กรณีศึกษา LEXUS รถหรูญี่ปุ่นที่แข่งกับรถยุโรปได้อย่างสูสี / โดย ลงทุนแมน
“พวกเราจะสามารถสร้างรถหรูที่ดีที่สุด ได้หรือไม่?”
ประโยคดังกล่าวพูดโดยคุณ Eiji Toyoda
ประธานบริษัท Toyota คนที่ 5
จากแนวคิดดังกล่าวทำให้บริษัท Toyota สามารถผลิตรถหรูได้สำเร็จภายใต้แบรนด์ LEXUS
เรื่องราวของ LEXUS เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1983 หรือเมื่อ 36 ปีก่อน..
หลังจากโตโยต้าดำเนินธุรกิจในอเมริกามาเกือบ 30 ปี บริษัทต้องการปรับโครงสร้างเพื่อให้ธุรกิจทำกำไรได้มากขึ้น
Eiji Toyoda จึงคิดต่อยอด สร้างแบรนด์รถหรูขึ้นมาอีกหนึ่งแบรนด์ นอกเหนือจาก Toyota ที่เป็นแบรนด์หลักอยู่ก่อน
แต่การจะทำรถหรูขึ้นมาแข่งขันกับเจ้าตลาดฝั่งยุโรปในตอนนั้น ถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย..
เพราะเดิมญี่ปุ่นไม่ได้มีภาพลักษณ์ของการเป็นแบรนด์รถหรูมาก่อน
ฉะนั้นหากบอกว่าญี่ปุ่นจะมาทำรถหรูให้ฝรั่งใช้ คงไม่มีใครเชื่อว่าจะสำเร็จ
แต่ LEXUS ทำได้
ถ้าดูจากส่วนแบ่งการตลาดรถหรูปีล่าสุดในสหรัฐอเมริกา LEXUS อยู่ในระดับที่สูสีกับแบรนด์หรูฝั่งยุโรป ทั้งที่เริ่มต้นทีหลัง
Mercedes-Benz 15.8%
BMW 15.6%
LEXUS 14.9%
Audi 11.2%
Tesla 9.1%
แล้ว LEXUS ทำได้อย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เรื่องแรก LEXUS เลือกตลาดได้ถูก โดยเลือกทำตลาดในสหรัฐอเมริกาเป็นที่แรก เพราะนอกจากอเมริกาจะเป็นหนึ่งในตลาดใหญ่ของรถหรูแล้ว ยังมีโอกาสตีตลาดได้มากกว่าประเทศในโซนยุโรป ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแบรนด์รถหรูจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อเลือกตลาดที่มีขนาดใหญ่ นั่นก็หมายความว่า ผู้เล่นรายใหญ่ เช่น Mercedes Benz, BMW และ Cadillac ก็ให้ความสำคัญกับตลาดนี้เช่นกัน
แทนที่เรื่องนี้จะเป็นอุปสรรค กลับเป็นโอกาสของ LEXUS ที่จะเข้ามาตีตลาด
เพราะในช่วงปี 1980s ตลาดรถหรูในอเมริกาที่ผูกขาดโดยแบรนด์ใหญ่นั้น ไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวและขาดการใส่ใจลูกค้า แต่ละแบรนด์ใช้วิธีปรับโมเดลรถเพียงเล็กน้อยแล้วขึ้นราคาทุกปี ทำให้ตลาดในตอนนั้นอยู่ในช่วงที่คนรู้สึกผิดหวังกับแบรนด์ และไม่คุ้มค่าเงิน
แต่การที่ LEXUS จะเข้ามาเป็นตัวเลือกใหม่ก็ไม่ง่าย...
Eiji Toyoda รู้ดีว่าหากรถไม่ดีพอ ก็คงไม่สามารถเรียกเงินจากเศรษฐีอเมริกันได้
เลกซัสจึงทุ่มงบมหาศาล และกำลังคนระดับหัวกะทิ ประกอบไปด้วย
พนักงานออกแบบ 60 คน
วิศวกร 1,400 คน
นักเทคนิค 2,300 คน
และหน่วยสนับสนุนอีกประมาณ 220 คน
คิดเป็นมูลค่าการลงทุนและวิจัยประมาณ 3,000 ล้านบาท ทำรถต้นแบบกว่า 450 คัน
กว่าจะออกมาเป็น LEXUS LS 400 ในปี 1989
ในตอนนั้น LEXUS เปิดตัว LS 400 ด้วยคุณภาพระดับเดียวกับ S Class ของ Mercedes Benz และ 7 Series ของ BMW ในราคาที่จับต้องได้ เพื่อจูงใจให้คนอเมริกันรู้สึกว่าคุ้มค่า และลองเปิดใจให้กับ LEXUS
นอกจากนี้ จุดเด่นอีกอย่างที่ทำให้รถ LEXUS ต่างจากแบรนด์อื่นในตลาดตอนนั้นคือ วิธีคิด
บริษัทยุโรปและสหรัฐอเมริกา จะผลิตรถยนต์ออกมาก่อน แล้วทำให้ลูกค้าสนใจทีหลัง..
แต่ LEXUS จะเริ่มคิดจากความต้องการของคนเป็นอันดับแรก
โดยมีการศึกษาลูกค้าในตลาดอย่างจริงจัง
ให้ทีมวิศวกรเชิญผู้ใช้งานรถยนต์หรูจากทุกแบรนด์หลายร้อยคนมาสัมภาษณ์..
เพื่อดูว่าอะไรที่ลูกค้ารถหรูชอบ อะไรที่ไม่ชอบและควรแก้ไข
แล้วนำข้อมูลกลับมาพัฒนารถยนต์ของตัวเองให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้มากที่สุด
ซึ่งถือเป็นความละเอียดอ่อน และวิธีคิดในแบบของคนญี่ปุ่นที่ฝรั่งไม่มี
LEXUS เลยเป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้นมา ด้วยความเข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง
เรื่องนี้ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยทำให้ LEXUS กลายมาเป็นแบรนด์ที่คนอเมริกันชื่นชอบ
เมื่อทำรถที่ดีได้แล้ว ตีตลาดได้แล้ว ทำอย่างไรให้คนอยู่กับแบรนด์ในระยะยาว
LEXUS ยืนระยะด้วยการสั่งสมความน่าเชื่อถือ
ซึ่ง LEXUS มีจุดแข็งเรื่องความไว้ใจได้ ใช้งานระยะยาวได้อย่างไม่มีปัญหา ซึ่งเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่คนซื้อรถระดับนี้จะพิจารณา
เพราะต่อให้ทำรถออกมาหรูแค่ไหน ถ้าไม่สามารถทำให้คนมั่นใจได้ว่าจะเป็นรถที่ดี ใช้งานระยะยาวได้ ก็จะไม่สามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดจากแบรนด์อื่นได้
จุดเปลี่ยนสำคัญอีกข้อ ที่ทำให้ยอดขายของ LEXUS กระโดดขึ้นมาตีคู่กับแบรนด์ยุโรปได้ภายในเวลาแค่ไม่กี่ปี คือบริษัทสามารถพัฒนารถยนต์ประเภท SUVs โดยนำมาผสมผสานกับความหรูหราออกมาเป็น LEXUS RX ในปี 1998
เรื่องนี้หลายคนอาจไม่เคยคิดมาก่อน เพราะรถหรูหลายคนจะนึกถึงแต่รถ Sedan
แต่การแนะนำ LEXUS RX ณ ตอนนั้น โดนใจคนอเมริกัน ที่ต้องการรถใหญ่ อเนกประสงค์ แต่ยังหรูหราและนั่งสบายในเวลาเดียวกัน จนสามารถทำยอดขายได้อย่างถล่มทลาย
นี่เป็นอีกหนึ่งกรณี ที่เห็นว่าวิธีคิดแบบญี่ปุ่นของ LEXUS ที่เริ่มคิดจากความต้องการของผู้ใช้นั้น
มีผลทำให้แบรนด์ LEXUS ก้าวมาอยู่แถวหน้าของตลาด
และจากตัวเลข กลายเป็นว่า LEXUS มีจุดเด่นอยู่ที่รถยนต์ SUVs
ปัจจุบัน โครงสร้างรายได้ของ LEXUS แบ่งออกเป็นกลุ่มธุรกิจ
รถยนต์ SUVs 68.4%
รถยนต์ Sedan 25.8%
และ อื่นๆ 5.8%
แล้วปัจจุบัน LEXUS ขายดีขนาดไหน?
รายได้ LEXUS ภายใต้บริษัท Toyota Motor Corporation
ปี 2017 รายได้ 458,000 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 466,000 ล้านบาท
รายได้ของ LEXUS สามารถเติบโตได้ประมาณ 2.4% ในขณะที่ตลาดรถหรูทั่วโลกชะลอตัวลงกว่า 4.8% ในช่วงเวลาเดียวกัน
และถ้าดูรายได้ตามภูมิภาคในตอนนี้ สัดส่วนหลักกว่า 84% ของ LEXUS มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา..
จากเดิมที่ไม่มีใครเชื่อถือ หากญี่ปุ่นจะมาทำรถหรูให้คนอเมริกันใช้
30 ปีผ่านไป แบรนด์ LEXUS กลายเป็นรถยนต์ที่คนอเมริกันบอกว่าน่าเชื่อถือ
เรื่องนี้น่าสนใจว่า LEXUS เป็นแบรนด์จากเอเชียเพียงแบรนด์เดียวที่สามารถแข่งขันกับรถหรูจากยุโรปได้อย่างสูสี เทียบเท่า Mercedes-Benz และ BMW
โดยปัจจุบัน LEXUS ยังขึ้นชื่อว่าเป็นผู้นำในการผลิตรถยนต์ที่นำมอเตอร์ไฟฟ้ามาทำหน้าที่เสริมการทำงานของเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิง หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ เครื่องยนต์ Hybrid
เรื่องนี้ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงความตั้งใจของ LEXUS
ถ้าเราตั้งใจทำ คอยพัฒนาสินค้าอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง
ที่สำคัญคือ เข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างถ่องแท้
สินค้าของเราก็จะสามารถเข้ามาอยู่ในใจของลูกค้าได้อย่างแน่นอน
เหมือนวันนี้ของ LEXUS จากแบรนด์ญี่ปุ่นนอกสายตาคู่แข่ง กลายเป็นรถหรูเพียงแบรนด์เดียวของเอเชีย ที่สามารถแข่งกับรถยุโรปได้อย่างสูสี..
References
-https://www.forbes.com/2005/07/26/toyota-LEXUS-autos-cx_cn_0726autofacescan02.html#50cb023938c9
-https://www.toyota-global.com/company/history_of_toyota/75years/data/company_information/management_and_finances/management/executives/past.html
- Columbia Business School, USA
- https://www.statista.com/
-Toyota Motor Annual Report and Presentation 2018
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2019-09-04/LEXUS-laps-bmw-and-mercedes-for-second-straight-u-s-sales-win?srnd=premium-asia
-Dawson, Chester (2004). LEXUS: The Relentless Pursuit. Hoboken, NJ: Jon Wiley & Sons.
-Mahler, Jonathan (2004). The LEXUS Story: The Behind the Scenes Story of the #1 Automotive Luxury Brand in America. New York: Melcher Media.
同時也有10部Youtube影片,追蹤數超過70萬的網紅Spice N' Pans,也在其Youtube影片中提到,Spice N' Pans goes live in public! This is Roland's first live cooking demonstration held at Takashimaya in Singapore. Held on 9 March 2019, Roland de...
「company presentation」的推薦目錄:
- 關於company presentation 在 ลงทุนแมน Facebook
- 關於company presentation 在 ลงทุนแมน Facebook
- 關於company presentation 在 ลงทุนแมน Facebook
- 關於company presentation 在 Spice N' Pans Youtube
- 關於company presentation 在 Dan Lok Youtube
- 關於company presentation 在 七王 Youtube
- 關於company presentation 在 29 Company Presentation ideas - Pinterest 的評價
company presentation 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
ราคาน้ำมันตกต่ำ Saudi Aramco ได้รับผลกระทบแค่ไหน? /โดย ลงทุนแมน
ราคาน้ำมันดิบตลาดโลก ปรับตัวลดลงนับจากต้นปีประมาณ 30% ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อบริษัทพลังงานหลายแห่ง จนประสบภาวะขาดทุน และตัดลดงบลงทุนจำนวนมาก
แล้วเรื่องนี้ ส่งผลกระทบต่อบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Saudi Aramco มากแค่ไหน?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
สัมผัสเทคโนโลยีรูปแบบใหม่จากสตาร์ตอัปไทย Blockdit
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Saudi Aramco เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของซาอุดีอาระเบียในเดือนธันวาคม ปี 2019
โดยวันแรกที่หุ้นของบริษัทเข้ามาซื้อขาย
บริษัทมีมูลค่า Market Cap. ประมาณ 60 ล้านล้านบาท
แต่หลังจากนั้นไม่นาน Saudi Aramco เจอเหตุการณ์ที่ท้าทายบริษัทอย่างหนัก
1. สงครามราคาน้ำมันระหว่างรัสเซียกับซาอุดีอาระเบีย ทำให้ราคาน้ำมันตกต่ำ
2. การระบาดของ COVID-19 ทำให้เศรษฐกิจโลกตกต่ำอย่างรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่เกิด Great Depression หรือภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ปี 1930
เศรษฐกิจที่ตกต่ำ ส่งผลให้การขนส่งและการเดินทางระหว่างประเทศลดลงในช่วงที่ผ่านมา
และก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ความต้องการบริโภคน้ำมันทั่วโลกลดลง และต้องใช้เวลาอีกพอสมควรกว่าที่จะกลับไปสู่ระดับปกติ
เรื่องทั้งหมดนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้มูลค่า Market Cap. ของ Saudi Aramco ลดลงเหลือ 55 ล้านล้านบาท หรือลดลงไปประมาณ 5 ล้านล้านบาท นับจากวันที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
แค่มูลค่าที่ลดลงไปก็มีมูลค่าเท่ากับบริษัทปตท. จำนวน 5 บริษัทมารวมกัน..
แล้วผลประกอบการของ Saudi Aramco ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2020 เป็นอย่างไร
6 เดือนแรกของปี 2019 รายได้ 4,626,000 ล้านบาท กำไร 1,463,000 ล้านบาท
6 เดือนแรกของปี 2020 รายได้ 2,902,000 ล้านบาท กำไร 725,000 ล้านบาท
รายได้ลดลงไป 37% ขณะที่กำไรลดลงไป 50%
แต่ต้องบอกว่า แม้กำไรจะลดลงอย่างมาก แต่ผลประกอบการของ Saudi Aramco ก็ยังดูดีกว่าบริษัทพลังงานขนาดใหญ่หลายแห่งที่ขาดทุนในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2020
British Petroleum ขาดทุน 662,000 ล้านบาท
Shell ขาดทุน 566,000 ล้านบาท
ExxonMobil ขาดทุน 53,000 ล้านบาท
หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ Saudi Aramco ยังมีกำไรได้อยู่ก็เพราะต้นทุนขุดเจาะน้ำมันของ Saudi Aramco อยู่ในระดับที่ต่ำเพียง 2.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันดิบในปัจจุบัน
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ก็ต้องบอกว่า Saudi Aramco น่าจะเป็นบริษัทพลังงานที่สามารถทนทานต่อภาวะที่ราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ ได้ดีกว่าบริษัทพลังงานขนาดใหญ่อีกหลายแห่ง
หรือพูดง่ายๆ ก็คือ กว่าที่ Saudi Aramco จะเริ่มประสบปัญหา บริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมก็น่าจะตายก่อน
นอกจากนี้ Saudi Aramco ยังคาดว่าทั้งปี 2020 จะยังสามารถจ่ายเงินปันผลได้เท่ากับปีที่แล้วที่เท่ากับ 2,340,000 ล้านบาท แม้ว่าผลประกอบการจะลดลง
ซึ่งในตอนนี้ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของ Saudi Aramco ก็ยังเป็นรัฐบาลของซาอุดีอาระเบีย ที่ถือหุ้นอยู่ 98.5% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ปัจจุบัน แม้ว่า Saudi Aramco จะเป็นบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก
แต่ตอนนี้กลับไม่ใช่บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกแล้ว
เนื่องจากล่าสุด บริษัท Apple ได้มีมูลค่าบริษัทแซง Saudi Aramco ไปแล้ว นั่นเอง..
╔═══════════╗
สัมผัสเทคโนโลยีรูปแบบใหม่จากสตาร์ตอัปไทย Blockdit
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://www.saudiaramco.com/en/investors/investors
-https://www.aa.com.tr/en/economy/saudi-aramco-income-higher-than-12-oil-giants-in-2019/1784539
-https://www.deccanchronicle.com/business/companies/020820/apple-now-worlds-most-valuable-company-dethrones-saudi-aramco.html
-https://www.saudiaramco.com/-/media/publications/corporate-reports/saudi-aramco-h1-2020-webcast-presentation-english.pdf
-https://www.reuters.com/article/us-saudi-aramco-results-dividends/saudi-aramco-says-it-still-plans-to-pay-75-billion-in-dividends-for-2020-idUSKCN2550BA
-https://www.businesswire.com/news/home/20200731005245/en/ExxonMobil-Reports-Results-Quarter-2020
-https://www.globenewswire.com/news-release/2020/07/30/2070010/0/en/ROYAL-DUTCH-SHELL-PLC-2ND-QUARTER-2020-AND-HALF-YEAR-UNAUDITED-RESULTS.html
-https://www.bp.com/en/global/corporate/investors/investor-presentations/2q-presentation-2020.html
-https://www.washingtonpost.com/business/energy/by-pumping-at-will-saudi-arabia-hurts-oil-investment/2020/03/15/189505da-6693-11ea-8a8e-5c5336b32760_story.html
company presentation 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
รู้จัก “CENTEL” หุ้นโรงแรม ที่รายได้หลัก มาจากธุรกิจอื่น /โดย ลงทุนแมน
หลายคนคงคุ้นเคยกับชื่อ “CENTEL”
ซึ่งก็คือ ชื่อหุ้น ของ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน)
บริษัทที่เป็นเจ้าของโรมแรมชื่อดังในประเทศไทยและในต่างประเทศหลายแห่ง
แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า
CENTEL ในตอนนี้กลับไม่ได้มีรายได้หลักมาจากธุรกิจโรงแรม
สรุปแล้ว CENTEL มีรายได้หลัก มาจากธุรกิจอะไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จุดเริ่มต้นของ CENTEL เกิดในปี พ.ศ. 2526
เมื่อกลุ่มเซ็นทรัลฯ ต้องการขยายธุรกิจในเครือตัวเองให้มีความหลากหลายมากขึ้น
“โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์แอทเซ็นทรัลลาดพร้าว”
โรงแรมระดับ 5 ดาวพร้อม ศูนย์การประชุมในตัว จึงได้ถูกเปิดตัวขึ้น ซึ่งนับเป็นโรงแรมแห่งแรกของเครือเซ็นทรัลพลาซา
จากนั้นในเวลาต่อมา CENTEL ก็ได้ขยายทั้งธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตไปยังเมืองต่างๆ ทั้งในประเทศไทย และในต่างประเทศ
โดยธุรกิจโรงแรมของ CENTEL มีทั้งโรงแรมที่บริหารเอง และรับจ้างบริหารให้กับลูกค้า
โดยทั้ง 2 แบบนั้น ส่วนใหญ่จะถูกดำเนินการภายใต้ชื่อว่า “เซ็นทารา”
ปัจจุบัน CENTEL มีจำนวนโรงแรมที่อยู่ภายใต้การบริหาร และเปิดดำเนินการแล้วทั้งหมด 41 แห่ง โดยแบ่งเป็น
1. ส่วนที่เป็นเจ้าของและบริหารเอง จำนวน 18 แห่ง มีจำนวนห้อง 4,457 ห้อง
2. ส่วนที่บริหารให้ลูกค้า จำนวน 23 แห่ง มีจำนวนห้อง 3,190 ห้อง
นอกจากนี้ ยังมีโรงแรมที่ยังอยู่ในระหว่างพัฒนาอีก 39 แห่ง โดยมีจำนวนห้องทั้งหมด 9,337 ห้อง
ซึ่งรายได้ของธุรกิจโรงแรมในปี พ.ศ. 2562 มาจากประเทศไทยประมาณ 80% และอีก 20% มาจากโรงแรมที่อยู่ในต่างประเทศ
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ คือการระบาดของโควิด 19 กำลังส่งผลกระทบกับภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยและทั่วโลก โดยเฉพาะ ธุรกิจโรงแรม ซึ่งเรื่องนี้ ส่งผลกระทบต่อ CENTEL เต็มๆ
โดยจากเดิมที่อัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) ของโรงแรมในเครือ CENTEL ช่วงก่อนโควิด 19 ระบาด เฉลี่ยแล้วอยู่สูงถึง 73%
แต่ตัวเลขนี้ กลับลดลงเหลือเพียง 4% ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี พ.ศ. 2563 ที่เป็นช่วงพีกของการระบาดโควิด 19 ในประเทศไทย เพราะโรงแรมหลายแห่งต้องทยอยปิดตัวชั่วคราวตามมาตรการของภาครัฐเพื่อควบคุมการระบาดที่เกิดขึ้น
รายได้และกำไรของบริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน)
ปี พ.ศ. 2560 รายได้ 20,345 ล้านบาท กำไร 1,991 ล้านบาท
ปี พ.ศ. 2561 รายได้ 21,804 ล้านบาท กำไร 2,178 ล้านบาท
ปี พ.ศ. 2562 รายได้ 21,320 ล้านบาท กำไร 1,744 ล้านบาท
นอกจากธุรกิจโรงแรมแล้ว
อีกหนึ่งธุรกิจที่มีความสำคัญต่อรายได้ของ CENTEL
คือ “ธุรกิจเครือร้านอาหาร”
ธุรกิจเครือร้านอาหารของ CENTEL ดำเนินการผ่านบริษัทลูกที่ชื่อว่า บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด
โดยมีแบรนด์ในเครือที่ เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป ได้สิทธิ์ในการบริหาร เช่น KFC (ประมาณเกือบ 300 สาขา), Mister Donut, Auntie Anne's รวมทั้งแบรนด์ร้านอาหารไทยและแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นอื่นๆ อีก
โดยในปี พ.ศ. 2562 ธุรกิจอาหารเครือข่ายของ CENTEL มีสาขากระจายอยู่ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวมทั้งสิ้น 1,064 สาขา
โดยในบรรดาสาขาทั้งหมด 3 แบรนด์ที่มีสาขามากที่สุดในพอร์ตเครือร้านอาหารของ CENTEL คือ
Mister Donut 35%
KFC 26%
Auntie Anne's 17%
ที่น่าสนใจคือ 3 ปีที่ผ่านมาธุรกิจอาหารเครือข่ายของ CENTEL เติบโตประมาณ 12%
ขณะที่ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ต นั้นกลับมีอัตราการเติบโตลดลงไป 5% เนื่องจากการแข่งขันที่สูงขึ้นในธุรกิจโรงแรม
แล้วธุรกิจไหน ที่สร้างรายได้ให้แก่ CENTEL มากกว่ากัน?
คำตอบนั้นก็คือ ธุรกิจเครือร้านอาหาร..
รู้ไหมว่า ในปี พ.ศ. 2562 CENTEL มีรายได้จากธุรกิจโรงแรมเพียง 40% ขณะที่ 58% มาจากธุรกิจเครือร้านอาหาร และที่เหลืออีก 2% เป็นรายได้อื่น
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ปัจจุบัน ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของ CENTEL คือ บริษัท เตียง จิราธิวัฒน์ จำกัด โดยถืออยู่จำนวน 67.5 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนกว่า 1,370 ล้านบาท
ซึ่งชื่อบริษัทนั้น ถูกตั้งตามชื่อของคุณเตียง จิราธิวัฒน์ ชายผู้ก่อตั้งห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลขึ้นในปี พ.ศ. 2490..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-แบบฟอร์ม 56-1 ปี 2562, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน)
-รายงานประจำปี 2562, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน)
-https://www.centarahotelsresorts.com/th/aboutcentara/company-history/
-https://centel.listedcompany.com/misc/PRESN/20200309-centel-company-presentation-4q2019.pdf
-https://www.set.or.th/dat/news/202008/20092951.pdf
-https://en.wikipedia.org/wiki/Central_Group
company presentation 在 Spice N' Pans Youtube 的評價
Spice N' Pans goes live in public! This is Roland's first live cooking demonstration held at Takashimaya in Singapore. Held on 9 March 2019, Roland demonstrated very easy recipes to prepare Chinese Soy Sauce Chicken as well as Chicken Rendang on the spot. Even though Roland is used to doing presentation in front of hundreds at his company events, this live cooking demo was both a nerve-wrecking as well as exciting experience for Roland because this was his first time cooking in front of so many pairs of eyes :)
Hope you will like this video. Let us know what you think of it so that we can continue to make more videos like this for you.
This video was filmed using a combination of iPhone 7 Plus and Sennheiser Memory Mic.
See Sennheiser Memory Mic here:
https://amzn.to/2Tg0dj6
#spicenpans #spicenpansoutdoor #sennheisermemorymic
Ingredients used - Soy Sauce Chicken
———
Serves 10 pax
Soya sauce chicken
1kg chicken (thigh)
1 thumb size ginger
4 stalks spring onion
1 whole bulb garlic
3 pcs cinnamon bark
12 cloves
3 star anise
25 grams rock sugar
1 cup dark soya sauce
1 litre water
4 tablespoon light soya sauce
4 tablespoon Chinese rice wine
1 teaspoon salt
Marinade
2 tablespoon dark soya sauce
8 tablespoon light soya sauce
4 stalks spring onion (lightly bruised)
4 cloves garlic ( bruised)
Ingredients for Chicken Rendang
———-
Serves 10 pa
1kg chicken boneless thigh
Cooking oil
2 cinnamon bark
5 cloves
3 star anise
5 cardamon pod
2 cups thick coconut milk
3pcs kaffir lime leaves (thinely sliced)
5pcs kaffir lime leaves (crushed)
1 cup grated coconut (lightly toasted till light golden brown)
Salts and sugar to taste
Spice Paste
10 shallots
1 inch Galangal
1 inch Ginger
4 stalks lemongrass
6 cloves garlic
1 1/2 teaspoon tumeric powder
15pcs dried chilli (reseeded and rehydrated)
Disclaimer:
Spice N' Pans is not related to these products and cannot guarantee the quality of the products in the links provided. Links are provided here for your convenience. We can only stand by the brands of the products we used in the video and we highly recommend you to buy them. Even then, preference can be subjective. Please buy at your own risk. Some of the links provided here may be affiliated. These links are important as they help to fund this channel so that we can continue to give you more recipes. Cheers!
company presentation 在 Dan Lok Youtube 的評價
If You Want More Success Secrets Like How To Find Your Signature Speaking Style To Get An Unfair Advantage In Life, Click Here And Discover Dan’s Best-Kept Secrets In His NEW Book, Unlock It: http://speakingstyle.danlok.link
Public speaking is one of the hardest, but at the same time it can be one of the most lucrative skills to scale your business… build a personal brand… or getting your message out there. But in this video, Dan and Deborah Patel, the world-renowned public speaker, gives you the untold secret of finding your signature speaking style.
Deborah helps leaders communicate with unshakeable confidence and master influential voice, presentation and public speaking skills.
She’s the first woman in the world to be chosen as a ForbesSpeaker Thought Leader for their business expert platform launched in August 2018. Deborah is also the first woman to be honoured with the Asia Professional Speaker’s Hall of Fame Lifetime Achievement Award (HOF) for speaking excellence and professionalism. Her company Expressing You Pte Ltd has been awarded elite Medal of Honour Status by the Singapore Enterprise Association in the global SME category.
? SUBSCRIBE TO DAN'S YOUTUBE CHANNEL NOW ?
https://www.youtube.com/danlok?sub_confirmation=1
Check out these Top Trending Playlists -
1.) Boss In The Bentley - https://www.youtube.com/playlist?list=PLEmTTOfet46OWsrbWGPnPW8mvDtjge_6-
2.) Sales Tips That Get People To Buy - https://www.youtube.com/watch?v=E6Csz_hvXzw&list=PLEmTTOfet46PvAsPpWByNgUWZ5dLJd_I4
3.) Dan Lok’s Best Secrets - https://www.youtube.com/watch?v=FZNmFJUuTRs&list=PLEmTTOfet46N3NIYsBQ9wku8UBNhtT9QQ
Not long ago, Dan Lok was just a poor immigrant boy. He had nothing but a strong desire to get out of debt and make enough to provide for his single mom. With this strong desire, Dan quit his job as a grocery bagger. He dropped out of college. And he became an entrepreneur.
After 13 failed businesses, Dan finally became a self-made millionaire at age 27 and multi-millionaire by age 30.
Fast forward to today, Dan is now an official Forbes Book author with over 13 internationally best-selling books. He’s the founder and chairman of several multimillion dollar businesses. And outside of his business success, he is one of the most-watched, most quoted and most followed educators of our time. In total, his videos have been watched over 100-million times across his social media platforms. His emails are read by over 2,000,000 people every month.
If you want the no b.s. way to master your financial destiny, then learn from Dan. Subscribe to his channel now.
★☆★ CONNECT WITH DAN ON SOCIAL MEDIA ★☆★
YouTube: http://youtube.danlok.link
Dan Lok Blog: http://blog.danlok.link
Facebook: http://facebook.danlok.link
Instagram: http://instagram.danlok.link
Linkedin: http://mylinkedin.danlok.link
Podcast: http://thedanlokshow.danlok.link
#DanLok #DeborahPatel #Speaking
Please understand that by watching Dan’s videos or enrolling in his programs does not mean you’ll get results close to what he’s been able to do (or do anything for that matter).
He’s been in business for over 20 years and his results are not typical.
Most people who watch his videos or enroll in his programs get the “how to” but never take action with the information. Dan is only sharing what has worked for him and his students.
Your results are dependent on many factors… including but not limited to your ability to work hard, commit yourself, and do whatever it takes.
Entering any business is going to involve a level of risk as well as massive commitment and action. If you're not willing to accept that, please DO NOT WATCH DAN’S VIDEOS OR SIGN UP FOR ONE OF HIS PROGRAMS.
This video is about How To Find Your Signature Speaking Style With Deborah Patel
https://youtu.be/XDt2xPkXUI8
https://youtu.be/XDt2xPkXUI8
company presentation 在 七王 Youtube 的評價
Sengoku 3/SNK/2001
Sengoku 3 (戦国伝承2001, Sengoku Denshō 2001) is a side-scrolling beat up game developed by Noise Factory and published by SNK. The game is the third and final title of the Sengoku series. It was released in arcades on October 25, 2001. The main illustrations were done by Shiroi Eiji, making it one of his final jobs for SNK before he left the company.
The game takes a greater departure from its predecessors in both story and presentation. The heroes are now members of a ninja clan who have to dispatch an evil emperor before he is released. Players can choose which character they want for the first time, each having their own strengths and weaknesses. Two bosses that confront the player can also be playable after a certain chapter of the game, allowing players to re-select their character if they wish.
The controls are more set as a fighting game than a standard beat up. (A) is for light attacks, (B) for heavy, (C) for jumps, and (D) for long ranged attacks chosen from a variety of projectiles that are found while playing. Each character also has their unique special attacks (performed by pressing down twice and one of the attack buttons) and an ultimate magic technique that can wipe a clear a screen of enemies in one shot. Dodging and blocking have been taken out and replaced in favor of a "dummy attack", which causes explosion damage to the enemy at a small cost of life. Gameplay also allows longer combo chains -some ranking up to 20-30 hits, making it one of the more complex entries of the series.
The alternate dimension transitions and transformation from the first two games have been omitted. Stages can now be selected and completed at the player's whim, the climax being the fight against the major villain. Overall, Sengoku 3 is seen as a great game and is generally regarded as the best of the series.
The music for the Italy stage and USA Stage can be heard in a bonus stage in KOF: Maximum Impact Regulation "A". It re-creates the last stage of the game.
(個人通關第255部)
company presentation 在 29 Company Presentation ideas - Pinterest 的八卦
Oct 19, 2021 - Company Presentation Templates #CompanyProfile #CompanyPresentation #Business. See more ideas about company presentation, company profile, ... ... <看更多>