กรณีศึกษา กรุงไทย กำลังสร้าง Ecosystem ใหม่ ในระบบเศรษฐกิจไทย
กรุงไทย X ลงทุนแมน
ถ้าถามว่าธนาคารไหนในประเทศไทยที่เป็นเสมือน
“เพื่อนที่อยู่เคียงข้างคนไทย ในยามต้องเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจ”
ชื่อของ ธนาคารกรุงไทย จะเป็นชื่อแรกๆ ที่คนไทยนึกถึง
แล้วเคยสงสัยกันบ้างไหม
ว่าทำไม ธนาคารกรุงไทย ถึงต้องคอยช่วยเหลือคนไทยตลอดมา
ลงทุนแมนจะวิเคราะห์ให้ฟัง
รู้หรือไม่ว่า สถานะของธนาคารกรุงไทยตั้งแต่อดีตจนถึงวันนี้
คือการเป็นธนาคารพาณิชย์ของรัฐ มีภารกิจหลักคือสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ
เพื่อคอยช่วยเหลือประชาชนไทยและขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจไทยมานานกว่า 54 ปี
โดยการช่วยเหลือในอดีตที่คนไทยจำได้เป็นอย่างดี
ก็คือในปี พ.ศ. 2543 ที่ประเทศกำลังพลิกฟื้นจากวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง
กรุงไทยมีนโยบายการปล่อยสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ
ภายใต้แคมเปญ “เงินกำลังจะหมุนไป”
โดยเป็นการปล่อยสินเชื่อครอบคลุมทุกชุมชนและนักธุรกิจทุกระดับทั่วประเทศ
ช่วยให้ผู้ประกอบการหลายคนสามารถพลิกฟื้นธุรกิจของตัวเองกลับมาได้
ส่วนการช่วยเหลือล่าสุด ก็คงหนีไม่พ้นโควิด-19 ที่การระบาดบรรเทาลงมาก
แต่โรคระบาดนี้ ได้สร้างบาดแผลทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่กระทบถึงคนไทยทุกระดับชั้น
ก็เลยทำให้ภาครัฐมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีอันหลากหลาย
เลยทำให้ กรุงไทย ได้พัฒนาดิจิตอลแพลตฟอร์มสำหรับโครงการต่างๆของภาครัฐ เช่น
“เราไม่ทิ้งกัน” ที่เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ
“เราเที่ยวด้วยกัน” และ “คนละครึ่ง” โครงการกระตุ้นการจับจ่ายในประเทศ
เพื่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
กรุงไทยคิดแคมเปญ “ร้านข้างทางต้องอยู่ข้างกัน” กระตุ้นให้คนทั่วประเทศใช้พลังบนโลกโซเชียลแนะนำร้านอาหารริมทางอร่อยๆ จนติดเทรนด์ Twitter
นับเป็นวิธีคิดที่ชาญฉลาด สร้างกระแสให้คนไทยอุดหนุนร้านข้างทาง
ผลที่ตามมาคือ หลายๆ ร้านสามารถมีกำไรในช่วงวิกฤติโควิด-19
“กรุงไทยรักชุมชน” ให้ความรู้ด้านการเงินดิจิทัลแก่ชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ
เพื่อนำไปพัฒนาเศรษฐกิจในชุมชนตัวเองให้แข็งแกร่ง
และหากสังเกตุในหลายๆ โครงการที่เราพูดมาทั้งหมดนั้น
มี App เป๋าตัง เป็นสะพานเชื่อมในการกระจายความช่วยเหลือ
ไปยังประชาชนทั่วประเทศ จนปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดกว่า 50 ล้านครั้ง
ที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือธนาคารกรุงไทยเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการสร้าง ดิจิทัลแพลตฟอร์ม ทั้งหมดเพื่อสนับสนุนนโยบายการช่วยเหลือประชาชนของภาครัฐนั่นเอง
เรื่องราวทั้งหมดนี้ เป็นภารกิจการช่วยเหลือระบบเศรษฐกิจไทย
ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลให้แก่รัฐบาล
ซึ่งเป็นเพียง 1 ใน 5 Ecosystems ที่ธนาคารกรุงไทยได้วางเอาไว้
เพื่อพัฒนาการทำธุรกรรมทางการเงินไปสู่เป้าหมาย
การเป็นผู้นำด้านดิจิทัลแบงก์กิ้งอย่างสมบูรณ์แบบในเมืองไทย
คำถามก็คือแล้วอีก 4 Ecosystems ที่เหลือคืออะไร?
ปฎิเสธไม่ได้ว่าธนาคารในยุคนี้กำลังถูก Disruption
ด้วยนวัตกรรมการเงินดิจิทัลจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่มากมาย
เรื่องนี้ก็เลยทำให้ธนาคารต่างๆ ต้องเซตเกมธุรกิจตัวเองใหม่หมด
ธนาคารกรุงไทยเองก็ต้องปรับตัวเช่นกัน
ภายใต้ 2-Banking Models
แบบแรกคือ แบบเรือบรรทุกเครื่องบิน (Carrier) ก็คือธุรกิจดั้งเดิม เช่น การดูแลธุรกิจสินเชื่อ
ปรับกระบวนการทำงานโดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในทุกๆ ด้าน
แบบสองคือ เรือเร็ว (Speed Boat) พนักงานจะทำงานแบบ Agile
มีการวิเคราะห์ข้อมูลบน Digital Platform อย่างรวดเร็ว
ด้วยการสร้างระบบดิจิทัลรองรับในหลายๆ แพลตฟอร์มผ่าน 4 Ecosystems นั่นเอง
1. พัฒนาระบบชำระเงิน
ช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมาธนาคารแห่งนี้
พัฒนา App Krungthai NEXT อย่างต่อเนื่อง
จนล่าสุดมีการนำเทคโนโลยีระดับโลก Cloud Native พร้อมกับมีฟังก์ชั่นการใช้งานล้ำสมัย
ซึ่งก็ทำให้ยอดผู้ใช้เติบโตต่อเนื่องจนเวลานี้มีผู้ใช้ 10 ล้านกว่าคน
และเมื่อถึงสิ้นปี 2564 คาดว่าจะมียอดผู้ใช้งาน 12 ล้านคน
จนถึง App ที่ชื่อ เป๋าตัง ที่ปัจจุบันกลายเป็น App ที่ทุกคนต้องมีติดไว้ในมือถือ
จนทำให้ยอดดาวน์โหลดมากกว่า 50 ล้านครั้ง
2. การรักษาพยาบาลและสุขภาพ
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าธนาคารกรุงไทยได้สร้างระบบดิจิทัลให้กับโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อให้เราใช้บริการได้สะดวกกว่าเดิม โดยระบบนั้นชื่อว่า Smart Hospital ให้คำปรึกษาการรักษาผ่าน Video Conference
รองรับการจ่ายค่ารักษาทั้ง เงินสด บัตรเครดิต บัตรเดบิต QR Code รวมถึงสิทธิต่างๆ ของรัฐ
3. สถาบันการศึกษาและนักเรียน
กรุงไทยมีการพัฒนา University Application ที่เชื่อมโยงระบบการทำธุรกรรมดิจิทัลของธนาคารกับทางมหาวิทยาลัยต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อให้มหาวิทยาลัยในเมืองไทยก้าวสู่ “ดิจิทัลไลฟ์สไตล์”
4. ระบบขนส่ง
กรุงไทยมีการนำเสนอ “บัตรกรุงไทย บัตรเดบิตแมงมุม”
ที่ทำให้เราสามารถโดยสาร MRT และยังใช้บัตรใบนี้ ชอปปิ้ง ทานอาหาร แทนเงินสดได้
สะดวกภายในบัตรเดียว
ถึงตรงนี้..ถ้าให้สรุปภารกิจต่างๆ ของธนาคารกรุงไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงวันนี้
คือการช่วยเหลือระบบเศรษฐกิจไทยในทุกสถานการณ์ แม้ในยามที่ต้องเผชิญความยากลำบาก
เพียงแต่..ในวันที่โลกมันหมุนเร็ว พร้อมกับเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
พฤติกรรมคนก็เปลี่ยนไปจากยุคเงินสด ก็เปลี่ยนเข้าสู่โลกของเงินดิจิทัล
พอเป็นแบบนี้ กรุงไทยก็สร้างแพลตฟอร์ม ดิจิทัลแบงก์กิง
อย่างหลากหลายเพื่อรองรับชีวิตประจำวันคนไทย
และอีกอย่างที่คนภายนอกอาจยังไม่รู้ก็คือธนาคารแห่งนี้ มีนโยบายต่อต้าน
การทุจริตคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ ที่เรียกว่า “กรุงไทยคุณธรรม” หรือ Zero Tolerance
ที่ประกอบด้วยแนวคิด สร้างสรรค์ สัตย์ซื่อ สำเร็จ สามัคคี และสังคม
เพราะ กรุงไทย เชื่อว่าแนวคิดนี้จะทำให้ตัวเองเติบโตไปพร้อมสังคมที่ยั่งยืน
เรื่องราวทั้งหมดนี้ ก็เลยทำให้ธนาคารกรุงไทยได้รับรางวัลจากสถาบันต่างๆ มากมาย เช่น
รางวัล Bank of the Year 2020 in Thailand จากนิตยสาร The Banker
รางวัลคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจดีเด่น รางวัลการบริหารจัดการองค์กรดีเด่น และรางวัลความสามารถในการจัดการวิกฤติโควิด-19 ดีเด่น จาก สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) สังกัดกระทรวงการคลัง
รางวัล Best Social Impact Bank -Thailand 2020 จากวารสาร Capital Finance International (CFI)
รางวัล Thailand Digital Excellence Awards 2020
สาขา Thai Digital Champion for Tech Innovation & AI จาก สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศ (TMA)
เป้าหมายอนาคตของกรุงไทย ก็เพื่อมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินดิจิทัล
ควบคู่กับการตอบแทนสังคมในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ
เพื่อเคียงข้างสังคมไทยสู่ความยั่งยืน นั่นเอง..
Reference
-เอกสารข้อมูลประชาสัมพันธ์จาก ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過62萬的網紅Bryan Wee,也在其Youtube影片中提到,...
「cloud native application」的推薦目錄:
- 關於cloud native application 在 ลงทุนแมน Facebook
- 關於cloud native application 在 HR - The Next Gen Facebook
- 關於cloud native application 在 BorntoDev Facebook
- 關於cloud native application 在 Bryan Wee Youtube
- 關於cloud native application 在 Travel Thirsty Youtube
- 關於cloud native application 在 スキマスイッチ - 「全力少年」Music Video : SUKIMASWITCH / ZENRYOKU SHOUNEN Music Video Youtube
cloud native application 在 HR - The Next Gen Facebook 八卦
ฝากอีกเพจไว้ให้ติดตามสำหรับคนที่กำลังหางานอยู่นะครับ Q Hunter Recruitment เป็นเพจบริษัทของผมเอง ซึ่งตอนนี้ก็มีตำแหน่งที่หาอยู่เยอะเลย วันนี้เอามาให้ลองดูสำหรับสาย Programmer และเป็นงานประจำทั้งหมดนะครับ นะครับ
แยกมาให้ดูตาม Location มีช่วงเงินเดือนคร่าว ๆ ระบุไว้ให้ด้วย สะดวกตรงไหน ก็ลอง ๆ ไปสืบดู รายละเอียดเพิ่มเติม สอบถาม Q Hunter เบอร์ 095-960-3558 (คุณนิ) หรือ CV หรือ Resume มาที่
📩 Email: nicharat@qhunter.co.th
📱 Contact : 095-960-3558 (นิ) // 091-782-9127 (หยก)
💼 Line : nicharat_q
🚇 BTS ศาลาแดง 🚇
• Software Engineer (Mobile Front-end) (30-45K)
• IOS Developer (30-40K)
• Junior Front-end Developer (พิจารณาเด็กจบใหม่) (30K)
• Backend Developer (PHP lalavel) (40K)
🚇 BTS สะพานตากสิน 🚇
• Mobile Developer (React Native) (30-80K) Junior - Senior
• Backend Developer (PHP) (90K)
• UI Designer (40K)
🚇 BTS สุรศักดิ์ 🚇
• Backend Developer (Node.js) (50K)
• Mobile Developer (Flutter) (50-60K)
🚇 BTS ปุณวิถี 🚇
• Product Manager (100-150K)
🚇 BTS หมอชิต 🚇
• Senior SA/ Project Manager (60K) **2 ป้ายรถเมล์จาก BTS หมอชิต
• Cloud Engineer (100-150K)
__________________________________
🚇 MRT ศูนย์วัฒนธรรม 🚇
• Full Stack Developer (PHP) (60K)
• System Analyst (40-50K)
🚇MRT บางซื่อ🚇
• DevOps (60K)
🚇MRT พระราม9 🚇
• System Analyst (40-55K)
🏢พระปะแดง🏢
• C#.Net (Security Printing Image Processing)
- Junior (25-40K)
- Senior (40-50K)
• C#.Net Web Application (MVC Pattern)
- Junior (25-40K)
- Senior (40-50K)
• EMV Developer (Smart Card) (40-60K)
• System Analyst (Smart Card) (50-65K)
>> คลิ๊ก กรอกข้อมูล : https://forms.gle/JvoaFoSCT9k6FzBx7 <<
#QHunter #Recruitment
#HRTheNextGen
cloud native application 在 BorntoDev Facebook 八卦
อยากจะพัฒนา Application ให้รองรับความยืดหยุ่นตาม Workload ของงาน และยังรองรับการใช้ทรัพยากรร่วมกันอีกด้วย ต้องทำอย่างไรดี ? 🤔
.
ในวันนี้แอดมินจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ การพัฒนา Application ด้วยรูปแบบ Cloud Native จะเป็นอย่างไรนั้น ไปดูกันนน !!
.
อ้างอิงจาก Cloud Native Computing Foundation (CNCF) ได้เขียนไว้ว่า Cloud Native นั้นจะมีแนวคิดและเทคโนโลยี ที่จะช่วยให้เราสามารถสร้างและรันระบบโดยที่ Scale ได้ง่ายขึ้นและอีกทั้งรองรับ Environment ต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Public, Private, Hybrid Cloud หรืออาจจะเป็น On-premise ก็ได้
.
ซึ่งแนวคิดนี้ทำให้
🔸 ระบบเป็นอิสระจากกัน (Loosely Coupled)
🔸 จัดการได้ง่าย (Manageble)
🔸 ดูการทำงานได้ (Observable)
🔸 Recovery จากความผิดพลาดต่าง ๆ ได้ (Resilient)
.
✨ Cloud Native คือ รูปแบบของการพัฒนา Application ให้รองรับการประมวลผลแบบ Cloud Computing เพื่อให้ Application นั้นมีความยืดหยุ่นตาม Workload ของงาน และยังรองรับการใช้ทรัพยากรร่วมกันอีกด้วย
.
คุณสมบัติหลักที่จำเป็นต้องมีของ Cloud Native มีอยู่ 3 อย่างด้วยกัน คือ
.
1. Application ต้องถูกออกแบบด้วยแนวคิดของ Microservice - เป็นแนวคิดในการแยกระบบงาน ออกมาเป็น Service ย่อย ๆ ลงมา ที่เป็นอิสระต่อกันให้ได้มากที่สุด แล้วค่อยแบ่งหน้าที่ให้แต่ละฝ่ายดูแลในแต่ละส่วน ทำให้สามารถพัฒนา Application แบบ Parallel เพื่อเพิ่มความเร็วในการพัฒนานั่นเอง
.
2. Application ต้องทำงานภายใต้เทคโนโลยี Container - เป็นการจำลองสภาพแวดล้อมการทำงานของ Application ที่ใช้ทรัพยากรน้อยกว่าการทำงานบน Virtual Machine เสียอีก มีการรองรับการใช้งานร่วมกับ Services อื่น ๆ อีกมากมาย
.
3. Application ต้องถูกพัฒนาด้วยแนวคิดแบบ DevOps - เป็นแนวคิดที่ครอบคลุมส่วนการทำงานหลัก ๆ ด้วยกัน เช่น การทำงานเป็นทีม (Culture), เครื่องมือที่ใช้ทำงาน (Technology), กระบวนการทำงาน (Process)
.
ซึ่งระบบของ Cloud Native นั้นจำเป็นต้องมีคุณสมบัติเหล่านี้ และประโยชน์ของ Cloud Native นั้นมี่อยู่หลายอย่างด้วยกันเช่น
.
🔹 ตัว Application นั้นใช้ทรัพยากรน้อยลงกว่าเดิม (เนื่องจากใช้ตัว Container)
🔹 ทำให้การพัฒนา Application นั้นทำได้รวดเร็วขึ้น
🔹 ลดความเสี่ยงที่จะทำให้ระบบล่มจากสาเหตุที่คาดเดาไม่ได้ (Resiliency)
🔹 รองรับความยืดหยุ่นในการจัดการ Workload (On Demand Workload)
.
borntoDev - 🦖 สร้างการเรียนรู้ที่ดีสำหรับสายไอทีในทุกวัน
#cloudnative #BorntoDev