Oh~
สรุปการดีเบต แจ็ก หม่า vs อีลอน มัสก์ ในงานประชุม World AI / โดย ลงทุนแมน
ลงทุนแมนรับรองว่าเป็นเรื่องน่าสนใจที่สุดในช่วงนี้
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
มีการคุยกันระหว่างแจ็ก หม่า กับ อีลอน มัสก์
โดยหัวข้อเรื่องคือความคิดเห็นต่อ AI ในด้านต่างๆ
เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
เริ่มจาก อีลอน มัสก์ กล่าวว่า ตอนนี้ทุกคนกำลังประเมิน AI ต่ำไป
ให้นึกถึงว่าตอนนี้ลิงชิมแปนซีเข้าใจมนุษย์ไหม (ทำไมมนุษย์ต้องมีรถยนต์ ทำไมมนุษย์ต้องสร้างตึก)
เรากำลังเป็นอย่างนั้น ในอนาคตเราอาจไม่เข้าใจเหตุผลที่ AI ทำในเรื่องต่างๆ
แล้วเราจะทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้
คำตอบคือ ถ้าเราไม่สามารถชนะมันได้ ก็ร่วมมือกับมัน ซึ่ง Neuralink (โครงการของ อีลอน มัสก์) ตอบโจทย์นี้ได้
สิ่งที่ Neuralink ทำก็คือ การสร้างช่องทางการสื่อสารขนาดใหญ่ (High Bandwidth) เชื่อมต่อเข้าสมอง
สิ่งนี้เหมือนกับเป็นไซบอร์ก แต่จริงๆ ตอนนี้เราก็เป็นไซบอร์กไปแล้ว
ทุกวันนี้เราใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์เป็นเครื่องมือขยายความสามารถ จากร่างกายของเรา
ถ้าเราขาดโทรศัพท์ ความสามารถของเราจะลดลง
แต่ bandwidth ที่เราใช้กันอยู่นั้นต่ำมาก
โดยเฉพาะ การส่งข้อมูลเข้าเครื่อง (input)
จริงๆ แล้ว input ต่ำลงจากคอมพิวเตอร์สมัยก่อนด้วยซ้ำ
เพราะเราต้องพิมพ์ด้วยนิ้วโป้งสองนิ้ว แทนที่จะเป็นสิบนิ้ว
เมื่ออีลอน มัสก์ พูดจบ
แจ็ก หม่า ก็กล่าวว่า เขาไม่ได้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี
สิ่งที่เขาคิดเกี่ยวกับชีวิต (Life)
AI กำลังเปิดศักราชใหม่ของสังคม ให้เราเข้าใจตัวเราเองดีขึ้น
และเขาคิดว่า AI เป็นสิ่งที่ดี ไม่ได้เป็นสิ่งที่มาคุกคาม หรือเป็นสิ่งที่เลวร้าย
อีลอน มัสก์ แย้งว่า AI น่ากลัวกว่าที่ทุกคนคิด
ยกตัวอย่างเช่น วิดีโอเกม เมื่อก่อน มีแค่บล็อกๆ ไว้เล่น ตอนนี้วิดีโอเกมทำภาพให้สมจริงได้
โลกนี้เกิดขึ้นมาแล้ว 4,000 ล้านปี
อารยธรรมมนุษย์เพิ่งเกิดขึ้น 70,000 ปี
มีเหตุการณ์ผันผวนมากมายในช่วง 70,000 ปีนี้
สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ที่มีเทคโนโลยีมากมายเป็นแค่จุดเล็กๆ ของทั้งหมด
มันจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้ให้เรากลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
แจ็ก หม่า เปลี่ยนเรื่องบอกว่า เรามาคุยเรื่องสนุกกันดีกว่า
คุณต้องการไปดาวอังคาร
อะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตบนดาวอังคาร
แต่ผมสนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นบนโลกมากกว่า
อีลอน มัสก์ ตอบว่า
ผมคิดว่าดาวอังคาร สามารถทำให้ความนึกคิด (consciousness) ของเรายังคงอยู่ต่อไปในอนาคตได้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ยืดเวลาให้เราสามารถเข้าใจจักรวาลนี้ได้ดีขึ้น
การมีชีวิตอยู่บนดาวหลายดวง (Multi planet species) จะทำให้อารยธรรมของเราไม่ถูกทำลาย
และนี่เป็นครั้งแรกในรอบ 4,000 ล้านปี ที่มีหน้าต่างเปิดให้เราพอที่จะสามารถทำอะไรแบบนี้ได้
คำถามคือหน้าต่างบานนี้จะเปิดไปอีกนานแค่ไหน ก่อนที่มันจะปิดอีกครั้ง ถ้าเราไม่รีบทำอะไรตั้งแต่วันนี้
แจ็ก หม่า แย้งว่า
เราไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องพวกนั้น
การทำให้โลกของเราที่มีคนอยู่ 7,000 ล้านคน ดีขึ้น ยั่งยืนขึ้น น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า
ไม่เกี่ยวอะไรกับว่า อารยธรรมเราจะผ่านมานานแค่ไหน
แต่พวกเรามีชีวิตได้อย่างมากก็ 100 ปี
เราไม่จำเป็นต้องแก้ปัญหาทั้งหมดในอนาคตด้วยตัวเราเองคนเดียว
สิ่งที่เราควรทำคือ การรับผิดชอบต่อโลกในตอนนี้
ถ้าเรารู้ตัวเราเองดีขึ้น เราสามารถทำให้โลกนี้ดีขึ้นได้
มันดีที่มีฮีโร่แบบคุณ อีลอน มัสก์ ที่จะพามนุษย์ไปนอกโลก
แต่เราต้องการฮีโร่แบบพวกเรามากกว่า
ฮีโร่ที่ทำงานหนักบนโลก และพัฒนาเรื่องต่างๆ ทุกวันให้โลกนี้ดีขึ้น
อีลอน มัสก์ แย้งว่า
การไปนอกโลก ใช้ทรัพยากรน้อยมาก น้อยกว่า 1% ของการใช้ทั้งหมดในเรื่องต่างๆ บนโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตเครื่องสำอาง การผลิตของอื่นๆ ที่จำเป็นน้อยกว่า
สำหรับหัวข้อต่อไปที่คุยก็คือ AI จะเข้ามาแย่งงานหรือไม่?
แจ็ก หม่าตอบ
ทุกครั้งที่มีปฏิวัติทางเทคโนโลยี ทุกคนจะกังวล
เมื่อ 200 ปีก่อนที่มีการปฏิวัติอุตสาหกรรม ทุกคนกังวล แต่สุดท้ายมีงานเกิดใหม่มากมาย
และจริงๆ แล้ว เราไม่จำเป็นต้องมีงานเยอะ เราอาจจะทำงาน 3 วันหยุด 4 วันก็ได้
มนุษย์ในอนาคตจะมีเวลาสนุกกับการใช้ชีวิตความเป็นมนุษย์มากขึ้น
ปู่ของผมมีโอกาสได้ไป 3 เมืองในโลกนี้
พ่อของผมมีโอกาสได้ไป 30 เมือง
ส่วนตัวผมได้ไปมาแล้ว 300 เมือง
สิ่งที่สำคัญคือเราต้องเตรียมพร้อมกับยุคที่เราใช้ชีวิตได้นานขึ้น ซึ่งอาจจะนานถึง 120 ปี เราจะใช้ชีวิตอย่างไร ถ้าเราอยู่ได้นานขนาดนั้น
สำหรับหัวข้อนี้ อีลอน มัสก์ ตอบสั้นๆ ว่า ในอนาคต AI อาจจะมาแทนที่มนุษย์ทั้งหมด มนุษย์เป็นเพียงแค่คนเขียนโปรแกรมให้ AI
หัวข้อต่อไปคือ การศึกษาในยุคนี้ควรสอนเด็กอย่างไร?
แจ็ก หม่า ตอบว่าหลักสูตรการศึกษาในปัจจุบัน เหมาะสมสำหรับเด็กในยุคอุตสาหกรรม
สอนให้ท่องจำ
แต่ตอนนี้เราไม่จำเป็นต้องจำ เพราะหุ่นยนต์จำได้ดีกว่า
สิ่งที่เราควรสอนคือ จะทำอย่างไรให้เด็ก สนุกกับชีวิตของเขา
อีลอน มัสก์ ตอบเรื่องการศึกษาว่า ควรให้เด็กเรียนรู้ให้มากที่สุด มากพอที่จะสามารถคาดการณ์อนาคตได้ โดยผิดพลาดน้อยที่สุด นอกจากคาดการณ์แล้วก็ต้องสร้างอนาคตด้วย
ต่อไป Neuralink จะทำให้มนุษย์สามารถอัปโหลดทักษะเข้าไปในสมองโดยตรง
การศึกษาในปัจจุบันยังถือว่ามีประสิทธิภาพต่ำมาก (Low Bandwidth)
แจ็ก หม่า ตอบว่าเขาไม่กลัวความผิดพลาด เกิดความผิดพลาดแล้วต้องแก้ไขเป็นเรื่องปกติ
มนุษย์ลองผิดลองถูกเสมอมา
และเขาคิดว่า หายนะทางด้าน AI ในอนาคตก็ไม่ได้เกิดจาก AI แต่เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์เอง
ซึ่งเขาก็เชื่อว่ามนุษย์จะมีกระบวนการที่สามารถแก้ไขสถานการณ์นั้นได้เอง
สิ่งสำคัญคือ เราจะสอนเด็กอย่างไรให้สมองสามารถสร้างสรรค์ได้มากกว่าเดิม
มนุษย์ไม่สามารถสร้างสัตว์หรือสิ่งอื่นที่ฉลาดว่ามนุษย์ได้
อีลอน มัสก์ แย้งเรื่องนี้ว่า เราสามารถสร้างสิ่งที่ฉลาดกว่าเราได้
ยกตัวอย่างมนุษย์ในยุคเริ่มต้นเราแค่กินอยู่ในป่า
แต่ตอนนี้เรามีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย
เราฉลาดกว่าเมื่อก่อนมาก
และตอนนี้เราก็ไม่ได้ฉลาดที่สุด
อนาคตมนุษย์จะฉลาดกว่านี้อีก
แจ็ก หม่า ท้าให้ อีลอน มัสก์ ยกตัวอย่างสัตว์ที่ฉลาดกว่ามนุษย์บนโลกนี้ที่มนุษย์เคยสร้างมา
อีลอน มัสก์ ตอบว่า ตอนนี้หุ่นยนต์ได้ฉลาดกว่ามนุษย์ในบางเรื่องไปแล้ว
ทั้งหมากรุก ทั้งการแข่งโกะ มนุษย์แพ้การแข่งโกะให้ Alpha Go และ Alpha Go ก็แพ้ให้ Alpha Zero ในที่สุดแล้วหุ่นยนต์จะนำเราไปไกลมาก
แจ็ก หม่า แย้งว่า คำว่า หุ่นยนต์สามารถฉลาดกว่าได้ (Clever)
แต่มนุษย์จะยัง Smart กว่า เพราะมนุษย์มีประสบการณ์
เราสร้างคอมพิวเตอร์ได้ แต่คอมพิวเตอร์ไม่สามารถสร้างคนได้
เรื่องการแข่งโกะ
โกะสร้างเพื่อที่ มนุษย์จะเล่นกับมนุษย์
มนุษย์โง่เองที่จะแข่งกับคอมพิวเตอร์ในเรื่องโกะ
ไม่ต่างอะไรที่มนุษย์จะไปวิ่งแข่งกับรถยนต์
มีบางเรื่องที่มันออกแบบมาให้หุ่นยนต์ทำได้ดีกว่ามนุษย์
มนุษย์ไม่จำเป็นต้องแข่งกับหุ่นยนต์ในเรื่องเฉพาะเหล่านั้น
มนุษย์มีหน้าที่สร้างเครื่องมือต่างๆ ที่จะทำให้ฉลาดขึ้น
แต่ AI ไม่สามารถสร้างเครื่องมือเหล่านั้นได้ด้วยตนเอง
อีลอน มัสก์ กล่าวตอบว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับ ระดับความเป็นอิสระ (Degree of freedom)
เริ่มจาก หมากรุก ต่อไปเป็น โกะ ที่ซับซ้อนขึ้น และอนาคตหุ่นยนต์จะทำอะไรที่ซับซ้อนได้มากขึ้น
และอีลอน มัสก์ ยังกังวลว่าสิ่งหนึ่งที่เป็นอันตรายต่อมนุษยชาติ ก็คือ “อัตราการเกิด”
อีก 20 ปี ประชากรเราจะหายไปอย่างที่ทุกคนคิดไม่ถึง
แจ็ก หม่า เห็นด้วยกับเรื่องนี้ และเสริมว่า ในอีก 20 ปี ประชากรจะเจอปัญหานี้
และอัตราการเกิดจะลดลงเป็นอัตราเร่ง (Accelerate)
สิ่งสำคัญคือ ประชากรจีนที่เกิดมา 18 ล้านคนในแต่ละปี เราต้องใช้เวลากับเด็กพวกนี้ให้ดีที่สุด
ถ้าเป็นเรื่องการทำตามขั้นตอน แบบซ้ำๆ ที่เป็นตรรกะ AI จะทำได้ดีกว่า
แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ตรรกะ เช่นความรัก คนจะทำได้ดีกว่า เพราะมันไม่มีเหตุผล
ในอนาคต มนุษย์จะไม่จำเป็นต้องมี IQ หรือ EQ แต่เป็น LQ หรือ Q of Love
หัวข้อคำถามสุดท้ายก็คือ มนุษย์จะมีชีวิตยืนยาวในโลก แบบยั่งยืนได้อย่างไร
อีลอน มัสก์ กล่าวว่าถ้า Neuralink สำเร็จ ก็จะทำให้เราสามารถบันทึกสถานะของสมองได้ (save state) เหมือนเซฟวิดีโอเกม
หรือสิ่งที่จะยืดอายุได้ก็คือการเปลี่ยนแปลง DNA เหมือน หยุดนาฬิกาของ DNA แต่คำถามก็คือมนุษย์จะยินยอมไหมในการทำเรื่องนี้
สำหรับแจ็ก หม่า ตอบเรื่องความยั่งยืนว่า
ในอนาคต AI จะทำให้เราเข้าใจตัวเราเองดีขึ้น
คนฉลาด รู้ว่าเราต้องการอะไร
คนฉลาดกว่า จะรู้ว่าเขาไม่ต้องการอะไร
และจะทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นในที่สุด
แจ็ก หม่า กล่าวปิดท้ายว่า
เขาอยากให้โฟกัสที่โลก
การที่เราจะเอาขยะออกจากมหาสมุทร ยังยากกว่าการไปดาวอังคาร
ไม่ใช่แค่อายุยืน แต่ใช้ชีวิตอยู่อย่างไรให้มีสุขภาพดี
ไม่ใช่แค่ใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดี แต่ใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
สุดท้าย มนุษย์ต้องโฟกัสที่คุณค่า มนุษย์ต้องมีความฝัน
ไม่ใช่เทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนโลก แต่เป็นความฝันที่อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนโลก
เราต้องเชื่อในตัวเราเอง เราต้องเชื่อในความเป็นมนุษย์ เราต้องเชื่อในมนุษย์รุ่นต่อไป
เราควรรับผิดชอบสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มากกว่าการอยากแก้ปัญหาทั้งหมดของโลกในวันพรุ่งนี้
มันเป็นเรื่องดีที่มนุษย์จะผิดพลาด
มันเป็นเรื่องดีที่มนุษย์จะเรียนรู้จากความผิดพลาด
และ มันเป็นเรื่องดีที่มนุษย์จะตาย
ปิดท้ายด้วยคำพูดของ อีลอน มัสก์ ที่กล่าวปิด หลังแจ็ก หม่า พูดจบ
“Fight for the life of consciousness”
จงต่อสู้เพื่อให้ความนึกคิด มีชีวิตอยู่ในจักรวาลนี้ต่อไป..
╔═════════════════╗
Blockdit แอปที่เป็นเหมือน คลังความรู้ขนาดใหญ่
อ่านฟรี โหลดเลย Blockdit.com/download
╚═════════════════╝
Summary of Debet Jack Ma vs Elon Musk in World AI / By Investing Man
Investing man is the most interesting thing these days.
A few hours ago.
There was a conversation between Jack Ma and Elon Musk.
The topic is opinion of AI in various aspects.
How interesting is this story?
Investing man will summarize it.
Starting with Elon Musk said now everyone is underestimating AI
I think that Chimpanzee monkey understands humans. (Why do humans have cars, why do humans have buildings?)
We are being like that in the future. We may not understand the reason AI does things.
So what do we do with this situation
The answer is, if we can't win it, cooperate with it. Neuralink (ELON Musk's project) meets this problem.
What Neuralink does is create a large communication channel (High Bandwidth) connecting to the brain.
This is like a cyborg, but we're actually a cyborg now.
Nowadays, we use computer, phone as a tool to expand our body's ability.
If we lack a phone, our ability will decrease.
But the bandwidth we are using is low.
Specifically, sending information to the engine (input)
Input was actually low from computer in the past.
Because we have to type with two thumbs instead of ten fingers.
When Elon Musk finishes talking
Jack Ma also said he's not tech-savvy.
What he thinks about life (Life)
AI is opening a new era of society for us to understand ourselves better.
And he thinks AI is good. Not a threat or a bad thing.
Elon Musk argues that AI is scarier than anyone thinks.
For example, video games were just blogged to play. Now video games can make realistic images.
This world has happened for 4,000 million years.
Human civilization just happened 70,000 years
Lots of volatile events during these 70,000 years.
What's happening now with so much technology is just a small point of all.
What can happen? Let us start again.
Jack Ma changed the story. Let's talk about fun.
You want to go to Mars
What will happen to life on Mars
But I'm more interested in what happens on earth.
Elon Musk replied
I think Mars can make our thoughts (consciousness) continue in the future, so that we can understand the universe better.
Living on many stars (Multi planet species) will unbroken our civilization.
And this is the first time in 4,000 million years that there is a window open for us to be able to do something like this.
The question is how long will this window open before it closes again if we don't do anything from today
Jack Ma argues that
We don't need to think about them.
Making our world 7,000 million people better, standing up would be a better one.
Nothing to do with how long our civilization has passed.
But we have lived so much 100 years
We don't have to solve all the future problems by ourselves alone.
All we should do is take responsibility for the world now.
If we know ourselves better, we can make this world better.
It's good to have a hero like Mr. Elon Musk to take humans outside the world.
But we need more heroes like us
A hero who works hard on earth and develops everyday things to make the world better.
Elon Musk argues that
Going out of the world uses less resources than 1 % of the total use of things on this planet, cosmetic production, production of other things that are less necessary.
For the next topic discussed, will AI come to steal the job?
Jack Ma answered.
Every time there is a technological revolution, everyone worries.
200 years ago there was an industrial revolution, everyone worried, but at the end there were many emerging events.
And we actually don't need a lot of work. We might work 3 days off 4 days.
Future humans will have time to enjoy living more humanity.
My grandfather had a chance to go to 3 cities in the world.
My dad had a chance to go to 30 cities.
Personally, I have visited 300 cities.
What matters is that we must be prepared for the age we live longer, which may be 120 years. How can we live if we live that long?
For this topic, Elon Musk briefly said that in the future, AI might replace all human beings. Human beings are just programmers for AI.
The next topic is how should education in this generation teach kids?
Jack Ma answered that current education course is suitable for children in industrial age.
Teaching you to memorize.
But now we don't have to remember because robots remember better.
What we should teach is how to make a child enjoy his life.
Elon Musk answers education that children should learn as much as possible to predict the future at least. In addition to prediction, we have to build a future.
Next Neuralink will allow humans to upload skills directly into the brain.
Current studies are still considered very low performance (Low Bandwidth)
Jack Ma said he wasn't afraid of mistakes, mistakes, mistakes, then fixing is normal.
Human beings have been wrong, always been right.
And he thinks the future AI disaster is not due to AI, but by human error.
He also believes that humans have a process that can fix that situation.
The important thing is how we teach kids to be more creative.
Humans can't create animals or other things that are smart as humans.
Elon Musk argues that we can create something smarter than us.
For example, humans in the beginning of the era. We just eat in the forest.
But now we have many amenities.
We are much smarter than before
And now we ain't the smartest
Human future will be smarter than this.
Jack Ma challenged Elon Musk for an example of an animal that is smarter than human beings on this planet ever created.
Elon Musk replied that robots are now smarter than humans in some things.
Both chess and human race lost. Alpha Go and Alpha Go and Alpha Go lose to Alpha Zero. Finally, robots will take us very far.
Jack Ma argues that the word robot can be smarter (Clever)
But humans are more smart because humans experience it.
We can build computers but computers can't build people.
About the racing.
Ko made for humans to play with humans.
Stupid human to compete with a computer in Ko.
It's no different that a human would run a car race.
There's something designed for robots to do better than humans.
Humans don't need to compete with robots in those specific things.
Human beings have a duty to create tools to make smarter.
But AI can't build those tools by itself.
Elon Musk says this is about level of freedom (Degree of freedom)
Starting from chess, next to a more complex and future robots will do more complicated things.
And Elon Musk is concerned that one thing that harms humanity is ′′ birth rate
In another 20 years, our population will be gone as everyone cannot think about it.
Jack Ma agrees with this and reinforces that in 20 years, the population will face this problem.
And the birth rate is reduced to accelerate (Accelerate)
The important thing is that the Chinese population born is 18 million each year. We need to spend the best time with these kids.
If it's a logical recurring process, AI will do better.
But if it's not logical, like love, people will do better because it doesn't make sense
In the future, humans will not need cảpĕn t̂xng or EQ but LQ or Q of Love.
The topic of the last question is how can humans live in a sustainable world?
Elon Musk said if Neuralink succeeded, it would allow us to record the state of brain (save state) like a video game save.
Or what it takes to age is DNA change like DNA stop a DNA clock. But the question is, will humans agree to this?
For Jack Ma to answer about sustainability
In the future, AI will make us understand ourselves better.
Wise people know what we want
A wise man knows what he doesn't want.
And will make this world a better place eventually
Jack Ma said the end
He wants to focus on the world.
It's harder to take garbage out of the ocean than going to Mars.
It's not just a longevity, but how to live healthy.
Not just living a healthy life but how to live a happy life
Finally, humans must focus on values. Human must have dreams.
It's not technology that will change the world, but it's the dream behind technology that will
We must believe in ourselves. We must believe in humanity. We must believe in the next generation of humans.
We should be responsible for what is present, rather than wanting to solve all the problems of the world tomorrow.
It's a good thing humans can go wrong.
It's good that humans learn from mistakes.
And it's a good thing that humans will die.
Ending with the words of Elon Musk that shuts down after Jack Ma's finish.
“Fight for the life of consciousness”
Fight to keep your thoughts alive in this universe..
╔═════════════════╗
Blockdit an app that is like a huge inventory of knowledge.
Read it for free. Load it Blockdit.com/download
╚═════════════════╝Translated
同時也有5部Youtube影片,追蹤數超過283萬的網紅bubzbeauty,也在其Youtube影片中提到,Heyyyyyyyy sexy ladiessssss (and gentlemen lol) Today we're going to be talking about Hormonal Acne. You already know that Acne is so what exactly is...
「i think we're alone now」的推薦目錄:
- 關於i think we're alone now 在 Cherprang BNK48 Facebook
- 關於i think we're alone now 在 Oom BNK48 Facebook
- 關於i think we're alone now 在 Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing Facebook
- 關於i think we're alone now 在 bubzbeauty Youtube
- 關於i think we're alone now 在 渡辺レベッカ ☆ Rebecca Butler Watanabe Youtube
- 關於i think we're alone now 在 JESSICA跟小龜的日常 Youtube
- 關於i think we're alone now 在 Billie Joe Armstrong of Green Day - I Think We're Alone Now ... 的評價
- 關於i think we're alone now 在 Tiffany - I Think We're Alone Now (Re-Recorded) - YouTube 的評價
- 關於i think we're alone now 在 I Think We're Alone Now - YouTube 的評價
- 關於i think we're alone now 在 I Think We`re Alone Now - Tommy James & The Shondells 的評價
i think we're alone now 在 Oom BNK48 Facebook 八卦
1
ผมไม่เชื่อว่ามนุษย์จะทำได้ทุกอย่าง
แม้เชื่อว่าถ้ามีวินัยและความพยายาม มนุษย์สามารถทำในสิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้กระทั่งสำเร็จ แต่ก็ไม่คิดว่าคนคนหนึ่งจะทำทุกอย่างได้ดีในเวลาเดียวกัน
หนึ่งเรื่องที่ทุ่มเท เรากำลังแลกกับหนึ่งเรื่องที่ปล่อยมือไป
งานจึงช่วงชิงเวลาจากความสัมพันธ์ การหาความรู้จึงยื้อยุดเวลากับการออกกำลังกาย เฮฮากับเพื่อนฝูงจึงแย่งเวลากับห้วงสงบเมื่ออยู่ตามลำพัง
เรามัก 'เห็น' คนที่ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้ดี เพราะเมื่อทำได้ดีแสงสปอร์ตไลท์จะจับจ้องไปที่ตัวเขา ผู้คนในสื่อจำนวนมากคือคนที่ประสบความสำเร็จ แต่ที่จริงมีวงเล็บต่อท้ายว่า (ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง) สำหรับบางคนอาจสำเร็จหลายเรื่อง กระนั้นก็มีวงเล็บอยู่ดีว่า (แต่ไม่ใช่ทุกเรื่องในชีวิตหรอก)
เพราะหนึ่งความสำเร็จนั้นแลกมาด้วยการยอมเสียอะไรไปบางอย่าง สิ่งที่เขาเสียไปเราอาจไม่เห็นและไม่รู้
ขณะที่คนที่จัดสมดุลชีวิตได้ดีอาจไม่ใช่คนโดดเด่น เพราะเขาอาจไม่เก่งเป็นที่หนึ่ง แต่เก่งพอประมาณ มีความสุขกับชีวิต และมีเวลากับเรื่องที่ตัวเองอยากทำ รักษาสัมพันธ์ได้กลมกล่อม คนแบบนี้ถ้าให้คะแนนในด้านต่างๆ อาจประมาณ 7 คะแนน แต่ทุกช่องไม่มีต่ำกว่า 7 จึงไม่ค่อยมีใครสนใจเขา
ท่ามกลางการรับรู้ผ่านสื่อ เรามักให้ความสนใจกับคนที่ได้คะแนนเต็ม 10 หรือทะลุไปถึง 15 ในด้านใดด้านหนึ่ง แต่เราไม่มีวันรู้เลยว่าถ้าต้องกรอกคะแนนให้ตัวเองในช่องอื่น เขาจะกรอกคะแนนเท่าไร เป็นไปได้ว่าบางช่องอาจได้แค่ 2 คะแนนจากเต็มสิบ
...
2
เป็นไปได้ไหมว่าการรับรู้เช่นนี้ทำให้เราอาจเป็นคนที่มีคะแนนเต็มสิบอยู่ตลอดเวลา และถ้าเป็นไปได้เราก็อยากเต็มสิบในทุกช่องของชีวิต
งานดี กีฬาเด่น ครอบครัวสุขสันต์ จิตใจสดใส เที่ยวก็ได้ไป หนังก็ได้ดู ดนตรีได้เล่น ดำน้ำลึก ฝึกปีนผา เป็นอาสาเพื่อชุมชน อ่านหนังสือร้อยเล่มต่อปี พูดบาลีคล่อง อ่านสเปนออก จัดดอกไม้เป็น คิดเห็นเป็นนวัตกรรม ก้าวทันเทคโนโลยี มีสตาร์ทอัพยูนิคอร์น สอนลูกให้เก่งกว่าลูกข้างบ้าน เบิกบานเป็นอิสระทางการเงิน ฯลฯ อีกมากมาย
เรานำเอาคุณสมบัติ 'เต็มสิบ' ของทุกคนทุกเรื่องราวที่เสพมาวางไว้บนบ่าตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่แรงปรารถนานั้นบอกว่าฉันอยากเป็นให้ได้
ความคาดหวังมากมายกับตัวเองอาจนำพาความคาดคั้นเพื่อดึงศักยภาพสูงสุดของเราออกมาในทุกมิติโดยเชื่อว่ายังมีอีก 'หลายก๊อก' ซุกซ่อนอยู่ในตัวเรา ราวน้ำพุไม่มีวันเหือด
...
3
กระนั้น, ความจริงมีอยู่ว่า พลังและเวลาของมนุษย์มีจำกัด
เมื่อทุ่มให้กับอะไรสักอย่างย่อมมีบางอย่างถูกปล่อยปละไป-\-\นี่คือสัจธรรมอันมิอาจเลี่ยง
การพยายามประคับประคองทุกอย่างเอาไว้ด้วยสองมือกับยี่สิบสี่ชั่วโมงที่มีเท่าเดิมมีโอกาสที่จะสร้างบาดแผลในใจให้เกิดขึ้น ยิ่งนานก็ยิ่งบอบช้ำและลงลึก
ผมค่อยๆ เข้าใจผ่านประสบการณ์ปรารถนาฉวยคว้าทุกอย่างไว้และทำให้เต็มที่ที่สุดด้วยคำตอบง่ายๆ กับตัวเองว่า-\-\มึงทำไม่ได้หรอก
ประหลาดแท้! ทันทีที่ยอมรับว่าเราทำทุกอย่างให้เต็มสิบไม่ได้หรอก ทันใดนั้นภูเขายักษ์นาม 'ความคาดหวัง' ก็ไหลหล่นลงจากบ่าหายวับไปกลายเป็น 'ที่ว่าง' ให้ผมเลือกสิ่งที่อยากนำมาวางไว้บนบ่าของตัวเองใหม่
ไม่ใช่ 'ทุกอย่าง' อีกต่อไป แต่เป็นเพียง 'บางอย่าง' ที่สำคัญในช่วงเวลานี้
บางอย่างที่ยังไม่ต้องทำให้สำเร็จตอนนี้ ผมเลื่อนเวลาออกไปก่อน หากต้องกรอกคะแนนมันอาจจะเป็น 0 ในตอนนี้ เช่น หนังสือบางเล่มที่ตั้งใจเขียนให้เสร็จภายในปลายปีนี้ ผมลองพักวางไว้และจะใช้สมาธิตั้งใจเขียนให้จบภายในปีหน้าแทน เมื่อคิดได้ก็เบาใจไปเยอะ
...
4
"ค่อยๆ สำเร็จทีละเรื่อง" คือสิ่งที่ผมได้เรียนรู้ เพราะสำเร็จพร้อมกันทุกเรื่องนั้นกดดันตัวเองเกินไป เรามีชีวิตยืนยาวพอที่จะให้เรา "ค่อยๆ ทำ" ระหว่างน้ันจะได้ใช้เวลาไปกับมิติอื่นในชีวิตไปพร้อมกันด้วย
เมื่อเลือกน้อยสิ่งเราจะใส่ใจและใส่พลังลงไปกับมันได้มากขึ้น สำคัญกว่านั้น, เราจะมองเห็นตัวเองตามความเป็นจริงมากขึ้นว่า "มึงไม่ใช่ซูเปอร์แมน" และที่สำคัญที่สุดคือ-\-\เราไม่ต้องเป็นซูเปอร์แมน
เป็นมนุษย์ธรรมดาๆ ที่เกลี่ยคะแนนชีวิตในช่องต่างๆ ให้มีค่าเฉลี่ยที่น่าพอใจ จากเคยมีช่องที่ได้ 15 เต็มสิบ ก็เกลี่ยมาให้กลายเป็น 7 คะแนน แล้วแบ่งคะแนนไปใส่ช่องที่เคยเป็น 0 หรือ 2 ให้กลายเป็น 7 แทน
คนอาจไม่ปรบมือให้เราหรอก เพราะช่องที่คะแนนเพิ่มขึ้นนั้นอาจไม่มีใครเห็นหรือรับรู้ แต่ตัวเรารับรู้อยู่ด้วยหัวใจที่เป็นสุขขึ้น เสียงหัวเราะของคนรอบตัวที่เรามีเวลาได้ฟังบ่อยขึ้น มิตรภาพที่แน่นแฟ้นกว่าเดิม
ที่สำคัญ, เราไม่รู้สึกกดดันตลอดเวลา ซึ่งจะว่าไปอาจไม่มีใครกดดันเราเลย แต่เป็นตัวเรานั่นเองที่กดดันให้ตัวเองต้องเก่งทุกด้าน ทำทุกสิ่ง และสำเร็จทุกอย่างมากเกินไป
...
5
กระนั้นก็ใช่ว่าการทำเช่นนี้จะไม่ต้องแลกกับอะไรเลย แลกสิครับ แลกเหมือนกัน มันแลกกับการที่กลายเป็นคนที่ไม่สำเร็จมากมาย ไม่โดดเด่นนัก ไม่เป็นซูเปอร์แมน
เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องช่วงเวลาของชีวิต บางช่วงของชีวิตเราอาจไม่พร้อมแลก แต่บางช่วงเราก็อาจอยากแลก และไม่อยากเป็นซูเปอร์แมนอีกต่อไปแล้ว
สำหรับผม, ซึ่งผ่านช่วงวัยหนุ่มอันร้อนแรงลุกโชนมาแล้ว, ข้อดีที่สุดของวัยสี่สิบปีคือการยอมให้ตัวเอง 'ไม่ทำ' หรือ 'ไม่สำเร็จ' หรือ 'ไม่เก่ง' บ้างในบางเรื่อง เพื่อใช้เวลาไปกับสิ่งอื่นที่สำคัญไม่น้อยกว่ากัน เช่น ความสงบในใจ การใช้เวลากับพ่อแม่ที่แก่ชราลง และเสียงหัวเราะของเพื่อนเก่าที่เข้าใจกัน
ในวัยหนุ่มกว่านี้ผมชอบตัวเลข 10 และอยากดันตัวเองให้ทะลุไปถึง 11 หรือมากกว่านั้น แต่ในวัยนี้ผมชอบตัวเลข 7 ซึ่งถ้าเป็นคะแนนสอบก็คือ ผ่านมาได้แบบกำลังดี และเมื่อทุกวิชาได้ 7 แล้ว เราก็ไปเน้นในบางวิชาในบางเทอมให้ได้ 10 สักครั้ง ทีละเรื่องก็พอ เท่านี้ก็เป็นชีวิตที่น่าพอใจ
ผมทบทวนเรื่องนี้บ่อยขึ้นเรื่อยๆ ว่า สิ่งที่เรากำลังทุ่มพลังและเวลาให้นั้น เราแลกมันกับอะไร
และมันคุ้มหรือไม่ที่เราจะแลก
1
I don't believe humans can do anything.
Despite believing that if there is discipline and effort, human beings can do what seems impossible until it's accomplished, but it doesn't think that one person will do everything well at
One dedicated story. We're exchanging for one thing to let go.
Work is so that we take time from relationship. Knowledge is holding on to exercise. Fun with friends. So we steal time with peace when we are alone.
We often ' see ' people doing something good because when it's done well, the spotlight will stare at him. Many people in media are successful people, but in fact, there is a bracket of suffix (in any story) for Some people may accomplish many things. There is a bracket. (but not everything in life)
Because one success is redeemed by surrendering something. What he lost, we may not see and not know.
While a person who has a good balance of life may not be outstanding because he may not be first, but he is good at moderately. Enjoys life and has time with what he wants to do. Heal a relationship with this kind of person. If you rate in various aspects, it may be estimated. 7 points but every channel is no lower than 7 so nobody cares about him.
Among media awareness, we always pay attention to those who score 10 or get 15 on either side. But we never know how much points they have to fill in other fields. It's possible that some. The channel may only get 2 points from the full ten.
...
2
Is it possible that this perception makes us a person with a full ten score all the time? And if possible, we want to have ten in every channel of life.
Good event, sport, family. Happy family. Good mind. Travel and go to movies. Watch music, play deep dive, practice climbing, volunteer for community. Read hundreds of books per year. Speak Bali fluently, read Spain, arrange flowers. It's innovative, innovative, innovative, technology, startup. cuddle Unicorns. Teach kids to be better than the kids next door. Cheerful, financial freedom, etc.
We accidentally put every 'full ten' feature on our own shoulders, but the desire says I want to be able to be.
Many expectations with oneself may bring squeezed to pull out our highest potential in every dimension, believing that there are ' many tap s' hidden in us. The fountain rails will never be seen.
...
3
Rather, the truth exists that human power and time are limited.
When you give to something, something will be released -\-\ This is the cuddle truths that cannot avoid.
Trying to hold everything by two hands and twenty-four hours with the same amount of time. There is a chance to create a wound in your heart. The longer it takes, the more painful and deep down.
I slowly understand through the experience, desire, grab everything and do my best with the simple answer to myself -\-\ You can't do it.
What a freak! Once I admit that I can't do everything to the top ten. Suddenly, a giant mountain of ' expectation ' fell from my shoulder to be ' space '. Let me choose what I want to put on my own shoulder.
Not ' everything ' anymore, but just ' something ' that matters in this moment.
Something that hasn't to be accomplished. Now I'm postponed. If I have to score, it may be 0 now. Like some books that are intended to be written by the end of this year. I have tried cuddle deer and I will concentrate on writing it. End within next year instead. When you think about it, it's a lot of heart
...
4
′′ Slowly succeeding one by one ′′ is what I have learned. Because everything is too successful. We have too much pressure on ourselves. We live long enough to let us ′′ slowly do it ′′ between cuddle am to spend time with other dimensions in life together.
When you choose less, we will pay attention and put more energy into it. More importantly, we will see ourselves more truthfully as ′′ you are not superman ′′ and most importantly -\-\ we don't have to be superman.
I am a normal human being who spreads life points in various channels to have a satisfying average. From once there is a channel that gets 15 in the 15th, spreads to 7 points and points to the channel that used to be 0 or 2 To become 7 instead
People may not applaud us, because the channel where points increase may not be seen or known, but we are aware of it with a happier heart. The laughter of those around us. We have time to listen more often. Stronger friendships.
Importantly, we don't feel pressure all the time. There may be no one to pressure us. But it's me who puts pressure on myself. You must be good at all aspects. Do everything and accomplish
...
5
It's not that doing this doesn't have to exchange for anything. Let's exchange it. It's in exchange for becoming a lot of unsuccessful people. Not outstanding. Not superman.
This is about life time. Some parts of our lives may not be ready to exchange, but sometimes we want to exchange and not want to be Superman anymore.
For me, through the hot youth, the best of forty years is to allow yourself to ' not ' or ' not ' or ' not ' good ' in some things to spend time on something important. Less than each other, like peace of mind, spending time with older parents and laughter of old friends who understand each other.
In younger age, I like 10 numbers and want to push myself through 11 or more. But in this age, I like 7 numbers. If it's an exam score, it's good and when all subjects are fine. 7 and we will focus on some subjects in some semester. 10 for once. This is enough. It's a satisfying life.
I've been reviewing this more often what we're giving power to and time to give it to.
And is it worth it for us to tradeTranslated
i think we're alone now 在 Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing Facebook 八卦
ตอนผมตั้งเป้าหมาย1ล้านแรก
เมื่อ10ปีก่อน
ผมพยายามพัฒนาตัวเองลงทุนเงินลงทุนเวลาให้ความรู้จนผมเห็นโอกาสไอเดีย
ผมพูดกับเพื่อนรุ่นเดียวกันว่า
เฮ้ยมึง มึงอ่านเล่มนี่สิจะได้ไอเดียขยายความเชื่อ
มึงไปเข้าเรียนนี่สิ มึงจะคิดแบบที่กูกำลังทำ
บางคนผมซื้อหนังสือให้เค้า(ทั้งๆที่ตอนนั้นผมไม่มีเงินเท่าไหร่)
ผมทำแบบนี้ตลอดเวลาที่กำลังจะเรียนจบ
หลายคนเอาหนังสือไป
บางคนเอาไปรองเมาส์เล่นคอม
บางคนเอาไปรองขาโต๊ะ
บางคนก็ใหม่เอี่ยมไม่มีร่องรอยการเปิด
จนผู้ใหญ่คนนึงพูดกับผมว่า
มึงพูดให้ใครเปลี่ยนมันยาก
มึงไปเปลี่ยนก่อนสิ
ลองดู
แล้วผมก็หันมาfocusที่เป้าหมายตัวเอง
จนปีนั้นผมทำ1ล้านแรกได้สำเร็จ
เพื่อนหลายคนก็หยิบหนังสือเล่มนั้นมาอ่าน
เพื่อนหลายคนมาปรึกษาผมว่าควรไปเรียนอะไร
เพื่อนหลายคนกลับเข้ามาคุยกับผมขอคำแนะนำ
และหลายคนไฟลุก ลุกขึ้นมาเอาจริง
จนชีวิตเปลี่ยนกันตามๆมา
เมื่อวันก่อนมีน้องคนนึงถามเรื่องนี้
ว่าพยายามโน้มน้าวเพื่อนให้ไปด้วยกัน
แต่เพื่อนก็เหมือนยังไม่ได้ตระหนักเท่าเรา
เค้าคิดมากว่า
การไปคนเดียวมันจะเป็นการทิ้งเพื่อนไม่
ผมบอกกับเค้าว่า
ในเมื่อตอนนี้เพื่อนยังไม่พร้อมจะไป
แล้วเรามีความฝันที่ต้องทำ
ใจเราไม่เคยทิ้งเพื่อนอยู่แล้ว
เพื่อนก็คือเพื่อนเสมอ
การที่เราไปลุยเดี่ยวกับความฝัน
นั้นไม่ได้เป็นการทิ้งเพื่อนเลย
แต่เรากำลังไปทำสิ่งที่
เป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อน
อีกรูปแบบนึงต่างหาก
บางครั้งการพูดของเรา
มันไม่ได้ทำให้เกิดแรงบันดาลใจของเค้า
บางครั้งผลลัพธ์ของเรา
เร้าใจและปลุกใจเค้ามากกว่า
"และมันอาจจะช่วยเค้าได้มากกว่า"
"ถ้าวันนี้คุณอยากหุ่นดีคุณไปทำเลย"
"ถ้าอยากชีวิตดีขึ้นคุณก็ลุยเลย"
ยังไม่ต้องไปเปลี่ยนใคร
วันนี้เราอาจจะพูดเพื่อช่วยเค้าไม่ได้
แต่วันนึงผลลัพธ์ความสำเร็จของเรา
อาจจะเป็นไฟช่วยให้เค้าลุกขึ้นมาทำฝันของเค้าเองก็ได้
ซึ่งมันอาจจะมีค่าและผลักดันเค้ามากกว่า....
คำพูดนั้นของเรา
#A10(เอเท็น)
#iClassUniversity
#สังคมแห่งความเป็นไปได้
When I set my goal for 1 million.
10 years ago
I'm trying to develop myself. Invest money, invest time, educate me until I see opportunities, ideas
I said to my same friend
Hey, you read this book and you will get an idea to expand your faith.
You go to class. You think what I'm doing.
Someone I bought a book for him (I didn't have much money)
I do this all the time graduating
Many people take the book.
Someone took it to the computer mouse.
Someone put it on the table.
Some are brand new. No traces of opening.
Until one adult said to me
You say it's difficult to change someone.
You go change first.
Check it out
And I turned to focus on my own goals.
Until that year I finished the first 1 million.
Many friends also pick up that book to read.
Many friends come to consult with me what to study.
Many friends come back to talk to me for advice.
And a lot of people keep rising.
Until life changes. Follow me.
The other day, a little brother asked about this.
Trying to convince friends to go together
But my friend seems like I haven't realized as much as I do
He thinks so much.
Going alone is leaving no friend
I told him that
Now my friend is not ready to go
Then we have dreams to do
My heart never left my friend anyway
Friends are always friends
The way we go solo with dreams
That wasn't even a friend leaving
But we're going to do the thing
Inspired by a friend
Another form.
Sometimes our talk.
It doesn't inspire him.
Sometimes our results.
More provocative and encouraging.
′′ And it might help him more
′′ If you want to get in shape today, you go do it
′′ If you want to have a better life, you go
I don't have to change anyone yet.
Today we may not speak to help him.
But one day our success results.
Might be a fire. Help him get up to make his own dream.
Which is probably more valuable and pushes him....
That quote of ours.
#A10 (Aten)
#iClassUniversity
#สังคมแห่งความเป็นไปได้Translated
i think we're alone now 在 bubzbeauty Youtube 的評價
Heyyyyyyyy sexy ladiessssss (and gentlemen lol)
Today we're going to be talking about Hormonal Acne. You already know that Acne is so what exactly is Hormonal Acne and why is it the most stubborn type of acne to get rid of?
In this video, I'll be sharing beauty advice on how you can treat/control Hormonal Acne. You'll find that having clearer skin is not just about what products you use on your face but your diet and lifestyle plays a major role too. It's all about finding the right balance for your skin and understanding your body.
Remember, nobody is perfect. Don't let your acne ruin your life. I used to think I was alone and people will think I'm a freak. Guess what? That was my own perception. I judged myself before anybody else did. Stop stressing about your skin and you'll be surprised what'll happen for your skin ^^.
I hope you guys will find this video helpful ^^ I had a lot of fun filming this. I felt a bit sickly that day so I took some medication and I think it made me extra high/ chirpy lol.
Also want to thank everybody for your Birthday wishes! I had a wonderful day!!! I can't believe I'm 26 now!!! I'm gonna be a bride next year eeeep! Wow. I'm really growing up. This year is gonna be amazing. I know it already ^^
Good night World!! I missed you all. Sorry for not uploading a video for like a week. Not been feeling too well lately. Must be the weather x_X
Much love, Bubz xx
_________________
Check out my makeup brush line & T-Shirt range:
http://www.shopbubbi.com
For updates on my life, doggies, beauty, fashion and boyfriend, check out:
http://www.bubzbeauty.com
Follow me on Twitter:
http://www.twitter.com/bubzbeauty
LIKE me on Facebook
http://www.facebook.com/itsbubz
i think we're alone now 在 渡辺レベッカ ☆ Rebecca Butler Watanabe Youtube 的評價
レミオロメン「3月9日」(2004)英訳カバー
作詞曲:藤巻亮太
英語詞:渡辺レベッカ
ギター:横山牧人
リクエストに応じて、この曲を久しぶりに聴いて、英語版を作ってみました。とてもいい曲だと改めて思いました。
久しぶりに外で歌ってみました。3月の景色はまだちょっと寂しいんですが、そのままの「3月9日」を撮ってみました。
"March 9th" (2004) by Remioromen (English cover)
Lyrics/Music: Ryota Fujimaki
English Lyrics: Rebecca Watanabe
Guitar: Makito Yokoyama
A song about waiting for spring to come and the changes that it will bring. Used in some schools as a graduation song.
The scenery is a bit colorless, but I think it fits since the lyrics say that the trees are just starting to bud, and not blooming yet. This is what March 9th looks like in my neighborhood :)
--------------------------
歌詞
As the seasons slowly change, and winter fades away
I feel every minute of every passing day
Time is always moving on, in a steady rush
As we dream what the future might hold for the two of us
We’re casting all our hopes and dreams up into the cool March wind
Newly budding cherry trees bring us one day closer to the spring
Rays of golden light start to spread across the land
Slowly bringing warmth to the day, as we sit hand in hand
Stretching underneath the sun, we're basking in the glow
I see you try to hide a yawn with that timid smile I know
And any day now we will be starting on a path unknown
But if I have learned one thing, it’s that I will never be alone
I see you smiling every time I close my eyes
Reminding me of all the strength I have inside
Because of you, there’s not a thing I can’t get through
And I only hope one day that I can do the same for you
Laundry on the balcony, hanging on the line
A sudden errant gust of wind, blows it full of dirt and grime
But it doesn’t bother me, for I am looking up
Caught up in the beauty of the morning moon above
There will be always be those days nothing ever turns out well
It’s easy to forget sometimes that the world is bigger than ourselves
The crystal blue sky above is everything we need
Clouds white as cotton balls swaying gently in the breeze
As long as you’re next to me, my happiness is true
Waiting for the flowers of spring to bloom, in this season shared with you
Say you’ll always be right by my side
Assuring me with your smile
ひとみを閉じれば、あなたが まぶたのうらにいることで
どれほど強くなれたでしょう あなたにとって私もそうでありたい
(hitomi wo tojireba anata ga
mabuta no ura ni iru koto de
dore hodo tsuyoku nareta deshou
anata ni totte watashi mo sou de aritai)
La la la...
i think we're alone now 在 JESSICA跟小龜的日常 Youtube 的評價
Like Me on Facebook Page:
https://www.facebook.com/jessicalawmingka
Follow Me on Instagram:
https://instagram.com/lawmingka
Soundcloud:
https://soundcloud.com/jessica-law-3/im-still-loving-you-shiga-cover
When I close my eyes I think of you
And the times we’ve had been through
Even though we're far apart right now
I remember back when you were here with me
How you’ve made my world complete
But now I’m left alone
We talked about love and hope
Wishing we could start a life our own
I wish that I could live without you
Why did you tear my heart apart
You said you’ll love me from the start
All those painful things you’ve put me through
But I’m still loving you
I’ve tried to give my best to you
I don’t deserve the things you do
Everything has gone to memories
I just wish I knew the truth behind the lies
i think we're alone now 在 Billie Joe Armstrong of Green Day - I Think We're Alone Now ... 的八卦
... <看更多>