BMW X ลงทุนแมน
กรณีศึกษา BMW ตระกูล M รถที่มีมูลค่าชนะกาลเวลา
หากเราครอบครองรถเก่าอายุเกือบ 20 ปี เราจะทำอย่างไรกับรถคันนี้
ใช้จนกว่ามันจะวิ่งไม่ได้ หรือ ขายต่อให้เต็นท์รถ หรือ ถ้าสภาพแย่หน่อย
ก็อาจขายเป็นเศษเหล็กหรืออะไหล่
แต่..เชื่อหรือไม่รถ BMW M3 E46 ที่มีอายุ 17 ปี
สภาพรถขับไม่ได้ สตาร์ตไม่ติด ระบบน้ำมันมีปัญหา
แต่มีคนประมูลให้ราคาสูงถึง 3.9 ล้านบาท
ในงานประมูลรถของกลางกรมศุลกากร ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา
ส่วนในงานประมูล Barrett Jackson ในประเทศสหรัฐอเมริกา
ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีล่าสุดรถ BMW M3 รหัส E36 ซึ่งผลิตมาแค่ 120 คันทั่วโลก
โดยรถคันนี้เป็นรถของนักแสดง Paul Walker นักแสดงนำ The Fast and The Furious
ที่เสียชีวิตไป ได้จบการประมูลที่ 385,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 11.7 ล้านบาท
ทำไม รถเก่าที่เหมือนจะไร้ค่า กลับมีมูลค่าสูงถึงขนาดนี้
คำถามก็คือ รถยนต์เก่าๆ มีตั้งหลายสิบแบรนด์
แล้วทำไมรถ BMW ตระกูล M ถึงเป็นที่หมายปองของใครหลายคน
ลงทุนแมน จะวิเคราะห์ให้ฟัง
สินค้าในโลกนี้มี 2 ประเภท
1.สินค้าที่เวลาจะกัดกินมูลค่ามันให้ลดลงเรื่อยๆ
2.สินค้าที่เวลาจะเป็นตัวช่วยเพิ่มมูลค่า
และรถยนต์ก็อยู่ในข้อแรก เพราะด้วยตลาดที่มีการแข่งขันกันสูง
โดยเฉพาะเรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่พัฒนาอยู่เสมอ
ก็เลยทำให้ รถที่มีเทคโนโลยีเก่า จะมีราคาถูกลงไปโดยปริยาย
แต่..เรื่องนี้ กลับมีข้อยกเว้น ถ้าหากรถรุ่นเก่าคันไหน
สามารถสร้างมูลค่าในความทรงจำด้วยการมี Story ทำให้คนรักและชื่นชอบ
อยากครอบครองเป็นเจ้าของ
“เวลา” กลับจะเป็นตัวช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับรถคันนั้นเหมือนอย่าง BMW ตระกูล M
รู้หรือไม่ว่า BMW M เป็นผลิตผลโดยตรงของ BMW M GmbH
ที่ก่อตั้งในปี 1972 โดยเป็นแผนกมอเตอร์สปอร์ตมีหน้าที่ผลิตรถที่ใช้แข่งในสนามทั่วโลก
ซึ่งมีนักขับชื่อดังระดับโลกหลายคนที่ขับรถ BMW พิชิตแชมป์ในสนามแข่งต่างๆ ทั่วทุกมุมโลก เช่น March-BMW 732 คว้าแชมป์ Formula 2 และ รถ BMW 3.0 CSL ที่คว้าแชมป์ European Touring Car ต่อเนื่อง 5 สมัยรวด
จนมาถึงปี 1993 ได้เปลี่ยนชื่อแผนกมาเป็น BMW M Gmbh
โดยในปี 2000 ได้เปิดตัว BMW M3 CSL (E46)
ที่ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ 3.2 ลิตร 343 แรงม้า
ซึ่งก็ประสบความสำเร็จคว้ารางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมปี 2000
จากนั้น BMW ตระกูล M ก็ฉายภาพการเป็น “เจ้าความเร็ว”
เพราะรถหลายๆ รุ่นจะถูกผลิตด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้ากว่ารถคู่แข่ง
พอเป็นแบบนี้..เลยทำให้ทีมนักแข่ง BMW ทั่วโลกกวาดแชมป์จากสนามต่าง ๆ
มานับครั้งไม่ถ้วน ไปจนถึงดีไซน์การออกแบบทั้งภายนอกและภายในโฉบเฉี่ยวสะดุดตา
ซึ่งพอเวลาผ่านไปรถตระกูล M หลายรุ่นได้กลายเป็นรถระดับตำนาน
ความน่าสนใจ มันมาอยู่ที่ BMW ไม่ได้ให้รถตระกูล M จำกัดตัวเองอยู่แค่ในสนามแข่ง
แต่ต่อยอดพัฒนาให้คนทั่วโลกสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ อย่างที่เรารู้จักกันดี เช่น
M2 Coupe ที่เปิดตัวปี 2016 ที่นักทดสอบทั่วโลก
พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคือรถที่สมรรถนะดีที่สุดในโลก ณ เวลานั้น
หรือรุ่นล่าสุดที่ว่ากันว่าเป็นรถแรงและเร็วที่สุดในโลกในตอนนี้
ด้วยการนำเทคโนโลยีในสนามแข่งมาพัฒนาบรรจุไว้ใน BMW M8 Competition Coupe
ที่เร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.2 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 305 กม./ชม.
มาถึงตรงนี้ ทำให้เรามองเห็นภาพ BMW ในมุมที่ “ต่าง” ไป
เพราะสิ่งแรกที่เรานึกถึงแบรนด์นี้ คือเป็นรถ LUXURY หรูหรา สมรรถนะดี
แต่รถตระกูล M กลับทำให้เราได้เห็นมุมที่ไม่เคยรู้มาก่อน ว่ารถ BMW เป็นรถที่มีความเร็วสูงที่พัฒนามาจากรถแข่ง อีกทั้งยังพกพา Story อันน่าหลงใหลชวนติดตาม
หากใครเป็นเจ้าของ BMW ตระกูล M ในวันนี้
ใครจะไปรู้ว่า ในอนาคตข้างหน้า
รถที่เราครอบครองอาจจะกลายเป็น Rare item เป็นที่ต้องการของนักสะสมรถทั่วโลก
โดยที่เวลาไม่อาจกัดกินทำลายมูลค่ามัน ก็เป็นได้..
References
-เอกสารประชาสัมพันธ์ บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด
-https://chobrod.com
