13 พฤษภาคม 2019 เป็นวันที่ผมเริ่มสร้างเพจสมองไหล แต่มาลงบทความแบบสม่ำเสมอจริงๆ ก็ช่วงเดือนกันยายน เพราะตอนนั้นผมให้ความสำคัญกับใน Blockdit เสียมากกว่า
.
จนปัจจุบันเพจสมองไหลมีอายุประมาณ 2 ปี กับผลลัพธ์ที่ได้คือ การมีผู้ติดตามมากกว่า 500,000 คน รวมทุกช่องทาง และสามารถทำเงินจากเพจได้สูงสุด 5 ล้านบาท ภายใน 1 ปี (เริ่มทำเงินในปีที่ 2) ทั้งจากการขายหนังสือ สปอนเซอร์ พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ และ ด้านการศึกษา
.
ทั้งนี้ผมต้องถือโอกาสขอบคุณแฟนเพจทุกท่าน ที่สนับสนุนผมจนถึงวันนี้ เพราะถ้าไม่มีคุณ ก็ไม่มีผมวันนี้เช่นกัน คุณคือ คนที่ผม “นึกถึง” ก่อน “ลูกค้า” เสมอ...
.
“ถ้าเราทำคอนเทนต์ดี เราก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินยิง Ads แม้แต่บาทเดียว”
.
นี่คือ คำสั้นๆ ที่กลั่นมาจากประสบการณ์ที่ผมได้เรียนรู้มาทั้งหมดจากการทำเพจมาตลอด 2 ปี แล้วในคำสั้นๆ ที่ว่านี้ มันมีอะไรที่คนกำลังเริ่มต้นทำเพจ ทำสื่อ ทำธุรกิจ หรือ ขายออนไลน์ สามารถนำไปปรับใช้ได้บ้าง ผมจะเล่าให้ฟัง…
.
หลายคนเข้าใจว่าการยิง Ads สามารถเพิ่มยอดขายได้ แต่ผมเชื่อว่าหลายคนก็รู้แล้วว่ามันไม่เป็นความจริง
.
การยิง Ads ก็เหมือนการที่เราจ้างคนแจกใบปลิว ไปแจกลูกค้า ยิ่งยิงมากเท่าไหร่ก็เหมือนกับการจ้างหลายคนมากเท่านั้น
.
แต่คำถาม คือ การมีคนแจกเยอะ ช่วยเพิ่มยอดขายจริงๆ หรอ ?
.
คำตอบ คือ “ไม่”
.
เพราะตัวตัดสินว่าลูกค้าจะซื้อของๆ คุณหรือไม่ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “คนแจกใบปลิว” แต่ขึ้นอยู่กับตัวใบปลิว ซึ่งก็คือ “คอนเทนต์” ต่างหาก
.
ถ้าคอนเทนต์ คุณดึงดูดมากพอลูกค้าก็จะเดินมาที่หน้าร้านเพื่อซื้อของคุณจากที่อยู่ในใบปลิวนั้น หรือ ไม่ก็เอาไปส่งต่อให้เพื่อนๆ ดูอีก เปรียบเหมือนการ “แชร์”
.
แต่ถ้าคอนเทนต์ที่คุณทำออกมามันไม่สามารถทำให้ลูกค้าอยากซื้อได้ ต่อให้มีคนแจกใบปลิวมากเท่าไหร่ หรือแจกสักกี่ใบ ลูกค้าก็เอาไปทิ้งถังขยะ ซึ่งเปรียบเหมือนการ “เลื่อนผ่าน” อยู่ดี
.
ฉะนั้น สิ่งที่เราต้องกลับมาให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกคือ การทำ “คอนเทนต์” เมื่อทำคอนเทนต์ได้อย่างทรงพลังแล้ว การยิง Ads หรือ การจ้างคนแจกใบปลิวถึงจะใช้ได้ผล
.
.
# แต่ก่อนจะทำคอนเทนต์ เราต้องเข้าใจก่อนว่าคอนเทนต์นั้นมีกี่ประเภท ซึ่งโดยหลักแล้วมันจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
.
1) Topical Content หรือ เรียกง่ายๆ คือ คอนเทนต์ที่ทำออกมาตามกระแสต่างๆ ส่วนใหญ่จะพูดถึงเหตุการณ์ข่าวสารในแต่ละวัน ว่าอะไรที่เขากำลังฮิต อะไรที่คนพูดถึงในช่วงนี้ และต้องลงให้ถูกจังหวะเวลาด้วย คือ ถ้าช้าเพียง 1 ชั่วโมง ก็อาจจะไม่มีประโยชน์แล้ว ซึ่งข้อดีของมันคือเรียก Traffic ได้ดีมาก แต่ข้อเสียของมันคือ มันอยู่ได้ไม่นาน ใช้ได้ครั้งเดียว ผ่านแล้วก็ผ่านไป
.
คนที่ติดตามผมมาตลอดจะรู้ว่าผมไม่ค่อยทำคอนเทนต์ประเภทนี้สักเท่าไหร่ อาจจะมีบ้างบางครั้ง แต่ไม่บ่อย
.
2) Evergreen Content หรือ เรียกง่ายๆ คือ คอนเทนต์แนว ความรู้, ปรัชญา, How to ข้อดีของมันคือมันจะไม่เสื่อมค่าไปตามกาลเวลา แม้จะผ่านไป 1 วัน 1 เดือน 1 ปี ก็ยังสามารถอ่านได้ไม่มีเบื่อ และนำมาใช้ได้จริงในชีวิตเสมอ แต่คอนเทนต์ประเภทนี้ถ้าไปลงในช่วงที่มีกระแสเรื่องอื่นอยู่ อาจจะไม่ได้รับความสนใจมากนัก และทำยากกว่าแบบเเรกมาก
.
ซึ่งผมจะทำคอนเทนต์ประเภทนี้เป็นหลัก
.
3) Value Content หรือ คอนเทนต์แบบเน้นคุณค่า นี่คือ สุดยอดคอนเทนต์เลยก็ว่าได้ เพราะมันคือการนำ 2 ข้อแรกมาผสมผสานกัน จึงทำให้คอนเทนต์แบบนี้สามารถเรียกได้ทั้งกระแส และ มีการสอดเเทรกความรู้ลงไปด้วยไม่ให้เสื่อมค่าตามการเวลา ทำให้คอนเทนต์มีความสมบูรณ์แบบและเป็นอมตะ แต่ประเด็นคือ มันทำโคตรยาก เพราะต้องทำให้มันทั้งมีคุณค่าและถูกที่ถูกเวลาด้วย แต่ถ้าทำได้ บอกเลยว่าผลของมันคุ้มค่ามากๆ
.
ซึ่งผมเคยทำคอนเทนต์แบบนี้ได้ประมาณ 10 ครั้ง ตลอด 2 ปี เช่น คอนเทนต์เรื่อง ทิลลี่ สมิธ ช่วยคนชาวจังหวัดไม้ขาวให้รอดชีวิตจากสึนามิ และ เผยแพร่ในวันรำลึกสึนามิพอดี ซึ่งผลลัพธ์ของมันคือ บทความนี้ได้ถูกหยิบยกไปในรายการข่าวใส่ไข่ ทางช่องไทยรัฐทีวี
.
ส่วนอีกเรื่องคือ บทความ ประวัติศาสตร์โรคระบาดร้ายแรง ที่จะเกิดขึ้นทุกๆ 100 ปี เผยแพร่ในช่วงไวรัส covid-19 ระบาดแรกๆ ซึ่งผลของมันคือ คุณหนุ่มกรรชัย เชิญผมไปออกรายการโหนกระแส ทางช่อง 3 จากบทความนี้
.
รวมทั้งบทความอื่นๆ อย่าง คนขับรถของลีกาซิง, โรงงานผลิตยาสีฟัน, เด็กอเมริกันจะหยุดเรียน 2 ปี เพื่อค้นหาตัวเองก่อนเข้ามหาลัย, จุดประสงค์ที่แท้จริงของเทศกาล 11.11 ของอาลีบาบา และธนบัตรญี่ปุ่น ที่มีผู้แชร์มากกว่า 20,000 ครั้ง ซึ่งส่งผลให้ยอดการติดตามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 3,000 เป็น 150,000 คนภายใน 4 เดือน
.
# ทำคอนเทนต์เพื่อให้คน "กดแชร์" มากกว่าแค่ "กดไลค์"
.
เป้าหมายในการทำคอนเทนต์ของผม คือ การทำให้คนแชร์มากกว่าคนกดไลค์ และเเน่นอนว่าการทำให้คนแชร์นั้นยากกว่ายอดกดไลค์อยู่แล้ว เพราะผมเชื่อเสมอว่า การที่คนยอมกดแชร์คอนเทนต์เราออกไปหมายความว่า เขาอยากจะบอกต่อคอนเทนต์นั้น ซึ่งสำหรับผมมันมีคุณค่ามากกว่าการที่เขาแค่กดไลค์หรือชอบมันเพียงคนเดียว
.
แต่ก่อนที่เราจะทำคอนเทนต์ให้คนแชร์ได้ เราต้องรู้เหตุผลที่ทำให้คนแชร์คอนเทนต์ของเราก่อน ซึ่งหลักๆ มันมีอยู่ 5 อย่าง คือ
.
1) ภาพลักษณ์ทางสังคม การที่เขาแชร์อะไร หน้าฟีตของเขา มันต้องทำให้เขามีภาพลักษณ์ดีขึ้น เพราะคงไม่มีใครอยากแชร์อะไรที่ทำให้คนอื่นมองตัวเองไม่ดีอยู่แล้ว
.
2) ตัวกระตุ้น คือ บทความที่ช่วยกระตุ้นให้เขาได้ฉุกคิดหรือลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่างได้ ซึ่งมันคือ คอนเทนต์สั้นๆ ที่ผมลงทุกเช้า ให้คุณได้อ่านก่อนออกไปทำงาน เพื่อช่วยกระตุ้นและให้กำลังใจคุณ ซึ่งคนมักจะแชร์เสมอ
.
3) อารมณ์ความรู้สึก คือ อ่านแล้วเกิดอารมณ์ร่วม ส่วนใหญ่เป็นบทความแนวเรื่องเล่า
.
4) ความมีประโยชน์ อันนี้ชัดเจน ถ้ามีประโยชน์ใครๆ ก็อยากแชร์ไว้ให้ตัวเองอ่านซ้ำๆ หรือ อยากส่งต่อมันให้คนอื่น
.
5) เป็นเรื่องเล่า เพราะธรรมชาติของคนชอบเรื่องเล่ามากที่สุด และสิ่งที่คนจดจำได้ดีที่สุดคือเรื่องเล่า และเรื่องเล่าเป็นสิ่งที่คนชอบนำไปเล่าต่อ
.
ผมใช้หลักการนี้ในการทำคอนเทนต์เสมอ นั่นจึงทำให้ถึงแม้บางคอนเทนต์จะเป็นโฆษณา แต่คนก็ยังอยากจะแชร์มันอยู่ดี
.
.
# พาดหัว คือ “จุดชี้เป็นชี้ตาย” ของคอนเทนต์ เพราะมันคือตัวตัดสินว่าคนจะหยุดอ่านคอนเทนต์ของเราหรือไม่ ?
.
นี่ คือสิ่งที่ผมให้ความสำคัญ 70% เลยก็ว่าได้ เพราะคนจะอ่านตรงนี้ก่อน ถ้ามันไม่โดนใจ เนื้อหาดีแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์
.
ซึ่งพาดหัวนั้นมีส่วนประกอบอยู่ 2 อย่างหลักๆ คือ “ตัวอักษร” และ “ภาพ” ต้องผสมผสานระหว่างสองอย่างนี้ให้ลงตัว
.
ซึ่งการคิดคำพาดหัวนั้นบอกเลยครับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากใช้เทคนิคแล้ว ต้องอาศัยการฝึกฝนด้วย บอกเลยว่าตรงส่วนนี้ผมใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 40 นาที กว่าจะคิดคำพาดหัวที่สมบูรณ์แบบออกมาได้
.
และสิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ ผู้อ่านมีเวลาแค่ 2 วินาทีเท่านั้น ในการตัดสินว่าจะอ่านคอนเทนต์ของเราหรือเลื่อนผ่านไป ซึ่งสิ่งที่ตัดสินก็คือ “พาดหัว” เพราะฉะนั้น เราต้องตอบให้ได้ ผู้อ่านจะได้อะไรจากคอนเทนต์ของเรา ใส่มันลงไปในพาดหัวให้ได้
.
แล้วสิ่งที่เราต้องการสื่อทั้งหมด ค่อยมาใส่ตรง “เนื้อเรื่อง”
.
และสุดท้าย คอนเทนต์ของเรามีผลกระทบอะไรกับผู้อ่านบ้าง ใส่ลงไปใน “สรุป” ช่วงท้าย
.
ทั้งหมดนี้ คือ เทคนิคที่สามารถทำให้เราประสบความสำเร็จในการทำเพจได้โดยไม่ต้องเสียเงินค่าโฆษณามากมาย เพราะต่อให้ยิง Ads หนักแค่ไหน แต่ถ้าคอนเทนต์ไม่ดี คนก็เลื่อนผ่านอยู่ดี...
.
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่าสิ่งที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้ ผมไปเอามาจากไหน ?
.
คำตอบ คือ ผมไม่ได้เก่งมาตั้งแต่เกิด หรือ รู้ด้วยตัวเองทั้งหมดหรอกครับ แน่นอนว่าส่วนหนึ่งมันเกิดจากการฝึกฝน การลองผิดลองถูก และ เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาตลอด 2 ปี
.
แต่ถ้าอาศัยแค่การลองผิดลองถูกอย่างเดียว มันก็คงต้องใช้เวลามากกว่านี้ เพราะเราต้องนั่งงมไปกับสิ่งที่ไม่รู้ ลองโดยไม่มีเป้าหมาย ซึ่งมันเสียเวลามากๆ
.
แต่โชคดีที่ตอนทำงานประจำผมรู้จักกับพี่คนหนึ่ง ซึ่งมีประสบการณ์ด้านนี้มา 8 ปี เป็นเจ้าของเพจชื่อดังที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้าน ซึ่งคอยสอน คอยชี้แนะ ให้คำปรึกษา บอกเป้าหมายที่จะต้องเดินไป มันจึงทำให้เส้นทางการลองผิดลองถูกของผมนั้น ไม่ค่อยจะพลาดเป้า และ เสียเวลามากนัก
.
ผมกล้าพูดเลยว่า ถ้าไม่มีพี่คนนี้ ก็คงไม่มีผม ไม่มีสมองไหล และ ไม่มีหนังสืองานประจำสอนทำธุรกิจ เช่นกัน เพราะหลายสิ่งที่ผมทำ ผมได้เรียนรู้มาจากเขาเกือบทั้งหมด
.
เพราะจริงๆ แล้วชีวิตคนเราไม่ได้ยาวพอที่จะเสียเวลาเรียนรู้ทุกอย่างด้วยตัวเอง เพราะการลองผิดลองถูกแบบไม่มีเป้าหมาย มันอาจจะนานกว่าที่คิด
.
และ แน่นอนว่า คุณเองก็คงไม่อยากเป็นคนที่ลองผิดลองถูกเองแบบไม่มีเป้าหมาย ทำมาตั้งนานแต่จับทางยังไม่ถูก ทำไปเท่าไหร่ก็ยังไม่ก้าวหน้าสักที
.
วันนี้ผมจึงกลั่นบทเรียนจากประสบการณ์ทั้งหมดในการทำธุรกิจออนไลน์มาตลอด 2 ปี มาให้คุณเรียนรู้ ลงมือทำ และ ได้ผลลัพธ์ทันทีภายใน 2 เดือน ในคอร์ส Online Signature Master Class 2021 ซึ่งตอนนี้มีพี่น้องมากกว่า 300 คน เข้ามาลุย และ ได้ผลลัพธ์จริงนับไม่ถ้วนแล้ว
.
ยกตัวอย่างเช่น
.
# คุณอานนท์ ซึ่งทำอาชีพขายประกัน ทักมาบอกผมทันทีที่เรียนจบคอร์สไปเพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์ ว่า…
.
ผมใช้วิธีการขายแบบเสียงย่างเนื้อ ก็สามารถทำยอดขายประกันได้ 3 ล้านภายในเดือนเดียว ซึ่งทั้งหมดนี้มาจากช่องทางออนไลน์ทั้งหมด”
.
# คนต่อมาที่เติบโตแบบก้าวกระโดดไม่แพ้กัน คือ คุณชมพู เจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายตัวหนึ่ง เธอบอกกับผมว่า
.
“ตอนเริ่มต้นทำแบรนด์ คือ ตอนอายุ 20 ค่ะ แต่ตอนนั้น ทำไปเพราะแค่อยากมีรายได้ ไม่มีทุนโปรโมต ไม่มีการวางแผนอะไรทั้งนั้น ลองผิดลองถูกเอา คือ ตอนนั้นสั่งของมาทดลองใช้เอง ใช้แล้วผิวดีขึ้น ก็เริ่มโพสต์ขายเลย ดั้นด้นขายแบบออแกนิคมา 2 ปีค่ะ ขายใน Shopee เฟซบุ๊ก และ ไอจี ซึ่งตอนนั้นก็ทำแบบขำๆ ตัดภาพเองแบบตลกๆ ก็เลยไม่ค่อยน่าซื้อเท่าไหร่ และในช่วง 2 ปีนี้ ก็มีลองยิงแอดบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำออกมาได้ดีเท่าไหร่
.
จนมา ปีที่ 3 ปีนี้ (ปัจจุบัน) เป็นปีการเปลี่ยนแปลง ช่วง ต้นปี 64 เดือนมกราคม ก็ยังโพสต์ขายอยู่ แบบเรื่อยๆ เดือนมกราคมยอดไลค์ ยอดผู้ติดตามอันน้อยนิด แบบ 2 ปีที่ผ่านมาเลย
.
แต่พอได้มาเรียนในคอร์สนี้ แล้วลองทำ ลองโพสต์ และลองทำตามเทคนิคไปสักระยะ บวกกับมาลองยิงแอดอีกครั้ง คือ งง มาก มันปังค่ะพี่ เป็นครั้งแรกที่ได้แตะออเดอร์วันละ 100 บ้าน ด้วยงบยิงแอดแค่ 90 บาท พอรู้สึกว่ามันดี ก็เลยไปสอนตัวแทนขายต่อค่ะ สอนเค้าแบบบ้านๆ เลย .
.
สรุปคือ ตัวแทนทำตาม นางขายได้ แลดูจะเข้าใจง่ายด้วย คือ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
.
**ผลลัพธ์ในปัจจุบัน
.
2 ปีที่ ขายมา
ปีแรก 62 มีเงินเก็บแค่ 10,000 บาท/ปี
ปีสอง 63 มีเงินเก็บถึง 50,000 บาท/ปี
(ดั้นด้นเอง มึนๆ มั่วๆ)
.
ปีที่สาม (ปัจจุบัน 64) แค่ช่วง 5 เดือนนี้ มีเงินเก็บ เกือบ 1 ล้านบาท (ไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้ค่ะ)
.
**ความต่างที่ชัดคือ ในระยะ 5 เดือนนี้ ที่ตัดสินใจเติมความรู้ เหมือนได้เบิกเนตร คือ มันต่อยอดได้แบบสุดจริงค่ะ**
.
.
# อีกคนหนึ่งคือ น้องภัค สาวน้อยวัย 19 ปี ที่เข้ามาในคลาส Online Signature ทั้งที่ยังไม่ได้ทำธุรกิจใดๆ แต่เมื่อเรียนไปถึงบทที่ 3 ผมก็ให้ทุกคนทำ Workshop ชิ้นหนึ่ง คือ ให้ขายสินค้าของตัวเองโดยใช้เทคนิคที่สอนไป แต่ถ้าใครยังไม่มีธุรกิจของตัวเอง ก็ให้หยิบของในบ้านมาทำ Workshop ไปก่อน ซึ่งน้องภัคก็ไปหยิบสเปรย์ระงับกลิ่นกายของตัวเองมาขาย
.
ผลปรากฎว่ามีเพื่อนๆ ในคลาสดูการบ้านที่น้องภัคทำส่ง แล้วก็สั่งซื้อจริงๆ เธอก็เลยลองไปเปิดเพจขายจริงดู จนล่าสุดเธอมาบอกผมว่า “ลองเริ่มขายไปได้แค่เดือนเดียว ยอดขาย 5,000 บาท แล้วค่ะ ตอนนี้กำลังจะลองยิงแอดตามเทคนิคที่สอนในคลาสเพิ่ม เพื่อกระตุ้นยอดขายให้มากขึ้นอีก”
.
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพี่น้องอีกกว่า 300 คน เท่านั้น ที่ผมหยิบยกมาเล่าให้ฟัง ซึ่งถ้าจะให้ผมเล่าเคสทั้งหมดทุกคน ก็คงเขียนเป็นหนังสือเล่มนึงได้ เอาเป็นว่าหากคุณอยากจะรู้ว่าพี่น้องแต่ละคนในคลาสเขาเติบโตก้าวกระโดดขนาดไหน ก็เข้ามาลุยกับพวกเราในคลาส Online Signature ได้ครับ .
.
# โดย คลาส Online Signature Master Class 2021 จะลุยกันทั้งหมด 10 บทเรียน ประกอบด้วย
.
Module 1 : Overview เข้าใจภาพรวมการตลาดออนไลน์
Module 2 : กลยุทธ์สร้างความต่างทางธุรกิจ โดยไม่ต้องแข่งราคา
Module 3 : จิตวิทยาปิดการขาย
Module 4 : Inbound Content Marketing การตลาดคอนเทนต์แบบแรงดึงดูด
Module 5 : การเขียนโพสต์ขายแบบป้ายยา
Module 6 : ศิลปะการเขียนโพสต์ขายตรง ให้ทำเงินได้แบบ Passive Income (Copy Writing)
Module 7 : การตลาด เพิ่มยอดขาย 2-10 เท่า แบบยั่งยืน
Module 8 : เทคนิคสร้างเพจให้พรีเมี่ยมด้วย Canva
Module 9 : Data thinking
Module 10 : การยิง Ads ขั้นสูง
.
✅ Bonus class : วิธีสร้างธุรกิจ ทดลองตลาด โดยไม่ต้องใช้เงินทุน
✅ Bonus class : การบริหารเงินธุรกิจ
.
และผมจะอัพเดทเนื้อหาและเทรนด์การตลาดออนไลน์ใหม่ๆ แบบเรียลไทม์เป็น Bonus ให้ทุกเดือนจนถึงสิ้นปี 2021
.
ทั้งหมดนี้เราจะเรียนกันแบบออนไลน์ เรียนที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ และ สามารถเรียนซ้ำได้ตลอดชีพครับ
.
คอร์ส Online Signature Master Class 2021
จากปกติราคา 46,000 บาท
ช่วงโปรโมชั่นเหลือเพียง 18,000 บาท
.
แต่เดี๋ยวก่อน !! เฉพาะคนที่แชร์โพสต์นี้ และ สมัครเข้ามา 10 คนแรก
คุณสามารถเข้ามาลุยในคอร์สนี้ในราคาเพียงพิเศษ 10,860 บาท เท่านั้น !!
.
# พร้อมรับของขวัญสุดพิเศษ เป็นคำเชิญเข้ากลุ่มลับ War Room ที่อาจารย์เจษแห่งสำนัก Ohmpiang นักขายมือโปร ที่สามารถขายของทุกอย่างที่อยู่ใกล้ตัว ในแบบที่เหมือนเพื่อนคุยกัน แต่ทุกคนที่ฟังต้องควักกระเป๋าเงินออกมาซื้อแบบ งงๆ ทุกที โดย อ.เจษ จะแอบมา Live เรื่อง “การขาย” ให้ฟังพร้อมเปิดรับคำถามและแจกสคริปต์การขายเรื่อยๆ แบบฟรีๆ
.
หากใครอยากจะลุยไปด้วยกัน ก็ทักไลน์มาได้ครับที่ @samounglai (ใส่ @ ข้างหน้าด้วย) จากนั้นบอกทีมงานว่า “ลุย OSM”
.
ปล1. ราคาพิเศษ 10,860 บาท และ คำเชิญเข้ากลุ่มลับ War Room นี้ เฉพาะ 10 คนแรก เท่านั้น !!
.
ปล2. สามารถชำระผ่านบัตรเครดิต หรือ ผ่อน 0% นาน 10 เดือนได้ (บัตรเครดิตที่ร่วมรายการ)
.
ปล3. เมื่อเข้ามาเรียนแล้วคิดว่าไม่คุ้ม ผมยินดีคืนเงินให้เต็มจำนวน ภายใน 7 วัน
同時也有14部Youtube影片,追蹤數超過15萬的網紅Thanh Thịnh Bùi,也在其Youtube影片中提到,Tiếp thị lại quảng cáo Facebook với 10 cách đơn giản Nội dung bài học: - Những người đã từng ghé thăm website của bạn - Những người chưa quay lại we...
「canva online」的推薦目錄:
- 關於canva online 在 สมองไหล Facebook
- 關於canva online 在 สมองไหล Facebook
- 關於canva online 在 สมองไหล Facebook
- 關於canva online 在 Thanh Thịnh Bùi Youtube
- 關於canva online 在 Nguyễn Hữu Lam Youtube
- 關於canva online 在 LIVIGRACE. CO Youtube
- 關於canva online 在 Canva Tutorial: Graphic-Design Online - YouTube 的評價
- 關於canva online 在 How to CREATE FREE GRAPHICS with Canva for your online ... 的評價
- 關於canva online 在 Canva - YouTube 的評價
- 關於canva online 在 Canva Templates and Tutorials ideas in 2022 - Pinterest 的評價
- 關於canva online 在 What Is Canva And How To Make Social Media Graphics ... 的評價
canva online 在 สมองไหล Facebook 八卦
ถ้าวันนี้คุณเป็นเจ้าของร้านคาเฟ่ที่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ แล้วบังเอิญมีลูกค้ากลุ่มหนึ่งยกพวกกันมาสิบคน นั่งแช่ครึ่งวัน ถ่ายรูปเป็นร้อย แต่สั่งกาแฟแค่แก้วเดียว คุณจะรู้สึกยังไงครับ ?
.
ก็คงรู้สึกหงุดหงิด หรือไม่ก็หัวร้อน จนอยากจะเดินไปบอกลูกค้าว่า “ถ้าจะสั่งน้ำแก้วเดียว แล้วนั่งแช่ถ่ายรูปกันครึ่งวัน เชิญร้านอื่นเถอะ”
.
แต่ถึงแม้ว่าคุณจะอยากตะโกนออกไปมากแค่ไหน แต่ตัดภาพมาที่ความเป็นจริง ก็คงพูดอะไรออกไปไม่ได้อยู่ดี เพราะนั่นคือลูกค้า คุณคงไม่อยากจะมีปัญหาใช่ไหมล่ะครับ ?
.
ยิ่งช่วงนี้ในโซเชียลก็มีแต่ดราม่า คุณเองก็คงไม่อยากตกเป็นหนึ่งในคนที่โดนสังคมรุมด่า เพียงเพราะไม่พอใจการกระทำของลูกค้าประเภทนี้
.
อย่างไรก็ตาม ถ้าเรามองเผินๆ นี่อาจจะเป็น เรื่องที่น่าหงุดหงิด แต่ถ้าคุณรู้จักคิดแบบนักธุรกิจ นี่คือ โอกาสทองในการเพิ่มยอดขายได้อย่างมหาศาลเลยล่ะ
.
ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ผมใช้เวลามากกว่า 5 ชั่วโมง ในการปลูกฝังให้กับพี่น้องในคลาส Online signature 2021 และ ย้ำเตือนกับพวกเขามาโดยตลอด ว่าถ้าอยากจะโต 10X คุณต้องคิดแบบนักธุรกิจ ไม่ใช่คิดแบบพ่อค้า เพราะมันจะทำให้คุณเห็นอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง แม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะดูแย่ก็ตาม
.
.
วันก่อน ผมมีโอกาสได้คุยกับเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยคนหนึ่ง เขาเพิ่งเปิดร้านคาเฟ่ได้ไม่นาน แล้วดันมาตรงกับช่วงโควิดพอดี ทำให้ยอดขายไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็น แถมยังต้องแข่งกับค่าใช้จ่ายต่างๆ อีก
.
ในระหว่างที่คุยกัน ผมพยายามแนะนำกลยุทธ์ทางการตลาดหลายอย่าง เพื่อให้เขานำไปปรับใช้ ซึ่งเขาก็เห็นด้วยเป็นอย่างดี
.
แต่ในจังหวะที่กำลังคุยกันอยู่นั้น เขาก็บ่นขึ้นมาว่า “วันนี้เซ็งมาก มีเด็กวัยรุ่นผู้หญิงมาร้านกัน 10 คน ถ่ายรูปกันอยู่ครึ่งวัน แต่สั่งน้ำแก้วเดียว จะบ้าตาย”
.
ผมเลยถามกลับไปว่า แล้วพี่ทำยังไง ?
.
เขาตอบผมมาว่า “พี่ก็ยิ้มแห้งๆ แล้วก็หน้าด้านถามย้ำว่า น้องสั่งแก้วเดียวใช่ไหม ?”
.
“แล้วลูกค้าตอบว่าไงครับ” ผมถามต่อ
.
เพื่อนผมหัวเราะ พร้อมตอบกลับมาว่า “มันตอบว่า ค่ะ”
.
ผมดูสีหน้าของเพื่อนคนนี้ ก็รู้ทันทีเลยว่า รอยยิ้มที่เขาส่งมา มันปนไปด้วยความเครียด และ ความรู้สึกแย่ๆ ปะปนอยู่ ซึ่งเกินที่เขาจะอธิบายออกมาเป็นคำพูด
.
ผมจึงถามต่อไปว่า “แล้วลูกค้าพวกนี้เป็นคนกลุ่มไหนครับ อายุเท่าไหร่ แล้วพี่คิดว่าเขาถ่ายรูปไปทำอะไรกัน แค่ลงโซเชียล หรือ เป็นพวกรับจ้างรีวิว ขายออนไลน์ ?”
.
“เท่าที่ได้ยินเขาคุยกัน ก็น่าจะเป็นพวกรับถ่ายรีวิวนะ แล้วก็มีบางคนที่น่าจะขายเสื้อผ้าออนไลน์ บางคนถึงขนาดเอาชุดมาเปลี่ยนเลยนะ แล้วดูท่าทางก็น่าจะยังเรียนอยู่ด้วย”
.
“นั่นไงพี่ โอกาสทองเลย !!”
.
“โอกาสทองอะไรของแกวะ สั่งน้ำแก้วเดียว แต่ถ่ายรูปครึ่งวัน พี่ว่า พี่เสียโอกาสมากกว่านะ” เพื่อนผมตอบ
.
“ถ้าพี่ลองพลิกมุมมองหน่อยนะ เด็กพวกนี้ เขายังเรียนอยู่ใช่ไหม แน่นอนเขายังไม่มีรายได้ ยังขอเงินพ่อแม่อยู่ ยังซื้อกาแฟไม่ได้ ยิ่งช่วงนี้โควิดอยู่ พ่อแม่ของน้องๆ อาจจะได้รับผลกระทบ ซึ่งถ้ามองให้ลึกๆ สิ่งที่พวกเด็กเหล่านี้กำลังทำ เขาอาจจะกำลังพยายามหารายได้จากการถ่ายรูปรับรีวิว หรือ ขายออนไลน์ เพื่อแบ่งเบาภาระของพ่อแม่ เผลอๆ บางคนก็ส่งเงินช่วยพ่อแม่ด้วยซ้ำ”
.
“แล้วไงต่อวะ” เพื่อนผมถามด้วยความสงสัย
.
“พี่ก็ทำการตลาดออกไปไง ทำคอนเทนต์โปรโมตออกไปเลย ว่าร้านของพี่ขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเด็กรุ่นใหม่ ที่กำลังมองหาร้านสวยๆ ถ่ายรูปรีวิวสินค้า เพื่อหารายได้ให้ตัวเอง และ ครอบครัวในช่วงโควิด เรารู้ว่าทุกคนกำลังลำบาก กำลังเจอวิกฤต เราขอใช้พื้นที่ร้านที่เรามี ช่วยเหลือทุกคน ดังนั้น ทุกคนจะมาถ่ายกี่คนก็ได้ นานแค่ไหนก็ได้ ขอแค่สั่งกาแฟแก้วเดียวก็พอ”
.
แล้วพี่ก็ลองคุยกับลูกค้าหน่อย ถามไถ่เขาหน่อย ว่าเขาทำอะไร บ้านอยู่ไหน ช่วงนี้ชีวิตเป็นยังไง พี่บ้านเขาเป็นยังไงบ้าง แล้วที่มาถ่ายรูปร้านเรา ผลตอบรับดีไหม คนที่จ้างน้องๆ รีวิวเขาแฮปปี้ไหม แล้วคนที่ขายของออนไลน์ล่ะ ขายดีไหม แล้วก็เอามือถือขึ้นมา ถ่ายสัมภาษณ์น้องๆ เป็นรีวิวลงเพจร้าน ได้สตอรี่มาเล่าเรื่องอีกต่างหาก
.
ถึงแม้เราจะได้ค่ากาแฟจากเขาแค่แก้วเดียว แต่คอนเทนต์จะสามารถดึงดูดลูกค้าคนใหม่ที่ไม่เคยรู้จักร้านของพี่ให้อยากมาที่ร้านเพิ่มมากขึ้นอีกมากมายเลยนะ เพราะคนไทยชอบคอนเทนต์ลักษณะนี้มากๆ และ คนเราก็ชอบซื้อของกับคนดีเสมอ เผลอๆ อาจจะมีเน็ตไอดอลมาทำคอนเทนต์รีวิวร้านพี่ให้ฟรีๆ อีก
.
แล้วพี่คิดหรอว่าคนส่วนใหญ่ที่จะตามมาร้านพี่จากคอนเทนต์ หรือ รีวิว เขาจะไม่มีตังค์ซื้อกาแฟของพี่ เผลอๆ เขาชอบในสิ่งที่พี่ทำ เขาอาจจะอยากอุดหนุน อยากซื้อเยอะกว่าเดิมด้วยซ้ำ หรือ ถ้าโชคดีหน่อยอาจจะเจอคนดีๆ เหมากาแฟร้านพี่ไปแจกก็ได้นะ
.
ที่สำคัญ ต่อให้เด็กเหล่านี้จะซื้อกาแฟของพี่แค่แก้วเดียว แต่คอนเทนต์ที่พี่ทำ รูปที่พี่ถ่าย คลิปที่พี่อัด มันจะทำให้ร้านของพี่ดูคึกคักขึ้น
.
ลองคิดดูดีๆ สิ เวลาพี่จะเข้าร้านคาเฟ่ที่ไม่เคยรู้จัก พี่เลือกเข้าร้านที่ ดูคนเยอะ หรือ คนน้อย ล่ะ ?
.
เพื่อนผมยิ้มแล้วตอบกลับมาว่า “ก็ต้องคนเยอะสิว่ะ”
.
นั่นไง พี่ก็ต้องทำให้ร้านพี่ดูเหมือนคนเยอะ และ คึกคักเข้าไว้ไง
.
เพราะ “คนเยอะ เท่ากับ ขายดี” และของขายที่ “ขายดี เท่ากับ ของดี”
.
แล้วพี่คิดดูดีๆ นะ ทำไมลูกค้าเหล่านี้เขาถึงเลือกมาถ่ายรูปร้านของพี่ แทนที่จะไปถ่ายร้านอื่นล่ะ
.
“ก็เพราะเขาเห็นอะไรในร้านของพี่ไง แล้วทำไมพี่ถึงไม่เห็นอะไรในร้านของตัวเอง แล้วใช้โอกาสนี้เอามันออกมาทำการตลาดล่ะ”
.
“เออเน๊อะ เสียดายว่ะ ทำไมตอนนั้นพี่คิดไม่ได้วะ ก่อนหน้านี้มีคนมาถ่ายรูปกันเยอะเลย” เพื่อนผมตอบกลับมาพร้อมกับยิ้มเขินๆ แสดงถึงความเสียดาย
.
ผมพูดต่อ “พี่ไม่ได้เสียอะไรเลยนะ ถึงแม้ลูกค้าจะมาที่ร้านพี่เป็นสิบคน แต่พี่ไม่ได้เสียเงินซะหน่อย ได้ค่ากาแฟมาตั้งแก้วนึง แถมยังได้ Marketing Free อีกต่างหาก ไม่ต้องเสียเงินจ้างสักบาทเลยด้วยซ้ำ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม”
.
ที่สำคัญ คือ ร้านคู่แข่งของพี่ ไม่เห็นมีใครทำแบบนี้กันสักคน ในวันที่คนอื่นหยุด ทำธุรกิจตามมีตามเกิดเอาตัวรอดไปวันๆ พี่แค่ทำอะไรที่แตกต่างนิดหน่อย ไม่ต้องอลังการมาก พี่ก็โดดเด่นกว่าคนอื่นแล้ว”
.
ของพวกนี้ มันเรียบง่ายมากนะ ไม่ต้องมีสมองอัจฉริยะเลย ทำแบบบ้านๆ นี่แหละ แค่รู้จักมองหาข้อดี มองมุมบวก ของทุกสิ่งที่เกิดขึ้น พี่ก็จะเจอโอกาส และ เงินทองที่ลอยอยู่ในอากาศ พร้อมให้พี่หยิบมันเข้ากระเป๋าเต็มไปหมด
.
เพื่อนผมตอบกลับมาพร้อมทำสีหน้าเหนื่อยๆ “มันก็ใช่นะ ไม่มีร้านไหนทำอย่างที่แกว่าเลย แต่บางทีมันก็นึกไม่ออกเหมือนกันนะว่า การทำออนไลน์ กับ พวกร้านกาแฟ ร้านคาเฟ่เนี่ย มันจะทำยังไง นอกจากเดลิเวอรี่”
.
ผมรีบสวนกลับไปว่า “พี่ !! พี่ต้องแยกให้ออก ระหว่าง “ช่องทางการขาย” กับ “ช่องทางการตลาด” เคลิเวอรี่มันคือ ช่องทางการขาย ไม่ใช่ช่องทางการตลาด
.
แต่เดี๋ยวนะ !!
.
ผมมองหน้าเพื่อน พร้อมสบตา แล้วถามกลับด้วยน้ำเสียงดุๆ ว่า “แล้วที่พี่สมัครเข้ามาเรียนในคอร์ส Online Signature 2021 พี่เรียนหรือยัง เรียนไปถึงไหนแล้ว ผมพนันเลยว่าพี่ยังไม่ได้เรียน เพราะถ้าพี่เรียนแล้ว พี่จะไม่คิดแบบนี้ มันเป็นไปไม่ได้ ที่พี่เรียนแล้ว พี่จะมองไม่ออก ว่าร้านกาแฟจะทำออนไลน์ได้ยังไง เพราะผมสอนเรื่องนี้เคลียมากๆ ซึ่งคนอื่นที่เรียน เขามองเห็น อ่านเกมออก และ ลงมือทำกันไปไกลแล้ว”
.
เพื่อนผมยิ้มพร้อมพูดว่า “อืม ชัดเจน กูขอโทษ กูยังไม่ได้เรียนเลย ช่วงนี้ยุ่งๆ พอมาฟังเเกพูดวันนี้ พี่ละอยากจะเขกหัวตัวเองมากๆ ที่สมัครไว้ตั้งสองเดือนแล้วไม่ยอมเรียน พี่มองย้อนกลับไปแล้ว รู้เลยว่า ตัวเองทำเงินหล่นหายไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว พี่สัญญาว่าหลังจากแยกย้ายกับแกวันนี้ไป จะกลับไปนั่งไล่เรียนให้จบ”
.
“เรียนเถอะ ขอร้อง แล้วพี่จะเห็นทุกอย่างเป็นเงินเป็นทอง เงินอะมันลอยอยู่ในอากาศเต็มไปหมด อยู่ที่ว่าใครจะมองเห็นมันแล้วคว้าเข้ากระเป๋าได้หรือเปล่าเท่านั้นแหละ” ผมตอบกลับไปด้วยความเป็นห่วง
.
แต่ผมก็เข้าใจนะ ยอดขายมันไม่ดี สมองมันเครียดๆ พอเจอลูกค้าแบบนี้ มันเลยกลายเป็นความคิดลบเข้ามาในหัวทันที พอเราคิดลบ มันก็เลยมืดหมด ก็เลยทำให้มองไม่เห็นโอกาส
.
เขาถึงบอกว่า คนเราต้องมีที่ปรึกษาเก่งๆ ดีๆ มีประสบการณ์สักคน เพราะเขาจะมองธุรกิจของเราในมุมกว้าง และ เป็นกลางโดยไม่มีอคติ ซึ่งนี่แหละ คือ เหตุผลที่ผมต้องดุพี่ และ ให้พี่เข้าไปเรียน เพราะคนอื่นเขาได้มุมมองเหล่านี้จากผมในคลาส เขาถึงทำกันไปไกลแล้วไง พี่เข้าไปดูในคลาสสิ ตอนนี้มีแต่คนโตเอาๆ สวนกระแสเศรษฐกิจ ที่ใครๆ ก็บ่นว่าทำอะไรก็ไม่ขึ้น
.
“โอเคจ้า ต่อไปนี้พี่จะไม่โดดเรียนอีกแล้ว จะตั้งใจเรียน แล้วเอาสิ่งที่แกสอนมาลงมือทำ แล้วจะซื้อ Benz ไปซิ่งกับ BMW ของแกนะ ฮา ฮา ฮา” เพื่อนผมแซวกลับมาแล้วก็หัวเราะกันยกใหญ่ พร้อมกับสีหน้าที่ผ่อนคลายขึ้น เหมือนเจอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
.
จากนั้นเราก็แยกย้ายกัน ซึ่งผมก็ตามดูความเปลี่ยนแปลงของเขาอยู่ห่างๆ และ เห็นว่าเขานำสิ่งที่เราคุยกันในวันนั้น พร้อมความรู้ที่ได้จากคอร์ส Online signature ไปลงมือทำ ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีเลย
.
สังเกตได้ เพื่อนคนไหนที่มาคุยกับผมบ่อยๆ แสดงว่ามันกำลังมืด แต่ถ้าเมื่อไหร่มันหายไป แสดงว่ากำลังทำเงิน จนไม่มีเวลาคุยกับผมทั้งนั้น
.
แต่ผมเองก็ยังไม่พูดอะไร เพราะคิดว่าจะรอดูเขาไปอีกสักเดือนสองเดือน แล้วค่อยคุยอัพเดตกันอีกที และ ผมมั่นใจว่า เราคงมีเรื่องสนุกๆ คุยกันมากกว่านี้อย่างแน่นอน
.
.
และคุณจะกลายเป็นคนมองเห็นโอกาสในทุกวิกฤต มองเห็นเงินในอากาศ และ สามารถคว้ามันเข้ากระเป๋าได้ทันที เมื่อเข้ามาลุยกับผม และ พี่น้องอีกมากกว่า 340 คน ในคลาส Online Signature Master Class 2021
# โดย คลาส Online Signature Master Class 2021 จะลุยกันทั้งหมด 10 บทเรียน ประกอบด้วย
.
Module 1 : Overview เข้าใจภาพรวมการตลาดออนไลน์
Module 2 : กลยุทธ์สร้างความต่างทางธุรกิจ โดยไม่ต้องแข่งราคา
Module 3 : จิตวิทยาปิดการขาย
Module 4 : Inbound Content Marketing การเขียนคอนเทนต์แบบแรงดึงดูด
Module 5 : การเขียนโพสต์ขายแบบป้ายยา
Module 6 : ศิลปะการเขียนโพสต์ขายตรง ให้ทำเงินได้แบบ Passive Income (Copy Writing)
Module 7 : การตลาด เพิ่มยอดขาย 2-10 เท่า แบบยั่งยืน
Module 8 : เทคนิคสร้างเพจให้พรีเมี่ยมด้วย Canva
Module 9 : Data thinking
Module 10 : การยิง Ads ขั้นสูง
.
✅ Bonus class : วิธีสร้างธุรกิจ ทดลองตลาด โดยไม่ต้องใช้เงินทุน
✅ Bonus class : การบริหารเงินธุรกิจ
.
และผมจะอัพเดทเนื้อหาและเทรนด์การตลาดออนไลน์ใหม่ๆ แบบเรียลไทม์เป็น Bonus ให้ทุกเดือนจนถึงสิ้นปี 2021
.
ทั้งหมดนี้เราจะเรียนกันแบบออนไลน์ เรียนที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ และ สามารถเรียนซ้ำได้ตลอดชีพครับ
คอร์ส Online Signature Master Class 2021
จากปกติราคา 46,000 บาท
ช่วงโปรโมชั่นเหลือเพียง 18,000 บาท
.
แต่เดี๋ยวก่อน !! เฉพาะคนที่แชร์โพสต์นี้ และ สมัครเข้ามา 10 คนแรก
คุณสามารถเข้ามาลุยในคอร์สนี้ในราคาเพียงพิเศษ 10,860 บาท เท่านั้น !!
.
# พร้อมรับของขวัญสุดพิเศษ เป็นคำเชิญเข้ากลุ่มลับ War Room ที่อาจารย์เจษแห่งสำนัก Ohmpiang นักขายมือโปร ที่สามารถขายของทุกอย่างที่อยู่ใกล้ตัว ในแบบที่เหมือนเพื่อนคุยกัน แต่ทุกคนที่ฟังต้องควักกระเป๋าเงินออกมาซื้อแบบ งงๆ ทุกที โดย อ.เจษ จะแอบมา Live เรื่อง “การขาย” ให้ฟังพร้อมเปิดรับคำถามและแจกสคริปต์การขายเรื่อยๆ แบบฟรีๆ
.
อยากเติบโตสวนกระแสไปด้วยกัน ก็ทักไลน์มาได้ครับที่ @samounglai (ใส่ @ ข้างหน้าด้วย) จากนั้นบอกทีมงานว่า “ลุย OSM”
.
ปล1. ราคาพิเศษ 10,860 บาท และ คำเชิญเข้ากลุ่มลับ War Room นี้ เฉพาะ 10 คนแรก เท่านั้น !!
.
ปล2. สามารถชำระผ่านบัตรเครดิต หรือ ผ่อน 0% ได้นาน 10 เดือน (บัตรเครดิตที่ร่วมรายการ)
.
ปล3. เมื่อเข้ามาเรียนแล้วคิดว่าไม่คุ้ม ผมยินดีคืนเงินให้เต็มจำนวน ภายใน 7 วัน
canva online 在 สมองไหล Facebook 八卦
ถึงเจ้าของธุรกิจทุกคน ถ้าวันนี้คุณยังต้องใช้เวลา 80% ของชีวิต ไปกับการระแวงเรื่องค่าแอดว่ามันจะแพงจนเกินเพดานกำไรไหม และ ใช้เวลาอีก 20% ไปกับการเฝ้าสังเกตว่าวันนี้เฟซบุ๊ก จะปรับอัลกอริทึมหรือลดการมองเห็นยังไงบ้าง นี่คือ บทความที่ควรค่าแก่การตั้งใจอ่านอย่างยิ่งครับ
.
เพราะสิ่งที่ผมกำลังจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ จะเปลี่ยน “ค่าแอด” ที่คุณต้องเสียไป ให้กลายเป็น “กำไร” ที่คุณควรได้รับ และ จะทำให้การ ยิงแอด เป็นแค่ “ทางเลือก” ไม่ใช่ “ทางรอด” อีกต่อไป
.
.
นี่คือ เคล็ดลับที่ผมใช้กับการทำธุรกิจออนไลน์มาตลอด 2 ปี ซึ่งได้เปลี่ยนชีวิตของผม และ พี่น้องในคลาส Online Signature จากคนธรรมดา ให้กลายเป็นมนุษย์เงินล้านมานับไม่ถ้วนแล้ว
.
ที่สำคัญ คือ มันไม่ใช่เทคนิคยอดมนุษย์ใดๆ แต่มันเป็นเพียงวิธีการอันเรียบง่าย ที่ได้ผลลัพธ์โคตรทรงพลัง เพราะมันจะทำให้คุณไม่ต้องคอยนั่งระแวงเรื่องค่าแอด และ การปรับอัลกอริทึมของเฟซบุ๊กอีกเลย
.
.
ถ้าคุณติดตามเพจสมองไหลมาสักระยะ คุณจะไม่เคยเห็นผมออกมาบ่นเรื่องค่าแอด หรือ วิ่งตามการปรับอัลกอริทึมของเฟซบุ๊กเลย นั่นก็เพราะตลอดเวลา 2 ปีที่ผมทำธุรกิจออนไลน์มา ผมไม่เคยได้รับผลกระทบจากมันเลยสักครั้งเดียว ที่สำคัญคือ มันไม่ได้เกิดขึ้นกับผมแค่คนเดียว เพราะพี่น้องใน คลาส Online Signature ตอนนี้ก็เป็นอย่างนั้นเช่นกัน
.
พวกเขาใช้เวลา 80% ของชีวิต ไปกับการคิดกลยุทธ์ในการต่อยอด และ แตกไลน์ธุรกิจ ว่าจะโตธุรกิจยังไง ให้ยอดขายแตะหลักล้านต่อเดือนได้ ส่วนอีก 20% คือ เวลาที่ใช้ไปกับการทำตามเคล็ดลับที่ผมกำลังจะนำมาเปิดเผยในบทความนี้
.
.
Seth Godin นักการตลาดชั้นนำของโลก ได้กล่าวเอาไว้ตั้งแต่ปี 2008 ว่า “Content Marketing จะเป็นการตลาดเพียงอย่างเดียวที่เหลืออยู่ต่อจากนี้” เพราะผู้คนจะวิ่งหนีโฆษณากันมากขึ้น ถ้าไม่เชื่อก็ลองมองย้อนดูตัวเองก็ได้ครับ ว่าทุกวันนี้เวลาคุณจะตัดสินใจซื้อสินค้าอะไรสักอย่าง คุณเชื่อโฆษณา หรือ เชื่อคอนเทนต์ เชื่อรีวิว มากกว่า ?
.
นั่นหมายความว่า ถ้าวันนี้ธุรกิจของคุณยังพึ่งยอดขายจากการยิงแอด ธุรกิจของคุณก็กำลัง “อ่อนแอ” ลงเรื่อยๆ
.
ดังนั้น สิ่งแรกที่คุณต้องทำ คือ การปรับหน้าเพจ จากที่เคยโพสต์รูปสินค้า เขียนแคปชั่น ร่ายคุณสมบัติ แล้วก็ยิงแอด (ซึ่งไม่ได้ผล) ให้อยู่ในรูปแบบนี้เฟซบุ๊กชอบและเปิดการมองเห็นแบบออแกนิคมากที่สุด โดยแบ่งเป็น
.
- คอนเทนต์ให้คุณค่า 80%
- รีวิว 15%
- และ โพสต์ขาย 5%
.
ถามว่าทำไมต้องเป็น 3 องค์ประกอบนี้ นั่นก็เพราะคุณต้องเข้าใจก่อนว่าหน้าที่เดียวของเฟซบุ๊ก นั่นก็คือ การคัดในสิ่งที่คนไม่ชอบทิ้ง แล้วนำส่งเฉพาะสิ่งที่คนชอบไปให้ผู้คนเห็น
.
และในเมื่อผู้คนกำลังหนีโฆษณาสินค้า จึงไม่แปลกที่เฟซบุ๊กจะต้องคัดคอนเทนต์ประเภทนี้ทิ้ง (ถ้าอยากให้คนเห็นก็ต้องจ่ายเงินยิงแอดมา) เพราะถ้าเฟซบุ๊กไม่ทำอย่างนี้ สุดท้ายผู้คนจะพากันเลิกใช้เฟซบุ๊กกันหมดเสียก่อน เพราะมันมีแต่สิ่งที่คนไม่ชอบเต็มไปหมด
.
เพื่อไม่ให้คุณถูกคัดทิ้งก่อนจะไปถึงสายตาของลูกค้า คุณจึงต้องทำแต่คอนเทนต์ที่เฟซบุ๊กเปิดการมองเห็น และ สนับสนุน ตั้งแต่แรก ดังนี้
.
1) คอนเทนต์ให้คุณค่า
.
ถ้าเปรียบเหมือนร้านขายเสื้อผ้า คอนเทนต์ให้คุณค่าก็เหมือน เสื้อผ้าที่แขวนโชว์อยู่ในร้าน ให้ลูกค้าได้เดินเลือก เดินชม ตามใจชอบ
.
ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว เวลาที่เราตัดสินใจซื้อสินค้า เราก็มักจะตัดสินใจซื้อ เพราะได้เดินเลือกดูจนถูกใจด้วยตัวเอง ไม่ใช่ตอนที่พนักงานขายเดินตามหลังแล้วพยายามยัดเยียดขายสินค้าให้กับเราจริงไหม ?
.
แต่น่าแปลกที่พอมาอยู่บนออนไลน์ คนส่วนใหญ่มักชอบเอาแต่ทำโพสต์ขาย ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการส่งพนักงานไปเดินตามหลังลูกค้า จนสุดท้าย ลูกค้าก็ไม่ชอบ แล้วก็เดินหนีออกจากร้านไป
.
ดังนั้น สิ่งที่คุณต้องทำ คือ การสร้างคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ สามารถสร้างความอยาก และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เอาไว้หน้าเพจให้ลูกค้าเข้ามาเดินชม เลือกดู ด้วยตัวของเขาเอง แล้วเมื่อไหร่ที่ลูกค้าถูกใจ เขาก็จะทักแชทไปขอซื้อสินค้าเอง เหมือนกับการที่เขาหยิบเสื้อผ้าที่ชอบแล้วเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์นั่นแหละ
.
.
2) รีวิว
.
เหตุผลที่เราต้องทำคอนเทนต์ประเภทรีวิว ก็เพื่อให้คอนเทนต์คุณค่าที่เราทำไปแล้วนั้นมีน้ำหนักมากขึ้น เพราะสิ่งที่เราต้องไม่ลืมก็คือ คำพูดจากลูกค้าด้วยกัน มีน้ำหนัก มากกว่า คำพูดของเรา เสมอ
.
แต่คำว่า รีวิว ในที่นี้ ก็ไม่ได้หมายถึงการแคปเจอร์คำชมของลูกค้า แล้วไปโพสต์เฉยๆ นะครับ เพราะรีวิวแบบนั้นมันมีพลังในการโน้มน้าวที่น้อยมาก ถ้าคุณอยากจะให้รีวิวช่วยเพิ่มน้ำหนักความน่าเชื่อถือ และ โน้มน้าวลูกค้าได้จริงๆ คุณจำเป็นต้องทำคอนเทนต์รีวิวให้อยู่ในระดับที่เข้มข้นมากกว่านี้
.
โดยการทำคอนเทนต์รีวิวนั้นแบ่งออกเป็น 4 Level ตามความเข้มข้น คือ
.
Level 1 คือ รูปภาพ และ ข้อความ บอกสถานะต่างๆ เช่น ยอดขาย รูปส่งของ แชทการสั่งซื้อ
Level 2 คือ รูปภาพ และ ข้อความ ที่บ่งบอกถึงผลลัพธ์จากการใช้งานสินค้าหรือบริการจากลูกค้า
Level 3 คือ รูปภาพ และ ข้อความ ที่มีคำอธิบาย เรื่องราว ที่มาที่ไป และ อารมณ์ร่วม
Level 4 คือ วิดีโอ ที่มีคำอธิบาย เรื่องราว ที่มาที่ไป และ อารมณ์ร่วม พูดง่ายๆ ก็คือ เหมือน Level 3 แต่ทำมาในรูปแบบของ วิดีโอ
.
สาเหตุเพราะรีวิว ในรูปแบบของวิดีโอนั้นจะดูน่าเชื่อถือมากกว่า เพราะรูปภาพ หรือ ข้อความ สามารถที่จะปลอมแอคเคาท์กันได้ แต่สีหน้า แววตา และ คำพูด ของผู้ใช้งานจริงๆ มันหลอกกันยาก
.
ถ้าที่ผ่านมาคุณทำคอนเทนต์รีวิว แค่ Level 1 กับ 2 ก็ให้ลองทำแบบ Level 3 กับ 4 ดูครับ แล้วคุณจะพบว่าผลลัพธ์ของมันจะดีขึ้นมากกว่าอย่างสิ้นเชิง
.
.
3) โพสต์ขาย
.
พอพูดถึงโพสต์ขาย หลายคนอาจจะคิดว่ามันคือ การเอารูปสินค้า เขียนแคปชั่น บอกคุณสมบัติ เสนอโปรโมชั่น แต่ความจริงแล้ว มันไม่ใช่อย่างนั้นเลยครับ เพราะการเขียนโพสต์ขายที่ได้ผลมากที่สุด คือ ต้องเขียนโดยใช้ศาสตร์ Copy Writing หรือ ที่ผมมักจะเรียกว่า “การเขียนโพสต์ขายแบบป้ายยา”
.
อย่างไรก็ตาม อีกสิ่งหนึ่งที่คุณต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับโพสต์ขายก็คือ “โพสต์ขาย” ไม่ได้มีหน้าที่ “ขาย”
.
อ้าว !! ชื่อก็บอกอยู่ว่า “โพสต์ขาย” ถ้าไม่ได้มีหน้าที่ขาย แล้วมันมีหน้าที่ทำอะไร ?
.
คุณลองนึกภาพร้านเสื้อผ้าแบรนด์ใหญ่ๆ เวลาคุณไปซื้อเสื้อผ้า คุณตัดสินใจซื้อเพราะตัวเอง หรือ ตัดสินใจซื้อเพราะพนักงานขายครับ ?
.
ใช่ครับ !! ส่วนใหญ่ คือ คุณเดินเลือก (คอนเทนต์) และ ทดลองใส่ (รีวิว) จนกว่าจะถูกใจ แล้วก็เดินไปจ่ายเงินซื้อด้วยตัวเอง
.
เว้นเสียแต่ว่า พนักงานขายเขาเห็นคุณยืนเลือกนานไปหน่อย ไม่ยอมตัดสินใจซื้อสักที เขาก็เลยเดินมาบอกคุณว่า “ถ้าคุณซื้อภายในวันนี้ คุณจะได้รับโปรโมชั่นส่วนลด 30% หรือ ไม่ก็บอกคุณว่าสินค้ากำลังจะหมด ถ้าไม่รีบซื้อตอนนี้ คุณอาจจะไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของมันอีกแล้ว”
.
เมื่อได้ยินอย่างนั้น คุณก็เลยรีบหยิบเสื้อผ้าที่ยืนดูอยู่นานแสนนาน แล้ววิ่งไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ทันที
.
เห็นไหมครับว่า พนักงานขายของร้านเสื้อผ้าแบรนด์ใหญ่ๆ ที่มียอดขายหลักล้าน เขาไม่ได้มายืนตะโกนขายของให้คุณเหมือนในตลาดนัด แต่เขาแค่มา “กระตุ้น” ให้คุณรีบ “ตัดสินใจซื้อ” ก็เท่านั้น
.
โพสต์ขายก็เช่นกันครับ มันไม่ได้มีหน้าที่ขายเหมือนแม่ค้าที่ตะโกนใส่ลูกค้า แต่โพสต์ขายมีหน้าที่ “กระตุ้น” ลูกค้าที่มี “ความต้องการ” อยู่แล้ว แต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ (ซึ่งเกิดจากการที่ลูกค้าได้เข้ามาอ่านคอนเทนต์ ดูรีวิว ก่อนหน้านี้) ให้รีบตัดสินใจซื้อทันทีนั่นเอง
.
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมพยายามบอกว่า อย่าเอารูปภาพมาโพสต์ขายแห้งๆ ตรงๆ เพราะมันก็เหมือนการไปยืนตะโกนใส่หูลูกค้า สุดท้ายลูกค้าก็มีแต่จะเดินหนีไปเปล่าๆ
.
.
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงจะพูดขึ้นมาในใจว่า “ก็รู้แหละ ว่าต้องทำคอนเทนต์ ต้องทำรีวิว ต้องทำโพสต์ขาย แต่ปัญหา คือ มันคิดไม่ออกว่าจะทำคอนเทนต์ยังไง แต่ถึงจะคิดออก แล้วทำออกมาได้ ก็ไม่มีใครทักมาซื้ออยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้น บางคนทักมาถามราคา พอบอกก็เงียบหายไปเลยก็มี”
.
สาเหตุที่เป็นอย่างนั้น ก็เพราะหลายคนรู้แต่เพียงโครงสร้างการทำคอนเทนต์ แต่ไม่รู้วิธีทำให้คอนเทนต์นั้นทำงานได้ยังไงล่ะครับ ซึ่งมันก็ไม่ต่างอะไรกับรถยนต์ที่มีแต่โครงสวยงาม แต่ปราศจากเครื่องยนต์ที่เป็นตัวขับเคลื่อนให้คุณไปถึงที่หมาย
.
หากคุณอยากให้คอนเทนต์สามารถทำงานหาเงินให้กับคุณได้ ประดุจมีท็อปเซลล์มือทองอยู่ข้างกาย คุณจำเป็นต้องนำจิ๊กซอว์อีก 3 ชิ้น มาเติมเต็มให้สมบูรณ์เสียก่อน
.
.
# จิ๊กซอว์ตัวแรก คือ การขาย
.
คุณอาจจะแปลกใจ ว่าการขายมันเกี่ยวอะไรกับการทำคอนเทนต์ การรีวิว และ โพสต์ขาย เพราะนี่มันในออนไลน์ เราไม่ต้องไปเดินขายลูกค้าแล้วหนิ แค่เรียนการทำคอนเทนต์ก็น่าจะพอแล้วไม่ใช่หรอ
.
ผมบอกเลยครับว่ามันเกี่ยวข้องกันเต็มๆ และนี่คือ เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ไปเรียนเขียนคอนเทนต์มาเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถทำให้คนซื้อผ่านคอนเทนต์ได้สักที
.
สาเหตุก็เพราะคอนเทนต์มันก็เหมือนกับเซลล์แมนที่คุณฝึกให้มันออกไปขายของแทนคุณ แต่คำถาม คือ ถ้าตัวคุณเองยังขายไม่เป็น แล้วคุณจะฝึกเซลล์แมนของคุณให้ขายเป็นได้ยังไง
.
ดังนั้น ถ้าวันนี้คุณยังขายของต่อหน้าไม่ได้ ก็อย่าหวังเลยครับว่าจะเขียนคอนเทนต์ให้คนอยากซื้อได้ เพราะขนาดต่อหน้ายังขายไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับการขายผ่านตัวอักษรล่ะ จริงไหม ?
.
คุณอยากรู้ไหม ว่าคนที่เขียนคอนเทนต์แค่โพสต์เดียว แต่สามารถทำยอดขาย 7 หลักต่อเดือนได้ โดยไม่ต้องไปตามง้อลูกค้า แถมยังใช้คอนเทนต์เดียวทำเงินให้เรื่อยๆ แบบ Passive Income ได้อีก 5 ปี เขามีเคล็ดลับยังไง ผมบอกเลยครับว่าความจริงแล้วมันเป็นเพียงจิตวิทยาง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ฝึกฝนกันได้
.
เมื่อคุณได้เรียนรู้กระบวนการของมันจริงๆ ละก็ คุณจะมีทรัพย์สินที่คอยทำเงินให้กับคุณไปแบบยาวๆ โดยที่คุณไม่ต้องออกแรงทำงานเลย
.
.
# จิ๊กซอว์ตัวที่สอง คือ การตลาดแบบสมองไหล
.
แม้ว่าจะทำทุกอย่างที่ผมกล่าวมาข้างต้นจนหมดแล้ว แต่สิ่งที่มักจะทำให้หลายคนมาตายตอนจบ ก็คือ การโดนคู่แข่งตัดราคา จนหลายคนถึงกับคิดว่าตลาดออนไลน์มันแดงเดือนจนเกินไป จะเข้ามาทำตอนนี้ก็มองไม่เห็นกำไร และ ถึงแม้จะพอขายได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็สู้ราคาคู่แข่งไม่ได้อยู่ดี
.
หากคุณติดตามเพจสมองไหลมาสักระยะ คุณจะพบว่าผมไม่เคยลดราคาหนังสือแข่งกับใครเลย แถมยังคิดค่าส่งแพงอีกต่างหาก แต่ทำไมยอดขายยังเพิ่มขึ้นทุกเดือน ทั้งที่ไม่ได้มีเพจสมองไหลเพจเดียว ที่ทำคอนเทนต์แนวนี้ และ ไม่ใช่เพจเดียวที่ขายหนังสือ ที่สำคัญ คือ ลูกค้าก็รู้ทั้งรู้ว่าที่อื่นขายถูกกว่า แต่ทำไมเขาถึงยังยอมจ่ายแพงกว่าให้ผม
.
ผมบอกเลยครับว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันเกิดจากการวางกลยุทธ์และรากฐานมาอย่างเป็นระบบแล้ว ที่สำคัญ คือ กระบวนการของมันไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด จะเรียกว่าเส้นผมบังภูเขาเลยก็ว่าได้ เพราะมันเป็นเรื่องง่ายๆ แต่น้อยคนนักที่จะมองเห็นแล้วใช้ประโยชน์จากมัน
.
ซึ่งผมได้เปิดเผยเรื่องนี้กับพี่น้องในคลาส Online Signature แบบหมดเปลือกไปแล้ว และ ทันทีที่พวกเขารู้เรื่องนี้ ปัญหาคู่แข่งล้นตลาด และ การโดนตัดราคา ก็ไม่ใช่ปัญหาโลกแตกของพวกเขาอีกต่อไป
.
.
# จิ๊กซอว์ตัวสุดท้าย คือ ดาต้า
.
หากวันนี้คุณทำธุรกิจออนไลน์แล้วไม่เคยเอาดาต้ามาใช้ประโยชน์ บอกเลยครับว่าคุณกำลังนั่งทับทรัพย์สมบัติมูลค่ามหาศาลอยู่ เพราะข้อมูลต่างๆ ที่ลูกค้าให้คุณมา ทั้งข้อความในแชท รายชื่อลูกค้า ที่อยู่การจัดส่ง รายการสินค้า ยอดโอน ฯลฯ ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่นำมาใช้เพิ่มยอดขาย 2-10 เท่าได้สบายๆ ขอแค่รู้จักนำมันมาใช้ประโยชน์ก็พอ
.
และความลับอีกข้อหนึ่งที่ผมจะบอกก็คือ ดาต้า เหล่านี้สามารถนำมายิงแอดแบบเฉพาะเจาะจงได้ นั่นหมายความว่าการยิงแอดของคุณจะตรงกลุ่มเป้าหมายในระดับบุคคลที่เป็นลูกค้าจริงๆ ไม่มีการสุ่มยิงทิ้งยิงขว้างอีกต่อไป ที่สำคัญ คือ ในยุคนี้การใช้ดาต้ามันง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปาก ใครๆ ก็ทำได้ถึงแม้จะเป็นคนที่ไม่เคยมีความรู้ด้านนี้มาก่อนเลยก็ตาม
.
.
ซึ่งทั้งหมดนี้ผมได้เปิดเผยแบบหมดเปลือกในคลาส Online Signature Master Class 2021 จนล่าสุดมีนักเรียนหลายคนทักมาบอกผมว่า...
.
.
# “ผมใช้วิธีการขายแบบเสียงย่างเนื้อ ก็สามารถทำยอดขายประกันได้ 3 ล้านภายในเดือนเดียว ซึ่งทั้งหมดนี้มาจากช่องทางออนไลน์ทั้งหมด”
.
คุณอานนท์ ซึ่งทำอาชีพขายประกัน ทักมาบอกผมทันทีที่เรียนจบคอร์สไปเพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์
.
.
# คนต่อมาที่เติบโตแบบก้าวกระโดดไม่แพ้กัน คือ คุณชมพู เจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายตัวหนึ่ง เธอบอกกับผมว่า
.
“ตอนเริ่มต้นทำแบรนด์ คือ ตอนอายุ 20 ค่ะ แต่ตอนนั้น ทำไปเพราะแค่อยากมีรายได้ ไม่มีทุนโปรโมต ไม่มีการวางแผนอะไรทั้งนั้น ลองผิดลองถูกเอา คือ ตอนนั้นสั่งของมาทดลองใช้เอง ใช้แล้วผิวดีขึ้น ก็เริ่มโพสต์ขายเลย ดั้นด้นขายแบบออแกนิคมา 2 ปีค่ะ ขายใน Shopee เฟซบุ๊ก และ ไอจี ซึ่งตอนนั้นก็ทำแบบขำๆ ตัดภาพเองแบบตลกๆ ก็เลยไม่ค่อยน่าซื้อเท่าไหร่ และในช่วง 2 ปีนี้ ก็มีลองยิงแอดบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำออกมาได้ดีเท่าไหร่
.
จนมา ปีที่ 3 ปีนี้ (ปัจจุบัน) เป็นปีการเปลี่ยนแปลง ช่วง ต้นปี 64 เดือนมกราคม ก็ยังโพสต์ขายอยู่ แบบเรื่อยๆ เดือนมกราคมยอดไลค์ ยอดผู้ติดตามอันน้อยนิด แบบ 2 ปีที่ผ่านมาเลย
.
แต่พอได้มาเรียนในคอร์สนี้ แล้วลองทำ ลองโพสต์ และลองทำตามเทคนิคไปสักระยะ บวกกับมาลองยิงแอดอีกครั้ง คือ งง มาก มันปังค่ะพี่ เป็นครั้งแรกที่ได้แตะออเดอร์วันละ 100 บ้าน ด้วยงบยิงแอดแค่ 90 บาท พอรู้สึกว่ามันดี ก็เลยไปสอนตัวแทนขายต่อค่ะ สอนเค้าแบบบ้านๆ เลย .
.
สรุปคือ ตัวแทนทำตาม นางขายได้ แลดูจะเข้าใจง่ายด้วย คือ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
.
**ผลลัพธ์ในปัจจุบัน
.
2 ปีที่ ขายมา
ปีแรก 62 มีเงินเก็บแค่ 10,000 บาท/ปี
ปีสอง 63 มีเงินเก็บถึง 50,000 บาท/ปี
(ดั้นด้นเอง มึนๆ มั่วๆ)
.
ปีที่สาม (ปัจจุบัน 64) แค่ช่วง 5 เดือนนี้ มีเงินเก็บ เกือบ 1 ล้านบาท (ไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้ค่ะ)
.
**ความต่างที่ชัดคือ ในระยะ 5 เดือนนี้ ที่ตัดสินใจเติมความรู้ เหมือนได้เบิกเนตร คือ มันต่อยอดได้แบบสุดจริงค่ะ**
.
.
# อีกคนหนึ่งคือ น้องภัค สาวน้อยวัย 19 ปี ที่เข้ามาในคลาส Online Signature ทั้งที่ยังไม่ได้ทำธุรกิจใดๆ แต่เมื่อเรียนไปถึงบทที่ 3 ผมก็ให้ทุกคนทำ Workshop ชิ้นหนึ่ง คือ ให้ขายสินค้าของตัวเองโดยใช้เทคนิคที่สอนไป แต่ถ้าใครยังไม่มีธุรกิจของตัวเอง ก็ให้หยิบของในบ้านมาทำ Workshop ไปก่อน ซึ่งน้องภัคก็ไปหยิบสเปรย์ระงับกลิ่นกายของตัวเองมาขาย
.
ผลปรากฎว่ามีเพื่อนๆ ในคลาสดูการบ้านที่น้องภัคทำส่ง แล้วก็สั่งซื้อจริงๆ เธอก็เลยลองไปเปิดเพจขายจริงดู จนล่าสุดเธอมาบอกผมว่า “ลองเริ่มขายไปได้แค่เดือนเดียว ยอดขาย 5,000 บาท แล้วค่ะ ตอนนี้กำลังจะลองยิงแอดตามเทคนิคที่สอนในคลาสเพิ่ม เพื่อกระตุ้นยอดขายให้มากขึ้นอีก”
.
.
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพี่น้องอีกกว่า 300 คน เท่านั้น ที่ผมหยิบยกมาเล่าให้ฟัง ซึ่งถ้าจะให้ผมเล่าเคสทั้งหมดทุกคน ก็คงเขียนเป็นหนังสือเล่มนึงได้ เอาเป็นว่าหากคุณอยากจะรู้ว่าพี่น้องแต่ละคนในคลาสเขาเติบโตก้าวกระโดดขนาดไหน ก็เข้ามาลุยกับพวกเราในคลาส Online Signature ได้ครับ
.
เพราะที่นี่เราอยู่กันแบบสังคมที่สนับสนุนการเติบโตซึ่งกันและกัน ไม่มีใครในคลาสนี้บั่นทอนความฝันของคนอื่น ไม่มีใครหัวเราะหากมีเด็กคนหนึ่งประกาศกร้าวว่าจะทำเงินล้าน มีแต่เชียร์ว่า “ลุยเลย !! เอาเลย !! ” เพราะการทำเงินหลักล้านในสังคมแห่งการเติบโตนี้มันเป็นเรื่องปกติมากๆ
.
ทุกคนในนี้พร้อมที่จะเติบโตสวนกระแสท่ามกลางคนภายนอกที่เอาแต่บ่นว่าเศรษฐกิจไม่ดี จะไปทำอะไรได้...
.
แต่พี่น้องชาว Online Signature คิดเสมอว่า “ในเวลาที่คนอื่นหยุด คุณแค่เดินไปช้าๆ ก็ยังนำหน้าเขาไปได้ตั้งหลายก้าว เพราะถึงจะอยู่ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจทรุด แต่เรายังโอกาสพัฒนาตัวเองและธุรกิจให้ก้าวหน้าได้ และเมื่อไหร่ที่เศรษฐกิจกลับมาสู่สภาพเดิม เราจะกลายเป็น ผู้นำ ทันที”
.
.
และสุดท้าย แอบกระซิบบอกสำหรับคนที่อยากจะเข้ามาลุยด้วยกันว่า “ผมมีสอนสูตรลับการยิงแอดร้อยให้ได้ล้าน ที่ใครได้เรียนไปแล้ว ก็ไม่เคยกลับมาบ่นเรื่องค่าแอดแพงอีกเลย” อันนี้เอาไว้เป็นทางเลือกถ้าอยากจะเพิ่มยอดขายให้มากขึ้นอีก (แต่หลายคนแทบไม่ได้ใช้ เพราะขนาดไม่ยิงแอดยอดขายก็รับไม่ทันแล้ว)
.
ที่สำคัญ สำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์ ผมเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการทำรูปคอนเทนต์แบบง่ายๆ จากมือถือด้วย Canva มาสอนให้ด้วย จะได้ไม่ต้องกังวลว่า “ทำไปแล้วจะไม่มีรูปพรีเมี่ยมใช้”
.
.
# คอร์ส Online Signature Master Class 2021 จากปกติราคา 46,000 บาท ช่วงโปรโมชั่นเหลือเพียง 18,000 บาท
.
แต่เดี๋ยวก่อน !! เฉพาะคนที่แชร์โพสต์นี้ และ สมัครเข้ามา 20 คนแรก คุณสามารถเข้ามาลุยในคอร์สนี้ในราคาเพียงพิเศษ 10,860 บาท เท่านั้น !!
.
.
# พร้อมรับคำเชิญเข้ากลุ่มลับ War Room ที่อาจารย์เจษแห่งสำนัก Ohmpiang นักขายมือโปร ที่สามารถขายของทุกอย่างที่อยู่ใกล้ตัว ในแบบที่เหมือนเพื่อนคุยกัน แต่ทุกคนที่ฟังต้องควักกระเป๋าเงินออกมาซื้อแบบ งงๆ ทุกที โดย อ.เจษ จะแอบมา Live เรื่อง “การขาย” ให้ฟังพร้อมเปิดรับคำถามและแจกสคริปต์การขายเรื่อยๆ แบบฟรีๆ
.
.
สมัครเรียน แอดไลน์ @samounglai (ใส่ @ ด้วย) จากนั้นบอกทีมงานว่า “ลุย OSM”
.
แล้วพบกันในคลาสนะครับ ^^
.
.
ปล1. ราคาพิเศษ 10,860 บาท และ คำเชิญเข้ากลุ่มลับ War Room นี้ เฉพาะ 20 คนแรก เท่านั้น !!
.
ปล2. สามารถชำระผ่านบัตรเครดิต หรือ ผ่อน 0% นาน 10 เดือนได้ (บัตรเครดิตที่ร่วมรายการ)
.
ปล3 ราคาอาจจะดูแรง แต่ผลตอบแทนที่ได้ แพงกว่าแน่นอน ถ้าเข้ามาเรียนแล้วคิดว่าไม่คุ้ม ผมยินดีคืนเงินให้ ภายใน 7 วัน
canva online 在 Thanh Thịnh Bùi Youtube 的評價
Tiếp thị lại quảng cáo Facebook với 10 cách đơn giản
Nội dung bài học:
- Những người đã từng ghé thăm website của bạn
- Những người chưa quay lại website trong 180 ngày
- Những người đã từng mua hàng với số tiền nào đó
- Những người đã vào trang A nhưng không vào trang B
- Những người từng xem video trên Fanpage
- Những người đã tương tác với form của Lead Ad
- Những người đã từng ghé thăm Fanpage của bạn
- Những người đã nhắn tin inbox cho Fanpage
- Những người tương tác với bài post quảng cáo Facebook
- Những người đã từng tương tác với Canva Facebook
►Đăng ký kênh Youtube của mình để xem video bổ ích MIỄN PHÍ: https://thanhthinhbui.com/subyoutube
—————
Tác giả: Blogger Thanh Thịnh Bùi
Facebook cá nhân: https://www.facebook.com/thanhthinhbuicom
Fanpage: https://www.facebook.com/thanhthinhbuidotcom
Xem thêm kiến thức về Online Marketing tại https://thanhthinhbui.com
HÃY ĐỂ LẠI THẮC MẮC CỦA BẠN Ở KHUNG BÌNH LUẬN, MÌNH SẼ GIẢI ĐÁP TRONG 24 GIỜ.
canva online 在 Nguyễn Hữu Lam Youtube 的評價
Hướng dẫn tạo và trang trí kênh Youtube với phần mềm Canva từ số 0
Trong Video này, @Nguyễn Hữu Lam sẽ hướng dẫn các bạn từng bước, từng bước 1 lập và trang trí kênh Youtube của bạn với các phần mềm chỉnh sửa hình ảnh FREE rất dễ dàng.
+ Tạo kênh Youtbe
+ Đặt tên cho kênh
+ Viết mô tả cho kênh Youtube
+ Tạo ảnh bìa cho kênh với Canva.com
+ Sử dụng remove.bg để tách ảnh có background.
=====
XEM THÊM CÁC VIDEO
+ Video 1: Lập và trang trí kênh Youtube
https://www.youtube.com/watch?v=H5YckSKodV0
+ Video 2: Chọn chủ đề cho kênh Youtube
https://www.youtube.com/watch?v=9aY_sgXaF84
+ Video 3: Biên tập Video với Filmora 9:
https://www.youtube.com/watch?v=ir4T-NI39t4
=============
KHAI GIẢNG DỰ ÁN 100 ONLINE
►Đăng ký học Online Dự án 100: https://www.duan100.vn
(tặng mã nguồn website chuẩn SEO trị giá 10 triệu VNĐ)
===============================================
► Đăng ký sử dụng Ladipage (tặng thêm 6 tháng khi nâng cấp)
http://ldp.to/ladipages
Hotline Zalo hỗ trợ: 0982033031
► Link tải mẫu Ladipage đẹp: http://ldp.to/ladipage-teamplate
►Đăng ký học và làm Affiliate tại: https://nguyenhuulam.com
======
Người hướng dẫn
►Ths. Nguyễn Hữu Lam
►CEO CÔNG TY CỔ PHẦN GIẢI PHÁP PHẦN MỀM HẢI PHÒNG
►Tel: 0982.033.031
►Website: http://hpsoft.vn
►Facebook: https://www.facebook.com/nguyenhuulamhp82
canva online 在 LIVIGRACE. CO Youtube 的評價
Instagram創業? 如何利用IG幫你創業開店 |LIVIGRACE.CO
無論你是樓上鋪,網店賣衫,賣護膚品,或是經營任何形式的創業,
擁有Instagram帳戶,利用Instagram開店賺錢,都近乎是必需。
因為Instagram能接觸的人實在太多,直接利用Instagram 賺錢或Instagram行銷,
都是一門學問。
很多人都會選擇在開店以後才開一個Instagram 帳戶去推廣行銷,
但是,在開店前先經營Instagram 帳戶,其實會令你的創業更易會成功,
網店也好,實體店也好。
想了解原因?這條影片會分享如何利用Instagram 幫助你創業成功。
收看更多免費教學影片?Share,Subscribe + Like 吧!
更多有關創業的影片可拉到下面
⚠️【中文字幕請到右下方開啓】⚠️
================================
?【IG創業速成™】課程2.0 - 不只是增粉 https://bit.ly/course-ig2
?【IG發帖懶人包】https://bit.ly/ig-easy
?免費下載:INSTAGRAM創業-新手必讀手冊 https://livigrace.online/free/
?Instagram 找我: IG創業話題 @livigrace.co 生活個人成長 @livigrace.online
?想發問?加入面書群組,互相支持 http://bit.ly/thebosssquadhk
================================
?重點影片
// 我的創業故事 (朝9晚6小資女必看)
https://youtu.be/s1YYlpeN7iQ
//如何IG天然增粉2倍- (真人粉絲,賺真錢!)
https://youtu.be/84MszvXeY5s
//1天內製作30天高質IG帖文(天天發帖文,不再擔心沒靈感了!)
https://youtu.be/MUkMH39MAjA
// Instagram Tips 增加客流量+暴光 實用5招
https://youtu.be/lKuTTeI43Sw
// Niche 如何設定 "明確"目標客群
https://youtu.be/gIuV_WV5zog
// IG愈多followers =愈多生意?(想用 IG 賺錢的人注意)
https://youtu.be/pT6x2cxr6Es
// IG followers又升又跌點算好?如個破解?
https://youtu.be/CQg3MOFzupQ
================================
?Affiliate (自用覺得好才推薦給大家)
// Canva - 最愛的造圖工具(Youtube thumbnail, IG帖文限動都可)
https://www.canva.com/join/genius-sci...
// Tubebuddy: https://www.tubebuddy.com/livigrace
//拍攝工具:BOYA麥克風(性價比高,非常適合新手)https://amzn.to/2SygPEf
//【 SPARKSINE 精選閱讀APP】- 發帖文沒靈感?別再"參考"別人的IG了!
高質有價值的IG帖文好幫手
https://bit.ly/livigraceco-sparksine
以節扣碼「LIVIGRACE」年費訂閱即減HKD30
---
免責聲明:以上某些工具已參與聯盟營銷計劃。
當閣下購買時LIVIGRACE.CO將會因此賺取佣金。
================================
#instagramtips2020 #創業 #90後創業 #80後創業 #副業 #朝9晚6 #網路創業#businesscoaching #onlinebusiness #銷售 #onlinecourse #businessowner
https://youtu.be/_q93yOuAuwo
canva online 在 Canva - YouTube 的八卦
Launched in 2013, Canva is a free online design platform with a mission to empower everyone in the world to design. Featuring a simple drag-and-drop user ... ... <看更多>
canva online 在 Canva Tutorial: Graphic-Design Online - YouTube 的八卦
... <看更多>