ไปดูตัวอย่างของ Goku Ultra Instinc ว่าสเกลพลังจะโหดแค่ไหน
#OnlineStation
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過62萬的網紅Bryan Wee,也在其Youtube影片中提到,...
instinc 在 毛孩市集 Facebook 八卦
<3 三分鐘教你認識 WDJ <3 -購買飼料推薦參考名單
許多毛爸媽在購買飼料時會看到標示「WDJ推薦」等字眼,但卻不知道何謂「WDJ飼料評比」
選飼料時究竟該不該參考這項指標呢?
Dr.Pet 就用3分鐘教各位毛爸媽認識WDJ!!
┅┅┅ 馬上點開影片吧!┅┅┅
以下是2016入圍且可以在毛孩市集上買得到的品牌:
ACANCA 愛肯拿
ADDICTION 自然癮食
BEST BREED 貝斯比
BLACWOOD 柏萊富
CATOR & POLLUX (ORGANIX) 歐奇斯
EARTHBORN HOLISTIC 原野優越
GO! ( GO 頂級抗敏)
HOLISTIC SELECT 活力滋
INSTINC 本能(原點)
LOTUS 樂特斯
NATURAL BALANCE (NB 自然平衡)
NOW!
NUTRAM 紐頓
NUTRO ULTRA 美士-極品大地
ORIJEN 渴望
SPRING NATURALS 曙光
TASTE OF THE WILD 海陸饗宴
WELLNESS 寵物健康
本月購買WDJ推薦飼料,皆可使用以下優惠:
優惠碼【2016WDJ50】滿600現折50
優惠碼【2016WDJ150】滿1200現折150
這裏買>> http://bitly.com/2bZHX7Y
instinc 在 Mr.Sexman Facebook 八卦
ขอบคุณเพจ WURKON นะครัชช ถ้าจะให้ละเอียดลึกกว่านี้ ต้องกินเหล้าไปสัมภาษณ์ไปนะก๊าาาบบบบบ
คุยกับปาล์ม Instinct จิตรกรภายใต้โฉมหน้านักร้องเพลงร็อก (ตอนแรก)
ถ้าเอ่ยชื่อ ปรียวิศว์ นิลจุลกะ หรือ ปาล์ม Instinct หลายคนที่เป็นคอดนตรีบ้านเราน่าจะรู้จักเขาในฐานะนักร้องเพลงร็อกขวัญใจวัยรุ่น อดีตนักร้องนำของวง Girl และปัจจุบันในฐานะนักร้องนำวง Instinct เจ้าของเพลงฮ็อต โปรดส่งใครมารักฉันที ที่ฮิตระเบิดระเบ้อในฐานะเพลงประกอบภาพยนตร์ รถไฟฟ้ามาหานะเธอ จนคนร้องตามได้ทั้งบ้านทั้งเมือง
แต่คงมีน้อยคนที่รู้ว่า นอกจากบทบาทของนักร้องแล้ว ปรียวิศว์ หรือ ปาล์ม ผู้นี้ยังมีอีกบทบาทหนึ่งในฐานะศิลปินวาดภาพอีกด้วย แล้วเขาก็ไม่ได้ทำเล่นๆ เป็นงานอดิเรกยามว่าง แต่ทำแบบจริงๆ จังๆ ทำงานศิลปะควบคู่กับการร้องเพลงมาตลอด และแสดงนิทรรศการศิลปะทั้งเดี่ยวและกลุ่มมาหลายครั้งหลายหน จนเรียกได้ว่าเป็นอีกอาชีพหนึ่งของเขาเลยก็ว่าได้ ซึ่งอันที่จริงแรกเริ่มเดิมที เขาเองก็สนใจงานศิลปะมาตั้งแต่ครั้งยังเด็ก จนต่อมาก็เลือกศึกษาด้านศิลปะที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร เมื่อจบออกมาก็ยังคงสร้างสรรค์ผลงานศิลปะอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
ในช่วงแรกๆ ภาพวาดของเขาเป็นภาพวาดแนวป๊อปเปี่ยมสีสันคล้ายกับการ์ตูนญี่ปุ่น ที่นำเสนอเรื่องราวที่คนส่วนใหญ่เหนียมอายเกินกว่าจะพูดถึง โดยเขาสร้างคาแรคเตอร์ผู้ชายใส่หน้ากากที่เป็นตัวแทนของความรู้สึกในส่วนลึกของจิตใจผู้ชายทุกคน ซึ่งคาแรคเตอร์ที่ว่านี้ เขาได้ต้นแบบมาจากตัวเอง โดยคาแรคเตอร์ที่ว่านี้มักจะถูกแวดล้อมด้วยบรรดาสาวๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ของแฟนตาซีด้านมืดของผู้ชายในรูปแบบต่างๆ โดย ปรียวิศว์ ต้องการนำเสนอความจริงอีกแง่มุมหนึ่งในสังคมเรา ที่คนทำเป็นมองไม่เห็น หรือไม่อยากพูดถึง ด้วยลีลาที่แฝงอารมณ์ขันแกมเสียดสีอย่างเปี่ยมสีสันยิ่ง
แต่ในนิทรรศการแสดงเดี่ยวครั้งล่าสุดที่ผ่านมา ปรียวิศว์กลับเปลี่ยนหัวข้อในการทำงานศิลปะของเขา โดยหันมานำเสนอเรื่องราวของบุคคลผู้มีอาชีพที่คอยบำบัดทุกข์บำรุงสุขของประชาชนชาวไทยอย่างผู้พิทักษ์สันติราษฎร์นั่นเอง
ด้วยความที่เรามีโอกาสไปร่วมงานเปิดนิทรรศการ Siam Rangers : เป็นฮีโร่มันเหนื่อย ที่แสดงไปที่ หอศิลป์ศุภโชค ดิ อาร์ต เซ็นเตอร์ เมื่อเดือนสิงหาถึงกันยายนที่ผ่านมา รวมถึงได้พูดคุยสอบถามเกี่ยวกับที่มาที่ไปของนิทรรศการ และแนวความคิด แรงบันดาลใจในการทำงานศิลปะของเขา จึงถือโอกาสเอามาเล่าสู่ให้ท่านผู้อ่านฟังกันในครั้งนี้ มาร่วมกันฟังเรื่องราวของ จิตรกรภายใต้โฉมหน้านักร้องเพลงร็อก อย่างเขากันเถอะ
……………………………………………………………..
WURKON:
นิทรรศการนี้มีที่มาจากอะไรเหรอครับ
ปาล์ม:
มันเกิดความเบื่อที่จะทำเรื่องเดิมแล้ว เพราะมันก็วนเวียนอยู่ในอ่าง เราก็เลยอยากทำอะไรที่มันเกี่ยวกับเรื่องอื่นบ้าง ผมก็เลยเริ่มต้นที่ทุกเรื่องที่เป็นดราม่าในสังคมไทย เพราะตอนนั้นมันเริ่มจากทางค่ายเพลงของผมให้ผมเริ่มเล่นเฟซบุ๊ก จากที่ไม่เคยเล่นมาก่อนผมก็เลยต้องเล่น พอเล่นไปเรื่อยๆ เราก็เจอเรื่องต่างๆ ในนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดราม่า, เรื่องการเมือง, เรื่องคนมีสี เรื่องดาราคนไหนได้กับใคร ใครอวดรวย เรื่องนึงที่สะดุดใจเราคือเรื่องของตำรวจ เพราะรู้สึกได้เลยว่า อาชีพตำรวจบ้านเราเนี่ย ทำอะไรใครก็ว่า แล้วช่วงนั้นมีข่าวเกี่ยวกับตำรวจเยอะ แต่ในขณะเดียวกัน ผมมีคู่เขยที่เป็นตำรวจ ยศรองผู้กำกับ ซึ่งเขาเป็นคนดีมากๆ คนนึง และไม่เห็นทำอะไรที่ไม่ดีอย่างที่คนอื่นเขาว่ากันเลย มันก็เลยทำให้เราคิดได้ว่า เออ! มันคงเป็นเรื่องของคนนั่นแหละ ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์หรือเครื่องแบบอะไรก็ตาม มันก็มีดีมีชั่วอยู่แล้ว เราก็เลยนึกว่า เออ เรื่องนี้น่าทำที่สุด เพราะอาชีพตำรวจเองก็ใกล้ชิดกับประชาชนที่สุดอยู่แล้ว แล้วก็เป็นอะไรที่แซวได้ แบบในรายการ คดีเด็ด อะไรแบบนี้
WURKON:
ทำไมงานถึงออกมามีลักษณะเป็นการ์ตูนๆ เหรอครับ
ปาล์ม:
ด้วยความที่ผมไปอยู่ญี่ปุ่นมาตอนเด็กๆ งานผมก็จะเป็นสีเหมือนมังหงะ หรือการ์ตูนญี่ปุ่นมาโดยตลอด ผมชอบนักเขียนการ์ตูนคนนึงชื่อ อาจารย์โทริยามะ อากิระ (ผู้เขียนการ์ตูน Dragon Ball) เวลาเขาเขียนตัวเอง เขาจะใส่หน้ากากปิดปาก ผมก็เลยจิ๊กสัญลักษณ์เขามาใช้ เหมือนเป็นการคารวะอาจารย์เขาอีกทีนึง แล้วเราก็ชอบรูปแบบของยอดมนุษย์ พวกขบวนการยอดมนุษย์ 5 สี (Power Rangers) ภาษาญี่ปุ่นเขาเรียกว่า เซนไต ที่เป็นซีรีส์ฉายทางโทรทัศน์ที่ญี่ปุ่นตอนเย็นๆ แล้วเราก็คิดว่าตำรวจเนี่ย เป็นฮีโร่ที่คอยกอบกู้สถานการณ์ ปกป้องบ้านเมือง ผู้คน เราก็เลยทำงานชุดนี้ขึ้นมา โดยเอารูปแบบของยอดมนุษย์ Power Rangers มาใส่ให้ตำรวจ แต่ถ้าเอามาใช้ตรงๆ เดี๋ยวจะโดนลิขสิทธิ์ เราก็เลยเปลี่ยนเป็น Siam Rangers มันซะเลย ชุดของตัวละครก็คือชุดตำรวจนั่นแหละ แต่ทำหลากสีให้เหมือนกับชุด Power Rangers เท่านั้นเอง แล้วพอมันเป็นยอดมนุษย์แบบญี่ปุ่นมันก็ต้องมีการปล่อยพลังบ้าง ธีมของผมคือ มาแบบเว่อร์ๆ เล่นใหญ่ ถ้าใครเป็นคนรุ่นเราจะรู้ว่าเราเล่นมุกอะไร เพราะมันอยู่ในการ์ตูน อย่างภาพที่ต่อยรัวๆ ก็เอามาจากเคนชิโร่ หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ หรือรูปที่ยิงปืนฉีดน้ำก็เอามาจากหนัง จอห์น วู หรือหุ่นยนต์ T-1000 ในหนัง Terminator 2: Judgment Day (1991) ก็เป็นมุกในวัฒนธรรมป๊อป แต่เป็นป๊อปในยุคของผมนะ
WURKON:
แล้วเรื่องราวที่อยู่ในงานนี่ได้มาจากไหน
ปาล์ม:
ไอเดียก็เอามาจากข่าวที่เราเจอทุกวัน และประสบการณ์โดยตรง คือผมนี่เป็นนักโดนด่านตรวจมาหลายสน. แล้ว ผมรู้ว่าสน. ไหนตารางสะอาด หรือสกปรก ผมไปอยู่มาหมดแล้ว ผมโดนข้อหาเมาแล้วขับมาหลายดอกแล้ว เจ้าหน้าที่แต่ละคนก็แตกต่างกันไป ผมไปรายงานตัวมาหลายรอบแล้ว แต่ตอนนี้เลิกแล้วนะ เราก็ไม่ได้โกรธเขานะ แต่เราก็ขอเอามาล้อเลียนเป็นงานศิลปะดีกว่า
WURKON:
ทำในเชิงหยิกแกมหยอก
ปาล์ม:
ใช่ไง แค่แซวเล่น ภาพบางภาพ อารมณ์คือ เวลาเราเมาเหล้าแล้วขับรถกลับบ้าน แล้วเรากลัวว่า เลี้ยวขวาไปจะเจอด่านไหม พอเลี้ยวไปปุ๊บ จ๊ะเอ๋ สวัสดี เรามาแล้ว เราเอาอารมณ์อย่างงี้มาเขียนเป็นงาน แล้วก็วาดเป็นระเบิดตูมข้างหลัง แค่นั้นเอง เราไม่ได้ด่านะ แซวเฉยๆ ว่าเขามากันอีกแล้ว หรืออย่างภาพที่ไล่จับผู้ร้าย แต่ขี่จักรยานคันเดียวกัน อันนี้ก็ออกจะแฝงความดาร์กนิดนึง เพราะสุดท้ายเขาก็เป็นคนธรรมดาเหมือนกันกับเราๆ ซึ่งก็มีทั้งดีและไม่ดีใช่ป่ะ
WURKON:
จริงๆ แล้วก่อนที่จะเป็นนักดนตรีปาล์มก็เรียนมาทางศิลปะมาก่อนใช่ไหม
ปาล์ม:
ใช่ครับ ผมจบสาขาจิตรกรรม จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ แต่ไปๆ มาๆ ก็มาร้องเพลง ได้ทำเทป ออกเทป ก็เลยต้องแบ่งเวลากันไป
WURKON:
แต่ก็ทำศิลปะมาตลอดใช่ไหม
ปาล์ม:
ใช่ ทำมาตลอด ผมไม่เคยหยุด ในรุ่นมีผมคนเดียวมั้งที่ยังวาดรูปอยู่ คนอื่น ก็ไปเป็นอาจารย์บ้าง ทำเซรามิกซ์บ้าง ทำอาชีพอื่น ไม่ได้ทำนิทรรศการแสดงศิลปะแบบนี้
WURKON:
ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยนี่เรียนสายอาชีวะ เรียนศิลปะมาก่อนหรือเปล่า
ปาล์ม:
ไม่ครับ ผมจบโรงเรียนบดินทร์เดชา เรียนสายวิทย์ด้วย
WURKON:
อ้าว แล้วทำไมถึงเลือกเรียนศิลปะล่ะ
ปาล์ม:
จริงๆ ผมชอบศิลปะ ผมอยากเป็นศิลปินวาดรูปมานานแล้ว
แต่ตอนนั้นไปติดสายวิทย์ซะงั้น ผมเรียนหลักสูตร 2 ปีจบ ก็คิดว่า หรือว่าเราจะเข้าคณะสถาปัตยกรรมดีหว่า ก็ลองไปติวสถาปัตย์ดู ไม่รู้เรื่องเลยวาดเปอร์สเป็คตีฟก็ไม่เป็น ออกแบบก็ไม่เป็น สุดท้ายก็ไม่ชอบ คือตอนนั้นจริงๆ เราชอบ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เมื่อก่อนผมชอบวาดภาพไทยเหมือนอาจารย์เฉลิมชัย แต่เป็นไทยแบบครูพักลักจำ คือ ชอบเขียนหนุมานมาตั้งแต่เด็กๆ เลยเขียนลายไทยมาตลอด พอเข้า ม.4 คุณแม่พาไปหาอาจารย์เฉลิมชัย พาไปฝากเป็นลูกศิษย์แกเลย แกก็ใจดีติวให้ ติวเข้ามหาวิทยาลัยนั่นแหละ แกติวเขียนฟิกเกอร์ (รูปคนเต็มตัว) ติวอะไรให้
WURKON:
แกติวให้ตัวต่อตัวเลยเหรอ
ปาล์ม:
ใช่ เรียนกับแกสองคนเลย ผมเดินไปหาแกที่บ้านเลย
WURKON:
ปาล์มรู้จักกับแกมาก่อนเหรอครับ
ปาล์ม:
เปล่า ก็รู้จัก่วาแกเป็นใครนั่นแหละ แต่พอไปติวผมก็ไปหาแกบ่อยๆ ไปเยี่ยมแกที่เชียงราย แกก็ติวฟิกเกอร์ ติวดรออิ้ง อะไรอย่างนี้ บางทีผมก็เอางานสมัยเรียนไปให้แกดู
WURKON:
เรียนกับอาจารย์เฉลิมชัยมา แล้วทำไมไม่วาดภาพไทยล่ะ
ปาล์ม:
คือพอเรียนจบ ธีสิสผมห่วยแตกไม่ได้เรื่องได้ราวเลย คือ เหมือนเราอยู่ในโลกของศิลปะไทยแบบนี้มาตลอด เจอแต่อาจารย์เฉลิมชัย อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ไม่เคยไปมองข้างนอกเลย แล้ววันหนึ่งเราไปเจองานของศิลปินจีน ยู่ มินจิน (Yue Minjun) สมัยที่กำลังฮอตๆ เราก็แบบ โอ้ย อะไรเนี่ย! มันมีงานแบบนี้ด้วยเหรอ? วาดก็ไม่ได้เยอะ แต่ทำไมมันสวยจัง คือสมัยก่อนเราจะเชื่อว่าเราจะต้องวาดรูปแบบรายละเอียดเยอะๆ แน่นๆ ใช่ไหม เราก็คิดได้ว่า เออ สุดท้ายเราทำงานแบบขายไอเดีย เน้นไอเดียดีกว่า วาดน้อยๆ ไอเดียเยอะๆ เอาฮาๆ ดีกว่า เอาเป็นตัวเราเองดีกว่า ผมคิดคาแรคเตอร์ประจำตัวของผม (ที่เป็นชายสวมหน้ากาก) ได้หลังจากนั้นอีกพักใหญ่ๆ เลย
WURKON:
แล้วความฮาในงานนี่มาตั้งแต่ตอนไหน
ปาล์ม:
ก็ตั้งแต่ตอนทำคาแรคเตอร์นั่นแหละครับ คือเราเป็นคนอย่างนี้ เราปฏิเสธตัวเองไม่ได้ เราจะไปวาดลายไทย มั่วๆ งงๆ อะไรแบบนี้ มันก็ไม่ใช่ เราก็เลยต้องหยุด เพราะเราทำต่อไปมันก็ไม่พัฒนาขึ้นอยู่ดี เพราะงานเราก็ไม่ใช่ทางอย่างนั้น จริงๆ สมัยนั้นตอนที่ผมเข้าไปเรียนปีหนึ่งอ าจารย์เฉลิมชัยแกไปฝากฝังผมกับอาจารย์วิรุณ ตั้งเจริญ เลยนะ แกบอก อาจารย์ๆ ฝากด้วย นี่ลูกศิษย์ผม เพราะฉะนั้นคนเขาก็เม้าธ์กัน โหย นี่ลูกศิษย์อาจารย์เฉลิมชัยว่ะ ซึ่งผมได้วิธีการร่างรูปมาจากแกนะ ทุกวันนี้วิธีการร่างรูปก็คล้ายกันกับของแก
WURKON:
ยังไงเหรอ
ปาล์ม:
คือแกจะลงสีก่อน แล้วแกก็จะใช้ปากกาเมจิคถมๆ ร่างรูปขึ้นมา คนอื่นจะทำแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า ผมไม่รู้นะ แต่เดี๋ยวนี้ผมก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นแบบของตัวเองไปเรื่อยๆ แล้ว พอเริ่มทำคาแรคเตอร์ที่ว่า ผมก็เริ่มห่างจากอาจารย์แล้ว เพราะมันงานคนละแนวแล้ว ไม่รู้จะคุยอะไร อาจเพราะจริตในการทำงานของเราไม่ตรงกันแล้ว แต่บางทีแกมีแสดงงานผมก็ไปหาบ้าง อย่างงานนี้ผมก็ชวนแกมานะ แต่เสียดาย เลขาฯ แกบอกว่าแกกลับเชียงรายไปแล้ว
WURKON:
แล้วตอนที่ไปอยู่ญี่ปุ่นนี่เป็นยังไงบ้างครับ เล่าให้ฟังหน่อยสิ
ผมไปอยู่ญี่ปุ่นตั้งแต่ตอนเด็กมาก ตอนประถม ตอนผมไปเนี่ยดราก้อนบอลเพิ่งมา เป็นการ์ตูนแอนิชั่น เพิ่งมาตอนแรกเลย ผมก็ดูทุกวันน่ะ ดราก้อนบอลจะมาวันพุธ ช่องแปด ตอนสองทุ่ม ผมจำได้หมด วันพฤหัสจะเป็นเคนชิโร่ (หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ) วันเสาร์ก็จะเป็น พาวเวอร์เรนเจอร์ ตอนเย็นหน่อยก็จะมี เซนต์เซย์ย่า อะไรอย่างนี้ ผมจะนั่งดูอย่างนี้ตลอดทั้งวัน เพราะว่าที่บ้าน พ่อแม่ผมจะรับรองแขกแทบทุกวัน เพราะเป็นผู้ช่วยท่านทูต ผมก็จะอยู่ในห้องของผมตลอด มีทีวีสองเครื่องอยู่ในห้อง ดูช่องโน้น ดูช่องนี้ตลอดเวลา ทำแบบนี้อยู่สามปีน่ะ
WURKON:
ปาล์มก็เลยพูดภาษาญี่ปุ่นได้ด้วยใช่ไหม
ปาล์ม:
ได้ ผมพูดญี่ปุ่นได้ เพราะผมอยู่โรงเรียนญี่ปุ่น ผมก็เลยมีเพื่อนเป็นญี่ปุ่น ก็เล่นเกมแฟมิค่อมกัน เป็นเด็กเนิร์ดน่ะ โอตาคุนิดๆ ด้วยนะ เพราะอยู่ในห้องตลอดไม่ได้ออกไปไหน เออว่ะ เพิ่งรู้สึกตัวเองว่าเป็นโอตาคุนี่หว่า (หัวเราะ)
WURKON:
งานก็มีกลิ่นโอตาคุอยู่เหมือนกันนะ
ปาล์ม:
ใช่ๆ (หัวเราะ) ยิ่งวาดยิ่งออกมา ยิ่งชัด แต่ผมไม่เล่นกัมดั้มนะ เพราะผมไม่ดู ผมก็เลยไม่ค่อยอิน ที่ผมอินจริงๆ คือ ดราก้อนบอล, ขบวนการห้าสี ชอบมาก ผมเป็นติ่งมาร์เวลด้วย เพราะงานบางรูปในนิทรรศการนี้จะมีกลิ่นมาร์เวลอยู่ อย่างรูปใหญ่สุดในนิทรรศการนี้ชื่อ Civil War มันก็เป็นองค์ประกอบแบบมาร์เวลน่ะ คือมียอดมนุษย์สู้กันหลายๆ ตัวมาร่วมกันต่อสู้
WURKON:
การไปอยู่ในวัฒนธรรมญี่ปุ่นทำให้ตัวตนเราเปลี่ยนไปไหม
ปาล์ม:
คือเราไปอยู่ตอนเป็นเด็กน่ะ ก็ได้มาเยอะนะ พวกความคิดแบบญี่ปุ่น พอกลับมาอยู่ที่เมืองไทย เด็กไทยไม่ค่อยเข้าใจผม เหมือนคุยกันไม่รู้เรื่อง มุกตลกบางมุก พอพูดไปเหมือนเขาไม่ค่อยเข้าใจเราน่ะ ผมใช้เวลาปรับตัวอยู่นานเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ไม่มีปัญหาเท่าไร เพราะเราเป็นเด็กเดี๋ยวมันก็ลืม มันก็กลืนๆ กันไปเอง
WURKON:
ตอนนี้ยังใช้ภาษาญี่ปุ่นได้อยู่ไหม
ปาล์ม:
พูดได้ๆ ผมมีเพื่อนเป็นชาวญี่ปุ่นเยอะ แล้วก็อย่างงานนี้ผมก็จะเชิญมาเหมือนกัน ด้วยความที่งานมันดูเป็นญี่ปุ่นอยู่ แต่มันก็เป็นลูกผสมนะ ไม่ได้แบบญี่ปุ่น100% ไง พวกแพทเทิร์นอะไรแบบนี้เราก็แฮปๆ เขามา พวกมุกตลกท่าทาง ท่าเว่อร์ๆ เพราะตลกญี่ปุ่นมันไม่เหมือนตลกไทย มันเป็นตลกแอคชั่น ออกท่าทางเยอะๆ น่ะ
โปรดติดตามตอนต่อไป
……………………………………………………………..
ขอบคุณภาพผลงานศิลปะจาก หอศิลป์ ศุภโชค ดิ อาร์ต เซนเตอร์
ภาพถ่ายบุคคลโดย อักษร สุดเสนาะ
#WURKON #art #contemporaryart #music #ปรียวิศว์นิลจุลกะ #ปาล์ม #Instinc #จิตรกรในร่างทรงของนักร้องเพลงร็อก #งานจิตรกรรม #ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ #หยิกแกมหยอก #แรงบันดาลใจจากงานศิลปะ
สัมผัสแรงบันดาลใจจากความคิดสร้างสรรค์แห่งการออกแบบวิถีชีวิตการทำงานยุคใหม่ได้ที่ WURKON ผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบพื้นที่สำนักงานและพื้นที่สาธารณะสมัย www.wurkon.com
สามารถติดตามข่าวสารทุกวันได้ที่ : www.facebook.com/WURKON
สอบถามข้อมูลได้ที่ Tel : 02-005-3550 Fax : 02-005-2557
Official Line : @wurkon (มี @ ด้วย) / Twitter : @wurkon
Follow Instagram : @wurkon
*** สำหรับแฟนๆ และผู้ติดตามเพจ WURKON เพื่อไม่ให้พลาดข้อมูลข่าวสาร ความรู้และความบันเทิงจากเพจของเราในทุกๆ วัน คุณสามารถตั้งค่าให้เห็นคอนเทนต์ของเราบน News Feed ได้อย่างง่ายๆ ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. เข้ามาที่เพจ WURKON
2. คลิกที่ปุ่ม Following (กำลังติดตาม) หรือ Liked (ถูกใจแล้ว) ด้านบนขวามือของเพจ WURKON
3. เลื่อนไปที่ See First (เห็นโพสต์ก่อน) แล้วคลิกเลือก
ง่ายๆ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จ แล้วท่านจะไม่พลาดเรื่องราวที่น่าสนใจจากเราอีกต่อไป