดยมีระบบการคำนวณมาจากรายได้รวมของลีก
ทำให้แต่ละทีมมีเพดานสำหรับการจ่ายค่าจ้างเท่ากัน และหากทีมใดจ้างนักกีฬาเกินเพดานที่กำหนด
จะต้องเสียภาษีเพดานค่าจ้างในอัตราที่สูงมาก ระบบนี้จึงกลายมาเป็นการป้องกันการซื้อตัวนักกีฬาดังไม่ให้ไปอยู่รวมกันภายในทีมเดียวมากเกินไป
อีกระบบที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ระบบการคำนวณรายได้มวลรวมของลีก
เป็นระบบที่ช่วยการกระจายรายได้ของแต่ละทีม
โดยทุกทีมจะต้องนำรายได้ส่วนหนึ่งมารวมกันและเฉลี่ยไปยังทีมอื่นเท่า ๆ กัน
เพื่อเป็นการปรับช่องว่างรายได้ ระหว่างทีมที่อยู่ในตลาดขนาดเล็กและใหญ่
เช่น LA Lakers ที่อยู่ในเมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีประชากรเกือบ 4.0 ล้านคน
กับทีม Phoenix Suns ที่อยู่ในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ซึ่งมีประชากรเพียง 1.6 ล้านคน
จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 ทีม อยู่ในเมืองที่มีฐานประชากรห่างกันมาก และส่งผลต่อรายได้ของทีม
แต่ระบบของ NBA จะทำให้ทีมที่มีรายได้น้อยกว่าเกณฑ์ ได้รับเงินอุดหนุนจำนวนหนึ่ง
จากทีมที่มีรายได้มากกว่าเกณฑ์
ทั้งนี้ทีมขนาดเล็กก็ต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 70% ของรายได้เฉลี่ยที่แบ่งกันในแต่ละทีม จึงจะสามารถรับส่วนแบ่งได้เต็มอัตรา เพื่อเป็นการจูงใจและผลักดันให้ทีมขนาดเล็กปรับปรุงและพัฒนาทีมอยู่ตลอดเวลา
เมื่อองค์ประกอบทุกอย่างถูกสร้างสรรค์และออกแบบมาอย่างดีแล้ว
ก็ส่งผลให้ความนิยมและรายได้ของ NBA เพิ่มขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ทีนี้เรามาดูกันว่าการหารายได้ของ NBA เป็นอย่างไร ?
NBA เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องของความหลากหลายของช่องทางการหารายได้
ซึ่งก็คือการกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้เพียงไม่กี่ช่องทาง
โดยรายได้หลักของ NBA มาจาก 4 ช่องทางด้วยกันคือ
1. ค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด
รายได้ส่วนนี้ ถือเป็นรายได้หลักของ NBA ซึ่งในปี 2016 NBA ได้มีการเซ็นสัญญากับสื่อกีฬายักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาอย่าง ESPN และ Turner Sports ด้วยสัญญา 9 ปี มูลค่าราว 720,000 ล้านบาท
หรือเฉลี่ยปีละ 80,000 ล้านบาท สำหรับการถ่ายทอดสดการแข่งขันของ NBA
โดยสัญญานี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 180% จากสัญญาเดิมที่ได้ 29,000 ล้านบาทต่อปี
และแต่ละทีมสามารถเซ็นสัญญาถ่ายทอดสดกับสื่อท้องถิ่นได้อีกด้วย
นอกจากนี้ NBA ยังมีระบบสตรีมมิง ชื่อว่า NBA League Pass ที่ให้ผู้ชมสามารถเลือกซื้อได้ทั้งแบบ รายสัปดาห์ รายเดือน และรายปี ทำให้ผู้ชมทั่วโลกสามารถรับชมการแข่งขันได้แบบถูกลิขสิทธิ์
2. ลิขสิทธิ์ทางด้านสินค้าและการสนับสนุนจากสปอนเซอร์
ถึงแม้จะไม่ใช่รายได้ที่มีสัดส่วนที่มาก แต่ก็มีสินค้าหลากหลายแบรนด์ที่พร้อมจะร่วมสนับสนุนกับ NBA
อย่างเช่น การซื้อป้ายโฆษณาบนเสื้อนักกีฬา ซึ่งป้ายดังกล่าวมีขนาดประมาณบัตรประชาชนเท่านั้น แต่กลับมีมูลค่าที่สูงมาก
ในปี 2019 ป้ายแบรนด์เหล่านี้ทำรายได้ให้กับ NBA กว่า 4,500 ล้านบาท
อย่างเช่น Rakuten แบรนด์ E-commerce จากญี่ปุ่น ที่ยอมจ่ายถึง 600 ล้านบาทต่อปี
ให้กับทีม Golden State Warriors เพื่อซื้อโฆษณาบนเสื้อดังกล่าว
หรือจะเป็นสัญญากับ Nike แบรนด์เสื้อผ้ากีฬาอันดับหนึ่งของโลก
ที่ยอมจ่าย 30,000 ล้านบาทให้กับ NBA เพื่อแลกกับสิทธิ์ในการผลิตและจัดจำหน่ายชุดบาสเกตบอลของ NBA ทั้ง 30 ทีมเป็นระยะเวลา 8 ปี ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 2.5 เท่าของสัญญาเดิมที่เคยทำร่วมกับ Adidas
และ Nike จะต้องจ่ายค่าเครื่องแต่งกายของนักกีฬาใน NBA เป็นมูลค่ากว่า 3,750 ล้านบาทต่อปี ซึ่งคาดว่ามากกว่าที่ Adidas เคยจ่ายให้ถึงเท่าตัว เช่นกัน
3. รายได้จากการจำหน่ายตั๋วเข้าชมในสนาม
น่าแปลกใจที่รายได้ส่วนนี้กลับไม่ใช่รายได้หลักของแต่ละทีม เนื่องจากปัจจุบัน ผู้ชมสามารถรับชมผ่าน ระบบออนไลน์ได้ทุกที่ แต่มีรายงานว่าในฤดูกาล 2019/2020 ค่าใช้จ่ายในการเข้าชมการแข่งขัน 1 เกมสำหรับครอบครัว 4 คน ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายหลัก ๆ เช่น ค่าตั๋ว ค่าที่จอดรถ และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตกเฉลี่ยเกมละ 13,000 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.5% จากฤดูกาลก่อนหน้า
4. รายได้จากต่างประเทศ
NBA ได้มีการขยายตลาดไปยังต่างประเทศมาหลายปีแล้ว และได้กลายมาเป็นรายได้สำคัญของลีก โดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งมีการประเมินว่า NBA มีรายได้จากประเทศจีนปีละกว่า 15,000 ล้านบาท ตัวเลขนี้รวมถึงดีลระหว่าง NBA กับ Tencent บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนด้วยสัญญา 5 ปี 45,000 ล้านบาท
ในการเป็นพาร์ตเนอร์ที่ได้รับสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันจาก NBA เพียงรายเดียวในจีน
และกลยุทธ์สำคัญที่ผลักดันให้ NBA สามารถขยายไปยังต่างประเทศได้
ก็คือการเปิดรับนักกีฬาต่างชาติเข้ามาในลีกมากขึ้น โดยในฤดูกาล 2019/2020 มีจำนวนนักกีฬาที่ไม่ได้ถือสัญชาติอเมริกันกว่า 108 คน จาก 38 ประเทศ ซึ่งคิดเป็น 4 เท่าของฤดูกาล 1994/1995
กลยุทธ์นี้ได้ช่วยเพิ่มฐานคนดูของ NBA ในต่างแดน เพราะสำหรับบางประเทศที่กีฬาบาสเกตบอลยังไม่เป็นที่นิยม และไม่มีทีมที่คุ้นเคยไว้ตามเชียร์ คนดูก็สามารถเริ่มต้นได้ด้วยการเชียร์นักกีฬาของประเทศตัวเอง
ถึงตรงนี้ก็คงบอกได้ว่า NBA คือองค์กรที่มีโมเดลธุรกิจที่หลากหลาย
เป็นตัวอย่างขององค์กรที่พร้อมเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่า
และกระตุ้นให้มีการแข่งขันกันเองภายในลีกอยู่ตลอดเวลา
นำมาซึ่งผลงานที่น่าประทับใจแก่คนดูและเจ้าของทีมเอง
ก็เป็นที่น่าติดตาม ว่าถ้าหาก NBA เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
จะมีมูลค่าเท่าไร และในอนาคตจะมีอะไรใหม่ ๆ มาให้เราได้ศึกษา
แต่ดูเหมือนว่าทุกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
นอกจากจะทำให้ผู้ชื่นชอบบาสเกตบอลสนุกขึ้นแล้ว
มันก็ยังได้กลายมาเป็นโครงสร้างที่แข็งแกร่ง จน NBA สามารถเติบโต
จากวันที่เหลือเพียง 8 ทีมในปี 1955 จนกลายมาเป็นธุรกิจ
ที่มีมูลค่าตลาด 2 ล้านล้านบาทไปแล้ว นั่นเอง..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
Joseph Tsai ผู้ร่วมก่อตั้งและรองประธานบริหารของ Alibaba Group
ได้เข้าซื้อทีม Brooklyn Nets ในปี 2019 ด้วยจำนวนเงิน 70,500 ล้านบาท
ซึ่งถือว่าเป็นมูลค่าที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์การซื้อทีมกีฬาของสหรัฐอเมริกา..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.investopedia.com/articles/investing/070715/nbas-business-model.asp
-https://www.investopedia.com/articles/personal-finance/071415/how-nba-makes-money.asp#citation-9
-https://www.forbes.com/sites/kurtbadenhausen/2021/02/10/nba-team-values-2021-knicks-keep-top-spot-at-5-billion-warriors-bump-lakers-for-second-place/?sh=2ea4a89645b7
-https://www.statista.com/statistics/193467/total-league-revenue-of-the-nba-since-2005/
-https://www.nba.com/news/nba-rosters-feature-108-international-players-2019-20
-https://bleacherreport.com/articles/1039092-nba-revenue-sharing-small-market-teams-to-benefit-from-new-sharing-structure
-https://nba.nbcsports.com/2015/06/10/nike-to-replace-adidas-as-official-maker-of-nba-uniforms-apparel/related/
-https://www.netsdaily.com/2019/8/15/20806783/with-joe-tsai-purchase-confirmed-nets-incredible-summer-continues
-https://www.history.com/this-day-in-history/nba-is-born
nba statistics 在 AppWorks Facebook 八卦
【Moneyball】
"People in both fields operate with beliefs and biases. To the extent you can eliminate both and replace them with data, you gain a clear advantage." -- Michael Lewis, Moneyball.
When sabermetrics, the empirical analysis of baseball (statistics) that measure in-game activity, first came about, there was a lot of resistance from coaches and players to stick to the traditional way of picking players and plays. As we continue to find arguments for a more data-driven approach in all industries, we can see things like AI starting to pervade all facets of life, including sports.
The NBA has been using machine learning and AI for a while to track every game, with cameras that keep a record of every game and player to collect so much more information than before. As the cameras collect this information, they are able to train their algorithms on the data set to recognize patterns in players and plays: "The resulting software can then go through all of the tracking data, identify and label every player and play, and create a database of searchable, annotated and animated diagrams of moving dots that represent each player."
Ultimately, all sports is still a game played by humans, so we can't lose that human touch -- the random play that no machine could have predicted. However, combined with AI, sports can become that much more interesting, competitive, and fun. May the best team win!
If you're working on an AI- or Blockchain-related startup, apply now to be a part of AppWorks #18! http://bit.ly/2ENOBjw
OP: Natalie Feng Lin
nba statistics 在 pennyccw Youtube 的評價
For those who were there at McDonough Gymnasium on August 4, 1994, few will forget the arrival of a 6-0 freshman guard who needed no introduction. The rumors of Allen Iverson's arrival to the Kenner Summer League were true, and by game's end, Iverson had scored 40 points. By the Sunday afternoon final, before an overflow crowd inside the gym and a crowd of those outside who could not get in, Iverson finished a combined 99 point effort in three days against some of the best collegiate talent in the city. This, of course, from a player that had not played organized basketball in over a year.
The Allen Iverson years had begun.
A brief profile can't do justice to tell the story of one of the greatest pure athletes ever to attend Georgetown, a man without peer in his talent over two years at the collegiate level. Just a year before his Kenner debut, few would have imagined Allen Iverson ever playing college basketball.
Iverson was not only a 31 point a game guard for Bethel HS, but a football player of tremendous skill. As a quarterback and defensive back his sophomore season, he produced nearly 1,600 yards offense and 13 INT's. By his junior year, he accounted for 2,204 yards, 21 touchdowns by rush or interception, and 14 touchdown passes. In a region which has produced NFL quarterbacks such as Michael Vick and Aaron Brooks, there are those who will still say "Bubbachuck" Iverson was better than both of them. Schools such as Arkansas, Kentucky, Duke, and three dozen other top programs across two sports were vying for perhaps the greatest two-sport star the Tidewater had ever produced.
When he led Bethel to the state title, someone asked what it was like to win the title. "I'm going to get one in basketball now," which he did. In late February, 1993, en route to the state title he had promised, Iverson was one of a large group of Bethel teammates at a Hampton bowling alley when a fight broke out between students from rival schools trading racial insults. Three people were hurt in the aftermath. Despite conflicting testimony from eyewitnesses and no clear evidence linking him to the crime, Iverson was one of four black students arrested.
Racial tensions were heightened when the prosecutors passed on a misdemeanor assault charge and charged Iverson with three counts of felony "maiming by mob", which carried a 20 year prison sentence. Despite video evidence which did not place Iverson in the crowd at the time of the fight, he was convicted in a racially charged case.
The 20 year sentence was later reduced to five, and Iverson was granted clemency by Gov. Douglas Wilder three months later, sending Iverson to a detention program at an alternative high school. (The original charges were thrown out by the Virginia court of appeals in 1995.)
In the spring of 1994, with Iverson still in detention, his mother approached John Thompson with a plea to help her son get to college and start a new chapter of his life. Though Thompson had passed on a number of troubled players in the past, he offered Iverson a scholarship in April of that season, contingent upon his completion of high school and his legal release, which was granted 48 hours before his Kenner debut.
By his debut in a Georgetown uniform in November 1994, Iverson had been the subject of intense national media attention. In the Hoyas' annual exhibition with Fort Hood, Iverson scored 36 points, five assists, and three steals in 23 minutes. Local columnists were in awe.
"Hang his number up in the rafters," wrote Tom Knott of the Washington Times. "He's better than most of the point guards in the NBA right now."
"I saw Lew Alcindor, Austin Carr, Moses Malone, Alonzo Mourning, Albert King, Ralph Sampson and Patrick Ewing play in high school," said the Post's Thomas Boswell. "Now, I have two memories on my first impression top shelf. The man who became Kareem Abdul-Jabbar, and Allen Iverson."
Iverson opened the 1994-95 season in Memphis, TN in a 97-79 loss to defending NCAA champion Arkansas, scoring 19 points. Six days later, he scored 31 in a nationally televised game with DePaul, followed by 30 four days later against Providence, leading the team in scoring 22 times that season. His only game under double figures for the season (and his career) was a game where he played only ten minutes in a loss at Villanova, a game Georgetown coach John Thompson threatened to forfeit when a group of Villanova students paraded through the Spectrum in black and white-striped prison garb, with a sign comparing Iverson to O.J. Simpson.
"You accept certain ribbing, but there is a line," Thompson said after the game. "I can condone any Christian university sitting and watching that happen...If that happens [again], I going to walk. It that simple." Such fan behavior was not seen thereafter.
Later in the season, with President Bill Clinton in attendance, Iverson scored 26 as the Hoyas routed Villanova, 77-52. He followed it up with 21 to beat Syracuse, 28 versus St. John's, 31 in a Big East tournament opener with Miami (a game that saw Iverson outscore the entire Hurricane team at the end of the first half), and 27 versus Connecticut in the semis. In the NCAA regional, he scored 24 in the loss, but held Jeff McInnis to 1 for 8 shooting. By season's end, Allen Iverson had been named Big East Player of the Week nine times, Rookie of the Year, a second team all-conference selection, and honorable mention All-America recipient. Having led the Hoyas in points and steals en route to the school's first NCAA regional appearance since 1989, Iverson was already a star. By 1996, he would become nothing less than a sensation.
The leaser of a talented team that featured four future NBA stars, Allen Iverson dominated the 1995-96 season as no Hoya has done before or since. Adept at the crossover dribble that became his NBA trademark, lightning quick to the basket, and able to score on opponents at will, Iverson was largely unstoppable. Even more impressive was an effort to improve his shooting touch, for despite averaging 20.4 points as a freshman in 1994-95 (2nd all time for a Georgetown rookie), Iverson only shot 39 percent from the field, 23 percent from three, and 19 percent from three in Big East play. For his sophomore season, his field shooting increased to 48 percent, his three point mark to 36 percent. The results were striking.
In the pre-season NIT versus Temple, Iverson shot 50 percent for 24 points and a career high 10 rebounds. After a 23 point effort against Georgia Tech, he scored a career high 40 against Arizona, one of two 40+ point games that season. In Big East play, Iverson could ring up points with ease, such as the game where he scored 21 points in only 20 minutes against Rutgers.
In the final three months of the season, Iverson led the team in 21 of the team's 25 games: 40 against Seton Hall, 39 against St. John's, 34 against Providence. He scored 30 in a wild win over Memphis, and followed it up two nights later with 26 in an upset of #3 Connecticut. For the game, Iverson totalled 26 points, 8 steals, and 6 assists, including a soaring dunk past Ray Allen and the Huskies. It was the highest ranked team any Georgetown team had defeated since 1988. His best performance of the season might have been a 37 point, 8 rebound, and three steal effort against #6 ranked Villanova, playing only 27 minutes. The 106-68 win represents the sixth largest margin of victory and the largest margin ever by a Georgetown team against a top 10 opponent.
Iverson was capable of an off game; unfortunately, two came at particularly inopportune times for the Hoyas' hopes for a national title. Entering the 1996 Big East Final with a #1 seed on the line, Iverson shot 4 for 15 and the Hoyas lost by one, 76-75. As a result of the loss, Georgetown was seeded #2 behind top ranked UMass, and in the regional final between the two teams Iverson struggled with a 6 for 21 effort in the loss. For the season, though, his statistics were astonishing: his 926 points broke the then-record by 124 points. He set new single season marks in field goals, field goal attempts, three pointers, three point attempts, steals, minutes, and scoring average (25.0), the latter of which ranked 7th in the nation that season. The Big East's defensive player of the year, he was named a consensus All-American amidst numerous other awards.
If he could somehow have stayed four years, Iverson undoubtedly would have shredded the Georgetown record books. But whatever hopes existed for Iverson to resist the lure of the NBA were short lived, particularly with the news that one of his sisters had fallen ill. Seeing the opportunity to take care of his family's medical needs, Iverson announced for the NBA draft soon after the end of his sophomore season, becoming the first Georgetown player in the Thompson era to do so. The compact that had bound so many great Hoya players to a four year commitment--from Ewing to Williams, Mourning to Mutombo--had now been broken.
The first pick in the 1996 NBA draft, Iverson signed a $3.9 million contract with the Philadelphia 76ers and a ten year, $50 million deal with Reebok. His effort on the court is well known and respected, but for all the media portrayals of Iverson as the anti-hero, an icon of a "Hip Hop Nation" that ran counter to the NBA's carefully constructed marketing image, or as a symbol of all that is allegedly wrong in professional basketball, he remains remarkably well-grounded.
Married for six years and the father of two, Iverson is fiercely loyal to his teammates and to his childhood friends. He considered it an honor to play for the U.S. Olympic team in 2004 when other NBA stars passed on the offer, and maintains a number of charity events to benefit his local community. In comparison to his NBA career, his years at Georgetown were largely free of the intense media and personal scrutiny, providing at least two years where he could grow as a person as well as a basketball player.
His arrival and exit at Georgetown is still a source of debate in some circles, but his performance on the court is not. Allen Iverson found a home, even briefly, at the Hilltop, and remains one of its brightest stars. "In my heart, I know I'm a basketball player," Iverson said following his 2006 NBA trade, "being that I know I can play with the best of them."
From that first Kenner League game on 1994, no one has doubted it since.
nba statistics 在 pennyccw Youtube 的評價
For those who were there at McDonough Gymnasium on August 4, 1994, few will forget the arrival of a 6-0 freshman guard who needed no introduction. The rumors of Allen Iverson's arrival to the Kenner Summer League were true, and by game's end, Iverson had scored 40 points. By the Sunday afternoon final, before an overflow crowd inside the gym and a crowd of those outside who could not get in, Iverson finished a combined 99 point effort in three days against some of the best collegiate talent in the city. This, of course, from a player that had not played organized basketball in over a year.
The Allen Iverson years had begun.
A brief profile can't do justice to tell the story of one of the greatest pure athletes ever to attend Georgetown, a man without peer in his talent over two years at the collegiate level. Just a year before his Kenner debut, few would have imagined Allen Iverson ever playing college basketball.
Iverson was not only a 31 point a game guard for Bethel HS, but a football player of tremendous skill. As a quarterback and defensive back his sophomore season, he produced nearly 1,600 yards offense and 13 INT's. By his junior year, he accounted for 2,204 yards, 21 touchdowns by rush or interception, and 14 touchdown passes. In a region which has produced NFL quarterbacks such as Michael Vick and Aaron Brooks, there are those who will still say "Bubbachuck" Iverson was better than both of them. Schools such as Arkansas, Kentucky, Duke, and three dozen other top programs across two sports were vying for perhaps the greatest two-sport star the Tidewater had ever produced.
When he led Bethel to the state title, someone asked what it was like to win the title. "I'm going to get one in basketball now," which he did. In late February, 1993, en route to the state title he had promised, Iverson was one of a large group of Bethel teammates at a Hampton bowling alley when a fight broke out between students from rival schools trading racial insults. Three people were hurt in the aftermath. Despite conflicting testimony from eyewitnesses and no clear evidence linking him to the crime, Iverson was one of four black students arrested.
Racial tensions were heightened when the prosecutors passed on a misdemeanor assault charge and charged Iverson with three counts of felony "maiming by mob", which carried a 20 year prison sentence. Despite video evidence which did not place Iverson in the crowd at the time of the fight, he was convicted in a racially charged case.
The 20 year sentence was later reduced to five, and Iverson was granted clemency by Gov. Douglas Wilder three months later, sending Iverson to a detention program at an alternative high school. (The original charges were thrown out by the Virginia court of appeals in 1995.)
In the spring of 1994, with Iverson still in detention, his mother approached John Thompson with a plea to help her son get to college and start a new chapter of his life. Though Thompson had passed on a number of troubled players in the past, he offered Iverson a scholarship in April of that season, contingent upon his completion of high school and his legal release, which was granted 48 hours before his Kenner debut.
By his debut in a Georgetown uniform in November 1994, Iverson had been the subject of intense national media attention. In the Hoyas' annual exhibition with Fort Hood, Iverson scored 36 points, five assists, and three steals in 23 minutes. Local columnists were in awe.
"Hang his number up in the rafters," wrote Tom Knott of the Washington Times. "He's better than most of the point guards in the NBA right now."
"I saw Lew Alcindor, Austin Carr, Moses Malone, Alonzo Mourning, Albert King, Ralph Sampson and Patrick Ewing play in high school," said the Post's Thomas Boswell. "Now, I have two memories on my first impression top shelf. The man who became Kareem Abdul-Jabbar, and Allen Iverson."
Iverson opened the 1994-95 season in Memphis, TN in a 97-79 loss to defending NCAA champion Arkansas, scoring 19 points. Six days later, he scored 31 in a nationally televised game with DePaul, followed by 30 four days later against Providence, leading the team in scoring 22 times that season. His only game under double figures for the season (and his career) was a game where he played only ten minutes in a loss at Villanova, a game Georgetown coach John Thompson threatened to forfeit when a group of Villanova students paraded through the Spectrum in black and white-striped prison garb, with a sign comparing Iverson to O.J. Simpson.
"You accept certain ribbing, but there is a line," Thompson said after the game. "I can condone any Christian university sitting and watching that happen...If that happens [again], I going to walk. It that simple." Such fan behavior was not seen thereafter.
Later in the season, with President Bill Clinton in attendance, Iverson scored 26 as the Hoyas routed Villanova, 77-52. He followed it up with 21 to beat Syracuse, 28 versus St. John's, 31 in a Big East tournament opener with Miami (a game that saw Iverson outscore the entire Hurricane team at the end of the first half), and 27 versus Connecticut in the semis. In the NCAA regional, he scored 24 in the loss, but held Jeff McInnis to 1 for 8 shooting. By season's end, Allen Iverson had been named Big East Player of the Week nine times, Rookie of the Year, a second team all-conference selection, and honorable mention All-America recipient. Having led the Hoyas in points and steals en route to the school's first NCAA regional appearance since 1989, Iverson was already a star. By 1996, he would become nothing less than a sensation.
The leaser of a talented team that featured four future NBA stars, Allen Iverson dominated the 1995-96 season as no Hoya has done before or since. Adept at the crossover dribble that became his NBA trademark, lightning quick to the basket, and able to score on opponents at will, Iverson was largely unstoppable. Even more impressive was an effort to improve his shooting touch, for despite averaging 20.4 points as a freshman in 1994-95 (2nd all time for a Georgetown rookie), Iverson only shot 39 percent from the field, 23 percent from three, and 19 percent from three in Big East play. For his sophomore season, his field shooting increased to 48 percent, his three point mark to 36 percent. The results were striking.
In the pre-season NIT versus Temple, Iverson shot 50 percent for 24 points and a career high 10 rebounds. After a 23 point effort against Georgia Tech, he scored a career high 40 against Arizona, one of two 40+ point games that season. In Big East play, Iverson could ring up points with ease, such as the game where he scored 21 points in only 20 minutes against Rutgers.
In the final three months of the season, Iverson led the team in 21 of the team's 25 games: 40 against Seton Hall, 39 against St. John's, 34 against Providence. He scored 30 in a wild win over Memphis, and followed it up two nights later with 26 in an upset of #3 Connecticut. For the game, Iverson totalled 26 points, 8 steals, and 6 assists, including a soaring dunk past Ray Allen and the Huskies. It was the highest ranked team any Georgetown team had defeated since 1988. His best performance of the season might have been a 37 point, 8 rebound, and three steal effort against #6 ranked Villanova, playing only 27 minutes. The 106-68 win represents the sixth largest margin of victory and the largest margin ever by a Georgetown team against a top 10 opponent.
Iverson was capable of an off game; unfortunately, two came at particularly inopportune times for the Hoyas' hopes for a national title. Entering the 1996 Big East Final with a #1 seed on the line, Iverson shot 4 for 15 and the Hoyas lost by one, 76-75. As a result of the loss, Georgetown was seeded #2 behind top ranked UMass, and in the regional final between the two teams Iverson struggled with a 6 for 21 effort in the loss. For the season, though, his statistics were astonishing: his 926 points broke the then-record by 124 points. He set new single season marks in field goals, field goal attempts, three pointers, three point attempts, steals, minutes, and scoring average (25.0), the latter of which ranked 7th in the nation that season. The Big East's defensive player of the year, he was named a consensus All-American amidst numerous other awards.
If he could somehow have stayed four years, Iverson undoubtedly would have shredded the Georgetown record books. But whatever hopes existed for Iverson to resist the lure of the NBA were short lived, particularly with the news that one of his sisters had fallen ill. Seeing the opportunity to take care of his family's medical needs, Iverson announced for the NBA draft soon after the end of his sophomore season, becoming the first Georgetown player in the Thompson era to do so. The compact that had bound so many great Hoya players to a four year commitment--from Ewing to Williams, Mourning to Mutombo--had now been broken.
The first pick in the 1996 NBA draft, Iverson signed a $3.9 million contract with the Philadelphia 76ers and a ten year, $50 million deal with Reebok. His effort on the court is well known and respected, but for all the media portrayals of Iverson as the anti-hero, an icon of a "Hip Hop Nation" that ran counter to the NBA's carefully constructed marketing image, or as a symbol of all that is allegedly wrong in professional basketball, he remains remarkably well-grounded.
Married for six years and the father of two, Iverson is fiercely loyal to his teammates and to his childhood friends. He considered it an honor to play for the U.S. Olympic team in 2004 when other NBA stars passed on the offer, and maintains a number of charity events to benefit his local community. In comparison to his NBA career, his years at Georgetown were largely free of the intense media and personal scrutiny, providing at least two years where he could grow as a person as well as a basketball player.
His arrival and exit at Georgetown is still a source of debate in some circles, but his performance on the court is not. Allen Iverson found a home, even briefly, at the Hilltop, and remains one of its brightest stars. "In my heart, I know I'm a basketball player," Iverson said following his 2006 NBA trade, "being that I know I can play with the best of them."
From that first Kenner League game on 1994, no one has doubted it since.
nba statistics 在 pennyccw Youtube 的評價
LeBron James has been carrying the Cleveland Cavaliers throughout these playoffs. That was a natural effect of the Kyrie Irving trade. The Cavaliers don't have another scorer who can carry the burden, forcing James to dominate just to give his team a chance in the playoffs against superior overall teams. That has led to some mind-boggling statistics, including this one: James has scored 40 or more points in six games this postseason. Those would be Games 2, 5 and 7 of Cleveland's first round series against the Indiana Pacers, Game 2 of their season against the Toronto Raptors, and Games 2 and 4 against the Boston Celtics in the Eastern Conference Finals. Those numbers put him in rarified air in NBA playoff history.
The last person to score 40 points in a game six times in an individual postseason was Allen Iverson, who did so during his legendary 2001 run. The NBA record is eight, which belongs to Jerry West during his playoff run in 1965. Standing between James and West is Michael Jordan, who did it seven times in 1989. Here is the difference between James and those legends, though. He could still play 10 more playoff games. The Cavaliers are tied with the Celtics 2-2, and if that series goes seven games, it would be three more chances for him to add to his total. If he plays a seven-game series in the NBA Finals afterwards, that would be 10 games in total. Since James is scoring 40 points in 40 percent of his games this postseason (six out of 15), that would get to him a ridiculous 10 40-point games in the playoffs if he maintained his averages through Game 7 of the NBA Finals. There is no guarantee that he will play that many games, but it shows that James could very easily set the record this postseason.
The best part of this run, though, comes in a stat that doesn't even seem possible. Despite all of these 40-point games, James has never once in his career topped 50 points in a single playoff game. His career-high is 49 points, which he scored against both the Orlando Magic and Brooklyn Nets earlier in his career. James can score as much as anyone if he has to, but that is not his game. Even though he is potentially the NBA's best scorer, he is also one of its best passers. Just as Phil Jackson once challenged Jordan not to win the scoring title, James knows that in order for his team to win, he is better served not scoring 50 or 60 points. There is a limit at which his scoring stops helping. He knows that he needs to get his teammates involved.
That is what makes James' statistics so impressive most of the time. He can score 40 points in a game while also dishing 10 assists. He does whatever his team needs to win. And now, they are only two wins away from the NBA Finals thanks to him.
nba statistics 在 How much stock should we put in modern day NBA stats 的八卦
... <看更多>