Little Women (2019) เข้าฉาย 9 มกราคมนี้
• ชอบที่หนังกระจายเรื่องราวของทั้ง 4 พี่น้อง ถึงน้ำหนักจะเทมาทางโจ มาร์ช ในฐานะคนเล่าเรื่องมากสุด แต่หนังก็ยังแบ่งไปเล่าอีก 3 คนในระดับที่เพียงพอจะทำให้แต่ละคนมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง
• ด้วยความที่นิยายเป็นกึ่ง ๆ ชีวประวัติ เลยคิดว่าการเขียนนิยายเป็นแฟนซีปลอบประโลมความเจ็บปวด ซึ่งทำให้หนังดูอบอุ่นเหลือเกิน
• ขณะเดียวกันหนังก็เชิดชูความเป็นตัวเองของผู้หญิงทั้ง 4 คน(หรือ 3 คน) ที่สามารถเลือกเส้นทางชีวิตตัวเองตามหัวใจเรียกร้อง
• ชอบการใส่บรรณาธิการนิตยสารเข้ามา กลายเป็นการหยอกล้อกับองค์ประกอบว่านิยาย/หนังจะฮิตได้ ต้องชิงรักหักสวาทและมีตอนจบที่สุขสันต์
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-
ยังไม่เคยดูเวอร์ชั่นอื่นแต่จะบอกว่าเกรต้า เกอร์วิก ทำฉบับของเธอได้สนุกเหลือเกิน เวลาสองชั่วโมงผ่านไปเร็วมาก ไม่มีช่วงน่าเบื่อเลย หนังอบอุ่นและเล่าได้มีชีวิตชีวามาก ภายใต้ความเป็นหนังโรแมนติกที่หุ้มเอาไว้ ข้างในมันยังบอกเล่าความรักระหว่างพี่น้องและสิ่งที่พวกเธอต้องตัดสินใจในยุคที่เพศหญิงถูกปลูกฝังว่าพอโตเป็นสาวต้องแต่งงานกับผู้ชายฐานะดี สิ่งที่ตลกร้ายคือกระทั่งในวรรณกรรมยังต้องให้ตัวละครหญิงแต่งงานเพราะไม่มีใครอยากอ่านเรื่องราวของนางเอกขึ้นคาน ทุกคนมองหาตอนจบที่สุขสันต์เพื่อจะพาตัวเองล่องลอยหลุดพ้นความเป็นจริงเพียงชั่วคราว จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมนิยายแนวแสวงหารักแท้ถึงขายดี
.
'โจ มาร์ช' (Saoirse Ronan) คือหญิงสาวที่ติดกับดักค่านิยมการแต่งงานในสมัยนั้นจนมองชีวิตหลังแต่งงานออกมาได้เพียงด้านเดียว ในขณะที่หญิงสาวหลายคนเชื่อว่าการแต่งงานคือการเลื่อนชั้นทางสังคมของตัวเอง ปัญหาทางการเงินของครอบครัวแก้ได้ด้วยการแต่งงานกับผู้ชายฐานะร่ำรวย แต่โจมองว่าการแต่งงานคือชนักติดหลังที่จะทำให้ความฝันและแรงปรารถนาของเธอมอดหมดไป เธอตั้งกำแพงว่าความรักเป็นอุปสรรคและพยายามต่อต้านไม่ทำตามค่านิยมของยุคสมัย ทั้งที่เธอก็เป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่มีหัวใจ และมีสิทธิ์จะได้รับความรักพร้อมกับสามารถทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการไปพร้อมกันได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอจะต้องให้เวลาช่วยหาคำตอบ หนังเลยเห็นพัฒนาการของตัวละครที่ค่อย ๆ ค้นหาตัวเองจนเจอ
.
เพราะสุดท้ายความเป็นเฟมินิสต์จริง ๆ คือการที่ผู้หญิงสามารถทำอะไรตามที่หัวใจปรารถนาโดยไม่ต้องไปติดอยู่ในกรอบที่สังคมชายเป็นใหญ่กำหนดขึ้นมา 'เม็ก' (Emma Watson) สามารถฝันว่าจะแต่งงานมีครอบครัว มีคุณค่าในตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องมีผลงานให้ได้รับการยอมรับเหมือนน้องสาว เธอสามารถเลือกทางเดินชีวิตที่จะทำให้ตัวเองมีความสุข ซึ่งเป้าหมายอาจไม่ใช่การแต่งงานกับชนชั้นสูงที่เจอะเจอในงานสังคม แต่เป็นชายหนุ่มทำงานทำการที่พร้อมจะสร้างเนื้อสร้างตัวเคียงข้างกัน, เช่นเดียวกับ 'เอมี่' (Florence Pugh) ก็มีสิทธิ์จะเลือกมองหาผู้ชายรวยโดยไม่ต้องไปแคร์ว่าใครจะมองเธอเกาะผู้ชายกิน หรือลดคุณค่าเธอเพียงเพราะไม่ร่วมดิ้นรนกับผู้ชายฐานะเท่าเทียมกัน เป็นอิสระของเธอที่จะเลือกแบบไหนก็ตามที่ทำให้เธอพอใจ ยิ่งในยุคที่ผู้หญิงถูกจำกัดความก้าวหน้าในอาชีพ จนเหลือเพียงการแต่งงานที่จะทำให้เธอมีชีวิตที่ดีได้
.
นี่คงจะเป็นเหตุผลสำคัญทำให้เราตกหลุมรัก Little Women ที่บอกเล่าเรื่องราวของ 4 ดรุณีได้อบอุ่นหัวใจเหลือเกิน
ป.ล. การแสดงของ เซียร์ชา โรแนน คู่ควรจะมีชื่อในสายรางวัลเหมือนกัน ฉาก Women, they have minds and they have souls as well as just hearts. กับฉากปฏิเสธ 'ลอรี่' (Timothee Chalamet) คือดีมากจริง
Directors: Greta Gerwig (ผู้กำกับ Lady Bird)
novel: Louisa May Alcott
screenplay: Greta Gerwig
Genre: romance, drama
8/10
#หนังโปรดของข้าพเจ้า
#ดูอะไรต่อดี
Sense and Sensibility (1995) / Pride & Prejudice (2005)
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過54萬的網紅Budiey Channel,也在其Youtube影片中提到,Berikut adalah senarai penuh pemenang Anugerah Telenovela 2018; Ratu Telenovela Serba Dinamik – Emma Maembong 1. Kategori Popular Novel Popular – W...
emma novel 在 หนังโปรดของข้าพเจ้า Facebook 八卦
Little Women (2019) เข้าฉาย 9 มกราคมนี้
• ชอบที่หนังกระจายเรื่องราวของทั้ง 4 พี่น้อง ถึงน้ำหนักจะเทมาทางโจ มาร์ช ในฐานะคนเล่าเรื่องมากสุด แต่หนังก็ยังแบ่งไปเล่าอีก 3 คนในระดับที่เพียงพอจะทำให้แต่ละคนมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง
• ด้วยความที่นิยายเป็นกึ่ง ๆ ชีวประวัติ เลยคิดว่าการเขียนนิยายเป็นแฟนซีปลอบประโลมความเจ็บปวด ซึ่งทำให้หนังดูอบอุ่นเหลือเกิน
• ขณะเดียวกันหนังก็เชิดชูความเป็นตัวเองของผู้หญิงทั้ง 4 คน(หรือ 3 คน) ที่สามารถเลือกเส้นทางชีวิตตัวเองตามหัวใจเรียกร้อง
• ชอบการใส่บรรณาธิการนิตยสารเข้ามา กลายเป็นการหยอกล้อกับองค์ประกอบว่านิยาย/หนังจะฮิตได้ ต้องชิงรักหักสวาทและมีตอนจบที่สุขสันต์
-------------------------------------
ยังไม่เคยดูเวอร์ชั่นอื่นแต่จะบอกว่าเกรต้า เกอร์วิก ทำฉบับของเธอได้สนุกเหลือเกิน เวลาสองชั่วโมงผ่านไปเร็วมาก ไม่มีช่วงน่าเบื่อเลย หนังอบอุ่นและเล่าได้มีชีวิตชีวามาก ภายใต้ความเป็นหนังโรแมนติกที่หุ้มเอาไว้ ข้างในมันยังบอกเล่าความรักระหว่างพี่น้องและสิ่งที่พวกเธอต้องตัดสินใจในยุคที่เพศหญิงถูกปลูกฝังว่าพอโตเป็นสาวต้องแต่งงานกับผู้ชายฐานะดี สิ่งที่ตลกร้ายคือกระทั่งในวรรณกรรมยังต้องให้ตัวละครหญิงแต่งงานเพราะไม่มีใครอยากอ่านเรื่องราวของนางเอกขึ้นคาน ทุกคนมองหาตอนจบที่สุขสันต์เพื่อจะพาตัวเองล่องลอยหลุดพ้นความเป็นจริงเพียงชั่วคราว จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมนิยายแนวแสวงหารักแท้ถึงขายดี
.
'โจ มาร์ช' (Saoirse Ronan) คือหญิงสาวที่ติดกับดักค่านิยมการแต่งงานในสมัยนั้นจนมองชีวิตหลังแต่งงานออกมาได้เพียงด้านเดียว ในขณะที่หญิงสาวหลายคนเชื่อว่าการแต่งงานคือการเลื่อนชั้นทางสังคมของตัวเอง ปัญหาทางการเงินของครอบครัวแก้ได้ด้วยการแต่งงานกับผู้ชายฐานะร่ำรวย แต่โจมองว่าการแต่งงานคือชนักติดหลังที่จะทำให้ความฝันและแรงปรารถนาของเธอมอดหมดไป เธอตั้งกำแพงว่าความรักเป็นอุปสรรคและพยายามต่อต้านไม่ทำตามค่านิยมของยุคสมัย ทั้งที่เธอก็เป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่มีหัวใจ และมีสิทธิ์จะได้รับความรักพร้อมกับสามารถทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการไปพร้อมกันได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอจะต้องให้เวลาช่วยหาคำตอบ หนังเลยเห็นพัฒนาการของตัวละครที่ค่อย ๆ ค้นหาตัวเองจนเจอ
.
เพราะสุดท้ายความเป็นเฟมินิสต์จริง ๆ คือการที่ผู้หญิงสามารถทำอะไรตามที่หัวใจปรารถนาโดยไม่ต้องไปติดอยู่ในกรอบที่สังคมชายเป็นใหญ่กำหนดขึ้นมา 'เม็ก' (Emma Watson) สามารถฝันว่าจะแต่งงานมีครอบครัว มีคุณค่าในตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องมีผลงานให้ได้รับการยอมรับเหมือนน้องสาว เธอสามารถเลือกทางเดินชีวิตที่จะทำให้ตัวเองมีความสุข ซึ่งเป้าหมายอาจไม่ใช่การแต่งงานกับชนชั้นสูงที่เจอะเจอในงานสังคม แต่เป็นชายหนุ่มทำงานทำการที่พร้อมจะสร้างเนื้อสร้างตัวเคียงข้างกัน, เช่นเดียวกับ 'เอมี่' (Florence Pugh) ก็มีสิทธิ์จะเลือกมองหาผู้ชายรวยโดยไม่ต้องไปแคร์ว่าใครจะมองเธอเกาะผู้ชายกิน หรือลดคุณค่าเธอเพียงเพราะไม่ร่วมดิ้นรนกับผู้ชายฐานะเท่าเทียมกัน เป็นอิสระของเธอที่จะเลือกแบบไหนก็ตามที่ทำให้เธอพอใจ ยิ่งในยุคที่ผู้หญิงถูกจำกัดความก้าวหน้าในอาชีพ จนเหลือเพียงการแต่งงานที่จะทำให้เธอมีชีวิตที่ดีได้
.
นี่คงจะเป็นเหตุผลสำคัญทำให้เราตกหลุมรัก Little Women ที่บอกเล่าเรื่องราวของ 4 ดรุณีได้อบอุ่นหัวใจเหลือเกิน
ป.ล. การแสดงของ เซียร์ชา โรแนน คู่ควรจะมีชื่อในสายรางวัลเหมือนกัน ฉาก Women, they have minds and they have souls as well as just hearts. กับฉากปฏิเสธ 'ลอรี่' (Timothee Chalamet) คือดีมากจริง
Directors: Greta Gerwig (ผู้กำกับ Lady Bird)
novel: Louisa May Alcott
screenplay: Greta Gerwig
Genre: romance, drama
8/10
#หนังโปรดของข้าพเจ้า
#ดูอะไรต่อดี
Sense and Sensibility (1995) / Pride & Prejudice (2005)
emma novel 在 Emma Ma'embong Facebook 八卦
Repost from @hyppworld 4 HARI LAGI ! Nantikan tayangan drama bersiri eksklusif #JodohSebelahPintu yang di adaptasi daripada ‘Best Seller Novel’. Lakonan & gandingan hebat @emma_maembong , @kamaladli , Lia Natalia dan Erwin Dawson. Drama arahan Michael Ang.
Bad, lakonan Kamal Adli sering mengusik gadis jiran sebelah rumahnya Mona, lakonan Emma Maembong. Walaupun Mona sering saja memarahi Bad kerana sikapnya yang sering mengganggu Mona seperti kebudak-budakan namun Bad tidak pernah jemu untuk mengusik Mona.
Saksikan bagaimana kisah selanjutnya tentang hubungan Mona & Bad bermula 29 Julai ini. Setiap Rabu dan Khamis jam 9 malam eksklusif di #HyppSensasi saluran 116.
emma novel 在 Budiey Channel Youtube 的評價
Berikut adalah senarai penuh pemenang Anugerah Telenovela 2018;
Ratu Telenovela Serba Dinamik – Emma Maembong
1. Kategori Popular
Novel Popular – Wanita Terindah
Telenovela Popular – Hero Seorang Cinderella
Telefilem/Filem Popular – Wanita Terindah
Pelakon Lelaki Telenovela Popular – Fattah Amin
Pelakon Wanita Telenovela Popular – Nur Fazura
Pelakon Lelaki Telefilem/Filem Popular – Fattah Amin
Pelakon Wanita Telefilem/Filem Popular – Nur Fazura
2. Kategori Terbaik
Novel Adaptasi Terbaik – Dia (Terbitan Karyaseni Sdn Bhd)
Novelis Terbaik – Syamnuriezmil (Perempuan Paling Bahagia)
Novel Terbaik – Perempuan Paling Bahagia
Telenovela Terbaik – Mandatori
Pelakon Lelaki Telenovela Terbaik – Aeril Zafrel
Pelakon Wanita Telenovela Terbaik – Siti Saleha
Pengarah Telenovela Terbaik – Razaisyam Rashid
Penulis Skrip Telenovela Terbaik – Alfie Palermo, Yasmin Yaacob, Na’a Murad, Khairul Nizam Ablah, Ashraf Zain, Shamaine Othman, Adib Zaini dan Aziz Salim
Penerbit Novel Terbaik – Terbitan Karyaseni Sdn Bhd
Lagu Tema Telenovela Terbaik – Bahagia Kasihmu (Ippo Hafiz)
Filem Terbaik – Tombirou: Penunggu Rimba
Pelakon Lelaki Filem Terbaik – Jalil Hamid
Pelakon Wanita Filem Terbaik – Izara Aishah
Pengarah Filem Terbaik – Seth Larney
Penulis Skrip Filem Terbaik – Yasmin Yaakob & Choong Chi Ren
Lagu OST Filem Terbaik – Ribut Hati (Aina, Tombirou: Penunggu Rimba)
Telefilem Terbaik – Srengenge
Pengarah Telefilem Terbaik – Mahuddin Ibrahim
Penulis Skrip Telefilem Terbaik – Wan Mahani Wan Hassan
Pelakon Kanak-Kanak Telenovela Terbaik – Nik Adam Mika
Pelakon Kanak-Kanak Filem Terbaik – Mohd Arif Abdullah (Jibam)
Pelakon Kanak-Kanak Telefilem Terbaik – Zara Sophia
Pelakon Veteran Filem Terbaik – Bohari Ibrahim
Lakonan Sokongan Mantap – Zarynn Min
Pelakon Serba Dinamik dan Komited – Emma Maembong
Stesen Penyiar Telenovela Prolifik – Astro
Penerbit Telenovela Prolifik – Global Station
Peneraju Penulisan Skrip Adaptasi Novel ke Telenovela – Rozie Ashid
3. Anugerah Khas
Primadona Telenovela – Fauziah Datuk Ahmad Daud
Seniman Lagenda – Datuk Abdul Rahim Mohd Razali
Tokoh Seniman – Othman Hafsham
Tokoh Seniwati – Datuk Rosnani Jamil
Tokoh Industri Kreatif – Bekas Ketua Pengarah Perbadanan Kemajuan Filem Nasional (FINAS) Datuk Kamil Othman
Follow Instagram: @budiey
http://youtube.com/budiey27 - Click to Subscribe!
http://budiey.com - Visit My Blog!
http://facebook.com/BudieyDotCom - Become a Fan!
http://twitter.com/budiey - Follow Me!
