จากสถิติปี 2020 พบว่าคนไทยใช้เวลาบนโซเชียลมีเดียเฉลี่ย 2 ชั่วโมง 55 นาทีต่อวัน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วโลกที่เฉลี่ยอยู่ที่ 2 ชั่วโมง 24 นาที ดังนั้นต้องยอมรับเลยว่าเวลานี้การตลาดออนไลน์เป็นสิ่งที่ทุกแบรนด์หรือธุรกิจควรต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
.
และสำหรับ Instagram ก็ถือเป็นแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียที่มาแรงที่สุดตัวหนึ่งด้วยผู้ใช้งานที่มากกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลก ด้วยฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Instagram Stories ที่มีฟีเจอร์ที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยเป็นอย่างดีแต่อาจจะยังไม่ทราบว่าสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดในการทำ Market Research เพื่อที่คุณจะสามารถนำมาต่อยอดธุรกิจสร้างยอดขายและทำความเข้าใจกับลูกค้าของแบรนด์ได้มากขึ้นอีกด้วย
.
โดยฟีเจอร์ที่เราจะนำมาแนะนำวันนี้ทุกคนที่เล่น Instagram Stories ล้วนแล้วแต่ต้องเคยเห็นผ่านตามาอย่างแน่นอนนั่นก็คือ Poll Sticker, Emoji Slider, Ask Me A Question, Quiz Question และ Swipe Up For More ซึ่งข้อดีของการทำการตลาดบน Instagram นั้นนอกจากการที่เป็นแอปฯ ที่มีผู้ใช้จำนวนมากแล้ว การใช้ฟีเจอร์ของ Instagram ในการทำ Market Research ก็ยังฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นทำให้ผู้ติดตามหรือลูกค้ามีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้นอีกด้วย แถมไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ไม่ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้หรือทำความเข้าใจอะไรมาก ดังนั้นวันนี้จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักฟีเจอร์ต่างๆ ที่มีอยู่ใน Instagram Stories ให้มากขึ้นรวมถึงวิธีการนำมาทำ Market Research เพื่อทำความเข้าใจกลุ่มลูกค้าและสามารถนำพัฒนาแบรนด์ให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด
.
1. Poll Sticker – ช่วยทำให้เข้าใจลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
ฟีเจอร์นี้จะเป็นในลักษณะการตั้งคำถามและให้เลือกคำตอบหนึ่งใน 2 คำตอบที่มีให้ Yes or No หรือ จะเป็นการใส่ตัวเลือกอื่นลงไปแทน เช่น 1 or 2 , ดำ or ขาว หรือจะเป็นการใส่อิโมจิลงไปอย่างเช่น 👩 or 👨 ก็ได้เช่นกัน โดยฟีเจอร์นี้จะเป็นเครื่องมีที่จะทำให้คุณสามารถเข้าใจลูกค้าได้ในเวลาอันรวดเร็วและทำให้ทราบถึงสิ่งที่ลูกค้าต้องการจากธุรกิจหรือแบรนด์ได้อย่างเรียลไทม์แถมแบรนด์ดังระดับโลกก็เลือกใช้จำนวนมาก ซึ่งหน้าที่ของเจ้าของธุรกิจก็เพียงแค่ตั้งคำถามที่อยากจะสำรวจเก็บข้อมูลจากลูกค้าและกำหนดคำตอบสั้นๆ ใช้เวลาในการเข้าใจได้ไม่นานเพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกตอบได้ในทันที
.
2. Emoji Sliders – วัดความรู้สึกที่มีของลูกค้า
เป็นฟีเจอร์ที่เหมาะสำหรับการวัดอารมณ์ความรู้สึกของลูกค้าต่อสิ่งต่างๆ เป็นลักษณะการสำรวจโดยที่ไม่ต้องอาศัยขั้นตอนอะไรที่ซับซ้อน เพียงแค่คุณตั้งคำถามและให้ลูกค้าเป็นคนเลื่อนแถบอิโมจิเพื่อแสดงความรู้สึกของพวกเขาจากมากไปน้อย หากคุณต้องการทราบว่าลูกค้ารู้สึกอย่างไรกับสินค้าชิ้นใหม่ที่ออกมา ก็เลือกอิโมจิที่ตรงกับคำถามมากที่สุด เช่น ไอศกรีมรสใหม่ของร้านเราเป็นอย่างไร (เลือกอิโมจิ 👍) หลังจากนั้นลูกค้าก็จะทำการเลื่อนแถบสไลด์เพื่อบอกระดับความถึงพอใจของพวกเขาเท่านั้นเอง ซึ่งผลที่ออกมาก็จะมีการแสดงข้อมูลเป็นรายบุคคลรวมถึงคะแนนเฉลี่ยทั้งหมดอีกด้วย
.
3. Ask Me A Question – สำรวจข้อมูลแบบลงลึกและหลากหลาย
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่แนะนำสำหรับแบรนด์ที่กำลังต้องการพัฒนาธุรกิจ เนื่องจากเป็นฟีเจอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งเป็นลักษณที่คุณสามารถตั้งคำถามและให้ลูกค้าหรือผู้ติดตามสามารถมาตอบคำถามแสดงความคิดเห็นแบบพิมพ์เองตามความคิดเห็นหรือความรู้สึกส่วนตัวได้เลยแบบไม่มีข้อจำกัด และมากไปกว่านั้นสามารถนำเอาคำตอบเหล่านั้นมาตอบกลับลงใน Stories ได้อีกครั้งด้วย เช่น คุณรู้สึกอย่างไรกับสาขาใหม่ของร้านเรา , คุณอยากจะให้ไอโฟนรุ่นหน้ามีฟีเจอร์อะไรเพิ่มบ้าง
และไม่ใช่แค่คำถามหรือเรื่องที่แบรนด์อยากรู้จากลูกค้าเท่านั้น คุณสามารถตั้งหัวข้อเพื่อให้ลูกค้าตั้งคำถามให้แบรนด์ตอบเพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจระหว่างแบรนด์กับลูกค้าได้มากขึ้นอีกด้วย เช่น คุณมีข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของเราไหม (ลูกค้าก็สามารถถามและให้แบรนด์ตอบกลับเพื่อสร้างความเข้าใจได้มากขึ้น)
.
4. Quiz Question – ลูกค้ารู้จักคุณดีแค่ไหน
เป็นฟีเจอร์ที่เหมือนกับข้อสอบตอบคำถามที่มีคำตอบให้เลือก 4 ข้อ โดยที่จะมีเพียง 1 คำตอบที่ถูกต้องเท่านั้น ซึ่งฟีเจอร์นี้นอกจากจะช่วยให้เกิดความสนุกแล้วก็ยังสามารถนำว่าวัดได้ว่าลูกค้ารู้จักแบรนด์หรือสินค้าของคุณมากแค่ไหน โดยที่ลูกค้าก็จะสามารถรู้ได้ทันทีว่าคำตอบที่เลือกนั้นถูกหรือผิด ซึ่งคุณก็สามารถนำเอาข้อมูลที่ได้นั้นมาวางแผนเพื่อพัฒนาและต่อยอด ประชาสัมพันธ์แบรนด์ให้กับธุรกิจต่อไปได้ในอนาคต เช่นหากคุณตั้งคำถามแล้วมีคนตอบถูกน้อย แสดงว่าลูกค้ายังไม่มีความเข้าใจ/รู้จักในสินค้าหรือแบรนด์มากพอ จึงต้องวางแผนเพื่อประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้นนั่นเอง
.
5. Swipe Up For More – เพื่อสำรวจแบบละเอียด
ฟีเจอร์นี้จะมีข้อจำกัดอยู่หนึ่งอย่างคือ ต้องเป็นบัญชีผู้ใช้ที่มีผู้ติดตามตั้งแต่ 1 หมื่นคนขึ้นไปเท่านั้น โดยที่คุณสามารถเชื่อมโยงลิงก์เพื่อให้ลูกค้ากดเลื่อนขึ้นไปยังหน้าเพจต่างๆ ที่กำหนดไว้ เป็นเครื่องมือที่สามารถประยุกต์ได้อย่างหลากหลาย ในด้านการสำรวจอาจจะเชื่อมโยงไปยังหน้าแบบสอบถามที่มีรายละเอียดการสำรวจในปริมาณที่มากขึ้นและคำถามที่ลงลึกมากขึ้นได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครจะอยากจะมากรอกแบบสอบถามยาวๆ ดังนั้นแบรนด์อาจจะต้องมีการงัดกลยุทธ์ โปรโมชัน รางวัล หรือส่วนลดสุดพิเศษมาเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ลูกค้ากดเข้าไปตอบแบบสอบถามให้นั่นเอง และในด้านของการตลาดอาจจะเชื่อมโยงไปยังหน้าเพจที่สามารถกดสั่งซื้อสินค้าได้เช่นกัน
.
และนี่ก็เป็น 5 ฟีเจอร์ที่อยู่ใน Instagram Stories ที่คุณสามารถนำมาเป็น Market Research เพื่อนำไปพัฒนาแบรนด์หรือธุรกิจในการสร้างยอดขายและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น ดังนั้นสำหรับใครที่อาจจะเคยใช้ฟีเจอร์เหล่านี้เพื่อถามตอบกับกลุ่มเพื่อนใน Instagram อยู่แล้วก็ลองนำเอาไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจของคุณเพื่อให้เข้าใจลูกค้าได้มากขึ้น หรือสำหรับใครที่อาจจะไม่เคยใช้ฟีเจอร์เหล่านี้มาก่อนก็อย่าลืมที่จะสามารถศึกษาวิธีการใช้งานเพื่อนำไปใช้กับธุรกิจของคุณ เพราะในอนาคตจำนวนผู้ใช้งาน Instagram จะเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก และฟีเจอร์เหล่านี้จะเป็นตัวช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตขึ้นได้อย่างมากเลยทีเดียว
.
ที่มา : https://datareportal.com/reports/digital-2020-global-digital-overview
https://www.socialmediaexaminer.com/how-to-use-instagram-stories-for-market-research-5-ideas-for-marketers/
.
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#การตลาด #MarketResearch #Instagram #ธุรกิจ #Business #การตลาดออนไลน์
marketresearch 在 MarketResearch.com (mrktresearch) - Profile | Pinterest 的八卦
MarketResearch.com | MarketResearch.com's Pinterest is your go-to place for helpful tools, advice, how-to's, and insights into the market research process. ... <看更多>