น้ำแข็งกรีนแลนด์ละลาย ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้น 2.2 มิลลิเมตรในเวลาแค่ 2 เดือน
อากาศร้อนในหน้าร้อนปีที่แล้วจุดชนวนให้น้ำแข็ง 6 แสนล้านตันของกรีนแลนด์ละลายลง ส่งผลให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้น 2.2 มิลลิเมตรในระยะเวลาแค่ 2 เดือน
จากการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมพบว่า การละลายของน้ำแข็งเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ขั้วโลกเหนือมีอุณหภูมิสูงขึ้น ปีที่แล้วอาร์กติกทำลายสถิติอากาศร้อนที่สุด และมีการก่อตัวของน้ำแข็งในทะเลรอบปีเป็นรองบ๊วยจากทุกปีที่ผ่านมา
แตกต่างจากน้ำแข็งในทะเล การหายไปของกลาเซียบนพื้นดินทำให้ระดับน้ำในทะเลสูงขึ้นโดยตรง ทำให้เมืองริมฝั่งทั่วโลกตกอยู่ในอันตราย นักวิทยาศาสตร์คำนวณว่ามีชั้นน้ำแข็งของกรีนแลนด์ละลายรวม268 พันล้านตันในช่วงปี2002 ถึง 2019 น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของที่ละลายเฉพาะหน้าร้อนปีที่แล้ว
กลาเซียรอบโลกกำลังละลายเนื่องมาจากภาวะโลกร้อนที่วิกฤตจากน้ำมือมนุษย์ น้ำแข็งจะสะท้อนแสงอาทิตย์ แต่จะสะสมพลังงานความร้อนไว้ภายใน ทำให้ตัวน้ำแข็งละลายเร็วยิ่งขึ้น ตอนนี้น้ำแข็งกรีนแลนด์ละลายเร็วกว่าปี1990 ถึง 7 เท่า ซึ่งถ้าเป็นไปตามคาดการณ์จากข้อมูลล่าสุด น้ำทะเลจะสูงขึ้นจนทำให้ประชากร400ล้านคนต้องประสบภาวะน้ำท่วมทุกปี สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นในสิ้นศตวรรษนี้!!
งานวิจัยล่าสุดพบว่า ขั้วโลกใต้ แผ่นน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลก กำลังละลายลงอย่างรวดเร็วในด้านตะวันตกของขั้วโลกใต้ ซึ่งมันเป็นผลร้ายต่อระดับน้ำทะเลอย่างยิ่ง แต่เราก็พบว่ามีการเพิ่มขึ้นของน้ำแข็งทางด้านตะวันออก อันเป็นผลมาจากหิมะที่ตกมากขึ้น ซึ่งพอจะช่วยแบ่งเบาน้ำแข็งที่ละลายไปได้บ้าง
งานวิจัยทำให้เราเข้าใจความอันตรายของภาวะโลกร้อนที่ดูจะไม่หยุดยั้ง ถึงแม้ว่าทั่วโลกจะตกอยู่ในความสนใจของวิกฤตไวรัสโคโรน่า การประชุมวิกฤตโลกร้อนวางแผนที่จะจัดขึ้นปลายปีนี้ที่ Glasgow มีโอกาสถูกยกเลิกอันเป็นผลมาจากไวรัสโคโรนา ย่อมไม่เป็นผลดีกับการหาทางออกแก้ปัญหาระดับโลก
Richard Alley นักกลาเซียวิทยาจากมหาวิทยาลัย Penn State กล่าวว่่า "เทคนิคการติดตามน้ำแข็งจากภาพถ่ายดาวเทียม เป็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์ มันช่วยคำนวณน้ำหนักของแผ่นน้ำแข็ง พวกเรามักถูกดึงความสนใจไปกับข้อมูลที่ไม่แน่นอน ข้อมูลจากตัววัดสัญญาณที่แม่นยำเหล่านี้จึงสำคัญมาก มันจะช่วยบอกพวกเราว่า จริงๆแล้วเกิดอะไรขึ้น และทำให้เราเข้าใจกระบวนการที่จะนำไปสู่สัญญาณอื่นๆต่อไป"
อัตราเฉลี่ยการเพิ่มขึ้นของน้ำทะเลต่อปี ปี 1993-2007 อยู่ที่ 3.2 mm ต่อปี ปี 2007-2013 4 mm ต่อปี ปี 2014-2019 5mm ต่อปี แต่แค่ปี 2019 สองเดือน เพิ่มมาถึง 2.2 mm
โลกต้องแข่งกับเวลาที่เหลืออยู่ไม่มาก นักวิทยาศาสตร์คำนวณว่าภายในเวลาไม่ถึง 10ปี Carbon Budget หรือปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เราสามารถปล่อยเพิ่มขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศโดยไม่เกิดอันตรายจะหมดลง ถ้าเรายังปล่อยคาร์บอนขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศเรื่อยๆ และอุณหภูมิโลกเพิ่มเกิน 1.5C (ขณะนี้เพิ่มไปแล้ว 1.1C ) สภาวะอากาศและระบบนิเวศน์จะเสียหายถาวร ไม่อาจย้อนคืน น่าเศร้าที่ภาวะโลกร้อนได้รับการเตือนมาเป็นสิบกว่าปีแล้ว แต่ผู้นำประเทศต่างๆไม่ลงมือแก้ไข ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล แหล่งก๊าซเรือนกระจกมหาศาล แต่ต่างกลับโคโรนาไวรัส ที่มีมาตรการฉุกเฉินเป็นรูปธรรมชัดเจน ทั้งๆที่ทั้งสองอย่างเป็น emergency ไม่แพ้กัน
https://www.theguardian.com/…/greenland-ice-melt-sea-level-…
https://public.wmo.int/…/global-climate-2015-2019-climate-c…
