“ยกระดับความ ’STRONG’ ในตัวคุณ"
“Strong! Strong! Strong!”
กลายเป็นคำยอดฮิตที่แพร่ระบาดไปทั่วทุกวงการอย่างรวดเร็ว สำหรับคำพูดที่พี่ลูกเกด เมทินี หนึ่งในเมนเทอร์รายการ The Face Thailand ซีซั่น 2 ใช้พูดเพื่อดึงอินเนอร์ในตัวลูกทีมออกมาขณะแข่งโพสท่าถ่ายแบบ
(ใช่ครับ สารภาพตามตรงว่าผมก็ได้ดูรายการนี้)
(เพิ่งจะเคยดูซีซั่นนี้แหละ)
(สารภาพอีกว่า #TeamBee ไม่ใช่เพราะเชียร์ผู้เข้าแข่งขันนะ แต่เพราะเชียร์เมนเทอร์ ชอบมาตั้งแต่สมัยร้องเพลง “แค่กระจกกั้น” ตอนอยู่ค่าย Makerhead ในสังกัด GMM Grammy)
(ข้อมูลแน่นไหมล่ะ! ฮ่าๆ)
...กลับมาที่คำว่า “strong”!
คำนี้ฮิตขนาดที่มีการเอาไปล้อเลียนกันต่อในกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ว่าถ้าใครกำลังท้อแท้ในการสอบให้ท่องเอาไว้ “Strong! Strong! Strong!”
และถึงขั้นมีคนตัดต่อเอาคำนี้แค่คำเดียวมาวนลูปทำคลิปใน YouTube ความยาว 1 ชั่วโมงเต็ม! โดยบอกว่า "จัดทำขึ้นเพื่อช่วยสร้างกำลังใจให้ผู้ที่อ่อนแอ สิ้นหวัง หมดพลังในการดำเนินชีวิต” (แต่กว่าจะฟัง “สตรอง” ทั้งหมดจบ “สติ” คงจะขาดก่อนน่ะสิครับ!)
ถ้าพูดถึงรายการที่ได้รับความนิยมสูงสุดในยุคนี้ สังเกตไหมครับว่าส่วนใหญ่มีองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งคล้ายๆ กัน
The Face มี mentors
The Voice มี coaches
The X Factor และ Got Talent มี judges
AF และ The Star มี commentators
ถึงจะมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป แต่ทั้งหมดมีหน้าที่อย่างหนึ่งที่เหมือนกัน คือการ “comment” หรือ “แสดงความคิดเห็น” เกี่ยวกับผู้เข้าแข่งขัน (และบางคนอย่าง mentors ของ The Face หรือ coaches ของ The Voice ก็ยังมีหน้าที่ในการเทรนผู้เข้าแข่งขันอีกด้วย แล้วแต่รูปแบบของรายการ)
คนที่ได้รับเลือกให้มาทำหน้าที่เหล่านี้มักจะเป็น “กูรู” หรือผู้ที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ มีเครดิตและความน่าเชื่อถือ ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน
และหากคำพูดใดของใครโดนใจคนดู คมคาย เผ็ดร้อน ก็มักจะถูกเอาไปอัพเป็นสเตตัส รีทวีต และแชร์ต่อๆ กันในโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ
แต่!
คอมเมนต์ต่างๆ ในรายการที่ว่าดุเดือด รุนแรงแล้ว ยังถือว่าไม่น่ากลัวเท่าไร
ถ้าลองไปอ่านคอมเมนต์ใน Facebook, Twitter, Instagram, YouTube หรือ Pantip ล่ะก็ สิ่งที่เกิดขึ้นในรายการจะดูซอฟท์ลงเหมือนถูกเคลือบด้วยสีพาสเทลทันที
คอมเมนเตเตอร์ในรายการ จะดูเป็นเพียงตัวการ์ตูนน่ารักคาวาอี้ เมื่อเทียบกับคอมเมนเตเตอร์นอกรายการ
ใช่ครับ ผมหมายถึงพวกเรา “คนดู” ทั้งหลายนี่แหละ
ยกตัวอย่างตอนที่โค้ชสิงโต The Voice เลือกลูกทีมคนหนึ่งที่คนดูหลายคนมองว่าความสามารถไม่ถึง หรือตอนที่เมนเทอร์บี น้ำทิพย์ The Face ตัดสินใจคัดผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งออก ในขณะที่คนดูหลายคนมองว่ายังไม่ควรถูกให้ออกด้วยศักยภาพที่มีอยู่
ทั้งพี่สิงโตและพี่บีต้องประสบชะตากรรมเดียวกัน คือโดนกระหน่ำวิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ในกรณีหลังที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ไม่นานนี้ มีคนเข้าไปคอมเมนต์ใน IG ของพี่บีถึง 6,000 กว่าคอมเมนต์ ซึ่งปะปนอยู่ในนั้นคือคำด่าหยาบคายประหนึ่งพี่บีไปทำให้ญาติพวกเค้าเสียหรืออะไรขนาดนั้น
(“strong” กันจริงๆ เรื่องด่าคนอื่น)
(พี่ลูกเกดต้องภูมิใจมากครับ ณ จุดนี้)
(...ซะที่ไหนเล่า!)
ในยุคหนึ่ง จากการได้เรียนทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ผมเคยคิดว่าสิ่งหนึ่งที่เรายังล้าหลังประเทศเขาคือการสอนให้คนของเราแสดงความคิดเห็นเป็น เพราะเมื่อก่อนคนไทยมักจะเติบโตมากับการเรียนการสอนแบบนั่งจดแต่สิ่งที่ครูบอกอย่างเดียว ไม่มีการถกเถียง ไม่มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในห้องเรียน จนการตั้งคำถามถูกมองเป็นสิ่งที่ “ผิด” ในบางครั้ง
แต่พอมาถึงยุคอินเตอร์เน็ต ยุคที่เราสามารถพูดถึงคนอื่นโดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเรา ผมได้เห็นการแสดงความคิดเห็นที่มากขึ้นกว่าเดิมมาก
ไม่ใช่มากขึ้นแค่ในแง่ปริมาณ แต่มากขึ้นในแง่ความน่ากลัวอีกด้วย
เราคอมเมนต์กันทุกวัน คอมเมนต์กันทุกเรื่อง
เราคอมเมนต์แม้กระทั่งในเรื่องที่เราไม่รู้จริง เรื่องที่เราไม่เคยศึกษาข้อมูล
แต่เราก็ยังสนุกปากสนุกมือที่ได้คอมเมนต์
บางทีผมก็อดรู้สึกไม่ได้ว่า สังคมเรากำลังสร้าง "นักคอมเมนต์” มากกว่า “นักทำ” หรือเปล่า?
หากเปรียบความฝันเป็นสนามมวย และคนที่กำลังตามล่าฝันเป็นนักมวย อุปสรรคต่างๆ ก็คงเหมือนคู่ต่อสู้บนเวที เราคงเห็นนักมวยหลายคน ชกต่อยจนบาดเจ็บ เลือดไหล บ้างก็ล้มแล้วล้มอีก บ้างก็อาการสาหัสจนต้องออกจากสนามไป
รอบๆ สนามคือคนดูมากมาย มีทั้งกลุ่มที่คอยเชียร์ มองนักมวยบนเวทีด้วยสายตาชื่นชม และพร้อมส่งพลังใจไปให้พวกเขาเหล่านั้น
แต่ก็มีอีกกลุ่มหนึ่ง ที่คอยเอาแต่วิจารณ์ ซ้ำเติมเวลาที่นักมวยถูกต่อย โห่ร้องเวลาที่เขาล้มลง ก่นด่าเวลาที่เขาพลั้งพลาด บ้างก็ยืนหัวเราะเยาะในความพยายามของคนอื่น บ้างก็มองบาดแผลของเหล่านักสู้บนเวทีเป็นเรื่องน่าขัน ติอะไรได้เป็นติ จิกกัดเมื่อไรได้เป็นจิกกัด ฟังดูเชี่ยวชาญซะยิ่งกว่าคนในสนาม
ผมขอเรียกคนเหล่านี้สั้นๆ ว่า “กูรู้”
เพราะดูจะรู้ไปซะทุกอย่าง บอกได้หมดว่าใครเก่งไม่เก่งยังไง ใครทำอะไรดีไม่ดีตรงไหน ใครจะไปถึงฝันหรือไม่
(ขออภัยในภาษาที่อาจจะฟังดูไม่สุภาพด้วยนะครับ แต่ขอให้มองให้แง่ดี ... ไม้โทที่ผมเติมให้ คือสัญลักษณ์แทนความ strong ที่อยู่เหนือ “กูรู” ขึ้นไปอีกระดับ!)
(ฮ่าๆๆ)
ถ้าเราถอยออกมามองดูดีๆ ... ระหว่างคนที่ล้มแล้วยังตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาสู้ใหม่ กับคนที่คอยแต่ยืนพูดตัดกำลังใจคนอื่น
คุณคิดว่าคนไหนน่าชื่นชมกว่ากัน?
คุณคิดว่าใครกันแน่ที่ “strong” กว่ากัน?
Theodore Roosevelt หนึ่งในอดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา เคยพูดถึงบรรดานักวิจารณ์ไว้ว่า
“It is not the critic who counts; not the man who points out how the strong man stumbles, or where the doer of the deeds could have done better. The credit belongs to the man who is actually in the arena.”
พูดง่ายๆ ก็คือ ประวัติศาสาตร์ไม่ได้ถูกสร้างโดยนักวิจารณ์ ที่เอาแต่ยืนชี้ว่าคนโน้นคนนี้ทำดีไม่ดีอย่างไร
การเปลี่ยนแปลงต่างๆ เกิดขึ้นได้ เพราะเหล่าผู้คนที่กล้าเอาตัวเองลงไปอยู่ในสนามต่อสู้ต่างหาก
ถ้าโลกเรามีแต่นักวิจารณ์ แต่ไม่มีนักทำ โลกจะไม่มีสิ่งใดให้น่าภูมิใจเลย
ประเทศไม่ได้ถูกพัฒนาให้ก้าวหน้า โดยคนที่เอาแต่จับผิดนโยบายใหม่ๆ
เพลงที่เปลี่ยนชีวิตคน ไม่ได้ถูกแต่งโดยคนที่เอาแต่เหยียบย่ำจินตนาการของนักสร้างสรรค์
เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ ไม่ได้ถูกประดิษฐ์โดยคนที่เอาแต่นั่งก่นด่าสิ่งต่างๆ รอบตัว
การแสดงความคิดเห็นไม่ใช่เรื่องผิดหรอก ในหลายๆ ครั้งมันเป็นเรื่องที่ดีด้วยซ้ำ เพราะมันก็อาจช่วยเป็นกระจกสะท้อนที่มีประโยชน์ให้กับคนอื่น
แต่ถ้ามัวแต่คอมเมนต์เรื่องคนอื่นอย่างเดียว ไม่เคยลงมือทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันเองบ้าง ไม่เคยเอาตัวเองลงไปในสนามแห่งความฝัน ไม่เคยลิ้มลองรสชาติของการต่อสู้ สุดท้ายคุณก็จะเป็นได้แค่ “กูรู้” คนหนึ่งที่ถูกประวัติศาสตร์กลืนไปเท่านั้นเอง
อย่าเก่งแต่พูดเรื่องของคนอื่น แต่ไม่เก่งทำเรื่องของตัวเอง
เพราะ "การกระทำ" นั้นสำคัญกว่า “คำพูด"
การเอาแต่พูดถึงชีวิตคนอื่น ไม่ได้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น
การเอาแต่นั่งวิจารณ์ความฝันคนอื่น ก็ไม่มีทางทำให้ความฝันเราเป็นจริง
อยากมีชีวิตที่ดี อยากให้ความฝันเป็นจริง มีวิธีเดียว คือต้อง “ทำ” มัน ด้วยตัวเอง
เป็นนักมวยที่มีบาดแผลเต็มตัว แต่ยังสู้ต่อไป ต่อให้ยังห่างไกลชัยชนะที่หวังไว้แค่ไหน ยังไงก็เท่กว่าคนที่เอาแต่ยืนพล่ามอยู่ข้างสนามแน่นอน
ลองถามตัวเองดูสิครับ ว่าวันนี้คุณพร้อมหรือยังที่จะยกระดับความ “strong” ในตัวคุณ?
พร้อมหรือยังที่จะเปลี่ยนตัวเอง...
จาก “กูรู้”
เป็น “กูทำ”
同時也有49部Youtube影片,追蹤數超過147萬的網紅Kento Bento,也在其Youtube影片中提到,Official Kento Bento Merch: https://standard.tv/kentobento Support us on Patreon: https://patreon.com/kentobento Twitter: https://twitter.com/kentob...
critic 在 Dan Lok Facebook 八卦
There are 3 kinds of people in this world.
Critics, who have something to say about everything.
Talkers, who talk a big game and take no action.
And the Doers.
The people that sit quietly.
Don’t criticize anyone.
Don’t tell you what they're doing.
But take huge action and have the results to back up those actions.
Which one are you?
If you know you're a doer and not a critic or a talker ...
Click the link to join our next FREEDOM challenge.
And we'll teach you how to start a digital marketing business in less than a week. 👇
https://doer.danlok.link
critic 在 Facebook 八卦
「我吃的鹽多過你吃的米!」電影史上最具有資格說這句台詞的角色。
活了1000年的人到底可以吃多少鹽呢?
《尚氣與十環傳奇》:8.1/10 目前IMDb網友平均評分。Critic Reviews平均目前有71分,算是很高分了。
critic 在 Kento Bento Youtube 的評價
Official Kento Bento Merch: https://standard.tv/kentobento
Support us on Patreon: https://patreon.com/kentobento
Twitter: https://twitter.com/kentobento2015
Facebook: https://facebook.com/kentobento2015
Business Inquiries: kentobento@standard.tv
Other videos you may like:
These Events Will Happen in Asia in 2020: https://youtu.be/qrataK7FxRA
How Would You Take Down North Korea? (The 7 Choices) https://youtu.be/VM_fzaWAybw
How North Korea Held the Greatest Pro Wrestling Event in History: https://youtu.be/U_ZkqfSpbg4
The $1,000,000,000 North Korean Bank Heist: https://youtu.be/Usu9z0feHug
How Macau Became North Korea's Base of Operations: https://youtu.be/BQ5x8riJ6SA
How This Lake in Northwest Asia Got Deadlier Than Chernobyl: https://youtu.be/SQCfOjhguO0
Music:
Ross Bugden: https://www.youtube.com/channel/UCQKGLOK2FqmVgVwYferltKQ
Brandon Maahs: brandonmaahs.com
Channel Description:
We do videos on intriguing & thought-provoking Asiany topics, including stereotypes, history, culture & geography.
Credits:
Research, Script, Narration & Video Editing by Kento Bento
Artwork by Nina Bento
————————————————————————————————————————
[HOW WOULD YOU ESCAPE NORTH KOREA? (THE 7 CHOICES)]
If you were living in North Korea right now - trying to survive on a diet of rats, grass, soil and tree bark, quenching your thirst by drinking out of mud puddles in the ground - what would you do?
There's also the conceivable chance of being sent to a political prison camp for years on end just because you innocently thought out loud one day to a bunch of friends (North Korean propaganda is strong), where you are then beaten, tortured, and left so hungry that you are forced to dig and consume the grains out of faeces, or the maggots from dead bodies just so you have the energy to perhaps last one more day.
You'd probably wanna escape. But how?
The North Korean government in Pyongyang refuses to let its citizens leave, a clear violation of the International Covenant on Civil and Political Rights, viewing North Korean defectors as traitorous criminals. Captured North Koreans would be subject to unimaginable torture and often public executions.
If they are successful in their escape, then three to four generations of their family back home would be sent to North Korean prison camps to rot ....or worse. This is a strong deterrent.
But this still doesn't stop desperate North Koreans from tempting fate. In this video, I'll go over the seven ways to escape the DPRK, including the most dangerous, the most unforgiving, the most unique, and the most unexpected.
The North Korean border on the south side (ie. South Korean border / Korean DMZ) is the shortest distance to travel for safety and stability but as a result, the regime makes it dangerously hard. A North Korean escapee can be shot down by North Korean soldiers (border guards) or step on the many landmines in the area.
The northern border to China has it's own set of challenges. Most North Korean refugees escape through this way, usually crossing the Tumen River border (like the famous North Korean defector Hyeonseo Lee). Once in China, the nightmare doesn't end there.
There are also other, more unconventional ways you can try to escape such as through North Korean labor camps.
Even if you make it to safety and resettle in a stable country, the North Korean regime will still try to hunt you down, so you're never truly safe. Especially if you're an outspoken critic or a threat to Kim Jong-un's power - just ask his half brother, Kim Jong-nam.
Sources:
https://web.archive.org/web/20070303203248/http://www.hrnk.org/refugeesReport06.pdf
http://bushcenter.imgix.net/legacy/gwb_north_korea_executive_summary_r4.pdf
https://www.nytimes.com/2015/06/16/world/asia/north-korean-soldier-braves-dmz-to-defect-to-south.html
http://www.telegraph.co.uk/news/worldnews/asia/northkorea/11033003/North-Korean-pair-swim-across-sea-border-to-defect-to-South-Korea.html
http://time.com/4205785/london-new-malden-north-korean-refugees/
critic 在 MosoGourmet 妄想グルメ Youtube 的評價
We bought some cute banana gummies. They were so cute that we were inspired me to make a tart that looks like the sign of a banana shop.
Remember- do not look for the mayonnaise flavor while eating the tart!
*Recipe* (16 cm round mold)
Bake the tart portion
The size of the tart will depend on what you want to place it on when it's done.
This time I am using a round mold that is 16 cm in diameter. I do not own a tart mold that is 16 cm in diameter so I made it with a round mold with a 16 cm diameter whose bottom cannot be detached.
1. Lay an oven sheet on the bottom so that the tart does not stick to the mold and is easy to take out at the end.
2. Sift a mixture of 110g of weak flour and 1/2 teaspoon of baking powder
3. Add 35g of sugar and stir.
4. Add 50g of mayonnaise and stir.
5. Add 13g of milk (A little less than 1 tablespoon) and stir. Bring the mixture together with your hands
6. Put the mixture in between oven sheets, then stretch the mixture out so that it is about 3 mm thick. If it's falling apart in your hands, add some strong flour. This help the mixture to come together
7. Put 6 into 1. Fill in any holes. Don't worry if the mixture is bumpy, it usually turns out smooth once you bake it. (Says the amateur MosoGourmet)
Make sure the sides high enough as you will be adding lots of filling later on. (None of the dough was left over)
8. Poke some holes into the bottom with a fork.
9. Cover with aluminum foil and put a heavy weight on top
10. Bake for 20 minutes in an oven preheated to 190 ℃. Take off the the aluminum foil. Lower the temperature to 170℃ and bake for an additional 10 minutes.
11. The tart is soft at first, so please make sure to cool before taking it out of the mold. After taking it out of the mold, leave it to cool some more.
Make the filling
Make the chocolate sauce.
12. Add 40 grams of chocolate and 15 g of milk in a heat-resistant bowl and heat in a 600w microwave for 30 seconds so that the chocolate melts.
13. Pour 12 in 11 and spread it out.
Make the custard cream.
14. Add 40 grams of granulated sugar and 7 grams of corn starch in a heat-resistant bowl and stir.
15. Pour 180 ml of milk into 14 and stir.
16. Add one egg yolk into 15 and stir.
17. Heat in 600 w microwave for 2 minutes.
18. Take out and stir.
19. Heat for an additional 1 minute and 15 seconds.
20. Stir.
21. Gently pour 20 into 13 (50 ml left over)
22. Lay the sliced banana pieces in 21. Sprinkle some lemon juice on the bananas so that they won't change color.
23. Top with whipped cream.
I added sugar to 100 ml of cream and whipped lightly. There was a little bit left over.
24. Put in fridge to cool.
25. Decorate the tart however you'd like, cut into pieces and serve.The crust is crispy on the bottom and soft on the side.
Our eldest son who is a tough critic when it comes to my tarts said, ”this is good!” while he ate it. Little did he know that there was mayonnaise in the tart. *Evil laugh*
かわいいバナナのグミを買いました。あまりにも かわいかったので、まるでバナナ屋さんの看板のような見た目のタルトにしてみました。ただ、それだけの動画です。お楽しみください。食べる時には、くれぐれもマヨネーズの味を探してはいけません。ご注意ください。
*レシピ*(16センチの丸型)
タルト台を焼く
載せたいものの大きさに合わせてタルトの大きさを決める。今回は16センチの丸型。我が家に16センチのタルト型がないので、16センチの底の取れない丸型で作ります。
1.焼きあがったタルトが取り出しやすいようにオーブンペーパーを敷いて型の準備をする。
2.薄力粉 110g、ベーキングパウダー 小さじ1/2を合わせてふるう。
3.砂糖 35gを入れ、混ぜる。
4.マヨネーズ 50gを入れ、混ぜる。
5.牛乳 13g(大さじ1弱)を入れ混ぜ、手でまとめる。
6.オーブンペーパーに挟んで、3ミリほどの厚さに伸ばす。強力粉で打ち粉をすると扱いやすい。
7.6を1に敷き込む。穴は継ぎ足して埋める。ボコボコでも意外にキレイに焼きあがる生地なので気にしない。←下手っぴな 妄想グルメがそうでした
フィリングをたっぷり詰めようとしているレシピなので壁を高めにつける。(生地は余りません)
8.底にフォークなどで穴を開け、ピケする。
9.アルミホイルを被せ、その上に重石をする。
10.190度に予熱したオーブンで20分焼く。重石を取り除き、アルミホイルを掛け直し170度に下げて更に10分焼く。
11.焼き上がりは柔らかいので、粗熱が取れてから型から取り出す。冷ましておく。
フィリングを作る
チョコレートソースを作る。
12.耐熱ボウルにチョコレート 40gと牛乳 15gを入れ、600wの電子レンジで30秒加熱し、チョコレートを溶かす。
13.11に12を流し入れ、全体に広げる。
カスタードクリームを作ります。
14.耐熱容器にグラニュー糖40gとコーンスターチ 7g(大さじ 1)を加え、混ぜる。
15.14に牛乳 180mlを加え混ぜる。
16.15に卵黄 1個を加え混ぜる。
17.600wの電子レンジに2分かける。
18.一旦取り出し、かき混ぜる。
19.さらに、電子レンジで1分15秒加熱する。
20.かき混ぜる。
21.20を13に静かに流し入れる。(50mlほど残りました)
22.21にバナナの輪切りを並べる。レモン汁少々をまぶしておくと変色しづらい。
23.生クリームをのせる。100mlほどの生クリームに砂糖を加え、緩めに泡立てたものを使い、 少し余りました。
24.冷蔵庫で冷やす。
25.お好みのデコをし、切り分けていただく。底はサックリ、サイドはしっとりが楽しめるタルトです。タルトにうるさい長男に文句を言われながら「うん、これはうまいですね」とモコミチみたいに言い張り食べる。でも、マヨネーズが入ってるとは気づかれなかった。イッヒッヒ。
critic 在 Spice N' Pans Youtube 的評價
As a very strict food critic, I gave my hubby a big thumbs up for this recipe. I think you will like it too. It's surprisingly easy to make. Try it yourself and have a taste of it. Let us know if you like our recipe. Refer below for the recipe. By the way, we have amended the recipe slightly because Roland didn't use a measuring cup when he was filming this video. It revised the amount said as they differ from what he actually used as seen in the video. The recipe below is a more accurate version of his recipe.
We'd would really really (triple really) love to hear from you. Please leave your comments and give us some ideas on what videos you would like us to make.
Till then, adieus!
Follow us on:
Youtube: www.youtube.com/spicenpans
Facebook www.facebook.com/spicenpans/
Instagram @spicenpans
Blog: www.spicenpans.com
To contact us:
spicenpans@gmail.com
Yours truly,
Jamie
On behalf of Spice N' Pans
Follow us on instagram @spicenpans to see more of our passion.
Seeya there!
Ingredients
------
900g - 1kg whole chicken. Fresh recommended
Stuffing in cavity of chicken:
1 thumb size ginger
2 stalks of spring onion
4-5 cloves of garlic
Colour coating before cooking:
3 tablespoons of premium dark soya sauce (low sodium)
For Gravy / Braise for Chicken
2 cinnamon bark
20g rock sugar
6 cloves
1 star anise
1/2 cup premium dark soya sauce (low sodium)
4 tablespoons Chinese rice wine
2 tablespoons light soya sauce
8 cups of water
-----
Looking for some of the things or ingredients we used in this video but not residing in Singapore? We welcome you for a vacation in Singapore or simply click one of these links to see similar or substitute products on Amazon. Happy shopping!
Stock pot: https://amzn.to/2t10iMk
Oyster Sauce: https://amzn.to/2sZ8FIj
Low Sodium Light Soya Sauce: https://amzn.to/2JPnyn3
Dark Soya Sauce: https://amzn.to/2MpSBr4
Chinese rice wine: https://amzn.to/2t10iMk
critic 在 critic - Yahoo奇摩字典搜尋結果 的相關結果
批評家,評論家;持批評態度的人;吹毛求疵的人,愛挑剔的人. Dr.eye 譯典通 · critic · 查看更多. IPA[ˈkrɪtɪk]. 美式. 英式. n. 評論家;批評者. 牛津中文字典 ... ... <看更多>
critic 在 critic (【名詞】批評家, 評論家, 批評者)意思、用法及發音 - Engoo 的相關結果
"critic" 例句. Critics have rated this movie highly. 評論家對這部電影的評價很高。 My boss is an outspoken critic of my ideas. 我的老闆是一個針對我的想法直言 ... ... <看更多>
critic 在 critic中文(繁體)翻譯:劍橋詞典 的相關結果
The play has been well received by the critics. 該劇贏得了評論家們的讚譽。 更多範例. Annie's the film critic for the local radio station, so she's got a free ... ... <看更多>