? คลิปรถใหม่ 2019-2020 มาแล้วครับ คลิกที่นี่ https://www.youtube.com/channel/UCSebcviE-UeYMxVRNozwqtw/videos
เปิดตัวในไทย The new 2018 Mercedes-Benz S-Class ทั้ง S560 Coupe AMG Premium และ S560 Cabriolet AMG Premium
ดีไซน์ภายนอกของ Mercedes-Benz S 560 Coupe AMG Premium และ Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium รุ่นใหม่ เป็นรถยนต์สไตล์สปอร์ต 2 ประตู หรูหราแบบรถยนต์ตระกูล S-Class ด้วยไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System ที่ประดับด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ (Swarovski crystals) จำนวนรวมทั้งสิ้น 47 ชิ้น ซึ่งประกอบด้วยไฟ daytime running lamps ที่ส่องสว่างด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ 17 ชิ้น ให้แสงที่สวยใสชัดเจน และไฟเลี้ยวที่ตกแต่งด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ 30 ชิ้น
รวมถึงเป็นรถยนต์เพียง 2 รุ่นในตระกูล S-Class ที่ติดตั้งไฟท้ายแบบ OLED (Organic Light Emitting Diode) ซึ่งเป็นหลอดไดโอดเปล่งแสงขนาดบาง ที่เคลือบใต้กระจกของไฟหลัง จำนวนรวมทั้งสิ้น 33 ชิ้นต่อ 1 ข้าง ทำหน้าที่ควบคุมตำแหน่ง และความสว่างของแสงได้อย่างแม่นยำ
อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยเส้นสายลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ กระจังหน้า Diamond grille สีเงิน พร้อมลายโครเมียม 1 แถบ และตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ฝากระโปรงหน้าที่ยาว เพิ่มความดุดันด้วยชุดแต่งสปอร์ตแบบ AMG พร้อมคิ้วโครเมียมตกแต่งบริเวณชายกันชนด้านหน้า, ปลายท่อไอเสียคู่, ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน, สัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ บนคาลิปเปอร์เบรก และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 10 ก้าน ขนาด 20 นิ้ว ตกแต่งด้วยสี Titanium Grey
โดย S 560 Coupe AMG Premium มาพร้อมกับหลังคาพาโนรามิคซันรูฟแบบ MAGIC SKY CONTROL ขนาดใหญ่ ที่สามารถปรับความเข้มของกระจกได้เพียงกดสวิตช์เพื่อกรองแสงที่เข้ามาได้ โดยพาโนรามิคซันรูฟนี้ มีความยาวถึง 2 ใน 3 ของความยาวหลังคา หรือมีพื้นที่ประมาณ 1.32 ตารางเมตร
ในขณะที่ S 560 Cabriolet AMG Premium มาพร้อมกับหลังคาแบบ fabric soft-top ที่มีความหนาถึง 3 ชั้น ชั้นนอกสุด เคลือบสารบูทีล (butyl) ซึ่งทำให้รถยนต์มีระดับเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารน้อยที่สุด โดยหลังคาสามารถกางเปิด หรือพับปิดได้ในเวลาเพียง 19 วินาที ขณะที่รถวิ่งที่ความเร็วสูงสุด 50 กม./ชม. อีกทั้งยังมาพร้อมกับแผงบังคับทิศทางลมอีกด้วย (AIRCAP)
สำหรับ ดีไซน์ภายในนั้น สร้างนิยามอีกขั้นของความสะดวกสบาย เช่นเดียวกับ Mercedes-Maybach S 560 ด้วยระบบ ENERGIZING Comfort Control ที่ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆเข้าไว้ด้วยกัน เช่น การปรับโทนสีของไฟภายในห้องโดยสาร Premium Ambient Light ระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง
รวมถึงโปรแกรมนวดของเบาะที่นั่งด้านหน้า 4 แบบ เพื่อช่วยให้คุณผ่อนคลายตลอดการเดินทาง พร้อมการตกแต่งด้วยวัสดุที่แข็งแรง มีระดับ และได้รับมาตรฐานจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วโลก ทั้งเบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa แบบ Exclusive package ตัดเย็บลายเบาะแบบ diamond design, หน้าจอกว้างแบบ Widescreen Cockpit และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต
สำหรับเทคโนโลยีและระบบมัลติมีเดียภายในห้องโดยสาร มีมาอย่างครบครัน ทั้งระบบ Night View Assist Plus ระบบที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่เห็นคนเดินถนนหรือสัตว์ขนาดใหญ่ในที่มืด โดยการใช้แสงอินฟราเรด และกล้องอินฟราเรด ระยะใกล้และไกลในการมองเห็น เพื่อลดอุบัติเหตุในที่มืด,
ระบบ Crosswind Assist ระบบที่จะช่วยประคองรถยนต์ให้ไม่หลุดออกนอกเส้นทาง เมื่อมีลมแรง, ระบบ MAGIC VISION CONTROL ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่มีทัศนวิสัยในการมองเห็นได้อย่างดีเยี่ยมขณะขับขี่ ด้วยระบบฉีดน้ำกระจกหน้าจากก้านปัดน้ำฝน ที่น้ำจะฉีดไปที่บริเวณด้านหน้าของใบปัด ขณะทำการปัด
รวมถึงระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display), ระบบป้อนเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร, ฟังก์ชั่นปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร (AIR BALANCE package), ระบบ COMAND Online, ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay และ Android Auto, ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless charging), ระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ Bluetooth ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย touchpad และระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester highend 3D surround sound system
นอกจากนี้ รถยนต์ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัยสูงสุด ทั้งสำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ร่วมใช้ถนน ที่ไม่เคยมี ในรถรุ่นนี้มาก่อน อาทิ
ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE PLUS และ PRE-SAFE Impulse Side
ระบบ Active Emergency Stop Assist
ระบบ Evasive Steering Assist
ระบบ Active Distance Assist DISTRONIC
ระบบ Active Blind Spot Assist
ระบบ Active Lane Keeping Assist
ระบบ Active Braking Assist และฟังก์ชัน Cross-Traffic
และระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ
Mercedes-Benz S 560 Coupe AMG Premium และ S 560 Cabriolet AMG Premium มาพร้อมกับระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC และเครื่องยนต์แบบ V8 เทอร์โบคู่ พร้อมระบบปรับรูปแบบขับขี่ DYNAMIC SELECT ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกได้ทั้งหมด 5 แบบ ตามสไตล์การขับขี่ของตนเอง คือ ECO, Comfort, Sport, Sport+ และ Individual
โดยขุมพลังเบนซิน 8 สูบ ความจุ 3,982 ซีซี เทอร์โบคู่ ที่มาพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ของรถทั้งสองรุ่น ให้ตัวเลขด้านสมรรถนะเท่ากันคือ กำลังสูงสุด 469 แรงม้าที่ 5,250-5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตรที่ 2,000-4,000 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0-100 กม/ชม ใน 4.6 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุดที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
โดยรถยนต์ Mercedes-Benz S 560 Coupe AMG Premium นำเสนอในราคา 15.99 ล้านบาท และ Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium นำเสนอในราคา 16.72 ล้านบาท ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการ ทั้ง 32 แห่งทั่วประเทศ
「intelligent traffic light system」的推薦目錄:
intelligent traffic light system 在 CarDebuts Youtube 的評價
ชมตัวจริงแบบชัดๆ All-New Nissan Sylphy / Sentra 2019-2020 นิสสัน ซิลฟี่ โฉมใหม่ล่าสุด เปิดตัวในจีน ก่อนเข้าไทย
ในคลิปก่อน เราพาไปชมการเปิดตัว All-new Nissan Sylphy โฉมใหม่ พร้อมรายละเอียดเบื้องต้น ในงาน Shanghai Auto Show 2019 แต่ในคลิปนี้ ทีมออกแบบของ Nissan ทั้ง Alfonso Albaisa และ Ken Lee จะพาไปชม Nissan Sylphy โฉมใหม่อย่างใกล้ชิด ทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงการทดลองนั่ง ว่ารถซีดานขนาดเล็กรุ่นนี้ จะให้ความสะดวกสบายในการโดยสาร มากน้อยแค่ไหน
SHANGHAI – The all-new Nissan Sylphy was unveiled today at the 2019 Shanghai Motor Show, sporting a new look and featuring the latest Nissan Intelligent Mobility technologies to give drivers increased connectivity, comfort and confidence.
With a new and more fuel-efficient powertrain, a wider stance, a lower center of gravity, improved aerodynamics and a roomy, luxurious interior, the new Sylphy delivers even better performance and an enhanced driving experience. Seamless connectivity features and a full suite of active safety technologies provide support for drivers.
“The all-new Nissan Sylphy represents the full landing of Nissan Intelligent Mobility in China,” said Daniele Schillaci, executive vice president of Nissan Motor Co., Ltd. “With an even more stylish design and advanced connectivity and safety technologies, the all-new Nissan Sylphy gives customers a whole new level of confidence and excitement, befitting of a leading family sedan.”
At first glance, the all-new Sylphy is characterized by its stance, which reflects the design concepts of “vigor” and “confidence.” The lower profile and streamlined exterior contribute to decreased wind resistance, with a drag coefficient of just 0.26 – equal to that of the Nissan GT-R. Signature Nissan features include the black grille with a three-dimensional V-motion design, bringing about a strong visual impact. The sides are defined by lean, striking proportions that create a sense of motion even when the car is stationary.
These dynamic exterior design cues hint at a number of key performance upgrades. The car is powered by the all-new Nissan HR16DE Gen3 intelligent drive engine with Xtronic transmission. The new powertrain technologies boost engine stability and fuel efficiency1 and provide a linear, smooth driving experience. Steering, suspension and body rigidity have also been enhanced to improve handling and deliver a more solid driving feel.
The wide stance and long wheelbase allow for a spacious cabin where up to five people can ride comfortably in soft, 3D Multilayer ergonomic seats. The interior comes in sporty black, light gray or tan. The tan version features a diamond-cut quilting pattern on the seats that adds a modern, luxurious feel.
Interior features that have been designed for increased comfort and convenience also include the three-outlet air conditioning system. Controlled by a single integrated switch, it supplies air separately to the left and right front seats and to the back seats. An 8-inch center color display and the 7-inch, high-definition thin-film transistor monitor, which shows drive information and readings from the car’s sensors, are arranged inside the meter assembly for a smart, highly functional design.
Among the many Nissan Intelligent Mobility technologies in the all-new Sylphy are seamless smartphone connectivity and intelligent voice command. The Integrated Dynamic Control Module uses targeted brake applications after the vehicle encounters a bump or undulation to immediately improve the level of the body, enhancing ride quality. Additional technologies to assist the driver include Intelligent Trace Control, Intelligent Ride Control and Emergency Brake for Pedal Misapplication.
Safety technologies such as Intelligent Forward Collision Warning, Blind Spot Warning, Lane Departure Warning, Cross Traffic Alert and Intelligent Driving Alert support the driver in anticipating and avoiding hazardous situations.
intelligent traffic light system 在 CarDebuts Youtube 的評價
The BMW X7 is the first car to fuse the presence, exclusivity and spaciousness of a luxury model with the agile and versatile driving properties expected of a Sports Activity Vehicle (SAV).
A new dimension in luxury: The first BMW X7 combines the presence, exclusivity and spaciousness of a luxury car with the versatile, agile driving properties of a Sports Activity Vehicle (SAV). Production will take place at BMW Plant Spartanburg (USA). Market launch will be March 2019.
The largest BMW X model is 5,151 millimetres in length, 2,000 millimetres wide and 1,805 millimetres tall, and has a wheelbase of 3,105 millimetres. Its clear and precise design language spans a punchy, extremely prominent front end, large windows, high ground clearance, a long roofline and a two-section split tailgate. Exclusive detailing includes extensive chrome elements. LED headlights are standard, BMW Laserlight optional.
Generous interior space across three rows of seats. Seven seats as standard. Middle row can be specified with two individual comfort seats as an option. Uncompromised space in the third row, complete with armrests, cupholders and USB ports. All seats are electrically adjustable. Vernasca leather trim as standard. Boot capacity can be expanded from 326 litres to a maximum 2,120 litres.
20-inch light-alloy wheels as standard, 21- and 22-inch light-alloy wheels optional.
Design Pure Excellence, M Sport package and model-specific BMW Individual features allow carefully judged individualisation.
Four-zone automatic climate control, ambient lighting and three-section panoramic glass roof as standard. Five-zone automatic climate control, Ambient Air package, Panorama glass roof Sky Lounge, controls with glass applications, Bowers & Wilkins Diamond Surround Sound System and Rear-seat entertainment Professional optional.
Air springs at both axles and Adaptive suspension with electronically controlled dampers are standard. Integral Active Steering and Executive Drive Pro with active roll stabilisation optional. M Sport differential standard on the BMW X7 M50d (fuel consumption combined: 7.4 – 7.0 l/100 km [38.2 – 40.4 mpg imp]; CO2 emissions combined: 193 – 185 g/km) and optional for the BMW X7 xDrive50i (fuel consumption combined: 11.4 l/100 km [24.8 mpg imp]; CO2 emissions combined: 261 g/km) and BMW X7 xDrive40i (fuel consumption combined: 9.0 – 8.7 l/100 km [31.4 – 32.5 mpg imp]; CO2 emissions combined: 205 – 198 g/km). Optional Off-Road package enables selection of xSand, xGravel, xRocks and xSnow driving modes at the touch of a button.
Full range of state-of-the-art driver assistance systems (availability may vary between markets). Active Cruise Control with Stop & Go function, Driving Assistant Professional with Steering and lane control assistant, Lane Change Warning and Lane Departure Warning, Lane Keeping Assistant and side collision protection, evasion aid, Crossing traffic warning, Priority warning and Wrong-way warning. Latest generation of the BMW Head-Up Display. Emergency Stop Assistant (not available in Europe). Parking Assistant including rear view camera and Reversing Assistant as standard.
BMW Live Cockpit Professional with BMW Operating System 7.0 as standard. Fully digital instrument cluster and Control Display each with 12.3-inch screen diagonal. BMW Operating System 7.0 enables intuitive und multimodal operation via touchscreen, iDrive Controller, steering wheel buttons, voice control and gesture control.
BMW Intelligent Personal Assistant performs role of digital co-driver and vehicle expert, and activates in-car experiences. Operated by natural voice command. BMW Digital Key allows customers to use their smartphone for vehicle access and engine start-up. Remote Software Upgrade updates vehicle functions over the air.