鴻海、比亞迪、IDM風雲會 布局第三代半導體逐鹿中原
電子時報00:06何致中/綜合報導
新世代半導體發展趨勢風起雲湧,醞釀20多年的氮化鎵(GaN)、碳化矽(SiC)並非嶄新的「黑科技」,但隨著無線通訊技術、充電技術越來越需要具「高功率密度」特性的寬能隙(WBG)元件,GaN、SiC等明顯優於主流矽基(Si-Based)半導體的性能備受重視。
特別是在「未來車」相當有機會成為下一個資通訊產業革命的主戰場的此刻,欲想在電動車卡位的龍頭集團業者無不摩拳擦掌。除領頭的國際IDM大廠包括英飛凌(Infineon)、意法半導體(STM)、Cree、羅姆(Rohm)等業者外,中系功率半導體與電動車大廠比亞迪集團,以及台灣EMS龍頭的鴻海集團,紛紛著手對於SiC、GaN領域更深遠的布局藍圖。而針對近期包括兩岸、海外等龍頭大廠布局狀況,以下為DIGITIMES所作整理。
IDM廠轉向8吋廠生產 凸顯領跑者角色
儘管台系業者包括鴻海、中美晶、台積、聯電、富采投控、漢民、穩懋等,力求大打跨界集團戰儘速合縱連橫。惟領跑的國際IDM大廠「轉進8吋晶圓廠」生產已然增速,包括意法、羅姆等,近期英飛凌也宣布與Panasonic共同量產8吋矽基氮化鎵(GaN-on-Si)新品,預期2023年上半新品將進入市場。
而此舉正是力圖突破目前第三代半導體元件價格明顯高於矽基元件2~3倍的主要方向之一,目前主流的6吋廠產能也不足以因應未來被廣泛應用於3C充電領域的GaN-on-Si元件。
英飛凌大中華區總裁蘇華、意法亞太區副總裁暨台灣區總經理Giuseppe Izzo等也公開指出,第三代半導體領域IDM大廠們已經卡好最佳位置,GaN、SiC的市場接受度目前看來也比預期快。
IDM廠在技術、產品組合、整體解決方案都相當完整,甚至是第三代半導體在材料以外的各種電源IC週邊包括驅動器、MCU等全方位配套策略,目前恐怕仍是寬能隙元件領域發展最全面的主力。
比亞迪、鴻海各自出招 共逐EV、第三代半導體大計
鴻海總裁劉揚偉於SEMI論壇中指出,EV將持續替第三代半導體的SiC、GaN鋪路,未來也可望成為一座「新護國神山」。
新世代化合物半導體潛力高 新護國神山待醞釀
事實上,化合物半導體也包括一般稱為第二代半導體的砷化鎵(GaAs)、磷化銦(InP)等等,穩懋副董事長王郁琦指出,化合物半導體繼5G RF應用、手機用3D感測應用等,後續包括未來的6G、衛星通訊、車用光達(LiDAR)、生物辨識等,在在都需要更多的化合物半導體,也將成為次世代半導體關鍵之一。
整體來看,舉凡光學元件、充電元件、通訊元件等,囊括寬能隙材料的第三代半導體潛力持續被市場重視,而不管是業界老鳥或集團新兵,組隊大打世界盃的風雲集結態勢為現在進行式,更可能往國家產業戰略方向角度前進,這也回應鴻海總裁劉揚偉所述,台灣已經在矽半導體享有高度成就,如何複製到剛起步的第三代半導體,打造一座「新護國神山」,更是未來產官學研界重點任務。
隊長資料整理:
TrendForce示,2021 年各國 5G 通訊、 消費性電子、工業能源轉換及新能源車等需求拉升,驅使基地台、能源轉換器(Converter)及充電樁等應用需求大增,第三代半導體氮化鎵(GaN)及碳化矽(SiC)元件及模組需求強勁。氮化鎵功率元件成長幅度最高,預估今年營收將達8,300萬美元,年增率高達73%。據TrendForce研究,氮化鎵功率元件主要應用大宗為消費性產品,至2025年市場規模將達8.5億美元,年複合成長率高達78%。前三大應用占比分別為消費性電子60%、新能源汽車20%、通訊及資料中心15%。據TrendForce調查,截至目前有10家手機OEM廠商陸續推出18款以上搭載快充的手機,且筆電廠商也有意跟進。
全球SiC功率市場規模至2025年將達33.9億美元,年複合成長率達38%,前三大應用占比將分別為新能源車61%、太陽能發電及儲能13%、充電樁9%,新能源車產業又以主驅逆變器、車載充電機(OBC)、直流變壓器(DC-DC)為應用大宗。
漢民科技集團,控股公司。打入華為5G基地台供應鏈。
旗下「嘉晶」(61.2%)為國內前二大磊晶矽晶圓供應商。
旗下「漢磊科技」(100%)為國內最大功率/類比IC晶圓代工廠、全球第九大矽磊晶圓廠,生產MOSFET、IGBT及二極體。
4吋廠600~1200V SiC SBD/MOSFET已量產。
6吋廠1700V SiC SBD/MOSFET已量產
SiC晶圓薄化可達100微米。
因應5G、電動車應用帶動功率半導體需求,研發WBG寬能隙材料的GaN氮化鎵、SiC碳化矽製程,漢磊旗下三座晶圓廠都已通過車規認證並量產。
去年EPS-1.64元。今年上半年EPS 0.07元轉虧為盈。
今年7月營收6.31億元續創新高,月增4.43%、年增41.08% 八月營收再創新高
漢磊布局化合物半導體超過10年,這將是未來營運主軸,近2年策略上正往氮化鎵、碳化矽、車用MOSFET、二極體、靜電保護等TVS等5類別發展,特別鎖定車用相關,今年已看到成效,由於碳化矽與氮化鎵產品價格比一般半導體高,對漢磊營收或獲利都會有幫助。漢磊下半年到明年上半年營運展望皆樂觀,因為還有很多客戶排隊要產能,「客戶追單仍多,產能滿到年底沒有問題」。惟上半年剛虧轉盈,EPS還未顯現,
詳細更多第三代半導體個股資訊 以及鴻海集團、環球晶集團、廣運集團、穩懋集團等各大集團的布局與精選好股,等待大家來發掘喔。
再麻煩大家多多按讚分享,
您的支持與鼓勵是我最大的原動力,
非常感謝!
------
🏆【張捷主流產業選股術 數位訂閱】
✔️主頁 → https://reurl.cc/NX3jke
🏆【2021張捷產業冠軍班 週二晚上課程】
✔️冬季現場班(10~12月)→ https://reurl.cc/Ag3GpY
✔️冬季直播班(10~12月)→ https://reurl.cc/qmYMog
infineon gan 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
รู้จัก Cree ผู้ปฏิวัติหลอดไฟ LED แต่ตอนนี้จะเลิกทำ LED /โดย ลงทุนแมน
ปี 1989 หรือเมื่อ 32 ปีที่แล้ว บริษัทอเมริกันรายหนึ่ง
ได้ทำการเปิดตัวเทคโนโลยีที่เรียกว่า Blue-LED หรือหลอดเปล่งแสงสีน้ำเงิน
ที่ทำให้หลอดไฟ LED ส่องสว่างมากขึ้นและใช้พลังงานน้อยลงมาก
นอกจากนั้น Blue-LED ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้เทคโนโลยี LED ถูกต่อยอดมาเป็นหน้าจอแสดงผลของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่เราใช้กันในทุกวันนี้
บริษัทสัญชาติอเมริกันที่ว่านี้ มีชื่อว่า “Cree”
แต่รู้ไหมว่า วันนี้ Cree กำลังเลิกทำธุรกิจที่เกี่ยวกับจอแสดงผล
เพื่อไปโฟกัสกับ ธุรกิจที่พวกเขามองว่ามีอนาคตกว่าอย่างเต็มที่
Cree กำลังเลิกทำสิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองในอดีต เพื่อไปโฟกัสกับธุรกิจอะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
บริษัท Cree ก่อตั้งในปี 1987 ในเมืองเดอแรม รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา
โดยทำธุรกิจวิจัยคิดค้น ผลิตชิปไฟ LED และชิปควบคุมการส่งสัญญาณคลื่นความถี่วิทยุ
ซึ่งเรื่องราวที่ทำให้ Cree มีชื่อเสียงขึ้นมา
ก็คือการเปิดตัว เทคโนโลยี Blue-LED หรือหลอดเปล่งแสงสีน้ำเงิน สำหรับการผลิตเพื่อค้าขายเชิงพาณิชย์ได้เป็นบริษัทแรกของโลก ในปี 1989
แล้วการผลิตหลอดเปล่งแสงสีน้ำเงินได้ มันปฏิวัติวงการไฟส่องสว่างอย่างไร ?
อธิบายแบบเข้าใจง่าย ๆ ก็คือ
หลอดเปล่งแสงสีน้ำเงิน เมื่อนำไปส่องแสงร่วมกันกับหลอดเปล่งแสงอีก 2 สี คือ สีแดงและสีเขียว จะทำให้เกิดแสงสีขาวที่สว่างมาก และการเปล่งแสงของหลอดทั้ง 3 สีนี้ ยังก่อให้เกิดสีสันอื่นที่สวยงามเมื่อเปล่งแสงร่วมกัน และได้ถูกนำมาต่อยอดเป็นเทคโนโลยีจอแสดงผล LED ในวันนี้นั่นเอง
หลังจากนั้นมา Cree ก็กลายเป็นซัปพลายเออร์คนสำคัญของโลก ในอุตสาหกรรมจอแสดงผล
ทั้งจอโทรทัศน์, จอมือถือ และจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่อาศัยเทคโนโลยี LED
นอกจากนั้นแล้ว ส่วนธุรกิจผลิตชิปควบคุมการส่งสัญญาณคลื่นความถี่วิทยุของ Cree ก็เติบโตขึ้น ตามอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ที่พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย
Cree จึงสามารถเติบโตและจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ได้สำเร็จ ตั้งแต่ปี 1993
ทีนี้ ถ้าลองมาเจาะดูผลิตภัณฑ์ของ Cree
ส่วนประกอบสำคัญของผลิตภัณฑ์ของบริษัท ทั้งชิปสำหรับหลอด LED และชิปสำหรับรับส่งสัญญาณคลื่นวิทยุ ล้วนมีวัสดุตั้งต้นที่ชื่อว่า ซิลิคอนคาร์ไบด์ (SiC) และ แกลเลียมไนไตรด์ (GaN)
คำถามคือ ซิลิคอนคาร์ไบด์ และ แกลเลียมไนไตรด์ มันคืออะไร ?
เพื่อให้เห็นภาพตรงนี้ชัด เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ผลิตชิปในปัจจุบันกันสักเล็กน้อย ว่ามีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทหลัก ๆ คือ
1. ซิลิคอน (Si)
ซึ่งนิยมนำมาใช้ทำชิปประมวลผลต่าง ๆ เช่น หน่วยประมวลผลกลาง (CPU), หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)
2. แกลเลียมอาร์เซไนด์ (GaAs)
ปัจจุบันใช้เป็นวัสดุของชิปควบคุมการส่งสัญญาณคลื่นความถี่วิทยุและชิปเปล่งแสงไฟ LED
ซึ่งวัสดุประเภทนี้ สามารถทนความร้อนได้ดีกว่า และมีประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณได้ดีกว่า ชิปที่ผลิตจากซิลิคอน
3. ซิลิคอนคาร์ไบด์ (SiC) และ แกลเลียมไนไตรด์ (GaN)
ชิปที่ผลิตจากวัสดุสองตัวนี้จะมีความสามารถที่ทนความร้อน รับส่งสัญญาณ และรองรับแรงดันไฟฟ้าได้ดีกว่าชิปที่ผลิตจากวัสดุ 2 ข้อแรกข้างต้น
ประเด็นสำคัญก็คือ หลาย ๆ ธุรกิจที่ถูกมองว่าเป็นธุรกิจแห่งอนาคตในวันนี้ กำลังมีความต้องการชิป ที่ผลิตจากซิลิคอนคาร์ไบด์และแกลเลียมไนไตรด์
ด้วยคุณสมบัติรองรับแรงดันไฟฟ้าและความร้อนได้มาก
ซิลิคอนคาร์ไบด์และแกลเลียมไนไตรด์ จึงได้ถูกนำไปใช้ในเครื่องแปลงกระแสจากแผงโซลาร์เซลล์ และเป็นวัสดุตั้งต้นของชิปควบคุมการทำงานแท่นชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
ชิปควบคุมระบบจ่ายไฟของรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Model 3 ของ Tesla ก็เลือกใช้ชิปที่ทำจากซิลิคอนคาร์ไบด์ของบริษัท Cree
ซิลิคอนคาร์ไบด์ ยังถูกนำไปใช้ในเครื่องส่งสัญญาณคลื่น 5G อีกด้วย
ส่วน แกลเลียมไนไตรด์ ก็ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการผลิตชิปสำหรับเครื่องชาร์จไฟความเร็วสูง ที่กำลังเติบโตตามเมกะเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเช่นเดียวกัน
นอกจากนั้น ซิลิคอนคาร์ไบด์และแกลเลียมไนไตรด์
ยังเป็นวัสดุที่สำคัญในการผลิตชิปควบคุมการรับส่งสัญญาณในระบบ LiDAR หรือก็คือ เทคโนโลยีที่ประยุกต์ใช้แสงเลเซอร์ในการวัดระยะทางของวัตถุโดยรอบ และสะท้อนกลับมาเพื่อประมวลผลเป็นแผนที่สามมิติได้
ซึ่ง LiDAR ก็ถูกคาดการณ์ว่าเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยการใช้งานระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ
ในปี 2018 ผู้บริหาร Cree ตัดสินใจเข้าซื้อกิจการในส่วนของการผลิตชิปสำหรับควบคุมการส่งสัญญาณคลื่นความถี่วิทยุ จาก Infineon Technologies บริษัทผลิตชิปสำหรับยานยนต์รายสำคัญของโลก
ขณะที่ธุรกิจผลิตชิปไฟ LED ที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับบริษัทในอดีตนั้น ในวันนี้กลับกำลังสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้น้อยลงเรื่อย ๆ
จนบริษัทเริ่มทยอยปิดกิจการในส่วนของการผลิตชิปไฟ LED
และขายธุรกิจชิปไฟ LED บางส่วน ให้กับทางบริษัทอื่น ในปี 2020
และล่าสุดเมื่อเดือนมกราคม 2021 ที่ผ่านมา
Cree ก็ได้ประกาศรีแบรนด์ Cree ให้กลายเป็นชื่อ “Wolfspeed”
ซึ่ง Wolfspeed ก็คือชื่อเรียกส่วนธุรกิจผลิตชิปจากซิลิคอนคาร์ไบด์ใน Cree ก่อนหน้านี้
ซึ่งก็เป็นการประกาศเจตนารมณ์ว่า บริษัทจะมุ่งหน้าสู่การเป็นผู้นำในด้านการผลิตชิปจากซิลิคอนคาร์ไบด์และแกลเลียมไนไตรด์ อย่างเต็มตัว
นอกจากนี้ บริษัทยังคิดค้นวัสดุที่ชื่อ GaN-on-SiC เป็นส่วนผสมของทั้งสองวัสดุตั้งต้น ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพของคุณสมบัติที่ทนความร้อนขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง
ซึ่งก็คาดว่าวัสดุชนิดนี้ จะยังนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตได้อีกมาก
ปัจจุบัน Cree หรือ Wolfspeed ในตอนนี้ เป็นผู้ครองส่วนแบ่งตลาด SiC ซิลิคอนคาร์ไบด์ทั่วโลกกว่า 60%
แล้วผลประกอบการของ Cree หรือ Wolfspeed ในตอนนี้ เป็นอย่างไรบ้าง ?
ปี 2018 รายได้ 28,644 ล้านบาท ขาดทุน 8,680 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 33,480 ล้านบาท ขาดทุน 11,625 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 27,993 ล้านบาท ขาดทุน 5,952 ล้านบาท
ผลประกอบการในช่วงหลายปีหลังยังคงขาดทุน
แต่ด้วยปัจจัยบวกหลายอย่าง ทั้งการปรับตัวออกจากอุตสาหกรรมผลิตชิปไฟ LED ที่มีการแข่งขันสูงและตัวสินค้าเริ่มเข้าสู่ภาวะอิ่มตัว และการมุ่งสู่การผลิตชิปเพื่ออุตสาหกรรมที่ดูมีอนาคต
บวกกับ ข้อมูลคาดการณ์ว่าความต้องการของตลาดชิปที่ผลิตจาก ซิลิคอนคาร์ไบด์และแกลเลียมไนไตรด์ ที่ Cree นั้นมีความเชี่ยวชาญในการผลิต
ทำให้มูลค่าของบริษัท Cree, Inc. ในตอนนี้ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 360,000 ล้านบาท
ซึ่งคิดเป็นเกือบ 2 เท่า ของมูลค่าบริษัทในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
เรื่องราวการปรับตัวของ Cree หรือที่พวกเขาเรียกตัวเองว่า Wolfspeed ในวันนี้
ก็เป็นตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นว่า การปรับตัวในการทำธุรกิจนั้นเป็นเรื่องสำคัญ และสิ่งที่เคยรุ่งเรือง เคยสร้างชื่อเสียงให้กับเรา มันอาจไม่รุ่งเรืองเหมือนในอดีตได้ตลอดไป
และเมื่อถึงเวลาที่สิ่งนั้น หรือธุรกิจนั้น ถึงจุดอิ่มตัว
เราก็อาจจะต้องยอมตัดใจปล่อยสิ่งนั้นทิ้งไป เหมือนที่ Cree ตัดสินใจปล่อยมือจากธุรกิจผลิตชิปหลอดไฟ LED ที่เคยสร้างชื่อเสียงและความสำเร็จให้บริษัทในอดีต
เพื่อจะได้มาโฟกัสเต็มที่ กับสิ่งที่ทำแล้วจะสามารถเติบโตได้ดี ในอนาคต..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://th.regionkosice.com/wiki/Cree_Inc.
-https://www.hermes.com.tw/en/third-generation-semiconductor-material/
-https://finance.yahoo.com/quote/CREE?p=CREE
-https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%9A%E0%B8%94%E0%B9%8C
-https://www.moneydj.com/kmdj/wiki/wikiviewer.aspx?keyid=f34bcd8d-d823-4bc3-83c2-9d7f56d8e011
-https://kknews.cc/news/e5g3zbr.html
-https://finance.technews.tw/2021/03/27/third-generation-semiconductor-material-business-in-taiwan/
-https://www.moneydj.com/kmdj/news/newsviewer.aspx?a=%7Bf9efd171-279d-4e35-8e23-fcb167db4832%7D
-https://news.sina.com.tw/article/20210111/37360360.html
infineon gan 在 Technews 科技新報 Facebook 八卦
英飛凌攜手 Panasonic 合作開發的第二代氮化鎵技術,具備易使用性、更高性價比,將應用在這些領域...