รู้จักแม่ฮ่องสอน จังหวัดที่รายได้ต่อประชากร น้อยที่สุด / โดย ลงทุนแมน
“เมืองสามหมอก” ถูกตั้งให้เป็นฉายาของจังหวัดแม่ฮ่องสอน
เพราะจังหวัดเล็ก ๆ ติดชายแดนเมียนมาแห่งนี้ มีสภาพภูมิประเทศเต็มไปด้วยภูเขาสูง
สลับซับซ้อน ขณะที่สภาพอากาศมีหมอกปกคลุมตลอดเวลา
จนกลายเป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายให้มาเยี่ยมเยือน โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว
แต่รู้หรือไม่ว่า แม่ฮ่องสอนถูกจัดให้เป็นจังหวัดที่มีอัตราความยากจนมากที่สุดในประเทศไทย..
เรื่องราวของแม่ฮ่องสอนเป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย มีพื้นที่ทั้งหมด 12,765 ตารางกิโลเมตร ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของประเทศ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่กว่า 87% ของพื้นที่ทั้งหมดในจังหวัด
เป็นป่าไม้ และมีประชากรอยู่เพียง 284,000 คน
ในแง่เศรษฐกิจ ปี 2562 มูลค่าผลิตภัณฑ์จังหวัด (GPP) ของแม่ฮ่องสอน
อยู่ที่เพียง 15,021 ล้านบาท น้อยที่สุดในบรรดา 77 จังหวัดของประเทศไทย
และมีสัดส่วนไม่ถึง 1% ของมูลค่า GDP ทั้งประเทศ
โดยมูลค่าผลิตภัณฑ์จังหวัด ณ ราคาตลาดปัจจุบัน ถ้าแบ่งตามสัดส่วนจะมาจาก
ภาคบริการ 68%
ภาคเกษตรกรรม 26%
ภาคอุตสาหกรรม 6%
แม้ว่าสัดส่วนของภาคเกษตรจะอยู่ที่ประมาณ 1 ใน 4 ของมูลค่า GPP
แต่ประชาชนส่วนใหญ่ของจังหวัดนั้นทำอาชีพภาคเกษตรเป็นหลัก คิดเป็นสัดส่วนถึง 81% ของประชากรทั้งหมด
โดยผลผลิตทางการเกษตรส่วนใหญ่ของแม่ฮ่องสอนที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว กระเทียม ข้าวโพด กะหล่ำปลี และถั่วเหลือง
ปัญหาของชาวเกษตรกรที่แม่ฮ่องสอนประสบมักคล้ายๆ กับเกษตรกรไทยส่วนใหญ่นั่นคือ ความผันผวนของราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะในช่วงที่ผลผลิตออกมาพร้อมกัน ส่งผลให้รายได้ของเกษตรกรมีความไม่แน่นอน จนส่งผลต่อการบริโภคของครัวเรือน
รวมทั้งเกษตรกรส่วนใหญ่ ไม่ได้มีพื้นที่ถือครองเพื่อทำการเกษตรของตนเอง ทำให้มีต้นทุนในการทำเกษตรกรรมที่สูง
อีกด้านหนึ่ง แม้ว่าภูมิประเทศของแม่ฮ่องสอนส่วนใหญ่เป็นธรรมชาติเหมาะกับการท่องเที่ยว และยังเคยได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน 10 อันดับ จังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทย
แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็นิยมเดินทางมาเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ หรือเพียงแค่ประมาณ 4 เดือนที่เป็นช่วง High Season เท่านั้น
ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวเดินทางมาที่อำเภอปายซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 61% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางมาที่แม่ฮ่องสอน จึงทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวยังมีจำนวนน้อยและกระจุกตัวเพียงบางพื้นที่
เมื่อรายได้จากภาคเกษตรกรรมที่มีความไม่แน่นอนสูง ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวมีเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ส่วนภาคอุตสาหกรรมมีน้อยมาก ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการแปรรูปไม้ และแปรรูปผลิตภัณฑ์การเกษตร
จึงทำให้มูลค่าเศรษฐกิจและรายได้ของประชากรที่แม่ฮ่องสอนนั้นน้อย
สวนทางกับค่าใช้จ่ายและหนี้สิน
รายได้เฉลี่ยต่อคนของชาวแม่ฮ่องสอนเท่ากับ 63,370 บาทต่อปี อยู่อันดับที่ 74 ของประเทศไทย ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยรายได้เฉลี่ยต่อคนของคนไทยทั้งประเทศที่ 243,787 บาท เกือบ 4 เท่า
รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนที่แม่ฮ่องสอนเท่ากับ 13,097 บาท ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนของประเทศ
และถึงแม้ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อครัวเรือน 11,242 บาท ที่แม่ฮ่องสอนจะน้อยกว่าในจังหวัดอื่น แต่ก็คิดเป็นสัดส่วน 86% ของรายได้ต่อครัวเรือน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศที่เท่ากับ 77%
รวมไปถึงหนี้สินต่อครัวเรือนของชาวแม่ฮ่องสอนเท่ากับ 74,586 บาท สูงกว่ารายได้ต่อเดือนเกือบ 6 เท่า
พอเรื่องเป็นแบบนี้ แม่ฮ่องสอนจึงถูกจัดให้เป็นจังหวัดที่มีอัตราความยากจนมากที่สุด
ในประเทศไทย
อุปสรรคอย่างหนึ่งในการพัฒนาและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่และภาวะเศรษฐกิจของจังหวัดแห่งนี้ คือ การที่มีสภาพภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูง ไม่เพียงแต่เป็นข้อจำกัดในการขนส่งสินค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นอุปสรรคสำหรับภาครัฐในการพัฒนาและลงทุนสาธารณูปโภคในแต่ละพื้นที่ เช่น ถนน ประปา ไฟฟ้า การศึกษา และสาธารณสุข
นั่นจึงทำให้แม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดเป้าหมายที่รัฐบาลให้ความสำคัญสูงในการแก้ไขปัญหาความยากจน ที่เป็นปัญหาเรื้อรังของประชาชนที่แม่ฮ่องสอนมานาน
ที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐพยายามออกมาตรการหลายอย่างเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของแม่ฮ่องสอนให้เติบโตก้าวหน้าขึ้นจากปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น
การส่งเสริมประชาสัมพันธ์และเสนอจุดขายให้แก่นักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวเมืองรองอย่างแม่ฮ่องสอนมากขึ้น ทั้งทำการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อให้เข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวภายในจังหวัดได้มากขึ้น
มาตรการช่วยเหลือและปรับปรุงสินค้าเกษตรซึ่งถือเป็นอาชีพหลักของประชาชนที่นี่ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากรที่แม่ฮ่องสอนให้ดีขึ้น
พัฒนาเส้นทางคมนาคม เพื่อยกระดับด่านชายแดนแม่ฮ่องสอนกับเมียนมา ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการค้าและการลงทุนเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
ก็เป็นที่น่าติดตามว่า การพัฒนาต่าง ๆ จะช่วยยกระดับฐานะความเป็นอยู่ของประชากรที่แม่ฮ่องสอนให้ดีขึ้นกว่าวันนี้ได้หรือไม่
แต่ที่น่าสนใจก็คือ แม้ว่าแม่ฮ่องสอนจะเป็นจังหวัดที่อัตราความยากจนมากที่สุด
แต่จังหวัดนี้เคยถูกสำรวจว่าเป็นจังหวัดที่ผู้คนมีความสุขมากที่สุดในประเทศไทย
จากการสำรวจของเอแบคโพล ในช่วงวันที่ 1-19 มีนาคม 2556
การสำรวจนี้ใช้กลุ่มตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ
จำนวน 12,429 คน ผลการจัดอันดับค่าร้อยละของประชาชนที่อาศัยอยู่ในแต่ละจังหวัด
พบว่าจังหวัดที่ประชาชนอยู่แล้วมีความสุขมากที่สุด คือ แม่ฮ่องสอน ได้ร้อยละ 60.9
ทั้งนี้ก็เพราะว่า แม้ว่าประชาชนที่นี่จะมีหลายกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งทำให้มีประเพณี วัฒนธรรม วิถีการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน แต่คนเหล่านั้นก็สามารถอาศัยอยู่ด้วยกันได้อย่างกลมเกลียว
มีความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน คดีอาชญากรรมต่ำ มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินสูง
อีกทั้งยังแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่เงียบสงบนั่นเอง
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
จากการสำรวจเดียวกัน จังหวัดที่ประชาชนมีความสุขน้อยที่สุดในประเทศไทย
ก็คือ กรุงเทพมหานคร พบว่าประชาชนมีความสุขเพียง 20.8%..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.nesdc.go.th/main.php?filename=gross_regional
-https://en.wikipedia.org/wiki/Provinces_of_Thailand
-https://en.wikipedia.org/wiki/Mae_Hong_Son
-http://www.maehongson.go.th/index.php/th/province-info/general-info/product/11-province-info/districts-\info.html
-https://www.youtube.com/watch?v=QqGsBPTZe4o
-http://osthailand.nic.go.th/masterplan_area
-https://www.tnnthailand.com/news/wealth/30943/
-แผนพัฒนาจังหวัด (พ.ศ. 2561-2565), สํานักงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน
-https://www.thebangkokinsight.com/news/lifestyle/wellness/484069/
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過32萬的網紅TheBabyboom,也在其Youtube影片中提到,คู่มือเรียนดำน้ำลึกโดยครูบูม ฉบับ Online http://bit.ly/36sVoIZ เหมาะสำหรับทบทวนและหาความรู้การดำน้ำลึด scuba --------------------------------- บทความ ...
high season คือ 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 八卦
"ฝุ่นละออง PM2.5 คืออะไร และต้องตื่นกลัวกันขนาดไหน"
ว่าจะโพสต์จะโพสต์เรื่อง "ฝุ่น PM2.5" นี้หลายทีแล้ว แต่ยังไม่มีเวลาซะที แถมข้อมูลก็มีออกมากันเยอะแยะหลายแหล่ง เพียงแต่รู้สึกว่าไม่ค่อยมีใครสรุปให้ชัดๆ ว่ามันคืออะไร และต้องระวังกันแค่ไหน เลยเอามาลองเขียนแบบสรุปเป็นข้อๆ นะครับ
1. ฝุ่นละออง PM 2.5 (particle matter smaller than 2.5 micron) คือ ฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กมากๆๆๆ ตามองไม่เห็น คือเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (ไมโครเมตร) หรือเล็กกว่า 3% ของเส้นผ่านศูนย์กลางเส้นผมเสียอีก .. ในเมือ...
Continue Reading"What is the dust of PM2. 5 and how scared we have to be"
I was going to post this "PM2. 5 dust" so many times, but I don't have time. There are plenty of information. I just feel like I don't have a lot of people to conclude what it is and how careful. Let's try to write in summary.
1. Dust. PM 2.5 (particle matter smaller than 2.5 micron) is a very small dust. It is smaller than 2.5 Micron (Micron) or smaller than 3 % smaller than 3 % Hair diameter.. in the major city is the main cause of engine and from construction (not from burning grass burning straw)
2. Really. Dust. Both size. PM 2.5 and larger ones.
It's all up to air pollution and it's an important problem of the big city. As the clip is seen dust floating everywhere at "Lumpini Park" that should be larger than 50 Micron dust that I can see... but The smaller the dust, instead of falling to the ground, the faster it's usually hanging in the air and makes it harder to be a healthier problem.
3. Dust PM 2.5 is clearly dangerous for health because it is very small. It can pass the respiratory to the lungs and create problems with blood vessels. (those with large ones are often trapped from nose hair and too. Slime and hair on the respiratory channel) and will increase the risk of heart disease and respiratory disease because it can go through the capillaries that nurture all parts of the body, including brain and heart disease, heart disease, etc. Even. The fetus that mother experiences PM2. 5 particles will make children when they grow up, there is a chance to risk of such diseases and it also have the intellectual level of children for life.
4. In Bangkok, the dust level. PM 2.5 during January-February, there are higher than the benchmark (50 micrograms / cubic meters) in many areas, especially along the big roadside with traffic and constructions such as Rama 4 Road, Ladprao Road, Phayathai Road, Inthak Road (see the latest information today at https://www.facebook.com/PCD.go.th/photos/a.536405553109503.1073741834.174094709340591/1609515919131789/?type=3&theater)
5. However, PM2. 5 dust level is not higher than this benchmark is not high as critical as there is news. It is caused by some websites to calculated and compare to foreign standards which is not the right way.
6. Dust situation. PM 2.5 has been many years, but this year has become a lot of campaign because it has come quite faster than the past year (since January) and quite a few months... PM 2.5 dust will be more during the season from winter to summer, such as mid-February, which often fog (steam) occurs), causing the air to turn off. The sun won't reach the ground. The energy to push the energy to float higher to accumulate in The air is on the ground.
7. Therefore, PM2. 5 Dust Surveillance by ourselves. In addition to avoid being near the big roadside area or much construction area, it can still monitor daily numbers from the department of pollution control (https://www.facebook.com/PCD.go.th/) including the Notice that day when the weather is calm. There is a high air humidity (steam) thick or not because there will be a lot of dust accumulation. PM 2.5... or if there is thunderstorms happen that day, the amount of dust in the air. Will be diluted
8. How much dust do we have to be afraid of PM 2.5? If you are a person in the risk of health problems such as respiratory disease or cardiovascular disease, you should avoid getting into high-standard, such as roadside... If you can stay indoors. There is more safe or if you need to go out, you should wear N95 hygienic mask... As for the general health people still don't have to be that scared unless they have to live or work in random areas regularly to wear protective masks. Too much too.
9. Hygienic mask that can prevent N95 dust. It must be a resolution of fibers high enough to filter small dust. Size 2.5 Micron. Like N95 mask that is sold. It will filter the particles. Size 0.3 Micron. Up to 95 % (the source of N95) is suitable to use... As for those who are sold in addition to filter, it is not detailed enough. It is not attached to the face. The air can still pass in and out. Easy to be easy.
10. At the end of this month, the dust situation. PM 2.5 will be better. However, small and large dust is still harmful to health, so we should help reduce the cause of dust, such as reducing the use of construction areas and The car that transporting construction materials to the Midwest, including Bangkok. I should take more vacuum and spray water on the road.
Info from http://www.pcd.go.th/info_serv/air_dust.htm and http://www.bbc.com/thai/thailand-42970714
--------------
Interested in the book " oh! This is how it is " Contact to order at the website. Matichon http://www.matichonbook.com/index.php/matichonbook/newbooks/-2997.htmlTranslated
high season คือ 在 เที่ยวแบบกรู Facebook 八卦
🚌อากาศเย็น ๆ แบบนี้ชวนแก๊งไปนอนรถบ้านฟิน ๆ ตกเย็นปิ้งย่างกัน
สวนละไม / Suan Lamai
สวนละไม อาณาจักรผลไม้และขุนเขา นอกจากนั้นยังมีรถบ้านสไตล์แคมป์ปิ้งที่เหมาะแก่การไปเที่ยวช่วงนี้มาก ๆ บรรยากาศริมน้ำ วิวภูเขาลูกใหญ่อยู่ตรงหน้า พร้อมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าฝั่งตรงข้าม ด้านในรถบ้าน มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งแอร์ ตู้เย็น สบู่เหล แชมพู ผ้าเช็ดตัว ไดร์เป่าผม กาต้มน้ำร้อน น้ำดื่ม แก้วน้ำ แก้วชา กาแฟ ชา กาแฟ (แบบซอง) เตาปิ้งบาร์บีคิว ชุดจาน ชาม ช้อน ส้อม เตียงนุ่มนอนสบายไม่อึดอัด ห้องน้ำในตัว พร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น ตกเย็นเหมาะแก่การปิ้งย่างสามารถสั่งได้ทั้งซีฟู้ด หรือบาบีคิว ที่สด อร่อย และเมนูๆ อื่น ๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน
ตื่นเช้ามาชมพระอาทิตย์ขึ้น และใส่บาตร ที่ชอบอีกอย่างคืออาหารเช้า กับขนมไทย มีให้เลือกทานหลายอย่างเลย
ราคาช่วง High Season ธ.ค. - ม.ค.
เริ่มคืนละ 2,150 บาท พักได้ 2 คน รวมอาหารเช้า
เช็ควันว่าง จองที่พักผ่านระบบจองออนไลน์ คลิก
https://reservation.roomscope.com/1492/th
.
รีวิวนี้แม่ไข่ใช้ Vivo V20 SE โฉบเฉี่ยว และบางเบา มาพร้อมดีไซน์โค้งมนแบบ 3D จับถนัดกระชับฝ่ามือ สีสันทันสมัย เต็มไปด้วยสเน่ห์ การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจาก จักรวาล และความสง่างามของธรรมชาติ ซึ่งได้ผสมผสานองค์ประกอบแฟชั่นที่ทันสมัยรวมเข้าด้วยกัน ออกมาเป็นรูปลักษณ์ที่สวยงาม V20 SE มี 2 สีให้เลือก
Gravity Black : การไล่ระดับสีดำเข้มที่ดูหรูหรา
Oxygen Blue : สีฟ้าอ่อนสดใส ที่ได้แรงบันดาลใจจากท้องฟ้า
ข้อดีเด่น ๆ คือ
✅กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 48 ล้านพิกเซล
✅โหมด AI Face Beauty ความงามอัพเกรด 5 เท่า ที่ครอบคลุมในเรื่องพื้นผิว สีผิว รูปร่าง ลักษณะใบหน้า และการแต่งหน้า
✅Super Night Selfie แสงน้อยก็สวยได้
✅กล้องเลนส์ Super Wide-Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพมุมกว้างได้ 120 องศา เก็บภาพมุมกว้างได้อย่างง่ายดาย
ทั้งหมดนี้ Vivo V20 SE มาในราคาเบาๆ สบายกระเป๋า เพียงแค่ 8,699 บาท ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
👉ข้อมูลเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์ >>> http://www.vivo.com/th/products/v20se
#VivoV20SE #BetheFocus #VivoV20Series
Vivo V20 SE มือถือเครื่องเดียวเอาอยู่ จะถ่ายภาพสนุกแค่ไหนไปดูกั
high season คือ 在 TheBabyboom Youtube 的評價
คู่มือเรียนดำน้ำลึกโดยครูบูม ฉบับ Online http://bit.ly/36sVoIZ
เหมาะสำหรับทบทวนและหาความรู้การดำน้ำลึด scuba
--------------------------------- บทความ โดยครูต้อ
ในกรณีข่าวใหญ่เมื่อวานที่ได้ลงเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวเกาหลีและครูดำน้ำ จนทำให้วันนี้มีผู้ที่สอบถามมาหาผมมากมาย
โดยมีคำถามว่า สกูบ้าไม่เห็นจะปลอดภัยเลย อันตรายมาก
#ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว #การดำน้ำสกูบ้าเป็นกีฬาที่ปลอดภัยมาก
#ถ้าผู้เรียนได้เรียนรู้มาอย่างถูกต้องกับครูที่ได้รับการรับรองที่เชื่อถือได้เช่น Naui, Padi, BSAC, SSI, Cmas
#มาตรฐานของหลักสูตรเริ่มต้น คือ Openwater Course ซึ่งเกือบทุกสมาคมดำน้ำ การสอนจะคล้ายกัน คือหลักสูตรใช้เวลาเรียน #31ชั่วโมง
โดยแบ่งเป็นภาคทฤษฎีและปฏิบัติ รวมชั่วโมงการออกทะเล ครูท่านใดจะบริหารการสอนกี่วันกันอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับครูแต่ละท่าน
และผู้เรียนจะต้องไปตรวจสุขภาพด้วยตนเองก่อนและพอมีโรคต้องห้าม ผู้เรียนต้องไปให้แพทย์ตรวจก่อน เพื่อให้ออกใบประเมินสุขภาพว่ามีร่างกายที่แข็งแรงและสามารถดำน้ำได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
สำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจว่า จะชอบการดำแบบ Scuba หรือไม่ แต่อยากลอง ในหลักสูตรจะมีการทดลองเรียน 2 แบบ ให้เลือก
1. TRY SCUBA คือหลักสูตรการทดลองเรียนดำน้ำแบบที่ถูกต้องและได้standard สามารถฝึกได้ทั้งในสระ และ #ในทะเลที่เป็นพื้นที่ปิด (มีที่กั้น) เพื่อไม่ให้หลุดไปน้ำลึก
วัตถุประสงค์คือ เพื่อให้ผู้เรียนได้ตัดสินใจว่า เมื่อได้ลองแล้ว รู้สึกชอบหรือไม่ชอบที่จะเรียน Scuba หลักสูตรเต็ม (Open Water) ต่อไป
2. DISCOVER SCUBA คือการเรียนดำน้ำคอร์สเริ่มต้นอย่างย่อ เป็นการเรียนรู้ทักษะการดำน้ำเบื้องต้นบางอย่าง แต่ไม่ครบเต็มหลักสูตรที่บังคับ
ใบอนุญาตที่ได้รับเมื่อเรียนจบการดำน้ำประเภทนี้จะมีอายุไม่เกิน 1 ปี สำหรับให้ไปเรียนทักษะบังคับเพิ่มในหลักสูตรการเรียนดำน้ำเบื้องต้น (Open Water) ให้จบ
DISCOVER SCUBA ออกแบบขึ้นมาสำหรับผู้มาเที่ยวรีสอร์ตแต่มีเวลาน้อย และถูกกำหนดความลึกไว้ไม่เกิน 10-12 เมตร
#แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ภาษาทั่วไปจะเรียกกันว่า #ไม่ปฎิบัติตามStandard
ซึ่งถือว่าเป็นความผิด และอาจจะมีผลต่อสถานภาพการเป็นครูสอนดำน้ำ (Instructor) ซึ่งบทลงโทษร้ายแรงที่สุดคือจะถูกถอนการเป็นสมาชิกภาพ และใบอนุญาตการเป็นครูสอนดำน้ำ
ทีนี้มาดูกันครับว่า #แบบที่เกิดขึ้นในข่าวเรียกว่าอะไร
#การดำน้ำแบบนั้นเป็นวิธีที่ไม่ได้มาตรฐานตาม standard หรือหลักสูตรที่ถูกต้องไม่ว่าจะของสถาบันดำน้ำใดก็ตาม
#วิธีที่ผิดเช่นนี้ ถูกเรียกกันเองในกลุ่มคนไทยว่า
#กิจกรรมดำน้ำแบบจิ้มจุ่ม
เริ่มมาจากกลุ่มคนไทยตามเกาะที่เป็นจุดดำน้ำท่องเที่ยวก่อน คนจีนและเกาหลีเริ่มเลียนแบบทำตามกันมาเรื่อยไป
โดยเริ่มต้นที่ภูเก็ต วิธีการคือ เรือจะนำนักท่องเที่ยว มาทำ Introduction อธิบายรายละเอียดนั้นๆประมาณ 30 นาที หรือที่เลวร้ายกว่านั้นคือ บรีฟให้ข้อมูลไม่ถึง 10 นาที
จากนั้นจะพาลงไปดำน้ำเลยโดยไม่มีการฝึกทักษะในน้ำมาก่อน ถ้าเป็นผู้ชายจะใช้มือล๊อคที่คอของถังอากาศแล้วจูงลาก
ส่วนถ้าเป็นผู้หญิงก็จะจับมือ
ไกด์บางคนเลวหน่อยก็จะเอามือโอบเอว แล้วพาดำประมาณ 10 นาที
ซึ่งการทำเช่นนี้ส่งผลเสียหายกับสิ่งแวดล้อมทางทะเลอย่างมาก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะไม่รู้วิธีควบคุมการจม-ลอย และการปรับสภาพการจมลอยให้นิ่งได้ ตีขาไม่ถูกวิธี เตะแบบสะเปะสะปะ (เพราะไม่เคยได้รับการสอนให้ฝึกปฏิบัติทักษะพื้นฐานที่จำเป็นในน้ำมาก่อน) ทำใ้ห้ตีนกบเตะปะการังแตกหักเสียหาย ซึ่งบางครั้งบางคนก็ Panic พุ่งขึ้นผิวน้ำและเสียชีวิตจากปอดฉีกก็บ่อยแต่ไม่เป็นข่าว
บริษัทหรือร้านดำน้ำตามเกาะที่ว่า จะเก็บเงินหัวละ 2,500-3,000 ต่อคน ไม่รวมค่าถ่ายรูป, เครื่องดื่มและอาหาร ลองคิดดูวันละ 300-500 คนในช่วง High seasonรับกันวันละเท่าไหร่?
พวกนายทุนที่มาลงทุน (ส่วนใหญ่จะเป็นต่างชาติ) ในช่วงแรกมักจะจ้างครูคนไทยที่รู้งานมาวางระบบ และจะเอาคนจีนหรือเกาหลีมาช่วย แต่พอเริ่มเป็นงานก็จะถีบคนไทยทิ้งและจะทำธุรกิจด้วยต่างชาติ 100%
ผมต้องการจะตีแผ่ความเลวร้ายกับการท่องเที่ยวของไทย และธุรกิจการดำน้ำ ถึงเวลาแล้วที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกรมทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล ต้องออกมาจัดการกับไอ้พวกจัญไรพวกนี้อย่างจริงจังแล้วครับ
สามารถแชร์โพสต์นี้ได้
ถ้าใครรู้จักผู้ใหญ่ในกระทรวงก็ช่วยส่งข้อมูลนี้ให้ด้วยครับ