Search
ฝ่ายCG ของ Ubisoft ผู้สร้างวิหาร Notre Dame ใน Assassin's Creed Unity
ประกาศจะช่วยในการบูรณะวิหาร
เพราะตัวเองเก็บ ref ไว้เพียบ
มีรายละเอียดไปถึงขั้นอิฐแต่ละก้อน
ที่เธอย้ำกับ Texture Artist อย่างหนักหนา
ว่าต้องทำให้เหมือนของจริงที่สุด!!
Final Fantasy VII Remake
.
รีวิวและความประทับใจระหว่างการเล่น
.
ผมไม่แน่ใจว่ามันเป็นเพราะความรู้สึกผูกพันที่มีกับเกมนี้ หรือคุณภาพของเกมมันดีจริง ๆ ผมถึงได้รู้สึกชอบมันเอาเสียมาก ๆ นี่คือหนึ่งในเกมสละสลวย งดงาม จับใจ และคุ้มค่ากับการรอคอย แน่นอนว่ามันไม่ใช่เกมอันไร้ซึ่งข้อตำหนิ และเราจะได้ลงรายละเอียดกันในบทความนี้
.
ปล. สปอยล์นิดหน่อย ผมพยายามจะเขียนโดยไม่แตะเนื้อเรื่องให้มากที่สุด แต่หากท่านอยากรับรู้เรื่องราวของเกมด้วยตัวเองข้ามไปก่อนดีกว่าครับ
.
ผมสรุปประเด็นออกมาเป็น 3 ข้อใหญ่ ๆ ที่อาจจะทำให้คุณประทับใจหรือไม่เผาผีเกมนี้ นั่นก็คือ Presentation, ระบบการต่อสู้ และเนื้อเรื่อง เพราะสามจุดนี้ถูกทีมงานเปลี่ยนแปลงไปขนานใหญ่ การซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้ถ้ามันถูกใจคุณก็ดีไป แต่ถ้าไม่...ก็ไม่แปลกที่คุณจะอารมณ์เสียตอนเล่น รวมไปถึงส่วนอื่น ๆ ที่ผมอยากจะพูดถึงเพิ่มเติมด้วย
.
ไล่กันไปทีละเรื่องนะครับ
.
งาน Presentation
.
Final Fantasy เป็นซีรีส์ที่ขึ้นชื่อเรื่องงานภาพและเสียงมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ว่าจะหนังหรือเกม ต่อให้ระบบเกมจะดีไม่ดี เนื้อเรื่องจะออกทะเลไม่เข้าท่า แต่งาน CG ของ FF ไม่เป็นสองรองใคร และในคราวนี้ก็เป็นเครื่องพิสูจน์อีกครั้งว่ามันยังเป็นเช่นนั้นจริง ๆ งานกำกับภาพ อาร์ทดีไซน์ ตัวละคร ดูสวยงามเพลินตา คัตซีนยิ่งใหญ่อลังการอย่างไร้ที่ติ จนคนอาจจะแซวกันไปว่า “SE ไปทำหนังเถอะ”
.
นี่ยังไม่ต้องสรรเสริญถึงงานเพลง ดนตรีประกอบ และเสียงพากย์ที่ต้องบอกว่าเด็ดจริง ผมคงหาคำมาอธิบายความยอดเยี่ยมของมันได้ไม่พอ สิ่งที่ทำได้ก็คืออยากจะขอให้คุณ ๆ ไปลองหาเพลงมาฟังดู ว่าคำโบราณที่ว่าบทเพลงส่งผลกับจิตใจได้นั้นมันไม่ใช่เรื่องเกินเลย มีหลายเพลงที่เอามามิกซ์ใหม่ก็ดีมาก ถือว่าเป็นความดีงามสูงสุดของเกมนี้
.
แต่มันก็ไม่ใช่มีแต่เรื่องให้ชื่นชมสักทีเดียว texture ของเกมหลายจุดดูหยาบอย่างผิดปกติ จริงอยู่ว่ามันคงเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ประตูสักบานจะมีพื้นผิวที่ไม่สวย ฉากหลังบางจุดที่ดูเหมือนภาพเบลอ ๆ แต่ในเมื่อมันเล็กน้อยก็น่าจะทำให้ดีได้ไม่ใช่หรือ? เรื่องนี้ผมจึงคิดว่ามันอยู่ที่สายตาของแต่ละคนว่าพร้อมจะให้อภัยจุดเล็กจุดน้อยเหล่านี้มากแค่ไหน มันอาจจะไม่ได้ทำให้ประสบการณ์การเล่นของเราด้อยลงไป ส่วนตัวไม่ได้ติดใจกับประเด็นนี้นัก แต่มันก็เป็นการสะท้อนความเนี๊ยบของทีมงานได้อยู่เหมือนกัน
.
ระบบการต่อสู้
.
ระบบการต่อสู้ของ FF7 Remake ถูกปรับเปลี่ยนไปมหาศาล จากเดิมที่เป็น Turn-Base มากลายเป็นแบบ Real Time ตรงจุดนี้ก็ทำแฟนที่ชอบระบบเก่าเสียอารมณ์ไปพอสมควร แต่สำหรับผมนั้นมีความเห็นว่าระบบการต่อสู้อันนี้ทำออกมาได้ดี เล่นได้สนุก มันเพิ่มความหลากหลายและมิติความลึกให้กับเกมเพลย์ของเราได้มากกว่าเดิม
.
การโจมตีธรรมดา, block, dodge และการเคลื่อนที่ไปมาในสนามต่อสู้ทำได้อิสระ แต่การออกแอคชันที่มีความหมายหน่อยอย่างใช้ท่าพิเศษ เวทมนตร์ หรือไอเทม จะต้องใช้เกจ ATB ซึ่งต้องรอเวลา ศัตรูบางตัวโจมตีปกติไม่ได้หรือได้ผลไม่ดี ต้องใช้วิธี parry สวนกลับจะดีกว่า
.
ผมว่ามันทำให้เราต้องพลิกแพลงและแต่ละไฟท์น่าตื่นเต้นกว่าเดิม เพราะเราไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรและรับมือยังไง แต่สิ่งที่มีเพิ่มเติมมาและสร้างความหงุดหงิดให้หลายคนรวมถึงตัวผมเองด้วยก็คือ เมื่อระบบการต่อสู้มันลึกขึ้น มันก็มีเรื่องให้เราต้องคอยระวังเพิ่มตาม เช่น ท่าโจมตีที่รุนแรงหรือระหว่างการร่ายเวทย์ใหญ่ เราสามารถโดนขัดจังหวะได้เมื่อถูกโจมตี, ตำแหน่งการยืนมีผล ทั้งเราสามารถหลบการโจมตีแบบแอเรียทั้งหลายได้โดยการเดินออกมาจากจุดนั้น แต่เมื่อยืนระยะห่างเกินไปก็ทำให้ตัวละครสุดรักของผมอย่าง ทีฟา ออกหมัดไม่โดนเสียดื้อ ๆ บ่อยมากเพราะระยะโจมตีสั้นเกินไป จนต้องเสียเกจ ATB ไปฟรี ๆ หลายรอบมาก ทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนเราถูกปล้นชัยชนะในจังหวะที่เราควรจะทำได้
.
แต่จริง ๆ มันก็มีผลกับทั้งฝ่ายเราและฝ่ายศัตรู มีหลายครั้งที่ผมสกัดการร่ายเวทย์ใหญ่ของฝ่ายตรงข้ามและเอาตัวรอดมาได้เพราะระดมโจมตีจนมันชะงัก เพราะฉะนั้นมันก็เป็นดาบสองคมของระบบที่เราสามารถเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และใช้งานมันอย่างเต็มประสิทธิภาพได้เมื่อศึกษาให้ชำนาญ แต่แน่นอนมันไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้สึกแบบนั้น
.
แต่สิ่งที่เรียกว่าย่ำแย่เลยของระบบการต่อสู้คือเรื่องมุมกล้องที่เชื่อมโยงกับระบบการล็อคเป้า คือฉากในเกมมักจะถูกออกแบบให้อยู่ในที่แคบ แม้มุมกล้องจะหมุนได้อิสระ แต่ก็ไม่ยอม ”ถอยห่าง” หรือขยับขยายตัวเองออกมาระหว่างการต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณถูกอัดติดมุมฉาก ความน่าอึดอัดสูงสุดจะเกิดขึ้น และเมื่อมีการหมุนมุมกล้องทำให้เกิดการ ”เปลี่ยนเป้าหมายให้เราอัตโนมัติ” หลายต่อหลายครั้งจนน่าโมโห นี่คือจุดใหญ่ที่เกือบจะทำลายความดีของระบบการต่อสู้ทั้งหมด
.
เนื้อเรื่อง
.
นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งจุดที่สร้างความร้าวฉานให้กับแฟน ๆ ได้มากที่สุด เพราะสำหรับใครที่เล่นจบแล้ว น่าจะทราบว่าตัวเกมไม่ใช่การ Remake ของเดิมแบบ 1:1 มันมีการปรับเปลี่ยน ขยายความ และที่สำคัญคือมีการเติมอะไรใหม่เขาไปชนิดที่สร้างความงุงงงให้ผู้เล่นจำนวนมาก
.
จุดที่ผมชอบคือแม้ว่าโครงหลักของเนื้อหาทั้งหมดจะคล้ายเดิม แต่การเสริมขยายบางส่วนออกไปให้เราได้ใช้เวลากับตัวละครต่าง ๆ เพิ่มขึ้นเป็นส่วนที่ผมชอบมาก เพราะทำให้เราได้รู้สึกผูกพันและได้ชมวิวัฒนาการของตัวละครอย่างเป็นขั้นเป็นตอนจริง ๆ
.
แต่จุดที่สร้างความกังวลมากที่สุดน่าจะเป็นการใส่ฉากจบ ที่สำหรับแฟนที่รู้เรื่องราวของ FFVII ดีอยู่แล้วน่าจะต้องเซอร์ไพรส์และสร้างความหวั่นใจไปพร้อมกัน เพราะดูเหมือนผู้กำกับออกท่าว่าพร้อมที่จะ “ฉีก” เนื้อหาของภาครีเมคให้ไม่เหมือนต้นฉบับเลยสักนิด
.
ตรงนี้คนที่ชอบเนื้อเรื่องเวอร์ชันดังเดิมอาจจะรู้สึกสะเทือนจิตใจมาก เพราะ FFVII ที่เรารู้จักกันมา 20 ปี มันถูกจารึกว่าเป็นแบบนี้ มันคือสิ่งที่สร้างตัวตนให้กับเกม แต่จู่ ๆ วันหนึ่งใครอยากจะเปลี่ยนโครงเรื่องก็เปลี่ยน มันจะทำให้สิ่งที่เคยเป็นมามันไร้น้ำหนัก ไร้ความหมาย
.
ในทางกลับกันถ้าคุณเป็นผู้เล่นใหม่ที่ไม่เคยเล่นตัวออริจินอลมาก่อนเลย คุณต้องมีแต่เรื่องให้งงไปหมดแน่ ๆ ซึ่งถ้าคุณเป็นคนที่ไม่เคยเล่นออริจินอลมาจริง ๆ แล้วละก็ ผมขอแนะนำให้ลองหาโอกาสไปเล่นมันดูครับ (รวมไปถึง spin-off ต่าง ๆ ของมันด้วย) เพราะมันจะเปิดมุมมอง และทำให้ประสบการณ์การเล่นของคุณต่างจากเดิมไปมหาศาลเลย
.
ความกังวลของเป็นแฟนเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะคุณโนมูระผู้กำกับเกมในภาคนี้ มีผลงานที่ทุกคนรู้จักกันดีอย่าง Kingdom Heart ซึ่งจากการพูดคุยกับแฟน ๆ หลายคน ก็ไม่พอใจกับเส้นเรื่องของ KH ที่เล่ามายืดยาว 15 ปี ยังยุ่งเหยิงและไม่มีท่าทีว่าจะจบ ซึ่งเราทุกคนกลัวว่า FFVII จะดำเนินไปในทิศทางนั้น
.
ใจหนึ่งผมเป็นคนที่ค่อนข้างจะเปิดใจและเปิดกว้างยอมรับการเปลี่ยนแปลงนะครับ ขอเพียงแค่การจะปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องอย่างไรต้องมีคำอธิบายให้สมเหตุสมผลจนเราเชื่อมันได้อย่างสนิทใจเท่านั้น ผมไม่ค่อยยึดติดกับสิ่งที่เคยมีเคยเป็นมาสักเท่าไร เพราะสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาก็เหมือนสีสันที่จะทำให้เราเดาทางไม่ถูก และทุกอย่างที่เขาทำมาในภาค Remake นี้ ผมก็ยังไม่รู้สึกว่ามันมีจุดเลวร้ายสาหัสชนิดให้อภัยไม่ได้ ดังนั้นผมคงไม่ตำหนิหรือต่อว่าในสิ่งที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น แต่ในอนาคตเราคงต้องจับตาดูอย่างยิ่งว่าทีมงานจะพาเกมไปในทิศทางไหน
.
Side Quest
.
ผมเป็นคนรู้สึกหงุดหงิดเวลาเล่นเกมแล้วเจอ Side Quest งี่เง่าหรือประเภท fetch quest ให้ไปเก็บนั่นเก็บนี้ ฆ่ามอนสเตอร์ตัวนั้นตัวนี้แบบไม่มีจุดหมายหรือความเชื่อมโยงกับเนื้อเรื่อง หน้าที่ของมันเป็นแค่ให้ผู้เล่นทำเพื่อยืดชั่วโมงเกมเพลย์และฟาร์มหาทรัพยากรอย่างค่าประสบการณ์ หรือเงินเท่านั้นเอง
.
มีน้อยเกมนักที่จะใส่ใจกับเนื้อหาของ Side Quest เช่นปรับให้เราทำอะไรเพื่อเปลี่ยน pacing ของเกมบ้าง, มีการวางโครงเรื่องให้ดี ๆ ขยายจักรวาลของเกมและตัวละครให้ซับซ้อนลุ่มลึกขึ้น สำหรับ FFVII Remake นั้น แม้จะยังทำออกมาไม่ได้ดีที่สุด แต่ก็ต้องชมว่ามาถูกทางแล้ว โดยเฉพาะในช่วงท้ายเกมที่ออกแบบมาดี มีเอาไปซ่อนตามที่ต่าง ๆ แบบต้องออกสำรวจถึงจะเจอ ซึ่งมันเหมาะกับเกมมากกว่า ในอนาคตถ้ามีการพัฒนาต่อยอดขึ้นไปก็น่าจะอยู่ในมาตรฐานที่สูงได้ไม่ยาก แต่เรื่องนี้จะไปพัวพันกับปัญหาการสร้าง open world อีกเล็กน้อย....
.
Open World
.
ผมแอบมีความรู้สึกว่าทีมพัฒนามีปัญหากับการสร้างโลก open-world คือถ้าไม่ทำออกมากว้างใหญ่แต่ว่างเปล่า ก็จะให้ความรู้สึกเหมือนเอาทางเดินมาเรียงต่อกันให้เป็นแมพยาวใหญ่ ที่ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่ามันอิสระ แล้วผมไม่เข้าใจว่าต้องมีการซ่อนฉากโหลดเล็กน้อยยิบย่อยเอาไว้เยอะขนาดนั้นทำไม เราต้องเดินเบียดทางแคบ หรือมุดลอดช่องอยู่เป็นประจำ
.
เอาจริง ๆ มันไม่ได้ทำลายบรรยากาศของเกมไป เพราะโดยรวมมันก็ยังดูอลังการอยู่ แถมยังพอจะอ้างความสมเหตุสมผลกับเนื้อเรื่องได้ว่าตอนนี้เราอยู่แค่ใน มิดการ์ ยังไม่ได้ออกไปโลกภายนอกจริง ๆ ก็พอจะเอาตัวรอดไปได้ แต่ผมคิดว่าทีมงานต้องทำการบ้านในจุดนี้เยอะหน่อยแล้ว เพราะเมื่อเข้าสู้ช่วง open world ก็ควรจะทำออกมาได้สมมาตรฐานของเกม RPG และนี่คืออีกหนึ่งประเด็นที่ต้องจับตาดูในภาคหน้าว่าจะเป็นอย่างไร
.
โดยรวมแล้วผมชื่นชอบ FFVII Remake ค่อนข้างมากครับ มันมีความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่ผมรู้สึกดีกับมัน และตั้งตารอคอยว่าอนาคตของตัวเกมจะเป็นอย่างไรต่อไป ตลอดการผจญภัยครั้งนี้ผมเต็มไปด้วยความสุขและอิ่มเอมใจ คล้ายกับได้เจอเพื่อนเก่าหรือรักแรก ....การเดินทางอันไม่อาจคาดเดาจะดำเนินต่อไป.... ความกังวลทั้งหลายขอให้เป็นเรื่องของวันข้างหน้าก็แล้วกันครับ
.
และหากบทความนี้ยังไม่หนำใจ ผมจะเตรียมจัด Coolerist: Co-op Podcast ตอนใหม่เกี่ยวกับ Final Fantasy VII Remake เร็ว ๆ นี้ ซึ่งมีการลงรายละเอียดทุกอย่างเท่าที่เราคิดกันได้ อย่าลืมติดตามนะครับ ^^
Ngày xưa mình xem quảng cáo Philatop chống còi xương biếng ăn cho trẻ em hay chiếu trước chương trình thời sự lúc 6h sáng xong cũng háo hức mua về bổ sung chất đạm, mỗi lần uống lại búng ngón tay vào đầu ống thủy tinh xong lấy hết sức bình sinh bẻ ngoéo một cái mà lần nào cũng sợ bẻ ra nham nhở, thủy tinh vung vãi rồi có khi nào mình nuốt Philatop nuốt luôn cả vụn thủy tinh vào cổ họng mình không. Lần này thấy Vichy ra ampoule mới xong ra luôn cả dụng cụ bẻ ống ampoule mình muốn dành tặng các nhà khoa học 100 điểm tâm lý. Cái bấm này đỉnh lắm, nhét ống thủy tinh vào, bấm một cái là nó cắt một đường sắc gọn mượt mà không vung vãi, cảm giác chất lượng sống được nâng lên một tầm cao mới các bạn ạ.
Mỗi ống ampoule này dùng được khoảng 2 lần, mỗi lần mình tưới đẫm cả mặt cả cổ và hai bàn tay. Dùng xong lấy cái nắp nhựa đi kèm trong hộp đậy vào để tủ lạnh để lần sau dùng nốt. Nhiều người nghĩ ampoule chỉ là một chiêu trò của các nhãn mỹ phẩm để bán thêm được hàng chứ thực chất nó không khác gì serum. Không phải nhé, ampoule có hàm lượng dưỡng chất cô đặc cao hơn nhiều so với serum, chính vì vậy nó thường được chiết vào các ống nhỏ để dùng đến đâu gọn đến đấy, đỡ bị oxy hoá. Serum thường được sản xuất dưới dạng chai lớn để dùng hàng ngày còn ampoule thường để đặc trị mỗi tuần khoảng 2-3 lần. Như ampoule Liftactiv Glyco-C của Vichy mà mình đang dùng thì công dụng là peel da 2 tầng, kích thích tái tạo tế bào tự nhiên làm sáng da, mờ nám và vết thâm. Lúc mới bôi sẽ có cảm giác châm chích và ngứa nhẹ do hợp chất acid bao gồm 4% AHA; 1% gitric acid và 5% HEPE đang thực hiện quá trình thanh tẩy tế bào chết. Ngoài ra ampoule này có chứa 0.2% vitamin Cg làm sáng da, 0.1% Hyaluronic Acid giúp giữ ẩm và 0.1% nước khoáng núi lửa Vichy để tăng cường khoáng chất cho da khoẻ mạnh. Tinh chất cô đặc nhưng texture lại rất lỏng, thấm rất nhanh, dùng rất dôi nên mình thường bôi đến 2-3 lớp, đợi lớp này khô thì dấp thêm lớp khác 😄. Để dùng thử 1 tháng liên tục xem da có sáng lên không nhé. Trộm vía dạo này đỡ mụn nên mình bắt đầu thử nhiều sản phẩm dưỡng da khác được rồi.
Mọi người có muốn mình review cái gì nữa không, xin một vài gợi ý để mình cố gắng chăm chỉ viết trở lại nhé ☺️
#Vichy_GlycoC
8/26発売 キタニタツヤNew Album『DEMAGOG』
ダウンロード・ストリーミング：https://smr.lnk.to/demagogalAY
CD初回盤：https://smr.lnk.to/tkdemagogWN
CD通常盤：https://smr.lnk.to/tkdemagogtsujoWN
パノプティコン(Inst.) : https://youtu.be/R7_XbcdINAg
「ハイドアンドシーク」Music Video : https://www.youtube.com/watch?v=btNYJYj4Vdw
「悪夢」Music Video : https://www.youtube.com/watch?v=lkYeBXXHgY4
「人間みたいね」Music Video : https://www.youtube.com/watch?v=cBxQ6bmy_9I
「DEMAGOG」特設サイト : https://tatsuyakitani.com/special/demagog/
::::::::::::::::::::::::::::::::::
Official Site : https://tatsuyakitani.com/
Instagram : https://www.instagram.com/inunohone
Twitter : @TatsuyaKitani
::::::::::::::::::::::::::::::::::
「パノプティコン」
Words & Music & Arrangement : Tatsuya Kitani
Drums：Matt
All Other Instruments : Tatsuya Kitani
Rec & Mix : The Anticipation Illicit Tsuboi @ RDS Toritsudai
Mastering : John Greenham
Subtitle : Tatsuya Kitani / Akky
-Music Video Credit-
Director：Mana Inoue（OTOIRO）
Producer：Sachi Nagano
Cinematographer : Hiroaki Takeda
Camera Assistant : Yo Doi
Lighting：Katsuyuki Hashimoto
Lighting Assistant：Genki Hoshiyama
Prop stylist : Takashi Ozawa / YOKE / Kanato Matsuoka
Character Design & Special Effect Makeup：KAIHO
Hair & Makeup：Eriko Mori
Styling：Shinya Watanabe
Makeup Assistant：Sakura Iwakawa / Miki Kuwayama / Kotone Kubo
Title Design：Ayana Inoue（CEKAI）
Production Manager：Iori Majima（OTOIRO）
Instructor：Yuki Yahiro
Cast：Ray Sasaki / Soichiro Tanaka / Choma Tokui / Yuki Yahiro / Reina
CG Designer：Ryohei Noda
CG Animation：Makoto Naruse
3D Scan & Post Processing：Higashino
Texture & Keying：TakutoNio
Clean up model：Kaishi Yamamura
Keying Assistant：Shimon Kikigt
====
パノプティコン / PANOPTICON
どうなってんだよこれ！
鉄柵の奥の道化を笑ってたはずが
目を覚ましたら自分の番なんてさ、笑えないね
斬奸状は後回し
誰も彼も正義を持て余している
青白い顔の群れは怯えた眼をしていた
切り離されて人肌を忘れてしまった僕らの
心がいつか機能不全を起こしてしまった
七十億と少しの孤独が寄り集まって
猜疑心だけが募って、この手は冷え切ってしまった
パノプティコンの向こうで歪んだ笑い声が聞こえる気がした
排気ガス塗れの僕らの頭上、救いの糸は無いんだ
善意でできた道がどうやら地獄の方へと続いてた、なんて
ずっと前からわかっていたんだ
無邪気さゆえ手がつけれないんだ
孤独を自ら招いて自壊する
致命的なバグを抱えた僕らの業は
百年足らずじゃ清算できないね
もつれた足で彷徨うことを止め、地下室へ逃げても
テレスクリーンから無数の眼に覗かれているんだ
七十億と少しの孤独が寄り集まって
誰も信じれなくなって、温もりを忘れてしまった
パノプティコンの向こうで歪んだ笑い声が聞こえる気がした
蓮の花の上に座した悪意
蜘蛛は潰されていたんだ
正義の奴隷になって些末な悪に火を放っていた彼らもまた、ガス室へ消えていく
どこから見ているの？
きっと途方もない悪意を孕んでいるんだろう？
七十億と少しの孤独が寄り集まって
猜疑心だけが募って、この手は冷え切ってしまった
パノプティコンの向こうで歪んだ笑い声が聞こえる気がした
誰かがあの蜘蛛を徒に踏み潰したその日から
排気ガス塗れの僕らの頭上、救いの糸は無いんだ
**影像工作邀約來信請至 (Outerspace studio)
Any work invitations please mail us:
fxxkleo@hotmail.com
故事的開始，從歌手張靚穎所扮演的OL上班族拉開序幕，電話那頭傳來老闆的責駡，正在逛芝加哥美術館( Art Institute of Chicago)的倒楣OL，莫名闖入名畫的世界，展開一連串不可思議的奇幻冒險。
此MV我們嘗試以有趣流暢的轉場,貫穿12幅世界名畫，並且顛覆改寫原先名畫的世界觀，做出了全新的定義，例如：梵谷的耳朵原來是被拳王泰森給咬下來的、拾穗中間彎著腰的女性抬起頭來，原來是戴珍珠耳環的少女、孟克吶喊那座橋後方的兩個黑衣人原來是MIB，而吶喊的原因是看到了達利畫中的巨大神獸所以尖叫吶喊、而最後名畫Nighthawks寂寞咖啡廳裡背對西裝男，竟然是達利的背影……等等。
為了讓平面經典以3D重現，將名畫"立體化"是此次MV最大的挑戰，我們找來了優秀的藝術畫家們，將所有看的到的搭景、服裝、甚至演員與歌手全都畫上了"筆觸"，"極不正常"的MV拍攝手法，極度實驗性的拍攝現場，只有瘋狂！
雖然劇本創意不按牌理出牌，也可以說非常"前衛另類＆狂野"，但回歸現實製作層面，如何呈現畫作本質並賦予新的生命，新舊衝突的融合、筆觸的臨摹、質感呈現更是實際我們要克服的一大挑戰。以正統藝術與美感為基底，創意為輔，融入超展開的惡搞劇情，加上目不暇給的CG動畫特效，這是各方專業跨界努力後的成果，請開心享用!
此外，值得一提的是歌手張靚穎的勇氣與野心，沒有底線、不給創作者任何框架的創作空間，就算是被顏料畫得面目全非也盡力配合，求得只是一個創意的完整，這是身為一個主流歌手非常難能可貴的，你去看看那些主流的CD封面或MV就可充分瞭解這其中的突破了，華語歌手總是被要求臉要清楚、要大、要美、舞蹈要好記.....創意總是被放在很後面，而這MV最令人振奮的是，我們終於可以把創意放在第一位了!!!
---------------------------------------------------
深度解密!!! 翻玩名畫與藝術家一覽：
*事發地點-芝加哥美術館( The Art Institute of Chicago )
名畫1.愛德華•霍普-夜遊者(Edward Hopper – Nighthawks)
名畫2.梵谷-自畫像(Vincent Willem Van Gogh Museum) VAN GOGH Van Gogh Museum La Oreja de Van Gogh - Oficial
*亂入彩蛋-拳王泰森
名畫3.米勒-拾穗( Jean-François Millet- Des glaneuses)
名畫4.楊•維梅爾-戴珍珠耳環的少女( Johannes Vermeer -Het meisje met de parel)
名畫5.安德魯•魏斯-克莉絲蒂娜的世界 ( @Andrew Nowell Wyeth -Christina's World)
名畫6.喬治•秀拉-大碗島的星期天下午 ( Georges -Pierre Seurat-Un dimanche après-midi à l'Île de la Grande Jatte)
名畫7.孟克-吶喊（Edvard Munch -Skrik）
*亂入彩蛋-MIB Men In Black
名畫8.達利-聖安東尼的誘惑(Salvador Dali-A Tentação de Santo Antônio) Salvador Dalí
名畫9.瑪格利特-馬奇的夏天( Magritte Rene-The marches of summer )
名畫10.艾雪-上下階梯（Maurits Cornelis Escher-Ascending and descending) 莫里茲·柯尼利斯·艾雪
名畫11.艾雪-畫廊（Maurits Cornelis Escher- Gallery)
名畫12.瑪格利特-人子(Magritte Rene-The Son of Man)
*偉大藝術家-達利像(Salvador Dali)
*關於隱藏的第13幅藝術品: 在MV的1:35秒處點描派的爆炸瞬間,也展示了日本知名藝術家-草間彌生擅長的表現方式與符號
-------------------
Singer Zhang Liangying, portrays the role of an office lady and was presented at the beginning of the story. This unlucky lady was blamed by her boss over the phone when she visited the Art Institute of Chicago. Suddenly, she enters a world of famous paintings, and was on her way to a fantastic adventure.
In this MV, we try to connect 12 world-known paintings through interesting and smooth transitions. The original values of those paintings are re-defined. For example, Van Gogh’s ear is bitten by Mike Tyson; when the girl in the Gleaners looks up, she becomes the Girl with A Pearl Earring; the two men in black at the end of the bridge in the Scream by Edvard Munch are actually MIB, and they scream because they see the big monster in the painting of Dali; and the man in suit sitting with his back to us in the lonely café of the last painting Nighthawks, is Dali, and so on.
The 3D effect of those famous paintings is the largest challenge in this MV. We invited excellent artists to contribute their ideas and skills on all the scenes, costumes, actors and the singer. The innovative shooting methods are extremely experimental, which seems crazy!
Although the concept of the script is radical, weird and wild, the revival of paintings, the integration of the new and the old, the copy of painting lines and the texture presentation in the production process are all challenges. The traditional arts and aesthetics are supported by creativity, and innovative story line and the overwhelming CG are integrated. The MV was made possible through the efforts of experts in various fields. We hope you enjoy it!
The list of paintings and artists used in the MV:
1. Edward Hopper – Nighthawks
2. Vincent Willem van Gogh
3. Jean-François Millet- Des glaneuses
4. Johannes Vermeer-Het meisje met de parel
5.Andrew Nowell Wyeth-Christina's World
6.Georges-Pierre Seurat-Un dimanche après-midi à l'Île de la Grande Jatte
7. Edvard Munch-Skrik
8.alvador Dali-A Tentação de Santo Antônio
9. The marches of summer
10. Maurits Cornelis Escher-Ascending and descending
11. Maurits Cornelis Escher- Gallery
12. Magritte Rene-The Son of Man
13. Salvador Dali
* As for the 13th painting, the explosion at 1:35 of the MV adopts the style of Japanese artist, Yayoi Kusama.
**影像工作邀約來信請至 (Outerspace studio)
Any work invitations please mail us:
fxxkleo@hotmail.com
Singer Zhang Liangying, portrays the role of an office lady and was presented at the beginning of the story. This unlucky lady was blamed by her boss over the phone when she visited the Art Institute of Chicago. Suddenly, she enters a world of famous paintings, and was on her way to a fantastic adventure.
In this MV, we try to connect 12 world-known paintings through interesting and smooth transitions. The original values of those paintings are re-defined. For example, Van Gogh’s ear is bitten by Mike Tyson; when the girl in the Gleaners looks up, she becomes the Girl with A Pearl Earring; the two men in black at the end of the bridge in the Scream by Edvard Munch are actually MIB, and they scream because they see the big monster in the painting of Dali; and the man in suit sitting with his back to us in the lonely café of the last painting Nighthawks, is Dali, and so on.
The 3D effect of those famous paintings is the largest challenge in this MV. We invited excellent artists to contribute their ideas and skills on all the scenes, costumes, actors and the singer. The innovative shooting methods are extremely experimental, which seems crazy!
Although the concept of the script is radical, weird and wild, the revival of paintings, the integration of the new and the old, the copy of painting lines and the texture presentation in the production process are all challenges. The traditional arts and aesthetics are supported by creativity, and innovative story line and the overwhelming CG are integrated. The MV was made possible through the efforts of experts in various fields. We hope you enjoy it!
The list of paintings and artists used in the MV:
1. Edward Hopper – Nighthawks
2. Vincent Willem van Gogh
3. Jean-François Millet- Des glaneuses
4. Johannes Vermeer-Het meisje met de parel
5.Andrew Nowell Wyeth-Christina's World
6.Georges-Pierre Seurat-Un dimanche après-midi à l'Île de la Grande Jatte
7. Edvard Munch-Skrik
8.alvador Dali-A Tentação de Santo Antônio
9. The marches of summer
10. Maurits Cornelis Escher-Ascending and descending
11. Maurits Cornelis Escher- Gallery
12. Magritte Rene-The Son of Man
13. Salvador Dali
* As for the 13th painting, the explosion at 1:35 of the MV adopts the style of Japanese artist, Yayoi Kusama.
故事的開始，從歌手張靚穎所扮演的OL上班族拉開序幕，電話那頭傳來老闆的責駡，正在逛芝加哥美術館( Art Institute of Chicago)的倒楣OL，莫名闖入名畫的世界，展開一連串不可思議的奇幻冒險。
此MV我們嘗試以有趣流暢的轉場,貫穿12幅世界名畫，並且顛覆改寫原先名畫的世界觀，做出了全新的定義，例如：梵谷的耳朵原來是被拳王泰森給咬下來的、拾穗中間彎著腰的女性抬起頭來，原來是戴珍珠耳環的少女、孟克吶喊那座橋後方的兩個黑衣人原來是MIB，而吶喊的原因是看到了達利畫中的巨大神獸所以尖叫吶喊、而最後名畫Nighthawks寂寞咖啡廳裡背對西裝男，竟然是達利的背影……等等。
為了讓平面經典以3D重現，將名畫"立體化"是此次MV最大的挑戰，我們找來了優秀的藝術畫家們，將所有看的到的搭景、服裝、甚至演員與歌手全都畫上了"筆觸"，"極不正常"的MV拍攝手法，極度實驗性的拍攝現場，只有瘋狂！
雖然劇本創意不按牌理出牌，也可以說非常"前衛另類＆狂野"，但回歸現實製作層面，如何呈現畫作本質並賦予新的生命，新舊衝突的融合、筆觸的臨摹、質感呈現更是實際我們要克服的一大挑戰。以正統藝術與美感為基底，創意為輔，融入超展開的惡搞劇情，加上目不暇給的CG動畫特效，這是各方專業跨界努力後的成果，請開心享用!
此外，值得一提的是歌手張靚穎的勇氣與野心，沒有底線、不給創作者任何框架的創作空間，就算是被顏料畫得面目全非也盡力配合，求得只是一個創意的完整，這是身為一個主流歌手非常難能可貴的，你去看看那些主流的CD封面或MV就可充分瞭解這其中的突破了，華語歌手總是被要求臉要清楚、要大、要美、舞蹈要好記.....創意總是被放在很後面，而這MV最令人振奮的是，我們終於可以把創意放在第一位了!!!
---------------------------------------------------
深度解密!!! 翻玩名畫與藝術家一覽：
*事發地點-芝加哥美術館( The Art Institute of Chicago )
名畫1.愛德華•霍普-夜遊者(Edward Hopper – Nighthawks)
名畫2.梵谷-自畫像(Vincent Willem Van Gogh Museum) VAN GOGH Van Gogh Museum La Oreja de Van Gogh - Oficial
*亂入彩蛋-拳王泰森
名畫3.米勒-拾穗( Jean-François Millet- Des glaneuses)
名畫4.楊•維梅爾-戴珍珠耳環的少女( Johannes Vermeer -Het meisje met de parel)
名畫5.安德魯•魏斯-克莉絲蒂娜的世界 ( @Andrew Nowell Wyeth -Christina's World)
名畫6.喬治•秀拉-大碗島的星期天下午 ( Georges -Pierre Seurat-Un dimanche après-midi à l'Île de la Grande Jatte)
名畫7.孟克-吶喊（Edvard Munch -Skrik）
*亂入彩蛋-MIB Men In Black
名畫8.達利-聖安東尼的誘惑(Salvador Dali-A Tentação de Santo Antônio) Salvador Dalí
名畫9.瑪格利特-馬奇的夏天( Magritte Rene-The marches of summer )
名畫10.艾雪-上下階梯（Maurits Cornelis Escher-Ascending and descending) 莫里茲·柯尼利斯·艾雪
名畫11.艾雪-畫廊（Maurits Cornelis Escher- Gallery)
名畫12.瑪格利特-人子(Magritte Rene-The Son of Man)
*偉大藝術家-達利像(Salvador Dali)
*關於隱藏的第13幅藝術品: 在MV的1:35秒處點描派的爆炸瞬間,也展示了日本知名藝術家-草間彌生擅長的表現方式與符號
In this Video we will be looking at Textures / formally known as CG textures. I have used this website for many years and it recently went ... ... <看更多>
cg texture 在 900+ CG | Materials and Maps ideas - Pinterest 的八卦
Nov 7, 2020 - Explore Christopher Pettit's board "CG | Materials and Maps", ... See more ideas about material textures, texture, textures patterns. ... <看更多>