GUSS DAMN GOOD ไอศกรีมคนไทย ที่มาไกลจากบอสตัน / โดย ลงทุนแมน
ถ้าใครอยากรู้ว่ารสชาติของการไม่ยอมแพ้เป็นอย่างไร
ให้ลองเดินเข้าร้าน Guss Damn Good
แล้วสั่งไอศกรีมรส Don’t Give Up #18 มาชิม
Guss Damn Good เป็นชื่อของร้านไอศกรีมสัญชาติไทย
แต่มีต้นกำเนิดที่มาไกลถึงสหรัฐอเมริกา
╔═══════════╗
แอปเขียนบล็อกอันดับ 1
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จุดเริ่มต้นของ Guss Damn Good มาจากคน 2 คน
คนแรก คุณระริน ธรรมวัฒนะ ซึ่งเรียนจบมาจากสายการเงิน
รับอาสาออกแบบรสชาติไอศกรีมและทำการตลาด
ส่วนคนที่สอง คุณนที จรัสสุริยงค์ เรียนจบด้านวิศวกรรม
รับหน้าที่สร้างโมเดลตั้งต้นเพื่อคำนวณสูตรไอศกรีมบนโปรแกรม Microsoft Excel
เช่น ต้องใช้ไขมันหรือของเหลวเป็นสัดส่วนเท่าไรเพื่อให้ได้เนื้อไอศกรีมที่ต้องการ
ทั้ง 2 คนมาเจอกันตอนไปเรียนต่อปริญญาโทที่ Babson College เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีจุดร่วมที่เหมือนกันก็คือ ความชื่นชอบไอศกรีม
ที่น่าสนใจคือ เมืองบอสตันเป็นเมืองหนาว ช่วงที่ร้อนที่สุดคือเดือนกรกฎาคม ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 23 องศาเซลเซียส ส่วนเดือนที่หนาวสุดคือเดือนมกราคม อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ -1.7 องศาเซลเซียส
ทั้งๆ ที่สภาพอากาศเป็นแบบนี้ แต่ก็ยังมีร้านไอศกรีมเปิดเต็มไปหมด
โดยจุดเด่นของร้านไอศกรีมของเมืองนี้จะเน้นที่รสชาติของไอศกรีมเป็นหลัก ไม่ได้ทานกับทอปปิงเสริม และแม้กระทั่งวันที่หิมะตกหนัก ก็ยังมีคนต่อคิวเพื่อซื้อไอศกรีม
คุณระรินจึงไปถามเพื่อนชาวอเมริกันว่าไม่หนาวเหรอ ซึ่งเธอได้รับคำตอบว่า “ไอศกรีมทำให้เขานึกถึงช่วงเวลาในฤดูร้อน”
ในบางครั้งการทำสินค้าอาจไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในตอนนั้น แต่ถ้าทำให้คนได้สัมผัส แล้วได้ประสบการณ์ อารมณ์ร่วม มันก็น่าจะตอบโจทย์กับผู้บริโภค
เรื่องนี้ทำให้คุณระรินเริ่มสนใจการทำไอศกรีม เพราะนอกจากความอร่อยแล้ว ไอศกรีมยังสร้างอารมณ์และความรู้สึก สามารถทำให้ผู้ทานย้อนไปถึงเรื่องราวต่างๆ ในความทรงจำได้
และตอนนั้นเธอกำลังมองหาช่องทางทำธุรกิจพอดี จึงชวนคุณนที ที่ชื่นชอบไอศกรีมเหมือนกัน ให้มาร่วมด้วย
ทั้งสองตระเวนชิมไอศกรีมไปทั่วบอสตัน ศึกษาจากตำราบ้าง พูดคุยกับเจ้าของร้านบ้าง
จากนั้นก็ทดลองทำไอศกรีม โดยซื้อเครื่องทำไอศกรีมเล็กๆ มาเริ่มทำกันในอะพาร์ตเมนต์
เมื่อกลับเมืองไทยในปี พ.ศ. 2557 ทั้งสองจึงเริ่มทำเป็นธุรกิจอย่างจริงจัง
ลงทุนซื้อเครื่องทำไอศกรีม ตู้เย็น รวมถึงตู้แช่
แต่อุปสรรคที่เกิดขึ้นตอนนั้นก็คือ พวกเขาขายไอศกรีมไม่เป็น
คือรู้ว่าทำทานเล่นกันเองอย่างไร แต่ไม่รู้ว่าถ้าจะทำขายจริงๆ ต้องทำอย่างไร
อย่างไรก็ตาม หลังจากทดลองกันอยู่นาน ทั้งสองก็ได้สูตรไอศกรีมแรกที่มีรสชาติลงตัว
ซึ่งพวกเขาตั้งชื่อรสนี้ว่า Don’t Give up #18
แน่นอนว่าชื่อนี้ต้องมีที่มา..
จริงๆ แล้ว Don’t Give Up #18 เป็นไอศกรีมรสนม ซึ่งเกิดจากความพยายามหาส่วนผสมระหว่างนมและครีมว่ายี่ห้อไหนจะเข้าคู่กันได้ดีที่สุด
โดยเลข 18 มาจากการทดลองครั้งที่ 18 ซึ่งเป็นครั้งที่เริ่มใกล้เคียงกับรสชาติปัจจุบันมากที่สุด
ทั้งสองจึงใช้เลขนี้มาเป็นเครื่องเตือนใจว่าอย่ายอมแพ้
ซึ่งสุดท้ายก็ต้องทดลองกันไปรวมๆ กว่า 30 ครั้ง ถึงจะได้รสชาติที่ต้องการ
หลังจากได้สูตรไอศกรีมแล้ว ทั้งสองก็นำไปออกร้านขายเลยที่ตลาดนัด Flea Market
ผลปรากฏว่า ไม่มีคนซื้อ เพราะลูกค้าไม่รู้จัก จึงไม่มีใครกล้าชิม
แต่เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้คุณระริน และคุณนทียอมแพ้
พวกเขาเริ่มเอาไอศกรีมไปฝากขายตามร้านกาแฟ รวมถึงออกบูทตามตลาดนัดสินค้าทำมือ
เนื่องจากทั้งสองมองว่าไอศกรีมของพวกเขา ก็เป็นหนึ่งในงานฝีมือเช่นกัน
เพราะวัตถุดิบทุกชิ้นผ่านการคัดสรรมาอย่างตั้งใจ ไม่ได้เน้นใส่กลิ่นใส่สี
โดยเน้นที่รสชาติของไอศกรีมจริงๆ ไม่ใช่เครื่องทอปปิงที่เสริมเข้ามา
ที่สำคัญคือ ทุกรสชาติต้องมีเรื่องราว ดังนั้นไอศกรีมของ Guss Damn Good จึงไม่มีรสวานิลลา ช็อกโกแลต หรือสตรอว์เบอร์รี
ตัวอย่างรสชาติของ ไอศกรีม Guss Damn Good
Why Can’t Coffee Be White? ซึ่งเกิดจากการผสมไอศกรีมกาแฟ แต่กลับได้เนื้อสีขาวแทนสีน้ำตาล
หรือ BONFIRE ไอศกรีมรสคาราเมลที่นำมาเผาจึงมีรสขม ก็เกิดจากความชอบเล่นสโนว์บอร์ดของคุณนที ซึ่งส่วนใหญ่หลังจากเล่นเสร็จทุนคนก็จะมานั่งล้อมวงแล้วจุดกองไฟปิ้งมาร์ชแมลโลว์ ได้รสชาติที่ออกขมเช่นกัน จึงเป็นที่มาของชื่อ BONFIRE
อีกกลยุทธ์ที่น่าสนใจของ Guss Damn Good คือการทำโปรเจกต์ร่วมกับแบรนด์อื่น ผ่านการทำไอศกรีมที่เป็นรสชาติของแบรนด์นั้นๆ เช่น แบรนด์รองเท้า TOMS หรือเครื่องสำอาง Wet n Wild
อย่างไรก็ตาม สำหรับตัวแบรนด์ Guss Damn Good กลับแทบไม่ได้ใช้งบประมาณการตลาดเลย แต่อาศัยการเล่าเรื่องราวและรสชาติของไอศกรีม ทำให้เกิดการบอกปากต่อปากเป็นหลัก
โดยตอนนี้ Guss Damn Good ได้เปิดร้านสาขาของตัวเอง และขยายจนมีหน้าร้านถึง 6 สาขา
แล้วตอนนี้ผลประกอบการของ Guss Damn Good เป็นอย่างไร?
รายได้ย้อนหลังของ บริษัท กัสส์ แดมน์ กู๊ด จำกัด ที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อปลายปี 2560
ปี 2560 รายได้ 1,220,807 บาท
ปี 2561 รายได้ 16,145,740 บาท
เรื่องราวของ Guss Damn Good ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
สำหรับคนที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง หนึ่งในจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดก็ควรจะเป็นสิ่งที่เรารัก
แต่นอกจากความรักในสิ่งที่ทำแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือความอดทน
เพราะถ้าหากคุณระรินและนทีล้มเลิก ไม่ทำต่อ
วันนี้เราก็คงจะไม่มีโอกาสรู้รสชาติของการไม่ยอมแพ้ จากไอศกรีมรส Don’t Give Up #18 ของพวกเขานั่นเอง..
╔═══════════╗
แอปเขียนบล็อกอันดับ 1
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
References
-https://amarinacademy.com/…/interview-review/guss-damn-good/
-https://adaymagazine.com/shop-24/
-https://www.timeout.com/bangkok/restaurants/guss-damn-good
-https://www.maeban.co.th/features_detail.php…
-http://bigmoneymag.com/listed-guss-damn-good-crafted-ice-c…/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Boston#Geography
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
同時也有10部Youtube影片,追蹤數超過128萬的網紅ウマヅラビデオ,也在其Youtube影片中提到,1990年代にマクドナルドで予想外の事件が起きた。それはとあるおばあさんがコーヒーが熱すぎたという理由で多額の賠償金を要求したのだ。メディアでは詐欺のように扱われていたが、実際は本当に重度の火傷を負っていたのだ。今1度メディアリテラシーについて考え直しても良いだろう。 ☆ちょっとでも面白いなと思っ...
coffee wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
GUSS DAMN GOOD ไอศกรีมคนไทย ที่มาไกลจากบอสตัน / โดย ลงทุนแมน
ถ้าใครอยากรู้ว่ารสชาติของการไม่ยอมแพ้เป็นอย่างไร
ให้ลองเดินเข้าร้าน Guss Damn Good
แล้วสั่งไอศกรีมรส Don’t Give Up #18 มาชิม
Guss Damn Good เป็นชื่อของร้านไอศกรีมสัญชาติไทย
แต่มีต้นกำเนิดที่มาไกลถึงสหรัฐอเมริกา
╔═══════════╗
แอปเขียนบล็อกอันดับ 1
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จุดเริ่มต้นของ Guss Damn Good มาจากคน 2 คน
คนแรก คุณระริน ธรรมวัฒนะ ซึ่งเรียนจบมาจากสายการเงิน
รับอาสาออกแบบรสชาติไอศกรีมและทำการตลาด
ส่วนคนที่สอง คุณนที จรัสสุริยงค์ เรียนจบด้านวิศวกรรม
รับหน้าที่สร้างโมเดลตั้งต้นเพื่อคำนวณสูตรไอศกรีมบนโปรแกรม Microsoft Excel
เช่น ต้องใช้ไขมันหรือของเหลวเป็นสัดส่วนเท่าไรเพื่อให้ได้เนื้อไอศกรีมที่ต้องการ
ทั้ง 2 คนมาเจอกันตอนไปเรียนต่อปริญญาโทที่ Babson College เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีจุดร่วมที่เหมือนกันก็คือ ความชื่นชอบไอศกรีม
ที่น่าสนใจคือ เมืองบอสตันเป็นเมืองหนาว ช่วงที่ร้อนที่สุดคือเดือนกรกฎาคม ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 23 องศาเซลเซียส ส่วนเดือนที่หนาวสุดคือเดือนมกราคม อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ -1.7 องศาเซลเซียส
ทั้งๆ ที่สภาพอากาศเป็นแบบนี้ แต่ก็ยังมีร้านไอศกรีมเปิดเต็มไปหมด
โดยจุดเด่นของร้านไอศกรีมของเมืองนี้จะเน้นที่รสชาติของไอศกรีมเป็นหลัก ไม่ได้ทานกับทอปปิงเสริม และแม้กระทั่งวันที่หิมะตกหนัก ก็ยังมีคนต่อคิวเพื่อซื้อไอศกรีม
คุณระรินจึงไปถามเพื่อนชาวอเมริกันว่าไม่หนาวเหรอ ซึ่งเธอได้รับคำตอบว่า “ไอศกรีมทำให้เขานึกถึงช่วงเวลาในฤดูร้อน”
ในบางครั้งการทำสินค้าอาจไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในตอนนั้น แต่ถ้าทำให้คนได้สัมผัส แล้วได้ประสบการณ์ อารมณ์ร่วม มันก็น่าจะตอบโจทย์กับผู้บริโภค
เรื่องนี้ทำให้คุณระรินเริ่มสนใจการทำไอศกรีม เพราะนอกจากความอร่อยแล้ว ไอศกรีมยังสร้างอารมณ์และความรู้สึก สามารถทำให้ผู้ทานย้อนไปถึงเรื่องราวต่างๆ ในความทรงจำได้
และตอนนั้นเธอกำลังมองหาช่องทางทำธุรกิจพอดี จึงชวนคุณนที ที่ชื่นชอบไอศกรีมเหมือนกัน ให้มาร่วมด้วย
ทั้งสองตระเวนชิมไอศกรีมไปทั่วบอสตัน ศึกษาจากตำราบ้าง พูดคุยกับเจ้าของร้านบ้าง
จากนั้นก็ทดลองทำไอศกรีม โดยซื้อเครื่องทำไอศกรีมเล็กๆ มาเริ่มทำกันในอะพาร์ตเมนต์
เมื่อกลับเมืองไทยในปี พ.ศ. 2557 ทั้งสองจึงเริ่มทำเป็นธุรกิจอย่างจริงจัง
ลงทุนซื้อเครื่องทำไอศกรีม ตู้เย็น รวมถึงตู้แช่
แต่อุปสรรคที่เกิดขึ้นตอนนั้นก็คือ พวกเขาขายไอศกรีมไม่เป็น
คือรู้ว่าทำทานเล่นกันเองอย่างไร แต่ไม่รู้ว่าถ้าจะทำขายจริงๆ ต้องทำอย่างไร
อย่างไรก็ตาม หลังจากทดลองกันอยู่นาน ทั้งสองก็ได้สูตรไอศกรีมแรกที่มีรสชาติลงตัว
ซึ่งพวกเขาตั้งชื่อรสนี้ว่า Don’t Give up #18
แน่นอนว่าชื่อนี้ต้องมีที่มา..
จริงๆ แล้ว Don’t Give Up #18 เป็นไอศกรีมรสนม ซึ่งเกิดจากความพยายามหาส่วนผสมระหว่างนมและครีมว่ายี่ห้อไหนจะเข้าคู่กันได้ดีที่สุด
โดยเลข 18 มาจากการทดลองครั้งที่ 18 ซึ่งเป็นครั้งที่เริ่มใกล้เคียงกับรสชาติปัจจุบันมากที่สุด
ทั้งสองจึงใช้เลขนี้มาเป็นเครื่องเตือนใจว่าอย่ายอมแพ้
ซึ่งสุดท้ายก็ต้องทดลองกันไปรวมๆ กว่า 30 ครั้ง ถึงจะได้รสชาติที่ต้องการ
หลังจากได้สูตรไอศกรีมแล้ว ทั้งสองก็นำไปออกร้านขายเลยที่ตลาดนัด Flea Market
ผลปรากฏว่า ไม่มีคนซื้อ เพราะลูกค้าไม่รู้จัก จึงไม่มีใครกล้าชิม
แต่เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้คุณระริน และคุณนทียอมแพ้
พวกเขาเริ่มเอาไอศกรีมไปฝากขายตามร้านกาแฟ รวมถึงออกบูทตามตลาดนัดสินค้าทำมือ
เนื่องจากทั้งสองมองว่าไอศกรีมของพวกเขา ก็เป็นหนึ่งในงานฝีมือเช่นกัน
เพราะวัตถุดิบทุกชิ้นผ่านการคัดสรรมาอย่างตั้งใจ ไม่ได้เน้นใส่กลิ่นใส่สี
โดยเน้นที่รสชาติของไอศกรีมจริงๆ ไม่ใช่เครื่องทอปปิงที่เสริมเข้ามา
ที่สำคัญคือ ทุกรสชาติต้องมีเรื่องราว ดังนั้นไอศกรีมของ Guss Damn Good จึงไม่มีรสวานิลลา ช็อกโกแลต หรือสตรอว์เบอร์รี
ตัวอย่างรสชาติของ ไอศกรีม Guss Damn Good
Why Can’t Coffee Be White? ซึ่งเกิดจากการผสมไอศกรีมกาแฟ แต่กลับได้เนื้อสีขาวแทนสีน้ำตาล
หรือ BONFIRE ไอศกรีมรสคาราเมลที่นำมาเผาจึงมีรสขม ก็เกิดจากความชอบเล่นสโนว์บอร์ดของคุณนที ซึ่งส่วนใหญ่หลังจากเล่นเสร็จทุนคนก็จะมานั่งล้อมวงแล้วจุดกองไฟปิ้งมาร์ชแมลโลว์ ได้รสชาติที่ออกขมเช่นกัน จึงเป็นที่มาของชื่อ BONFIRE
อีกกลยุทธ์ที่น่าสนใจของ Guss Damn Good คือการทำโปรเจกต์ร่วมกับแบรนด์อื่น ผ่านการทำไอศกรีมที่เป็นรสชาติของแบรนด์นั้นๆ เช่น แบรนด์รองเท้า TOMS หรือเครื่องสำอาง Wet n Wild
อย่างไรก็ตาม สำหรับตัวแบรนด์ Guss Damn Good กลับแทบไม่ได้ใช้งบประมาณการตลาดเลย แต่อาศัยการเล่าเรื่องราวและรสชาติของไอศกรีม ทำให้เกิดการบอกปากต่อปากเป็นหลัก
โดยตอนนี้ Guss Damn Good ได้เปิดร้านสาขาของตัวเอง และขยายจนมีหน้าร้านถึง 6 สาขา
แล้วตอนนี้ผลประกอบการของ Guss Damn Good เป็นอย่างไร?
รายได้ย้อนหลังของ บริษัท กัสส์ แดมน์ กู๊ด จำกัด ที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อปลายปี 2560
ปี 2560 รายได้ 1,220,807 บาท
ปี 2561 รายได้ 16,145,740 บาท
เรื่องราวของ Guss Damn Good ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
สำหรับคนที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง หนึ่งในจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดก็ควรจะเป็นสิ่งที่เรารัก
แต่นอกจากความรักในสิ่งที่ทำแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือความอดทน
เพราะถ้าหากคุณระรินและนทีล้มเลิก ไม่ทำต่อ
วันนี้เราก็คงจะไม่มีโอกาสรู้รสชาติของการไม่ยอมแพ้ จากไอศกรีมรส Don’t Give Up #18 ของพวกเขานั่นเอง..
╔═══════════╗
แอปเขียนบล็อกอันดับ 1
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
References
-https://amarinacademy.com/1123/interview-review/guss-damn-good/
-https://adaymagazine.com/shop-24/
-https://www.timeout.com/bangkok/restaurants/guss-damn-good
-https://www.maeban.co.th/features_detail.php?id=480&fbclid=IwAR2XKPygLPRrhb7Wi76qIdtswqY0evnaR1NO_BcPPMEtrzrEsKgcUJVqDeA
-http://bigmoneymag.com/listed-guss-damn-good-crafted-ice-cream/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Boston#Geography
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
coffee wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
ราคาเมล็ดกาแฟกำลังพุ่ง อาจทำให้ราคากาแฟสูงตาม เร็ว ๆ นี้ /โดย ลงทุนแมน
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า วันนี้ราคาเมล็ดกาแฟ ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการนำมาทำกาแฟที่เราดื่มกันทุกวันนี้ กำลังมีราคาเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก
พอรู้แบบนี้แล้ว หลายคนก็เริ่มตั้งคำถามกันขึ้นมาว่า
ถ้าราคาวัตถุดิบอย่างเมล็ดกาแฟเพิ่มขึ้น
แล้วธุรกิจร้านขายกาแฟชื่อดังอย่าง Starbucks จะได้รับผลกระทบหรือไม่ ?
สาเหตุอะไร ที่ทำให้ราคาเมล็ดกาแฟปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ปัจจุบัน กาแฟนับเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดชนิดหนึ่งในโลก ทั้งยังเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีมูลค่าการส่งออกมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากน้ำมัน
หากลองย้อนไปดูประวัติศาสตร์ของกาแฟแบบคร่าว ๆ จะพบว่า กาแฟเริ่มปลูกขึ้นครั้งแรกในแถบตะวันออกกลางในช่วงศตวรรษที่ 15
เวลาผ่านไปหลายร้อยปี ปัจจุบัน มีการปลูกกาแฟกันมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น ที่เอื้อต่อการเติบโตของต้นกาแฟ
โดยเฉพาะประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปลาตินอเมริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ลองมาดู 3 ประเทศ ที่ผลิตเมล็ดกาแฟรายใหญ่ของโลก ในปี 2019
1. บราซิล ปริมาณการผลิต 3.6 ล้านเมตริกตันต่อปี
2. เวียดนาม ปริมาณการผลิต 1.8 ล้านเมตริกตันต่อปี
3. โคลอมเบีย ปริมาณการผลิต 0.9 ล้านเมตริกตันต่อปี
จากตัวเลขที่เห็นนี้ รู้ไหมว่า แค่ปริมาณการผลิตเมล็ดกาแฟจากบราซิลประเทศเดียว ก็คิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของปริมาณการผลิตของโลก
ดังนั้น หากเกิดเหตุการณ์อะไรที่มากระทบกับปริมาณการผลิตกาแฟภายในประเทศเหล่านี้ ก็ย่อมจะส่งผลต่อราคาเมล็ดกาแฟอย่างมีนัยสำคัญ
ทีนี้เราลองมาดู เหตุการณ์สำคัญ ที่ทำให้ราคาเมล็ดกาแฟปรับตัวสูงขึ้น
- สภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนในแถบอเมริกาใต้
ช่วงที่ผ่านมา เกิดสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนในแถบอเมริกาใต้ โดยเฉพาะบริเวณประเทศบราซิล ส่งผลต่อปริมาณผลผลิตเมล็ดกาแฟของบราซิล
อุณหภูมิที่ลดต่ำอย่างรวดเร็วในบางช่วง ทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็ง เกาะบริเวณต้นและใบของต้นกาแฟที่อยู่ในช่วงของการเจริญเติบโต ซึ่งไม่ใช่สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับต้นกาแฟ
โดยเฉพาะพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศที่ชื่อว่า “Minas Gerais” ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกกาแฟหลักของประเทศ
ในปี 2020 รัฐแห่งนี้เป็นผู้ผลิตเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อะราบิการายใหญ่ที่สุดในบราซิล โดยมีปริมาณการผลิตคิดเป็นสัดส่วนกว่า 74% ของปริมาณการผลิตของประเทศ
- เหตุการณ์การประท้วง ในโคลอมเบีย
ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ประชาชนจำนวนมากได้ออกมาคัดค้านและต่อต้านการปฏิรูปภาษีของรัฐบาลของประเทศตนเอง
กลุ่มผู้ประท้วง ตอบโต้การกระทำของรัฐบาลด้วยการออกมาปิดเส้นทางสัญจรในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ส่งผลให้การขนส่งสินค้าต่าง ๆ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
รวมถึงการขนส่งเมล็ดกาแฟและผลิตภัณฑ์จากเมล็ดกาแฟอื่น ๆ เนื่องจากการปิดถนน ทำให้ผู้ส่งออกหลายราย ไม่สามารถรับกาแฟและเมล็ดกาแฟเพื่อไปส่งออกได้ และทำให้ยอดการส่งออกเมล็ดกาแฟของประเทศลดลง
สองเรื่องนี้ ถือเป็นปัจจัยหลัก ๆ ในช่วงที่ผ่านมาและในตอนนี้ ที่ทำให้ราคาเมล็ดกาแฟที่ซื้อขายกันในตลาดนั้นเพิ่มสูงขึ้น
สิ้นปี 2020 ราคาเมล็ดกาแฟเท่ากับ 1.28 ดอลลาร์สหรัฐต่อน้ำหนัก 1 ปอนด์
สิ้นเดือนกรกฎาคม 2021 ราคาเมล็ดกาแฟเท่ากับ 1.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อน้ำหนัก 1 ปอนด์
จะเห็นว่าในระยะเวลา 7 เดือนที่ผ่านมา ราคาเมล็ดกาแฟปรับขึ้นมาประมาณ 41%
นอกจากนั้น ราคาเมล็ดกาแฟอะราบิกาในตลาดซื้อขายล่วงหน้า ICE Futures ในสหรัฐอเมริกา ก็มีราคาสูงขึ้นมาก ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
พอหลายคนรู้แบบนี้ก็น่าจะคิดต่อไปว่า แล้วธุรกิจร้านกาแฟที่ต้องอาศัยวัตถุดิบสำคัญอย่างเมล็ดกาแฟ จะได้รับผลกระทบแค่ไหน ? โดยเฉพาะ “Starbucks” ที่ทำธุรกิจเชนร้านกาแฟที่มีสาขาทั่วโลก
โดยทั่วไปแล้ว บริษัทที่ขายเครื่องดื่มที่ใช้กาแฟเป็นวัตถุดิบนั้น มักจะทำสัญญาซื้อเมล็ดกาแฟล่วงหน้า เพื่อลดความผันผวนของราคาต้นทุน
ซึ่งในกรณีของ Starbucks บริษัทบอกว่าทำสัญญา ซื้อเมล็ดกาแฟล่วงหน้าประมาณ 14 เดือน
และบริษัทยังได้ระบุว่า ราคาการซื้อเมล็ดกาแฟของบริษัท มีการทำสัญญาล่วงหน้าไว้แล้ว ทั้งสำหรับปี 2021 และ 2022
หมายความว่า ราคาเมล็ดกาแฟที่ปรับขึ้นในปัจจุบัน ก็คงยังไม่ได้ส่งผลกระทบกับบริษัทมากเท่าไร เนื่องจากต้นทุนเมล็ดกาแฟที่บริษัทซื้อนั้น เป็นต้นทุนที่เกิดขึ้นในช่วงที่ราคายังไม่ปรับตัวสูงก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ถ้าราคาเมล็ดกาแฟยังปรับตัวสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ บริษัทขายเครื่องดื่มหลายแห่งที่ใช้เมล็ดกาแฟเป็นวัตถุดิบก็ต้องเข้าไปทำสัญญาซื้อเมล็ดกาแฟล่วงหน้าในราคาที่สูงขึ้น
ดังนั้นก็เป็นไปได้ว่า หากราคาเมล็ดกาแฟยังมีราคาอยู่ในระดับสูงแบบนี้
พวกเราก็จะต้องจ่ายเงินซื้อกาแฟที่แพงขึ้น ในเร็ว ๆ นี้..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้ไหมว่าในปี 2019 ทั่วโลกมีการบริโภคกาแฟวันละ 2,250 ล้านแก้ว โดยประเทศที่บริโภคกาแฟมากที่สุดในโลกคือ สหรัฐอเมริกา ที่มีการบริโภคกาแฟ เฉลี่ยวันละ 500 ล้านแก้ว
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://markets.businessinsider.com/commodities/coffee-price
-https://globalnews.ca/news/8091684/retail-coffee-prices-to-climb/
-https://www.investing.com/commodities/us-coffee-c
-https://farrerscoffee.co.uk/top-10-coffee-producing-countries-around-the-world/
-https://elevencoffees.com/top-coffee-producing-countries/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Minas_Gerais
-https://worldpopulationreview.com/country-rankings/coffee-consumption-by-country
-https://perfectdailygrind.com/2021/05/the-colombia-protests-how-is-the-situation-affecting-the-population-and-the-coffee-sector/
-https://www.mreport.co.th/news/industry-movement/214-Container-Shortage-2021
-https://www.businessinsider.com/starbucks-hedges-coffee-prices-taking-a-cue-from-airlines-2021-7
-https://www.dearretailinvestors.com/the-coffee-crisis-is-coming/
coffee wiki 在 ウマヅラビデオ Youtube 的評價
1990年代にマクドナルドで予想外の事件が起きた。それはとあるおばあさんがコーヒーが熱すぎたという理由で多額の賠償金を要求したのだ。メディアでは詐欺のように扱われていたが、実際は本当に重度の火傷を負っていたのだ。今1度メディアリテラシーについて考え直しても良いだろう。
☆ちょっとでも面白いなと思ったらチャンネル登録よろしく☆
http://youtube.com/subscription_center?add_user=umaduravideo
_____________________________________________________________________
◆メンバーのTwitter!!繋がれちゃうからね?いいね?◆
☆ウマヅラ
https://twitter.com/umaduravideo_
☆ベーコン
https://twitter.com/amuse_bacon
☆否メンディー
https://twitter.com/inainainamen
_____________________________________________________________________
※あくまで、都市伝説はフィクションであり、実際に起きてることとは異なり、また誹謗中傷を目的としてこの動画は制作されておりません。また使用している素材はすべて引用であり著作権を侵害する目的でこの動画を制作しておりません。
_____________________________________________________________________
Woman Burned by McDonald's Hot Coffee, Then the News Media | Retro Report | The New York Times
https://youtu.be/pCkL9UlmCOE
Adam Ruins Everything - The Truth About the McDonald's Coffee Lawsuit
https://youtu.be/KNWh6Kw3ejQ
https://ja.wikipedia.org/wiki/マクドナルド・コーヒー事件
https://www.nytimes.com/2013/10/21/booming/not-just-a-hot-cup-anymore.html
coffee wiki 在 Ting Youtube 的評價
註1. a cup of Joe,英語俚語,意為一杯咖啡。同時Joe也是Joseph的暱稱。
註2. 原文為拉丁語 “Hic est enim Calix Sánguinis mei”,出自《羅馬彌撒經書》中“酒的聖化”部分。
SCP基金會繁中站點
http://scp-zh-tr.wikidot.com/
SCP基金會為虛構的創作
來源:SCP基金會
http://scp-wiki-cn.wikidot.com/scp-294
http://www.scp-wiki.net/scp-294
開頭音樂 Jimmy Fontanez & Doug Maxwell - TRAP UNBOXING
背景音樂 Far The Days Come - Letter Box
以下內容以Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 License授權
coffee wiki 在 Phê Phim Youtube 的評價
Phê Phim News: JOHN WICK 3 là TUYỆT PHẨM? | VỢ BA chiếu ở VIỆT NAM | SPIDER-MAN trailer MỚI!
Chào mừng các bạn đến với Phê Phim News, nơi mà mình nói về những tin tức thú vị nhất trong thế giới điện ảnh tuần vừa rồi. Video hôm nay ngày 08/05 sẽ có những nội dung chính như sau:
Kịch bản: @thaongan.20, @_dg.trf, @linhvetter
MC & voice: @linhvetter
Editor: @nhancdang, @hiep_pics
______
1. “VỢ BA” - PHIM CÓ KINH PHÍ CAO NHẤT LỊCH SỬ ĐIỆN ẢNH VIỆT
-http://www.baogiaothong.vn/maya-tinh-cu-cua-chu-dai-gia-vao-phim-co-kinh-phi-28-ty-chuan-bi-ra-rap-d420071.html
-https://www.tiff.net/tiff/the-third-wife/
-https://www.rottentomatoes.com/m/the_third_wife
-https://www.imdb.com/title/tt7692966/
______
2. Spider-Man: Far From Home - Tiết lộ động vũ trụ!
-https://www.youtube.com/watch?v=LFoz8ZJWmPs
______
3. Game of Thrones tập 4 lộ cốc Starbucks!?
-https://variety.com/2019/tv/news/hbo-coffee-cup-game-of-thrones-1203206397/
-https://twitter.com/gameofthrones/status/1125502368056053762?s=21
______
Điểm báo
Vai diễn của Katherine Langford trong Avengers: Endgame
https://screenrant.com/avengers-endgame-katherine-langford-role-character-cut/
Paul Rudd nhận giải thưởng thành tựu
https://variety.com/2019/film/awards/paul-rudd-to-receive-nova-award-at-the-maui-film-festival-1203205256/
IT chapter 2 sẽ ra mắt trailer vào thứ 5 tới
https://www.instagram.com/p/BxIFLJnjsmz/
______
3. The Long Night (Game of Thrones mùa 8, tập 3) QUÁ TỐI?
-https://en.wikipedia.org/wiki/The_Long_Night_(Game_of_Thrones_episode)
-https://www.businessinsider.com/game-of-thrones-cinematographer-defends-lighting-after-viewer-complaints-2019-4
______
Phim mới
-The Curse of La Llorona (Mẹ Ma Than Khóc)
-GUESTS (Chuyến Viếng Thăm Tử Thần)
______
Tin 4: Review sớm John Wick 3
https://phephim.vn/post/592-REVIEW-SOM-John-Wick:-Chapter-3:-Co-phai-sieu-pham-hanh-dong-tiep-theo
______
BXH Doanh thu
-Bắc Mỹ:
https://www.boxofficemojo.com/weekend/chart/?yr=2019&wknd=18&p=.htm
-Việt Nam:
https://boxofficevietnam.com/#1543824640456-16ae0ab0-64e8
#PhêPhimNews #Số61
coffee wiki 在 維基百科為什麼要叫做「Wiki」pedia? | 超邊緣冷知識第82集 的八卦
許多人常用的資料網站- 維基 百科,為什麼當初要命名成「 Wiki 」pedia,它的 Wiki 是怎麼來的呢?支持啾啾鞋▷https://goo.gl/JzXgfv 啾啾鞋整理資料的 ... ... <看更多>