喜欢吃火锅的朋友注意啦!昨天我到了刚开张不久的鲜家煲庆祝生日。鲜家煲是间 *怀旧* 港式火锅店,位于Damansara Uptown。他们家的 *黄金花胶鸡汤底即美味又鲜甜*,全都是大厨亲自腮选食材,精心熬煮8个小时而成, *全都是原汁原味完全没添加味精哦!*
经大厨介绍,我们点了三个不同的汤底,有他们的招牌鲜家黄金花胶鸡汤煲,鲜家顶级麻辣煲还有大厨自制的酸菜汤煲。告诉你们,他们家的汤底真的不是盖的, 试过你会懂! *小心上瘾哦!*
还有他们家的独家功夫手打滑和手打丸也一定不能错过,选择多样化,辣椒墨斗滑,黑松露虾滑,杂锦手打丸拼盘等,独特!美味!爽口!
除了一楼的用餐区外,二楼有4间以四大天王命名的包厢,三楼更有间可容纳30人的VIP包厢,全部房间都备有卡拉OK系统!
鲜家煲除了星期一休息之外,其他日子的营业时间从下午5点到凌晨12点。即可享用美味火锅餐又可以唱K当歌王,why not?
从服务一级棒的服务员口中得知,原来他们也有做外卖。更多详情可向热线询问 📞0177716522,或到他们的社交网站咨询。
⭐️fb.com/xingapot
⭐️ instagram.com/xingapot
Address : No. 58 (1st, 2nd & 3rd Floor, Jalan SS 21/58, 47400 Petaling Jaya, Selangor
Use Waze to drive to xingapot: https://waze.com/ul/hw283b7nk4
Good news for those hot pot lovers 🎉🎉 I celebrated my birthday yesterday at a newly open steamboat restaurant 🍲located in Damansara Uptown, which inspired by the old Hong Kong style! Their Golden Fish Tripe Chicken Soup is superbly good, made with super fresh chef-select ingredients and cooked for *8 hours straight* without any MSG added!
Chef recommended us three soup base yesterday, we ordered the *Golden Fish Tripe Chicken Pot*, *Xingapot Premium Mala Pot* and the *Pickled Cabbage Pot* .Don't play play, their soup really good, you will get addicted to it!
Not forgetting their homemade handmade items, their Chili Squid Paste, Truffle Prawn Paste, Mixed Handmade Platter are some of the must-try items! You can't not taste it elsewhere!
Besides the open dining area, they have a number of private rooms with professional karaoke system installed 🔥
Their daily operation hour are from 5pm till 12am daily, and they are off on every Monday. Great food with awesome karaoke system, why not right?
I also found out that they do delivery as well. For more information you may contact their Hotline 📞0177716522 or reach out to their social media platform.
⭐️FB :Fb.com/xingapot
⭐️IG :instagram/xingapot
Address : No. 58 (1st, 2nd & 3rd Floor, Jalan SS 21/58, 47400 Petaling Jaya, Selangor
Use Waze to drive to xingapot: https://waze.com/ul/hw283b7nk4
同時也有9部Youtube影片,追蹤數超過47萬的網紅DESTINASI TV,也在其Youtube影片中提到,E-Vouchers have expired but here’s another awesome deal. Enjoy 10% OFF all menu items including burgers, steaks and main course. Available for pick-u...
「food delivery platform」的推薦目錄:
- 關於food delivery platform 在 Facebook
- 關於food delivery platform 在 ลงทุนแมน Facebook
- 關於food delivery platform 在 ลงทุนแมน Facebook
- 關於food delivery platform 在 DESTINASI TV Youtube
- 關於food delivery platform 在 Zermatt Neo Youtube
- 關於food delivery platform 在 KIM THAI Youtube
- 關於food delivery platform 在 Food-Delivery Apps vs. Restaurants: The Covid Divide | WSJ 的評價
food delivery platform 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
สรุป แนวคิดอนาคตแพลตฟอร์มไทย จากคุณยอด CEO ของ LINE MAN Wongnai
เมื่อคืนที่ผ่านมา ลงทุนแมนมีโอกาสได้เข้าไปฟังเรื่องราวน่าสนใจใน Clubhouse
ในห้องที่มีการพูดคุยถึงประเด็น อนาคตของแพลตฟอร์มไทย “LINE MAN Wongnai”
โดยมี คุณยอด ชินสุภัคกุล CEO ของ LINE MAN Wongnai เป็นผู้ฉายภาพให้ผู้ฟังกว่า 1,000 คนได้ฟังกันแบบสด ๆ
เรื่องราวนี้จะมีความน่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
“หลังจากทำงานมากว่า 5 เดือน ผลลัพธ์ดีกว่าที่เราคิดไว้”
และวิกฤติโควิด 19 เป็นแรงกระตุ้นสำคัญ ที่ทำให้ธุรกิจ Food Delivery เติบโตอย่างก้าวกระโดด
นี่คือประโยคแรก ๆ ที่ คุณยอด CEO ของ LINE MAN Wongnai ได้เล่าขึ้นมา
เมื่อถามคุณยอดว่า ตั้งแต่เกิดการควบรวมกิจการระหว่าง Wongnai และ LINE MAN อะไรคือสิ่งที่เปลี่ยนไป ?
คุณยอดตอบว่า เมื่อ 2 องค์กรควบรวมกิจการเป็นหนึ่งเดียว สิ่งสำคัญที่สุด คือ การสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ถึงจะปรับจูนวัฒนธรรมของสององค์กรเข้าด้วยกันได้
เป้าหมายของเรากับทีมงานคือการสร้างความเชื่อมั่นให้กับทีม
โดยเริ่มจากการทำความเข้าใจในทีมงานไลน์แมนว่าเป็นอย่างไร คิดเห็นอย่างไร
และเราต้องแสดงให้เห็นว่า ตัวเรามีมาตรฐานในการตัดสินใจอย่างไร แสดงความเป็นตัวตน
แสดงให้เห็น “common enemy” คือมองว่า ศัตรูอยู่ข้างนอก ไม่ใช่ภายในองค์กร
เมื่อภายในองค์กรเกิดความเข้มแข็งแล้ว การรับมือกับความท้าทายภายนอก ก็ไม่ใช่เรื่องยาก..
ในตอนนี้ธุรกิจ Food Delivery ก็ได้เติบโตขึ้นมาก
ยอดออร์เดอร์ของ LINE MAN ในปี 2563 สูงขึ้นกว่า 5 เท่า จากปีก่อนหน้า
POS (Point of sale) หรือจุดชำระเงินหน้าร้าน โตขึ้น 3.5 - 4 เท่า
รวมทั้ง ยังสามารถขยายพื้นที่บริการจนครอบคลุม 36 จังหวัด จากเดิมมีเพียง 7 จังหวัด
เรียกได้ว่า LINE MAN Wongnai เป็นอีกหนึ่งผู้ได้รับผลประโยชน์จากโควิด 19
แต่.. ก็ต้องยอมรับว่าในฝั่ง media นั้นอยู่ในภาวะชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา
เมื่อถามว่า ในวันที่สนาม Delivey กำลังดุเดือด อะไรคือจุดแข็งที่ทำให้ลูกค้าเลือก LINE MAN Wongnai ?
คุณยอดบอกว่า เราให้ความสำคัญเรื่อง Choice (ทางเลือก) กับร้านอาหาร
มีให้เลือกทั้งแบบ GP หรือ Non-GP ก็ได้ ถ้าร้านอาหารมีกลุ่มลูกค้าอยู่แล้ว
ก็สามารถเลือกแบบ Non-GP ได้
สำหรับผู้บริโภค เรามีร้านค้ากว่า 300,000 ร้าน ตั้งแต่ถูกสุดไปจนถึงแพงสุด ให้เลือกทาน
รวมทั้งการมี “local mindset” หรือออกแบบบริการให้เหมาะกับคนในพื้นที่
ไม่ใช่แค่ระดับจังหวัด แต่จะลงไปให้ถึงระดับอำเภอ
อีกทั้งมีการใช้ Ecosystem ของ LINE ให้เป็นประโยชน์
เช่น Mini-app สั่งผ่านไลน์ได้เลย ซึ่งอยู่ในส่วนของ Wallet ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องโหลดแอปเพื่อมาสั่ง
ส่วน Restaurant solution (ระบบจัดการสำหรับร้านอาหาร) เราจะใช้ Point of sale หรือจุดชำระเงินหน้าร้านให้เป็นประโยชน์ในการดูแลร้านอาหาร เชื่อมต่อออนไลน์ ออฟไลน์ รองรับทุกการบริการให้ครบ จบในตัว
ส่วนในเรื่องของคู่แข่งและขนาดตลาด Food Delivery
ก็ยังมีโอกาสขยายตัวอีกเยอะ เพราะยังมีคนที่ยังไม่ได้ใช้งานอยู่อีกมาก
เปรียบเทียบง่าย ๆ ว่า ตอนนี้เราเดินอยู่ครึ่งทางของเกม
เพราะตลาด Food Delivery เริ่มจริงจังในปี 2018 ซึ่งก็ผ่านมาเพียง 4 ปี
ยังมีโอกาสที่ Food Delivery จะโตต่อไปได้
เมื่อถามว่า อะไรคือเป้าหมายสำคัญของ LINE MAN Wongnai ?
คุณยอดตอบว่า เราต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อน ว่าเราทำสิ่งนี้ไป เพื่ออะไร
ซึ่งตรงนี้เรารู้ว่า เราทำไปเพื่อให้ชีวิตคนไทยดีขึ้น ร้านอาหารค้าขายได้ คนขับรถมีรายได้
คนใช้งานได้มีช่องทางสะดวกในการสั่งอาหารทานได้
มากกว่านั้น คือเราต้องการจะเป็น “E-Commerce Platform for Services”
หมายถึงรองรับรูปแบบบริการหลากหลายในอนาคต ไม่ใช่แค่เรื่องอาหาร
แต่ยังรวมถึง การขนส่งคน, การขนส่งสิ่งของ, การให้บริการสปาที่บ้าน
สิ่งสำคัญคือ การสร้างทีมงานที่เป็นคนไทย เพื่อทำบริการให้คนไทยอย่างแท้จริง
รายได้หลักตอนนี้มาจากส่วนที่เป็นดิลิเวอรีเป็นส่วนใหญ่
และถือว่าบริษัทกำลังอยู่ในช่วงที่ดีมากขึ้น เรียกได้ว่าเข้าใกล้จุดคุ้มทุนมากขึ้น
เมื่อถามคุณยอดว่า แผนธุรกิจในปี 2564 นี้ และในอนาคต มีอะไรบ้าง ?
คุณยอดตอบว่า เราจะเปิดบริการดิลิเวอรี LINE MAN Wongnai ให้ครบ 77 จังหวัดทั่วไทย และจะเริ่มดำเนินกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น
เริ่มจากแคมเปญ “LINE MAN Food Hero” ซึ่งเป็นแคมเปญการตลาดครั้งใหญ่ที่สุด
ที่ LINE MAN Wongnai เคยทำมา
โดยไฮไลต์ของแคมเปญ ก็คือ “นายฮ้อย-ล่ามทรง” นักรีวิวอาหาร
ในฐานะ Eating Master ที่จะมาเป็น “Food Hero” หรือแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของ LINE MAN Wongnai ที่จะเป็นตัวแทนของคนธรรมดา ๆ เข้าถึงได้ง่ายในสายตาผู้บริโภค
ด้านแผนระยะยาวของ LINE MAN Wongnai
คือ “Help Thai People Live Better” หรือก็คือ ช่วยให้ชีวิตคนไทยดีขึ้น
โดยอาศัยจุดเด่นเรื่อง Ecosystem เต็มที่ครบวงจร
ใช้จุดแข็งที่เป็นพาร์ตเนอร์ร่วมกันกับ LINE
เชื่อมต่อลูกค้า, คนทำงาน และธุรกิจท้องถิ่นเข้าด้วยกัน
แล้วเส้นชัยวันนี้ ของ LINE MAN Wongnai อาจไม่ใช่ ยูนิคอร์น อีกต่อไปแล้วหรือไม่ ?
คุณยอดยอมรับว่า วันนี้เราเข้าใกล้ ยูนิคอร์น มากขึ้นเรื่อย ๆ
แล้วเราไม่ค่อยเห็นคนที่เป็น ยูนิคอร์น ที่พูดถึงยูนิคอร์น กันสักเท่าไร
เพราะการจะเติบโตไปให้ไกลหรือยั่งยืน ไม่ได้มีแค่ประเด็นนี้เท่านั้น
5 เดือนที่แล้ว เราเป็นสตาร์ตอัป และมีเป้าหมายจะเป็นยูนิคอร์น
ผ่านมาวันนี้ เราโตขึ้น 5 เท่าตัว และยูนิคอร์น อาจไม่ใช่เป้าหมายของเราที่ต้องการอีกแล้ว
เพราะเราต้องการสร้างคุณค่าให้กับสังคม
มากกว่าแค่การสร้างตัวเลขที่จะเป็นยูนิคอร์น..
แรงผลักดันสำคัญในตอนนี้ คือทำยังไงให้คนขับรถมีรายได้มากขึ้น
คนขายอาหาร สามารถขายอาหารได้มากขึ้น
รวมทั้ง ผู้ใช้งาน ที่อยากจะกลับมาใช้งานซ้ำไปเรื่อย ๆ
ปัจจัยเชื่อมโยงเหล่านี้ คือแรงผลักดันสำคัญในวันนี้
ที่ทำให้เราอยากจะท้าทายความสำเร็จต่อไปเรื่อย ๆ ในอนาคตข้างหน้า
การจะไปให้ถึงเป้าหมายใหญ่ได้ ก็ต้องฝึกการมองไปให้ไกล
แต่แน่นอนว่า ก็ยังมีทีมงานบางส่วนที่ต้องวางเป้าหมายในระยะสั้น ๆ
เพราะการทำงานต้องถูกวัดด้วย KPI ตัวเลขต่าง ๆ อีกมากมาย
แต่ในฐานะ CEO ก็ต้องฝึกให้ทุกคนมองเป้าหมายระยะยาว
ควบคู่ไปกับการทำเป้าหมายระยะสั้นให้ได้ด้วยเหมือนกัน การทำธุรกิจถึงจะไปต่อได้อีกยาว
เมื่อถามคุณยอดว่า ความเป็นผู้นำจากวันแรกถึงวันนี้ มีอะไรที่เหมือนหรือต่างจากเดิม ?
คุณยอดให้คำตอบว่า บริษัทขนาดเล็ก ที่มีพนักงาน 10 - 30 คน เราจะเน้นไปที่เรื่องของ Hard-Skills
อย่างเช่น ทักษะเฉพาะในเรื่องของการตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์
เมื่อถึงช่วงที่บริษัทมีขนาดกลาง ควรเริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องของวัฒนธรรมองค์กรมากขึ้น
โดยมองหาทีมงานที่มีความเหมาะสมกับองค์กร
และปัจจุบัน ในวันที่กลายเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีแถวหน้าของไทย
มีพนักงานกว่า 700 - 800 คน แน่นอนว่าหลักในการบริหารจัดการต้องเปลี่ยน
ต้องใช้คนอื่น ๆ มาทำงานแทนตัวเองมากขึ้น ต้องหาวิธีในการบริหารจัดการคนเก่ง ๆ
หรือหาวิธีที่จะดึงคนเก่ง ๆ ให้เข้ามาอยู่ในบริษัท
เพื่อให้เขาเข้าไปดูแลทีมงานในส่วนอื่น ๆ ได้อย่างใกล้ชิด
แต่ส่วนที่ยังคงเหมือนเดิมก็คือ
1. ความอึด (Grit)
ไม่ว่าบริษัทจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ เราที่เป็นผู้นำก็จะต้องทำงานให้หนักและต้องไม่ยอมแพ้
แต่ก็จะต้องหาจุดสมดุลให้ตัวเองได้พัก เพราะการพักมันจะทำให้เรากลับมามีแรงมากขึ้น
2. การบอกเล่าเป้าหมายของเรา (Storytelling)
เราต้องบอกทุกคนว่าสิ่งที่เราจะไปถึงคืออะไร ทั้งตอนที่อยู่ในช่วงกำลังจะจ้างพนักงานใหม่
ตอนบริหารจัดการทีม เราต้องบอกพวกเขาให้ชัดว่าเรากำลังจะไปในทิศทางไหน
ในอนาคต คุณยอด ก็ได้วางอีกหนึ่งเป้าหมาย คือ ต้องการทำให้พนักงานมีความมั่นคงมากขึ้น
เมื่อพนักงานมีความมั่นคงในชีวิต อัตราการลาออกก็จะน้อยลง บริษัทก็จะไปถึงเป้าหมายได้เร็ว
เมื่อถามคุณยอดว่า ถ้าอยากเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในแพลตฟอร์มของ LINE MAN Wongnai ต้องมีเทคนิคอะไร ?
คุณยอดให้คำแนะนำว่า
LINE MAN Wongnai ก็เป็นเหมือนกับ Marketplace
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่จะทำให้สินค้าของเราโดดเด่นในตลาด
จะต้องให้ความคุ้มค่า ทั้งคุณภาพสินค้าและราคา
และถ้าหากว่าเรามั่นใจในคุณภาพของสินค้าแล้ว
สามารถติดต่อทีมงานของ LINE MAN Wongnai ได้ทันที
ว่ากำลังจัดแคมเปญอะไรบ้าง หรือมีอะไรที่ Exclusive หรือพิเศษ ที่จะช่วยดึงลูกค้าเข้ามามากขึ้น
ซึ่งการที่ร้านค้าเข้าร่วมในทุก ๆ แคมเปญ
ก็จะเป็นการเปิดประตู ให้ลูกค้าที่ไม่เคยรู้จักแบรนด์มาก่อน
ได้เข้ามาทำความรู้จักแบรนด์
ในครั้งแรกลูกค้าอาจจะเข้ามาซื้อเพราะโปรโมชัน
แต่ถ้าเขารู้สึกว่าสินค้าของคุณคุ้มค่า มีคุณภาพ ครั้งต่อไปเขาก็จะมาซื้อกับคุณอีก
การเข้าร่วมแคมเปญต่าง ๆ จึงถือเป็นการลงทุนให้ได้ลูกค้าประจำในอนาคต
อนาคตของสตาร์ตอัป จะเป็นอย่างไร หลังจากจบโควิด 19
และในสนามดิลิเวอรี อะไรจะเป็นตัววัดผู้ชนะ ?
คุณยอดแชร์มุมมองว่า
ในวันนี้สตาร์ตอัปแข่งอยู่บนสนามระดับโลก ตั้งแต่วินาทีแรกที่ตั้งบริษัท
ดังนั้น มันยากมากที่จะแข่งขันสู้เจ้าอื่น ๆ ได้
นอกเสียจากว่าเราจะเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่มาก ๆ
เพราะถ้าเป็นแพลตฟอร์มอย่าง Social Media ไม่มีจุดแข็งอื่น ๆ ก็จะแข่งขันกับเจ้าใหญ่ ๆ
ที่อยู่ในประเทศไทยมานานแล้วได้ยาก
และสำหรับในสนาม Food Delivery..
สิ่งที่จะเป็นตัวชี้วัดผู้ชนะในมุมมองของคุณยอดก็คือ
คนที่สามารถทำให้ ผู้ใช้งาน (User), ร้านอาหาร-ร้านค้า, พาร์ตเนอร์ เช่น คนขับ
ได้ประโยชน์และได้รับความสะดวกมากที่สุด ไปพร้อม ๆ กัน
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าการทำธุรกิจ เราเดินไปถูกหรือผิดทาง ?
ในมุมมองของคุณยอด การทำสตาร์ตอัป เราต้องมีความเชื่อมั่น มีความดื้อรั้น
ว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง
เพราะถ้าไม่มีความเชื่อมั่น เราก็จะยอมแพ้ง่ายเกินไป
แต่ในความมั่นใจและความดื้อรั้นเหล่านี้
ต้องอยู่บนพื้นฐานของไอเดียที่ดี และการเล่าเรื่องให้เป็น
และวิธีที่จะดูว่าไอเดียเราเวิร์กหรือไม่นั้น
ให้ดูว่ามีเพื่อนหรือทีมงานเข้ามาร่วมทีมกับเรามากแค่ไหน
เพราะไอเดียที่ดี จะซื้อใจคนได้
และต้องดูตลาดด้วยว่าใหญ่เพียงพอหรือมีโอกาสเติบโตหรือไม่ ?
หากเรามีแต่ความอึด แต่ไปอยู่ในตลาดที่ผิด ก็ไม่เติบโต
สิ่งที่สำคัญอีกเรื่องก็คือ การฝึกมองไปข้างหน้าว่าอะไรจะเกิดขึ้น
คุณยอดยอมรับว่า เราไม่สามารถคาดการณ์ทุกอย่างได้อย่างแม่นยำ
แต่เราต้องเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ที่หลากหลายให้ได้
เช่นเดียวกับ LINE MAN Wongnai ที่ต้องการทำให้ธุรกิจมีความหลากหลาย
และการร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับ LINE ทำให้ Wongnai ไม่ถูกจำกัดอยู่กับธุรกิจมีเดีย
แต่มีฟูดดิลิเวอรี มีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว หรือแม้แต่สปาความงาม ที่แข็งแกร่งมากขึ้น
เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันมากระทบกับธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง เราก็จะรับมือกับสถานการณ์ได้ดี
สุดท้ายนี้ สิ่งสำคัญไม่ว่าจะเป็นคนที่ทำสตาร์ตอัป หรือคนทำธุรกิจ SMEs
เราทุกคนต้องมองอนาคต และการทำให้ธุรกิจมีความหลากหลาย เป็นเรื่องสำคัญ
และคุณยอดก็ได้ปิดท้ายจุดยืนของ LINE MAN Wongnai ไว้ว่า..
LINE MAN Wongnai จะเป็นแพลตฟอร์มสัญชาติไทย
ที่จะเข้ามาช่วยให้ชีวิตของคนไทยทุกคนดีขึ้น
ออกแบบนวัตกรรมเพื่อคนไทย พร้อมกับ Local Mindset
และเคารพทุกความคิดเห็นจากทั้งร้านอาหาร คนขับ และผู้ใช้งานทุกคน
เพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มที่เข้าใจคนไทย และตอบโจทย์คนไทยได้มากที่สุด..
food delivery platform 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
กรณีศึกษา เหตุผลของ อินทนิล ที่ต้องใช้ แก้ว Bio Cup จนเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน
ลงทุนแมน x อินทนิล
“แก้ว Bio Cup ต้นทุนแพงกว่าแก้วที่ทำจากฟอสซิลเกือบ 3 เท่า”
“ซึ่งแปลว่าในทุกๆ แก้วที่ขาย อินทนิล จะกำไรน้อยกว่าคู่แข่ง”
คุณชัยวัฒน์ โควาวิสารัช CEO บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
เคยสนทนากับ ลงทุนแมน ถึงธุรกิจร้านกาแฟ อินทนิล ที่มีต้นทุนสูงกว่าแบรนด์ทั่วไป
แล้วเมื่อเราได้ยิน ก็ได้ไปค้นหาข้อมูลเชิงลึกจนพบตัวเลขที่น่าสนใจ
ในปี พ.ศ. 2563 อินทนิล มียอดการผลิต Bio Cup ที่ทำจากพืช 100% ย่อยสลายได้โดยธรรมชาติ อยู่ที่ 1.5 - 2 ล้านใบต่อเดือน
ขณะที่ร้านกาแฟที่ผลิตแก้ว Bio Cup เป็นอันดับสอง มียอดการผลิตอยู่ที่ 2 - 3 แสนใบต่อเดือน
นอกจากยอดการผลิตแก้ว Bio Cup จำนวนมหาศาลที่ทิ้งห่างคู่แข่งอย่างขาดลอยในประเทศแล้วนั้น
อินทนิล ยังสร้างสถิติในการเป็นบริษัทที่ใช้พลาสติกชีวภาพมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในอาเซียนด้วย
(อ้างอิง ข้อมูลจากบริษัท Vandapac และ Nature Works ผู้ผลิตแก้วพลาสติกชีวภาพรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และ ผู้ผลิตเมล็ดพลาสติกชีวภาพรายใหญ่ที่สุดในโลก)
แล้วทำไม อินทนิล ถึงเลือกใช้ Bio Cup
ที่ทำให้การขายมีกำไรต่อแก้วน้อยกว่าคู่แข่ง
ลงทุนแมน จะเล่าให้ฟัง
เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปที่บริษัทแม่อย่าง บางจาก ผู้เป็นเจ้าของแบรนด์ อินทนิล
บริษัท บางจาก ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2527 ทำธุรกิจกลั่นและผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ
โดยวางนโยบายไว้ว่าจะทำธุรกิจ “พลังงานสีเขียว เพื่อสิ่งแวดล้อม”
ซึ่งในอดีตปั๊มน้ำมัน บางจาก จะมีร้านกาแฟหลากหลายแบรนด์ มาเปิดให้บริการ
แต่ละร้านก็มีวิธีทำธุรกิจที่แตกต่างกันไป
จนในเวลาต่อมา ทีมผู้บริหารคิดว่าอยากสร้างร้านกาแฟในปั๊มให้มีมาตรฐานเดียวกันหมด
โดยอยู่บนโจทย์ที่ว่าต้องสะท้อนถึงแนวความคิดขององค์กร
ในปี พ.ศ. 2549 บางจาก เปิดให้บริการ ร้านอินทนิล สาขาแรก
พร้อมกับวาง Concept เป็น “ร้านกาแฟสีเขียว เพื่อสิ่งแวดล้อม”
จึงทำให้ตลอดเวลาที่ผ่านมา อินทนิล มีนโยบายการตลาดที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมต่อเนื่อง...
พ.ศ. 2554 อินทนิล เป็นร้านกาแฟแบรนด์แรกๆ ในประเทศไทยที่ลดราคา 5 บาท ให้ลูกค้าที่นำแก้วมาเอง
พ.ศ. 2558 เปลี่ยนมาใช้ Bio Cup ที่ผลิตจากพืช 100% ย่อยสลายภายใน 180 วัน ด้วยต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า
ขณะที่ในเวลานั้น ร้านกาแฟส่วนใหญ่ยังเป็นแก้วพลาสติก
ที่ใช้เวลาย่อยสลายนาน 450 ปี
ความน่าสนใจอยู่ที่ อินทนิล ไม่ได้มองแค่เรื่องแก้วอย่างเดียว
เพราะการซื้อกาแฟ 1 แก้วลูกค้ายังเกี่ยวข้องกับบรรจุภัณฑ์อื่นๆ
พ.ศ. 2561 อินทนิล ทดลองใช้ฝายกดื่ม เพื่อตัดวงจรการใช้หลอดพลาสติกในเมนูเย็นซึ่งเป็นเครื่องดื่มหลัก
พ.ศ. 2562 เปลี่ยนมาใช้หลอดพลาสติกชีวภาพ สำหรับเมนูปั่นที่ยังจำเป็นต้องใช้งาน
และเปลี่ยนพลาสติกที่เคลือบแก้วกระดาษในเมนูร้อน เป็นพลาสติกชีวภาพ
ก่อนประกาศแคมเปญ Inthanin Natural Cup ในวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน ปีเดียวกัน
รวมถึง #ไม่หลอดเนาะ แคมเปญรณรงค์งดการใช้หลอด ซึ่ง อินทนิล เป็นแบรนด์เอกชนรายแรก
ที่ได้รับความร่วมมือจากกลุ่ม Greenery คอมมิวนิตีสีเขียวที่สนับสนุนโดย สสส.
ทีนี้คงเกิดคำถามว่า ถึง Bio Cup จะเป็นพลาสติกชีวภาพย่อยสลายเร็ว
แต่...จะดีกว่านี้ไหม หากนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากกว่าแค่เป็นขยะ
เรื่องนี้เลยทำให้ อินทนิล ร่วมมือกับกรมป่าไม้จัดทำโครงการ “แก้วเพาะกล้า”
โดยใช้วิธีให้ลูกค้านำแก้วใช้แล้ว มาแลกรับส่วนลด 5 บาท
จากนั้นแก้วเหล่านี้ จะถูกส่งไปที่กรมป่าไม้ นำไปเพาะชำต้นกล้าแทนถุงพลาสติก
จะเห็นว่า อินทนิล มีจุดยืนชัดเจนถึงการเป็นร้านกาแฟที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมกับบอกลูกค้าว่า
“1 แก้วของ อินทนิล ไม่ใช่แค่การดื่มกาแฟ แต่คือการบริโภคด้วยจิตสำนึกที่ดี และร่วมรับผิดชอบโลกใบนี้ไปพร้อมกัน”
สิ่งที่หลายคนอยากเห็นก็คงไม่ใช่แค่ ร้านกาแฟ อินทนิล ที่มีแนวคิดเช่นนี้
เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่า ลึกๆ ในใจทุกคน ก็อยากเห็นทุกบริษัทในทุกอุตสหกรรม ร่วมกันปกป้องโลกใบนี้ ที่กำลังป่วยด้วยสารพัดโรคอันมีต้นเหตุมาจากการทำร้ายสิ่งแวดล้อม
จนถึง ตัวเราเอง ที่ต้องช่วยกันรักษาโลกใบนี้ของเรา ให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม
ปิดท้ายข้อมูลที่น่าสนใจ
การระบาดของโควิด 19 เมื่อต้นปีที่แล้ว ทำให้หลายธุรกิจได้รับผลกระทบ
เมื่อร้านกาแฟยอดขายลดลง โรงงานผลิตแก้วกาแฟก็ได้รับผลกระทบไปด้วย
ยกเว้น ยอดผลิตแก้ว Bio Cup ของอินทนิล ที่แม้จะสะดุดเล็กน้อยในช่วงแรก
แต่ก็สามารถกลับมายืนที่จำนวนการผลิตเดิม และมากขึ้นกว่าเดิมในช่วงครึ่งปีหลัง
สาเหตุหนึ่งมากจาก การมุ่งทำการตลาดบน Online Platform อย่างต่อเนื่อง
จนกลายเป็น Best Coffee ของ Gojek และ Best Operation ของ GrabFood ในปีที่ผ่านมา
รวมถึงเป็นร้านกาแฟรายเดียวที่ได้รับรางวัลจาก App Food Delivery ทั้ง 2 รายนี้
สำหรับการกลับมาของโควิด 19 ระลอกใหม่นี้
ลงทุนแมน เชื่อว่า อินทนิล จะเดินหน้าเต็มที่ บน App Food Delivery อย่างแน่นอน
food delivery platform 在 DESTINASI TV Youtube 的評價
E-Vouchers have expired but here’s another awesome deal.
Enjoy 10% OFF all menu items including burgers, steaks and main course.
Available for pick-up and delivery only.
Order online https://www.adbutcherandsteak.com/menu
Perkhidmatan lain di AD Butcher & Steak:
Menerima tempahan “birthday celebration” dan juga “company dinners"
AD Butcher & Steak merupakan sebuah restoran yang terletak di Bukit Jelutong, Shah Alam yang menghidangkan hidangan stik daging yang premium. Disini terdapat pelbagai jenis pilihan daging yang disajikan seperti grainfed, angus dan wagyu.
Antara keistimewaan Restoran AD Butcher & Steak adalah mereka menghidangkan stik selepas tempoh penuaan atau lebih dikenali sebagai Dry Aged Steak. Proses ini bermula dari keseluruhan bahagian daging tersebut disimpan di dalam sebuah peti khas dan akan melalui satu proses penuaan. Proses ini akan membuatkan daging tersebut menjadi lebih lembut dan menghasilkan rasa yang dalam dan unik.
Dalam episod ini, Masterchef Malaysia Dato Fazley Yaakob bertemu dengan Pemilik AD Butcher & Steak dan ingin mengetahui mengenai proses penuaan daging premium disini.
? AD Butcher & Steak
?21, Trivo Jelutong, Seksyen U8 DE, Jalan Bazar P U8/P, Bukit Jelutong 40150 Shah Alam Selangor
? Dibuka setiap hari dari 12 tengahari sehingga 10 malam
☎️ 03-5590 8086
Bermula pada tahun 2017, Destinasi TV melihat budaya kulinari dan darmawisata sebagai pintu kepada sejarah, tradisi dan evolusi masyarakat tempatan.
Merupakan sebahagian dari Kumpulan Manggis (https://manggis.group), Destinasi TV menghasilkan siri video digital yang menghiburkan, mendidik dan berkualiti tinggi untuk tayangan umum secara percuma di platform seperti Youtube, Facebook, Instagram, IFlix dan Dim Sum.
Destinasi TV terkenal dengan siri video digital seperti “Mat Salleh Cari Makan”, “Kembara Ramadan Rhys”, “Pilihan Terbaik”, “Sembang Bros”, “The Nasi Lemak Show”, dan “Trek Artisan”.

food delivery platform 在 Zermatt Neo Youtube 的評價
For this episode, we destroyed a $1,111 Sushi Challenge Mukbang courtesy of ShopBack! We bought more than $1,000 worth of vouchers on ShopBack that we used on delivery platforms (GrabFood, Deliveroo and FoodPanda) to order a host of sushi and alcohol. ShopBack is a cashback and reward platform that allows you to get a certain % of cash back with every purchase, with over 1,000 brands available on the platform.
We ordered so much that we genuinely lost track of the food, but it was an overall enjoyable mukbang experience as we ate a variety of fresh sushi and sashimi from restaurants all over Singapore. We even rounded it off with refreshing cider and wine that woke our palates. To top it all off, we got 10% ($100+) of cash back thanks to ShopBack! We valiantly pushed through this mukbang but with such a truly massive amount of food, we were unable to complete the Sushi Challenge. None of the food went to waste, being given to friends, family and foreign workers.
Even more, ShopBack’s 11.11 sale is back! ShopBack's 11.11: The Internet's Biggest Sale - shop from 600 of your favourite merchants at the best prices on the internet and stand a chance to win more than $11,000 worth of giveaways, $25,000 of bonus cashback and exclusive super-cute Cashback Trooper plushies!
For my foodie-fans - there will be a Pizza & BBT party going on at midnight, noon and 10pm with $1 and $2 deals that will surely be snapped up - so get there early, fastest fingers first! There will be a LOT going on so if you are going to do any shopping at all online, this would be the best time - use my link below and get $5 for free!
ShopBack link:
https://app.shopback.com/sf2020zermatt
Connect with me!
Facebook - https://www.facebook.com/zermattneofls
Instagram - http://instagram.com/zermattneo
Use code ZERMATT for 58% off ALL Myprotein products.
For those that are interested in doing Invisible Braces:
https://bit.ly/zermattneo-yt
Use code ZERMATT100 for special discount!
Hair Sponsor - Toliv Salon
5 Purvis Street, #01-03, Singapore
https://www.facebook.com/tolivboutique

food delivery platform 在 KIM THAI Youtube 的評價
⚡️ SHOP MY MERCH: https://shopkimthai.com ⚡️
⚡️ SHOP MY MERCH: https://shopkimthai.com ⚡️
⚡️ SHOP MY MERCH: https://shopkimthai.com ⚡️
? Partnerships and Sponsorships: nikki@expandentertainment.co
? Instagram: https://www.instagram.com/kkimthai
? Subscribe to my Food Channel: https://www.youtube.com/channel/UC5zak5tqTE3JJFtiIpXyOnA
Living Spaces Delano Pearl 3 Piece 169" Sectional With Left Arm Facing Chaise: https://www.livingspaces.com/pdp-delano-pearl-3-piece-sectional-with-left-arm-facing-chaise-257848?_br_psugg_q=delano+sectional&query=delano
* I think the color fabric we got was "Pearl" or "Preference Cream".
? H I F R I E N D S
Welcome to my channel, where we do things all beauty, fashion and lifestyle! Here, you'll find makeup tutorials, lookbooks, my favorite beauty products and also a glimpse into my life! I love sharing as much as I can with all my wonderful subscribers. My online family and I like to keep this platform positive and uplifting. We hope you'll join us!
Federal Trade Commission: This video is not sponsored.
? Music by Zachary Friederich - Loddy Da (Instrumental) - https://thmatc.co/?l=69F49CC4
? Music by Zachary Friederich - Loddy Da (Instrumental) via @hellothematic
? Music by Dylan Rockoff - Coming Home - https://thmatc.co/?l=921BAD47
? Music by @dylanrockoff - Coming Home via @hellothematic

food delivery platform 在 Food-Delivery Apps vs. Restaurants: The Covid Divide | WSJ 的八卦
Demand for food delivery has soared amid the pandemic, but restaurants are struggling to survive. In a fiercely competitive industry, ... ... <看更多>