ชีวิตมันสั้น อยากทำอะไรก็รีบทำ
---
บนโต๊ะสนทนาที่มีคนรุ่นสามสิบต้น สามสิบปลาย และสี่สิบปลาย เราคุยกันถึงความฝัน แรงผลักดันชีวิต และอายุขัยของคนเรา
ใครคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า "ชีวิตไม่ได้ยืนยาวนักหรอก อยากทำอะไรก็รีบทำซะ" ผู้อาวุโสกว่าสนับสนุนความคิดนั้น พร้อมบอกว่า "จริงด้วย เดี๋ยวพี่ก็ตายแล้ว"
ในความหมายหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่าอายุคนเรานั้นสั้นกุดจุ๊ดจู๋เสียจนไม่ทันที่จะทำอะไรตามที่ตัวเองคิดฝัน แต่ท่านพี่ผู้นั้นหมายความว่า เราไม่มีวันรู้ว่าเราจะจากโลกนี้ไปวันไหน เพื่อความไม่ประมาทก็ควรเริ่มต้นทำในสิ่งที่อยากทำเสียตั้งแต่วันนี้ เพราะเราไม่มีวันรู้ว่า เราจะมีโอกาสได้ทำมันอีกหรือเปล่า
หากชะล่าใจเกินไป และใช้คำว่า "ไว้ก่อน" หรือ "ปีหน้าละกัน" บ่อยๆ ก็อาจจะสายเกินไป
...
ผมนั่งฟังแล้วพนักหน้าเห็นด้วย หันไปมองน้องชายที่อ่อนวัยกว่าเล็กน้อยว่า "จริงนะ แต่ที่ว่าชีวิตมันสั้นอาจไม่ได้หมายถึงเราจะตายวันตายพรุ่งก็ได้ แต่หมายความว่า ในแต่ละช่วงชีวิตเรามีองค์ประกอบของชีวิตไม่เหมือนกัน"
ผมอธิบายต่อว่า "วัยหนุ่มก็มีแรงพลังแบบหนึ่ง มีความรับผิดชอบแบบหนึ่ง ก็ฝันได้แบบหนึ่ง ลงมือทำได้แบบหนึ่ง แต่พอโตขึ้นก็จะมีภาระอีกแบบ มีฮอร์โมนอีกแบบ มีแรงพลังอีกแบบ มีปัญหาชีวิต ความคิด และจิตใจอีกแบบ"
"ไม่ได้แปลว่าวัยไหนมีคุณค่ากว่าวัยไหน แต่หมายความว่า ช่วงวัยแต่ละวัยนั้นไม่ยาวนาน บางอย่างที่ไม่ได้ทำในวัยนั้น เราอาจจะไม่ได้ทำอีกเลย เพราะในวัยอื่นเราอาจไม่มีแรงพลังมากพอ ไม่มีความกล้ามากพอ หรือมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากกว่าเดิม เราจึงทำในสิ่งที่เคยคิดฝันไว้ตอนนั้นไม่ได้อีกแล้ว"
"ชีวิตสั้น" สำหรับผมหมายถึงอย่างนี้
และด้วยเหตุผลนี้ เราจึงไม่ควรชะล่าใจ และไม่ควรมองชีวิตเป็นเส้นตรงยาวๆ ที่มีลักษณะเดียวกันไปตลอดทั้งชีวิต แต่ชีวิตในแต่ห้วงนั้นมีลักษณะไม่เหมือนกันเลย ทั้งภายนอกและภายในตัวเราเอง
ฝันวันนี้ จึงควรจัดการมันเสียแต่วันนี้
เพราะพรุ่งนี้ ชีวิตเราอาจไม่เหมาะกับฝันนี้อีกแล้ว
Life is short. Do whatever you want.
---
On the table where there are early thirties and forties, we talk about dreams, momentum, life and life.
Someone said, "life is not too long. Do whatever you want the elder supports the idea and says," true, I will die
In one meaning, it doesn't mean that our age is short. It's so that we don't do what we dream of. But he means that we never know when we will leave this world. for negligence, we should start doing what we should start doing what. The reason I want to do it from today is because we never know if we will have a chance to do it again.
If you are too heart and use the word " first " or " next year " often, it may be too late.
...
I sit and listen to this. I agree. I look at my younger brother. " it's true, but life is short. It may not mean we will die tomorrow, but it means that in each life, there is an element of life. No. Same here "
I explained, " young age has a kind of power, one kind of responsibility, one can dream. But when you grow up, there will be another kind of hormones. Another kind of power, there is a problem with life, thoughts and mind. Like "
" it doesn't mean that any age is more valuable than any age, but it means that each age is not long. Something that we haven't done at that age, we may not do it again. Because at other ages, we may not have enough power, not have enough courage or have enough. The duty that we are more responsible, so we can't do what we have thought. "
"life is short" to me means this.
And for this reason, we should not be sad and should not look at life as a long straight line with the same characteristics throughout our lives. But life is different in the same, outside and within ourselves.
Dream today so I should take care of it today
Because tomorrow our lives may not be suitable for this dream anymore.Translated
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過1,390的網紅陳嘉 CHANKA,也在其Youtube影片中提到,Tribute to the dead, the missing and more importantly, a letter to the awakened ones. We had a lot of dates printed in our heart, may I use one of th...
die young meaning 在 Atichart Chumnanont Facebook 八卦
ทุกอย่างมี 2 ด้านให้เราคิดเสมอ ..ลองอ่านดูนะ เค้าเขียนดี
การช่วยเหลือที่ถ้ำหลวงในครั้งนี้ จริงอยู่เราสูญเสียทรัพยากรมากมาย เพื่อกอบกู้ 13 ชีวิต
แต่ทำไมนะ ผมคิดว่าทุกอย่างที่เราเสียไป มันไม่ใช่เสียเปล่า แต่เราได้อะไรกลับคืนมา มากมายเหลือเกินจากเหตุการณ์นี้
1) ท่ามกลางปัญหา เราได้เห็นว่า ประเทศไทยมีคนที่ความสามารถในการจัดการได้ดี และมีความเป็นผู้นำสูงมาก อย่างท่านผู้ว่าฯเชียงราย เมื่อเกิดเหตุ ท่านวางแผน และจัดการปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เห็นว่า คนที่จะมาถึงตำแหน่งนี้ได้ ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย
2) เราได้เห็น ความเด็ดขาดของผู้ว่า โดยเฉพาะที่บอกว่า คนที่อยากมาช่วย ใครอยากมาก็มาได้ แต่ต้องมาถกหลักการกันก่อน ว่าสิ่งที่นำเสนอมันทำได้หรือไม่ หรือว่าเป็นไอเดียที่จะถ่วงทีมให้ช้าลง ไม่ใช่ว่าคนที่อยากช่วยจะมีประโยชน์ทั้งหมด ซึ่งผู้มีอำนาจเด็ดขาด ต้องเลือกใช้คนให้ถูก ไม่ใช่รับความช่วยเหลือไปเสียทุกอย่าง
3) แน่นอน ใครๆก็รู้ว่าการค้นหาเด็กให้พบคือสิ่งสำคัญ แต่ ผู้ว่าฉลาดมาก ที่ให้ความสำคัญก่อนกับ "คนที่เข้าไปช่วย" อะไรที่เสี่ยงภัย เช่น ดำน้ำในสภาวะเสี่ยงเกินไป หรือ การเสี่ยงว่ายน้ำโดยมีโอกาสเสี่ยงไฟดูดไฟช็อต ผู้ว่าจะไม่ยอมให้หน่วยซีลลงน้ำ ซึ่งเป็นเรื่องถูกต้องแล้ว การช่วยหนึ่งคน ไม่ได้แปลว่าต้องเอาชีวิตของอีกคนเข้าไปแลก
4) เราได้เห็นว่า กลยุทธ์อะไรก็ตาม ต้องมีแผนสำรองอยู่เสมอ ในตอนแรกแผนดั้งเดิม คือให้หน่วยซีล เข้าถ้ำไปเรื่อยๆ เพื่อไปหาทั้ง 13 คนที่ติดถ้ำ แต่สุดท้าย เราก็มีแผนสอง คือตรวจเช็กปล่องด้านบนภูเขา ว่าจะสามารถหย่อนตัว ทะลุถึงถ้ำได้เลยหรือไม่ และแผนสามคือไอเดียการเจาะภูเขา การไปถึงจุดหมาย ไม่จำเป็นต้องมีแผนเดียว แต่การเปิดรับทุกหนทางที่เป็นไปได้ ก็ยิ่งมีโอกาสไปถึงเป้าหมายเร็วขึ้น
5) เราได้รู้จักหน่วยซีล ว่าคืออะไร บางคนไม่รู้เลยว่าที่ไทยก็มีด้วย ได้รู้ว่า SEAL ย่อจาก (SEa - Air - Land) คือหน่วยรบที่ปฏิบัติงานได้ทั้งในทะเล บนอากาศ และภาคพื้นดิน เป็นหน่วยทหารที่มีสภาพร่างกายแข็งแกร่ง ผ่านการฝึกหฤโหด และในยามคับขัน ความยอดเยี่ยมของหน่วยซีล ก็สามารถเป็นประโยชน์กับภารกิจได้
6) เราได้รู้จักภูมิศาสตร์ของประเทศไทยมากขึ้น หลายคนรู้จักถ้ำหลวงเป็นครั้งแรก ได้รู้ว่าขุนน้ำนางนอนอยู่ตรงไหน ได้รู้ว่าเชียงรายก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจแบบนี้ด้วย ได้รู้จักคำว่า "ถ้ำ" ในความหมายใหม่ บางถ้ำมันยาวเป็นกิโล และคดเคี้ยวเหมือนเขาวงกต
7) เราได้ความรู้เรื่องการเอาชีวิตรอดมากขึ้น ได้รู้จัก "กฎ 333" ว่าในภาวะใดบ้างที่คุณจะมีชีวิตรอดได้ คือ ขาดอากาศหายใจได้ 3 นาที , ขาดน้ำดื่มได้ 3 วัน , ขาดอาหารได้ 3 สัปดาห์ ถ้ามากกว่านี้ก็จะตาย (แต่แน่นอนนี่เป็นแค่กฎคร่าวๆไม่ได้ใช้ได้กับทุกคน) ได้ความรู้ว่า แม้จะไม่มีอาหาร แต่ร่างกายมนุษย์ สามารถดึงพลังงานสำรองที่สะสมในรูปไขมันมาใช้ได้
8) เราได้เห็นความเสียสละของคนในพื้นที่ ยอมให้สูบน้ำเข้าเทือกสวนไร่นา ทั้งๆที่พวกเขาเริ่มทำกสิกรรมกันแล้ว ไม่มีใครอยากทำให้ตัวเองวุ่นวาย และเสียผลประโยชน์ แต่สุดท้าย เมื่อมันเป็นเรื่องความเป็นความตาย ทุกคนเข้าใจดี ซึ่งนี่คือการเสียสละอย่างแท้จริง
9) เราได้เห็นความสามารถของสื่อมวลชน ในเงื่อนไขที่จำกัด ไม่มีอะไรพร้อมสักอย่าง คุณสามารถนำเสนอให้ สื่อของตัวเองมีความน่าสนใจได้ หรือไม่ คุณมีมุมมองที่เฉียบขาดมากกว่าที่อื่นหรือเปล่า และที่สำคัญ คุณจะเคารพกติกาที่เจ้าหน้าที่ตั้งไว้ หรือจะกล้าแหกกฎเพื่อได้ข่าวที่เหนือกว่าช่องอื่น
10) เราได้เห็น ทักษะการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กที่มีประสิทธิภาพ อย่างทวิตเตอร์ของ Mthai การนำเสนอข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา รวดเร็วฉับไว ไม่ต้องสร้างดราม่า ก็สร้างความนิยมได้เช่นเดียวกัน
11) เราได้รู้ว่า สิ่งที่เราหวัง สิ่งที่เราคิด กับสิ่งที่เกิดขึ้นหน้างาน มันไม่เหมือนกันเลย หลายๆอย่างเราคิดได้ แต่ในสถานการณ์จริงมันทำไม่ได้ มีคนบอกว่า ทำไมเราไม่ห้อยอาหารลอยน้ำไปให้ถึงมือเด็ก มีคนอธิบายว่า เพราะในถ้ำน้ำมันไม่ได้ไหลตรงๆเหมือนแม่น้ำ เอาของลอยน้ำ ก็ไปติดโขดหิน เด็กไม่ได้รับแน่นอน หรือ มีบางคนถามว่าทำไมไม่ระเบิดถ้ำ ก็มีคนอธิบายว่า ระเบิดแล้วถ้าหินถล่มลงมาจนปิดทางเข้าออกทั้งหมดล่ะ แบบนี้เด็กตายเลยไหม เราได้เข้าใจว่า สิ่งที่จินตนาการ มันอาจทำไม่ได้ในชีวิตจริง
12) เราได้รู้ว่า ในสังคมนี้ มีคนอยากเอาหน้ามากมาย บางคน รู้ว่าตัวเองไม่มีทักษะอะไรที่จะช่วยได้ (คือจะบอกว่า มาเป็นกำลังใจ อยู่ตรงไหนก็ส่งใจไปได้จริงไหม) แต่ก็อยากเอาตัวไปให้สื่อได้เห็นว่ามาลงพื้นที่แล้ว ในทางตรงกันข้าม มีคนจำนวนมากยอมทำงานหนักเป็นมดงาน เพื่อให้ภารกิจได้เดินหน้าต่อ แต่คนเหล่านี้ ไม่ได้ต้องการป่าวประกาศใดๆ เขาต้องการผลสำเร็จ ไม่ใช่ชื่อเสียงของตัวเอง
13) เราได้เห็นว่าในประเทศไทย ความเชื่อ กับ วิทยาศาสตร์มันสามารถไปด้วยกันได้อย่างประหลาด ในขณะที่ทีมงานกำลังจะเจาะถ้ำ ก็ยังต้องขออนุญาตจากเจ้าป่าเจ้าเขา หรือขณะที่ เราใช้เทคโนโลยีโดรนที่ล้ำยุคในการช่วยค้นหา แต่อีกด้านเราก็เห็นภาพชาวบ้านกราบไหว้ ครูบาบุญชุ่ม ที่เข้าไปทำพิธีเปิดตา มันเป็นส่วนผสมที่ไม่น่าเชื่อ แต่ก็เกิดขึ้นกับประเทศไทยจริงๆ
14) เราได้เห็นว่า ในยามที่ทุกคนกำลังสับสน ย่อมมีคนหาโอกาสฉวยผลประโยชน์เสมอ คนที่อ้างให้โอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง อ้างขอเงินไปช่วย 13 ชีวิตติดถ้ำ แบบนี้มีเยอะ คนเสพข่าวสารต้องระวังให้ดี อย่าใจดี จนขาดสติ ต้องเช็กให้รอบคอบ เพราะคนชั่วโลกนี้มันมีเยอะ คนแบบนี้ต้องไม่ตายดีแน่
15) เราได้เห็นว่า ทุกความสามารถมีประโยชน์ ช่างไฟฟ้า นักขุดเจาะน้ำบาดาล ช่างต่อท่อ แพทย์ นักปีนเขา ทหาร นักข่าว พ่อครัว ช่างภาพ ล่าม นักวิทยาศาสตร์ ทีมกู้ภัย นักดำน้ำ นักดนตรี นักธรณีวิทยา ฯลฯ ในยามจำเป็น ทุกคนสามารถใช้ทักษะของตัวเอง เพื่อเป้าหมายสูงสุดร่วมกัน มันแสดงให้เห็นว่า ไม่มีอาชีพไหน เหนือกว่าอาชีพไหน ทุกคนสามารถสร้างสรรค์สังคมได้ในทางของตัวเอง
16) เราได้เห็นคนจินตนาการเยอะเหลือเกิน บางคนบอกว่าเด็กไปพัวพันกับคดียาเสพติด บางคนคิดไปขนาดว่า จริงๆเจอตัวเด็กตั้งนานแล้ว แต่ปล่อยออกมาไม่ได้ เพราะกำลังเคลียร์เรื่องยาเสพติดอยู่ มีทฤษฎีสมคบคิดมากมาย แต่สุดท้ายก็เหมือนอย่างที่ผู้ว่าบอกนั่นแหละ "ขอให้งดใช้จินตนาการ" และอย่างที่ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 บอก "ถ้ำหลวงไม่ใช่พื้นที่สีแดง" คือ การคิดเรื่อยเปื่อย มีโทษมากกว่าประโยชน์นะ
17) เราได้เห็นว่า ในช่วง 3-4 วันแรกของเหตุการณ์ทุกคนยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ทุกอย่างชุลมุนไปหมด แต่หลังจากนั้น ทุกอย่างก็เริ่มมีระบบระเบียบมากขึ้น รถราที่ใครจะขึ้นไปบนเขาก็ได้ โดนกันไว้ด้านล่าง เจ้าหน้าที่จัดรถโดยสาร รับส่งคนขึ้นลง ทำให้การจราจรไม่ติดขัด ขณะที่ ทีมงานก็มีการซักซ้อมอย่างดี ถ้าหากพบเด็กแล้วจะทำอย่างไร ทุกอย่างมีแบบแผนเป็นระบบ ไม่มั่วซั่ว อย่าดูถูกความสามารถของเจ้าหน้าที่เลย เขาก็พยายามทำทุกอย่างให้ง่ายที่สุดต่อการจัดการล่ะ
18) เราได้เห็น น้ำใจของชาวต่างชาติ บางคนมาช่วยผ่านทางรัฐบาลส่งมา บางคนเดินทางมาด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน การที่ท่านแสดงถึงน้ำใจที่มี เราขอคารวะทุกท่าน มา ณ ที่นี้ มันทำให้เห็นอีกด้วยว่า ในยามวิกฤติ ไม่มีกำแพงของเชื้อชาติ
19) เราได้รู้ว่าข่าวสารสมัยนี้ไปเร็วมาก เรื่องเกิดแค่ 1 วัน ทั้งโลกรู้แล้วว่ามีเหตุคนติดถ้ำที่ไทย ซึ่งทำให้คนทั้งโลกจับตาดูอยู่ ทุกๆการกระทำ ทุกๆการตัดสินใจ จะเป็นบทพิสูจน์ให้โลกเห็นเลยว่า ประเทศไทย มีฝีมือแค่ไหน ในการรับมือกับปัญหา
20) หลายคนไปด่าเด็ก ว่าเด็กพวกนี้ไม่ควรได้รับการสรรเสริญอะไรทั้งนั้น เป็นเด็กซน แล้วทำให้คนอื่นเดือดร้อน คือทำไมใจร้อนรีบด่าจัง ยังไม่รู้ที่มาที่ไปอะไรเลยไม่ใช่หรอ ยังไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องเอาตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์นั้น น้ำขึ้นอย่างไร ต้องเอาตัวรอดแบบไหน ไม่มีใครรู้เหตุการณ์จริงๆเลย ได้แต่คาดเดาไปเรื่อย แล้วการที่ไปต่อว่าเด็กๆแบบนั้น มันยุติธรรมหรือ
21) และสมมติว่า เด็กๆผิดจริง ผมอยากให้คิดแบบนี้ครับ ว่าใน 13 คน (แม้จะมีโค้ชอยู่ก็เถอะ) แต่เด็กๆโดยรวม ส่วนใหญ่อายุระหว่าง 13-16 ปี พวกเขาก็ยังเด็ก ยังไม่มีประสบการณ์ชีวิต ยังทำอะไรไม่ทันคิด ตอนเราเป็นเด็ก เราไม่เคยทำผิดพลาดกันหรอ? เราก็เคยกันทั้งนั้น ผมเชื่อว่าเด็กพวกนี้ เขาเองไม่อยากให้คนอื่นลำบากหรอก เขาแค่ประเมินสถานการณ์ผิดไป ไม่รู้ว่าน้ำมันจะท่วมถ้ำได้ขนาดนั้น ชนิดที่ร้อยวันพันปี ไม่เคยท่วมแบบนี้ ไปมาหลายครั้งก็ไม่เคยเจอท่วม มันเป็นความผิดพลาดที่ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดขึ้น มันเป็นแจ๊กพ็อตพอดี คือไม่ต้องชมน่ะใช่ ตักเตือนได้ แต่ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปด่าเขาเหมือนกัน
22) สิ่งที่แต่ละองค์กรพยายามมอบให้เด็ก อย่างสโมสรเอสซีจี เมืองทองฯ อยากให้ทีมหมูป่า มาดูบอลที่สโมสร และได้โอกาสฝึกกับทีมเยาวชน หรือ สโมสรเชียงราย เตรียมให้ตั๋วดูบอลฟรีตลอดชีวิต มันไม่ใช่การมอบรางวัลให้คนทำผิด แต่มันเป็นการส่งกำลังใจให้ครอบครัวของเด็กต่างหาก ให้คุณพ่อคุณแม่ทุกคนมีแรงใจสู้ต่อว่า เจ้าจงรอดกลับมาเถอะนะ มีสิ่งดีๆรออยู่มากมาย อย่าเพิ่งมาจบชีวิตตอนนี้เลย
23) ใครอยากเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงตาย คุณเอาตั๋วดูบอล มาแลกกับชีวิตทั้งชีวิต เป็นคุณ คุณเอาหรอ มีคนบอกว่า จากนี้ถ้าเด็กคนไหนอยากได้อะไร ก็คงวิ่งไปติดถ้ำ เพื่อให้คนช่วยออกมา แล้วจะได้มีผู้ใหญ่มาให้ของรางวัลมากมาย คือ ก็อยากเห็นเหมือนกัน ว่าใครจะเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงกับของตอบแทนแบบนี้
24) อีกอย่าง ถ้าเด็ก "รอดชีวิต" จริงๆ การที่พวกเขาติดอยู่ในสถานการณ์ลำบากขนาดนี้ แล้วยังประคับประคองสติ จนรอดชีวิตได้ไม่คลุ้มคลั่งไปก่อน มันก็เป็นเรื่องน่าทึ่งนะ น่านั่งพูดคุยกับเขา ว่าในสถานการณ์บีบคั้น เขาคิดอะไร ถึงรอดตายมาได้ น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับอีกหลายๆคนได้เลย
25) รวมถึงเรื่องสภาพร่างกายด้วย ว่าในสภาพที่มีอาหารน้อย น้ำน้อย ทุกอย่างจำกัดหมด พวกเขามีอาการอย่างไรบ้าง และทำอย่างไรถึงรอดชีวิตมาได้ เป็นประสบการณ์ใหม่ ที่อนาคตถ้ามีคนโชคร้ายเจอเรื่องแบบนี้อีก จะได้พอมีแนวทางว่าต้องทำอย่างไร
26) ในครั้งนี้ ประเทศไทยแลกอะไรไปหลายอย่าง เงินทอง กำลังกาย ทรัพยากร แม้แต่ธรรมชาติ ป่าเขาอยู่ของมันดีๆ ก็จำเป็นต้องถูกตัดไม้ ระเบิดหิน เพื่อเพิ่มโอกาสในการช่วยเหลือทุกคนให้รอดปลอดภัย เราเสียอะไรไปเยอะมากจริงๆ
27) แต่สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากเรื่องนี้ก็มากมายเช่นกัน กับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นครั้งแรก ได้ประสบการณ์ ได้ความรู้ ได้อุทาหรณ์ ได้เห็นมุมมองจากคนทุกสาขาอาชีพ และได้เห็นคนทั้งประเทศรวมใจกันเป็นหนึ่ง
28) และเด็กๆ ถ้ารอดมาได้ พวกเขาจะได้รับรู้แน่นอนว่า คนทั้งชาติต้องแลกกับอะไรมาบ้าง เพื่อให้เขามีชีวิตต่อไป เขาจะใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทอีกเลยต่อจากนี้ และทั้ง 13 คน ก็จะกลายเป็นอนาคตของประเทศชาติเราต่อไปในทางใดทางหนึ่ง
29) ที่สำคัญที่สุดอีกข้อคือ เรื่องนี้จะเป็นข้อเตือนใจให้วัยรุ่น และเยาวชนของชาติคนอื่นๆ ให้คิดอ่านอะไรให้รอบคอบมากขึ้น และต้องตระหนักเลยว่า ต้องมีสติให้มาก เพราะเวลาเกิดเรื่องขึ้นมา ไม่ใช่แค่ตัวเองที่ลำบาก พ่อแม่ก็เป็นห่วง แถมคนอีกมากมาย ต้องมาลำบากเพื่อตัวเอง
30) แน่นอน ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว แทนที่จะหัวเสีย ไปโมโหว่า "มันไม่ควรเกิดขึ้นแต่แรก" หรือ "ทำไมเด็กไม่อ่านป้ายคำเตือน" ก็ยอมรับความจริงตรงๆไหมว่ามันเกิดขึ้นแล้ว และ ย้อนคิดดีกว่า ว่าเราจะเก็บเกี่ยวอะไรได้บ้างจากเหตุการณ์นี้
จริงไหม?
ขอให้ผู้ช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ และผู้ประสบภัยทุกคนปลอดภัย
#ถ้ำหลวง #ทีมหมูป่า #HOPE
The help at tham luang is true. We lost a lot of resources to save 13 lives.
But why? I think everything we lost is not a waste, but we get so much back from this incident.
1) in the midst of problems, we have seen that Thailand has a very high leadership ability to manage and leadership like governor of Chiang Rai. When he quickly planned and manage the problem quickly, it shows that the person who will arrive at this position did not come because Lucky help
2) we have seen the truth of the governor, especially saying that those who want to help. Whoever wants to come, but we have to discuss the principle whether the presentation can do or is the idea to slow down the team, not that the one. If you want to help, it will be useful. All the authority must choose to use the right person, not receive all help.
3) of course, everyone knows that finding children is important, but the governor is very smart to focus on "people who help" something that is dangerous, such as diving in too risky or swimming with a chance to risk of sucking fire. Lot Gov won't let navy seal get into the water, which is right. Helping one doesn't mean taking another person's life in exchange.
4) we have seen that whatever strategy must always have a backup plan. The Original plan is to let navy seals keep going to go to the cave to the cave. But in the end, we have a second plan is to check the crater on top. Whether it can be able to go through the cave. And plan three is the idea of drilling mountains. Reaching the destination doesn't have to have one plan, but opening every possible way, the faster the chance to reach the goal.
5) we have known navy seal what it is. Some people don't know that Thailand also know that seal squat from (Sea-Air-land) is a force that works both in the sea, on air and ground as a military unit. Strong body condition through brutal training and in trouble, the superb of navy seal can benefit the mission.
6) we have known the geography of Thailand more. Many people know tham luang for the first time. We know where the nobleman is sleeping. Know that Chiang Rai also has interesting attractions like this. Know the word "Cave" in some new meaning. The Cave is a kilo long and crooked like a labyrinth.
7) we know more about survival. Know "Rule 333" what condition you can survive is lack of air for 3 minutes, lack of drinking water for 3 days, lack of food. 3 weeks. If more, I will die (but of course, this is just a sketchy rule. It doesn't work for everyone). I have knowledge that even without food, the human body can pull back up energy accumulated in fat.
8) We have seen the sacrifice of local people who allow to smoke water into the field. Even when they start doing karma, no one wants to mess themselves and lose benefit. But in the end, when it's death, everyone understands. Is truly a sacrifice.
9) we have seen the ability of the press in limited terms. Nothing is ready. Can you present to your media interesting? Do you have more sharp views than other places and most importantly, will you respect the rules that the authorities set? I will dare to break the rules to hear above other channels.
10) we have seen effective social networks skills like mthai twitter. Presenting facts, fast, fast, no need to create drama, it can create popularity as well.
11) we know that what we hope, what we think about what happens in front of the event is different. Many things we can think of. But in real situations, we can't do it. Someone says why we don't hang food to float water. A child's hand, someone explained that because in the cave, the oil doesn't flow straight like a river, put the floating stuff, then the water is stuck in the rock. The kid didn't get it for sure. Someone asked why they didn't explode the cave, someone explained that it exploded if All like this. Do kids die? We understand that what I imagine may not be done in real life.
12) we know that there are many people who want to face in this society. Some people know that they don't have any skills to help. (well, I want to say that I'm rooting for you can send my heart. is it true) but I want to give myself to I see that I have come to the area. On the contrary, there are many people who are willing to work hard as an ant to keep the mission to move on. But these people don't want any announcement. They want success,
13) we have seen that in Thailand, faith and science can go together freak together. While the team is about to penetrate the cave, we still need to ask permission from the forest or while we use great drone technology to help find our other side. I saw a picture of villagers paying respect to teacher ba bunchum who went to do an eye opening ceremony. It was an unbelievable combination, but it really happened
14) we have seen that when everyone is confused, there are always a chance to take advantage of those who claim to transfer money to their account claim to help 13 lives in the cave like this. There are many people who use news. Be careful. Don't be kind. I have to check it carefully because there are many people in this world. There are many people like this will not die.
15) we have seen that every ability is useful, electrician, groundwater driller, pipeline, doctor, hiker, soldier, journalist, photographer, photographer, rescue team, rescue team, musician, musician, geologists, etc. Everyone can use their own skills. For a common goal, it shows that no career surpasses any career. Everyone can create society in their own way.
16) we have seen a lot of imaginary people. Some people say that kids are involved in drug cases. Some people think that they have found the kid for a long time, but they can't let it out because they are clearing drugs. There are many conspiracy theories, but What the governor said, " Let's stop using imagination " and as the deputy commander of Phu Thon Police, part 5 says, " Tham Luang is not red area " is to think random. There is more punishable than
17) we saw that during the first 3-4 days of the incident, everyone still couldn't catch the beginning. Everything was commotion. But after that everything started to have more organized system. The car that anyone could go up on the hill got hit below the staff. Bus shuttle people up and down makes traffic from getting stuck while the team has a good practice. If they meet the kid, what to do? Everything has a pattern. Don't underestimate the ability of the officer. He tries to do everything as easy to manage.
18) we have seen the kindness of some foreigners to help through the government. Some people come by themselves. No matter what you show the kindness that we salute everyone here, it makes you see that in crisis, there is no wall of race.
19) we have known that news nowadays is going fast. It's happened for only 1 days. The whole world knows that there is a reason for people in the cave in Thailand which makes the whole world to watch every action, every decision will prove to the world. How skillful is Thailand to deal with problems
20) many people say that these kids should not be praised. They are naughty kids and hurt others. Why are they are you so impatient? Don't know what dobt. Don't they don't know why they have to put himself down. In that situation, how to survive. No one knows the real incident. But keep guessing. is it fair to blame kids like that?
21) and assuming that kids are wrong, I want you to think that in 13 people (even with coaches) but most kids are between 13-16 years old. They are young and have no life experience yet. I couldn't do anything when we were kids. Didn't we ever make mistakes? We used to each other. I believe these kids don't want other people to be difficult. They just underestimate the wrong situation. I didn't know that the oil could flood that much. The kind of a hundred days and a thousand years. I have never been flooded like this many times The mistake that no one knew would happen is jackpot. It's not to watch. Yes, I can warn, but there is no need to scold him either.
22) what each organization is trying to give to kids like scg muangthong club. Want the wild boar team to watch football at the club and get a chance to train with youth team or Chiang Rai Club. Prepare for free football tickets for the rest of their life. It's not to reward the wrong person, but it is sending encouragement to the family of children. Let all parents have energy. Keep fighting. Come back. There are many good things waiting. Don't end your life now.
23) who wants to risk your life? You take tickets to watch football for your whole life. Do you want it? Someone said that if any kid wants anything, they will run into the cave so that people can help out so that there will be adults. Come to give many rewards. I want to see who will risk their lives with this kind of return.
24) by the way, if kids really "survive" they are stuck in this difficult situation and still hold their mind until they survive. It's amazing. It's amazing to sit and talk to him that in the situation. Squeezed him. What did he think to survive? It should be an inspiration to many others.
25) including physical condition, in a condition with less food, everything is limited. How do they have symptoms and how to survive. It's a new experience in the future. If someone is unlucky, there will be a way to have a way to be a way. How to do it?
26) in this time, Thailand exchanged many things, money, body, resources, resources, even nature, the forest is good things need to be cut, stone exploded to increase the chances of helping everyone safe. We have lost a lot.
27) but there are many things we have learned from this. with the first disaster, experience, knowledge, see the perspective from every career field and see the whole country together as one.
28) and children, if they survive, they will surely know what the whole nation has to exchange for him to live. He will live careless. from now on, and all 13 of them will become the future of our nation. Next in some way
29) the most important thing is that this will be a reminder for teenagers and youth of other nations to think. Read more carefully and you need to realize that you need to be very conscious because when things happen, not just yourself that are difficult, parents are worried. Plus many people have to be tough for themselves.
30) of course no one wants this incident. But when it happens, instead of being angry that " it shouldn't happen in the beginning " or " why don't kids read the warning signs " accept the truth that it happened and Better think about what we can reap from this event
Is it true?
May all helpers, staff and victims be safe.
#ถ้ำหลวง #ทีมหมูป่า #HOPETranslated
die young meaning 在 趙德胤 Midi Z Facebook 八卦
#尋人啟事
#胡湘荷妳在哪裡
我的母親已八十歲,
疫情期間,
母親常在電話跟我聊一些過去的事情,
母親的記憶力非常好,
從她十歲開始到現在,
她幾乎能記得所有的事情。
當然,
她記的幾乎都是些令人心碎的事。
就像她的妹妹_
我的小阿姨,
跟她失聯了四十三年的事,
一直讓母親忘不了。
小阿姨屬猴,
64歲、
1956年出生。
大約1977年離開緬甸,
去到泰國投靠大舅,
又輾轉在1978年左右去了加拿大。
之後,
就失去了聯絡。
自從有網路以來,
我就幫忙母親在各種尋人版上刊登過尋人啟事,
但都沒有下文。
可能是刊登的資訊不齊全。
四十三年前,
小阿姨從緬甸到泰國又到加拿大,
可能證件、姓名等都跟原本的不一樣了。
近期,
與我母親通話,
母親又提到失聯的小阿姨。
她叮嚀我們是否能幫忙她再找找看。
母親今年八十歲,
她很想知道她的小妹,
是否還活在這世界上?
附上母親說的話,
她讓我公佈在網路上。
希望有緣,
我的小阿姨能看到。
Midi 於永和
2020 April 12
#胡湘荷
#尋人
胡湘荷,妳在哪裡?
阿湘,
我是妳的二姐胡明珠。
我們分別有好長一段時間了。
妳離開緬甸時,
我二兒子才剛出生,
都還不滿一個月,
妳來看他時,
還說:
「他的臉白白的,
是不是我給他擦粉?」
現在,
我二兒子四十三歲,
我呢,
已經快滿八十二歲,
八十多歲,
是老人了。
人家說,
人愈老記性愈差,
我是相反,
我的記性反倒是愈老愈好。
但是,我能記住的,
都是些傷心的事情。
也許,
我們這代人,
也沒有什麼快樂的事情可以記住。
就像妳的離開,
我們從此失去聯絡,
想起妳,
就讓我難過。
妳還活著嗎?
我想妳會活得好好的。
妳有幾個小娃了?
過得怎麼樣呢?
四十三年前,
妳離開腊戌時,
妳還在腊戌漢人學校唸書。
有天放學,
我去攔住妳,
跟妳說:
「妳以後每天下課後就來我家吃飯,
別去大姐家吃了…」
妳說:「好」。
妳也就跟著我到我家吃飯了。
我還記得,
妳才剛坐下,
我不知怎麼搞的,
就說了那些話。
我說:
「大姐讓妳以後來我這裡吃飯,
別去她家吃了,
讓妳三姐去她家吃,
妳三姐不挑嘴,
妳比較挑嘴…」。
這些話,
是大姐跟我說的,
我當時太懵,
太老實,
我也不曉得,
為什麼要說這些大姐講的話?
為什麼要講給妳聽?
我完全,
沒有擔待不了妳的意思呀。
不管多窮,
姐妹間互相照顧都是應該的,
我轉述大姐說妳的那些話,
是沒有任何理由的,
就是我以為是姐妹之間的聊天,
講出來而已。
我那時候過得很困難,
養著六個小娃,
病死了兩個。
但是,
照顧自己的妹妹是天經地義的。
那天,
我邊說就邊到廚房去炒菜,
難得妳來這裡吃飯,
總要多一樣什麼菜才行。
我炒完菜端著出來,
妳就不見了。
當時,
房東許老嬤嬤還在場,
她說,
「我轉進廚房,
妳就站起來走了…」
我那時才發覺;
我講錯話了。
妳這麼敏感的人呀!
我一路追著妳,
追到大水塘路上_
到妳跟妳三姐住的地方,
妳正在哭。
妳正在哭著跟妳三姐吵架,
妳跟妳三姐說:
「二哥寄來的錢分來…」
妳三姐不敢應妳,
在旁沉默著。
這筆妳要的錢,
確實是妳二哥寄來給妳們兩姐妹的生活費。
那時,
媽媽剛去世不久,
大哥人去了泰國;
在泰國北部滿堂安了家,
家裡所有的兄弟陸續去了泰國。
而爸爸因為沒身份證在貴概被移民局抓住,
送到仰光坐滿九年牢,
緬甸政府正打算著把他送到台灣去的時候…
那天,
我看著妳哭,
我就明白了妳的心情。
妳三姐在準備跟她愛人私奔,
在腊戌妳也只有大姐、我和妳三姐了。
我和大姐早結婚,
各自已有有家庭。
如今妳三姐又要嫁人,
大哥他們又遠在泰國,
母親去世,
父親坐牢。
妳接下來就要孤苦零丁的一個人生存了。
一個十八歲的女孩。
我知道妳的害怕和難過。
那天,
看著妳哭,
我很後悔把大姐說的話講出來。
妳應該了解我的。
我一直都盡力照顧我的家人,
當時從雲南背著妳逃難到緬甸邊境,
背了一天一夜。
我都是自願的。
妳記得嗎?
妳到腊戌讀書時,
很想要一條件仔褲,
那時許多人都買不起,
我還是費盡力氣買給妳。
妳知道我是心疼妳的。
妳離開腊戌的那天,
妳說妳要去泰國了。
臨走時,
我拿了300塊錢給妳,
妳知道嗎?
那時候我拿出300塊錢緬幣是到處借來的錢呀。
阿湘,
我知道妳一直都在受苦,
去到泰國,
大嫂可能待不得妳,
妳二哥、三哥他們當時也沒能力照顧妳,
妳在泰國又沒有合法的身份;
哪可能有其它去處。
最後妳選擇結婚,
我想也只是為了解脫這些難過的生活罷了。
之後,
就聽說妳嫁了人,
跟著丈夫家去了加拿大。
之後,
我就再也就打聽不到妳的下落了。
我們最後的連繫,
停留在泰國北部滿堂,
或是停留在泰緬邊境美賽,
我都有些記不得了。
那時,
聽說妳從大哥家跑出來了?
又聽說妳去暫住在一對老年夫妻的家裡?
這些,
都是後來傳到腊戌的消息了。
妳去加拿大前,
還寄來給我和大姐和妳三姐每個人一件衣裳布、
一條籠基。
三份禮物裡夾著三張白紙,
寫著:「大姐的、二姐的、三姐的…」。
我還記得,
那是託「義號佛堂」楊前人帶來的禮物。
那條籠基到現在我還留著_
孔雀花紋的。
阿湘,
我這個作二姐的也羞愧妳了。
當時,
聽到這些關於妳的困難的消息,
只能每天想念著,
想到傷心,
我沒有任何能力。
那時,
我是,
連從緬甸腊戌到泰國邊境的車票都買不起呀。
當時我養著這麼多小娃,
吃一口飯都難。
阿湘,
現在講這些都只是回憶了,
都是我們老人家的回憶,
都不重要了。
那為什麼還要講這些呢?
就是,
為了,
想讓妳看到,
看到這些我說的話,
證實,
我是妳的二姐而已。
想讓妳知道,
我一直在找妳。
我活到八十歲,
夠了,
人活這麼老沒什麼意思,
都盡是傷心的事情。
我不知哪天會死去。
但如果可能的話,
在死去之前,
能讓我知道一下妳的消息。
我想知道,
妳在哪裡?
我想知道,
妳還活著嗎?
阿湘,
爸爸十幾年前已經去世,
大哥六年前去世,
連大姐,
前年也不在世上了。
妳二哥;
他住在泰國山邊荒地裡,
幫人家看田地,
過得不是很好,
但也不用擔心,
我在泰國的二兒子和大姑娘時常會去照顧他。
妳三哥,
講到也是讓我難過呀。
他大前年腦出血,
去醫院醫好了,
但醫好後,
很奇怪,
突然忘記了漢人話,
只會講泰國話。
後來不久,
他就偷偷上吊自殺了。
你說,
我們兄弟姐妹這是什麼樣的命運呢?
阿湘,
我們家沒剩下什麼人了,
妳三姐、妳四哥還在泰國。
還有我,
我還活著。
我還在緬甸,在腊戌。
除了妳,
我們一家人也就剩下這三個人了。
阿湘,
我們已經分別已四十三年,
妳也有六十多歲了吧?
我很想知道,
妳在哪裡?
妳還活著嗎?
如果有緣,
妳看到這信,
就回我一下吧。
妳的二姐胡明珠,
日日夜夜,
在等妳的消息。
二姐胡明珠 於緬甸腊戌
2020 年4月11日
姪Midi代筆
找人信箱:humingju1638@gmail.com
**************
#notice for a missing person
translated by Jane Lin
****************
Where are you, Hu Shine-Ho?
Ah-Shine,
This is your 2nd sister, Hu Ming-Ju. It has been a long time since we last saw each other. When you left Burma, my 2nd son was not even one-month-old. You asked why he was so fair-skinned? Had I put powder on his face? Now, he is 43 and I am almost 82.
Eighty something...I am indeed an old woman! People say that you lose your memory as you age. I am quite the opposite. The older I get, the better I remember! But, what I remember is nothing but sadness. Perhaps, our generation just doesn't have much happiness. Like you leaving home, we losing contact forever…. The thought of you puts me in such despair. Are you still alive? I imagine you living a good life?!! How many children? How are you?
Forty-three years ago, you were still a student at Chinese High School in Lashio. One day after school, I went to intercept you, "From now on, come to my home after school. Don't go to 1st sister's for dinner anymore." You said, "OK" and followed me home.
I still remember clearly that you had just sat down and I said, "The first sister asks that you come to me for dinner. She will take 3rd sister who's easy-going, not like you, a picky eater." I don't know what possessed me that day? Why I had to tell you what 1st sister had to say? Was I too naive? Too honest? Too stupid? I had absolutely no intension not to take care of you - we are sisters!!!! We have to care for each other, no matter how poor we are!!! The first sister's words just came out as a casual chat between sisters. Nothing more!
Life was tough for me at the time. Diseases took away two of my six children. But that didn't mean I would ignore my God-given responsibility as your elder sister. Without realizing the impact of my "casual chat", I went into the kitchen wondering what additional dish I could come up with for your first dinner with us. When I came out with the dishes, you were already gone! According to our landlady, Granny Hsu, you just got up and left as soon as I was out of sight. Only then did I realize my stupid mistake and how sensitive you were! Immediately, I ran after you, all the way to Big Pond Road where you and 3rd sister stayed. You were crying, asking 3rd sister for the money that 2nd brother sent. 3rd sister just kept quiet.
Indeed! The money that you demanded from 3rd sister was to cover living expenses for both of you. At that time, Mother had already passed away. The first brother went to Thailand, had already settled his own family in Pong Ngam. All the brothers followed suit. Father got caught in Kutkai by the immigration for not having an I.D. and had been in prison in Rangoon for 9 years. The Burmese government was just about to send him to Taiwan…. That day, while watching you cry, I understood how you felt. The third sister was getting ready to run away with her lover and both 1st sister and I were married young with our own families to deal with. As an 18-year-old with no mother, a father in prison, you must have felt all alone, sad and very scared.
I was filled with regrets watching you that day. But, please understand that I have always tried my best to take care of my family. When we escaped from Yunnan to Burma as refugees, I carried you on my back all day and all night without any complaints. When you went to Lashio for school, you wanted a pair of jeans so badly, remember? It was such a luxury that most people could not afford. Yet, I gathered all my might to get you a pair. You know I always have a soft spot for you, don't you? The day you were leaving Lashio for Thailand, do you know how many places I had to try to gather 300 Burmese kyats for you???
Ah-Shine, I know it was a huge struggle for you in Thailand. It's impossible that 1st sister-in-law would put you up. Second and 3rd brothers were in no position to help you….. I suppose you were pushed into marriage, just to end this desperate situation. Last I heard, you moved to Canada with your husband. From that point onward, in spite of all the efforts, I just couldn't find any trace of your whereabouts.
Our last contact stopped at Pong Ngam, Thailand. Or, was it MaeSai? I can't quite remember now. The news came to Lashio that you had run away from 1st brother's home. Later, you were temporarily staying with an older couple….
Before leaving for Canada, you sent, via Abbott Yang of the Yi Buddhist Hall, a package for us - each gift had a piece of dress fabric and a longyi, clearly labeled on a piece of white paper: "for 1st sister," "for 2nd sister," "for 3rd sister." I still have that longyi, with a peacock pattern, after all these years!
Ah-Shine, I feel deeply embarrassed to be your elder sister. Upon hearing the challenges that you had to face at the time, I could do nothing but worrying and feeling sad. I couldn't even afford the bus fare from Lashio to the Thai border. I barely managed to feed my own children!
Ah-Shine, What's the use of talking about these old memories? These sad memories of us old people have no importance but to serve to show you that I am indeed your 2nd sister.… that I have been looking for you all these years.
To live in my eighties is more than enough for me. It's not much fun to live this long - just a lifetime of sadness. I have no idea when I will die and I don't really care. I just wish that I could hear from/about you before I leave this world. I want to know where you are. I want to know if you are still alive.
Ah-Shine, Father passed away more than a decade ago. The first brother left us 6 years ago, so did the first sister 3 years ago. The second brother works as a field caretaker in a remote Thai mountainside. It's not a good life, but both my 2nd son and first daughter are also in Thailand; can visit and take care of him often. The saddest is our 3rd brother. He had a stroke 3 years ago. After recovery, he suddenly forgot his Chinese, could only speak in Thai. Not long after, he hanged himself! Please tell me what kind of fate has been bestowed on our siblings??? What is the meaning of life???
Ah-Shine, There aren't that many of us left, only 3rd sister and 4th brother in Thailand and me still in Burma. In Lashio.
Ah-Shine, We have been apart for 43 years. You should be in your 60s by now. I really would like to know if you are still alive and where you live. God willing, you will see this letter and reply!!! (humingju1638@gmail.com)
Waiting to hear from you, day and night!
Second sister, Hu Ming-Ju
Lashio, Myanmar
April 11. 2020
die young meaning 在 陳嘉 CHANKA Youtube 的評價
Tribute to the dead, the missing and more importantly, a letter to the awakened ones.
We had a lot of dates printed in our heart, may I use one of them that’s got one more meaning in it.
At some point to some people 911 was the end. Rest of us survived. And as time went by, some of us passed away and here we are, keep on living day by day again.
A sincere thank you to those who strike off shackles to the past, just to let us live for a better future.
“Cry, cry out loud.
I don’t need to be the one who makes you smile.
Fly, fly to someone I can’t shout.
When you’re about to fall,
I will keep my feet on the ground.”
To the awakened fellows. Not everyone’s got a clear mind to lead them where to go and what to do. Don’t be normal. Don’t be limited. Just be yourself. We will always support each other. Till the day we die.
- CHANKA ?
-
Written by CHANKA
Arranged by CHANKA, MAEL, Hin, Dean
Recorded by Nichung
Mixed by MAEL
Mastered by Lok Chan
-
#CHANKA #陳嘉 #Reminiscence
-
Now available on:
Spotify: https://spoti.fi/3hjYDYO
Apple Music: https://apple.co/32kYTCt
KKBOX: https://kkbox.fm/uSeWTe
MusicOne: https://bit.ly/2FmBNT8
JOOX: https://bit.ly/2F9O79x
TIDAL Music: https://bit.ly/3bRhaub
-
CHANKA 陳嘉:
www.instagram.com/wander.chanka
www.facebook.com/wander.chanka
wanderchanka@gmail.com
-
Have a listen of some of my other works :
"Silence" : https://youtu.be/1Hkk7l4zk9k
"Young" : https://youtu.be/kolrKYxvvf8
"Ocean" : https://youtu.be/GOTdDrC1G-E
-