How I started.
.
2007-2009: Started going to the gym. Never skip a workout since then, but things went wrong because I didn't take my diet seriously.
.
2010: Started diet. It's harder than what I've expected, but the results were amazing! (Diet is 70%-80% of your results).
.
2011: My first successful body transformation a.k.a life transformation.
.
What happened after 2011?
.
2012: Created /jordanyeohfitness FB page and YT channel. Never stop posting since then.
.
2013-2020: Still training and eating right. For the diet part: No, I no longer eating as strict like 2010-2012, because strict is never sustainable. I'm more flexible with what I eat and have more cheat meals now, as long as I don't overdo it and able to maintain my lower abs visibility, then is good enough.
.
Life is not about fitness, but fitness is my life.
.
#tbt
.
PS. If you wanna know how's my diet now go check out my YouTube channel: /jordanyeohfitness
同時也有84部Youtube影片,追蹤數超過361萬的網紅Dan Lok,也在其Youtube影片中提到,★☆★BONUS FOR A LIMITED TIME★☆★ You can download Dan Lok's best-selling book F.U. Money for FREE: http://learnmartialartsjkd.danlok.link You don’t nee...
after life 2009 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
Saverin อยู่กับเฟซบุ๊กปีเดียว แต่มีทรัพย์สิน 6 แสนล้าน /โดย ลงทุนแมน
Mark Zuckerberg เริ่มก่อตั้ง Facebook ในปี 2004 ร่วมกับเพื่อนอีก 4 คน
หนึ่งในนั้นคือรุ่นพี่ที่ชื่อว่า “Eduardo Saverin”
Saverin คือเพื่อนคนแรกที่ Zuckerberg ชวนมาร่วมทีมและเขาคนนี้ยังเป็นคนแรกที่ร่วมลงทุนใน Facebook
แต่ผ่านไปเพียงปีเดียว กลับมีเรื่องราวที่ทำให้เขากลายเป็นผู้ร่วมก่อตั้งที่ต้องออกจากบริษัทไปเป็นคนแรกเช่นกัน
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับ Saverin ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
“Eduardo Saverin” เกิดที่เมืองเซาเปาลู ประเทศบราซิล ในปี 1982 ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่เมืองรีโอเดจาเนโร
เขาเกิดมาในครอบครัวชาวยิวที่ร่ำรวย โดยพ่อของเขาเป็นนักธุรกิจ ที่เป็นเจ้าของกิจการทั้งการส่งออก เรือขนส่ง ไปจนถึงอสังหาริมทรัพย์
แต่ความมั่งคั่งนี้ ก็เป็นที่ล่อตาล่อใจของแก๊งมาเฟีย ทำให้เมื่อปี 1993 Saverin ในวัย 11 ปี มีชื่ออยู่ในลิสต์เหยื่อที่จะโดนแก๊งลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่
โชคดีที่พ่อของเขาไหวตัวทัน เขาจึงพาครอบครัวอพยพไปตั้งต้นชีวิตในที่ที่ปลอดภัยกว่า อย่างประเทศสหรัฐอเมริกา จน Saverin ได้สัญชาติอเมริกันในปี 1998
หลังจากเรียนจบมัธยมศึกษา Saverin เลือกเรียนเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
เขาโดดเด่นเรื่องการลงทุนเป็นพิเศษ ทั้งการได้เป็นประธาน Harvard Investment Association และยังเป็นที่เลื่องลือจากการทำกำไรเป็นเงิน 3 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 10 ล้านบาท จากการลงทุนในฟิวเจอร์สน้ำมัน
ปี 2003 ขณะที่ Saverin เรียนอยู่ปี 3 รูมเมตรุ่นน้องของเขาที่ชื่อ “Mark Zuckerberg” กำลังพัฒนา TheFacebook.com หรือที่เรารู้จักกันก็คือ Facebook ในปัจจุบัน
เวลานั้น Zuckerberg กำลังมองหาพาร์ตเนอร์มาร่วมทีม ซึ่งเขามองหาคนที่มีเงินทุนและเก่งในด้านที่เขาไม่ถนัด นั่นคือการลงทุนและการทำธุรกิจ ซึ่ง Saverin ก็เรียกได้ว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ Zuckerberg ต้องการ นั่นจึงทำให้เขาถูกชวนมาเป็นพาร์ตเนอร์คนแรก
พวกเขาตกลงว่าจะร่วมทุนกันคนละ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5 แสนบาทและแบ่งหน้าที่กัน โดย Zuckerberg โฟกัสการพัฒนาเซิร์ฟเวอร์ ส่วน Saverin รับผิดชอบด้านการเงินและธุรกิจ
จนในที่สุด TheFacebook.com ก็ได้เปิดตัวในช่วงต้นปี 2004 และได้รับความนิยมไปทั่วมหาวิทยาลัยทันที โดยมีผู้สมัครใช้งานกว่า 4 พันคนภายใน 2 สัปดาห์แรก
พวกเขาเลยชวนรูมเมตอีกคนที่ชื่อ Dustin Moskovitz มาร่วมทีม ซึ่งรับหน้าที่เป็นโปรแกรมเมอร์ และหลังจากนั้นไม่นานก็มีเพื่อนอีก 2 คนมาร่วมทีม
เดือนเมษายน หรือหลังเปิดตัวเว็บไซต์ไปได้ 2 เดือน TheFacebook ก็จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด
โดยมีผู้ถือหุ้นคือ Zuckerberg ถือหุ้น 65%, Saverin ถือหุ้น 30% และ Moskovitz ถือหุ้น 5%
มาถึงช่วงปิดเทอมหน้าร้อนในเดือนมิถุนายน Zuckerberg กับ Moskovitz เดินทางไปที่เมืองพาโล อัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของซิลิคอนแวลลีย์ เพื่อเช่าบ้านและโฟกัสกับการพัฒนา TheFacebook.com
ส่วน Saverin เลือกไปฝึกงานกับสถาบันการเงิน Lehman Brothers ที่นิวยอร์ก และ Zuckerberg ได้แบ่งความรับผิดชอบให้เขา 3 อย่าง คือ วางโครงสร้างบริษัท ทำโมเดลธุรกิจ และที่สำคัญคือหาเงินทุน
แต่การเลือกเส้นทางที่แตกต่างกันในครั้งนี้ กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของรอยร้าว
สิ่งที่ Saverin ให้ความสำคัญมากที่สุดในเวลานั้น คือการฝึกงาน
เขาจึงละเลยสิ่งที่ Zuckerberg ฝากให้เขาจัดการทั้ง 3 ข้อ
ทั้งที่ Zuckerberg และคนอื่นในทีม ทุ่มเทกับการต่อยอด TheFacebook.com ซึ่งในตอนนั้นมีจำนวนผู้ใช้งานเติบโตอย่างรวดเร็วแบบที่ไม่มีใครคาดคิด ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นที่สุดก็คือการหาเงินทุน ซึ่งเป็นหน้าที่ของ Saverin มาตั้งแต่ต้น
แต่กลับกลายเป็นว่าคนที่รับหน้าที่ในการหานักลงทุนก็คือ Sean Parker ไอดอลแห่งวงการเทคโนโลยี ผู้ก่อตั้ง Napster แพลตฟอร์มแชร์และดาวน์โหลดเพลงออนไลน์ ที่เป็นต้นแบบของ iTunes
ก่อนหน้านี้ไม่นาน Parker ได้รู้จัก TheFacebook.com และรู้สึกสนใจ จึงติดต่อ Zuckerberg เพื่อมาร่วมทีมด้วย
ซึ่ง Parker สามารถโน้มน้าวให้ Peter Thiel ผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal มาลงทุนใน TheFacebook.com ได้สำเร็จ เป็นเงิน 5 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 16.6 ล้านบาท
นอกจากนี้ Parker ซึ่งมีประสบการณ์ธุรกิจมาก่อน จึงกลายเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของ Zuckerberg และยังมีบทบาทสำคัญในการทำหน้าที่ทุกอย่างที่ Saverin ละเลย
มาถึงตรงนี้ Saverin ที่ให้ความสำคัญกับ TheFacebook.com น้อยกว่าคนอื่น ก็หมดความจำเป็น Zuckerberg เลยคิดจะตัดเขาออกจากทีม แต่ก็ติดปัญหาตรงที่เขาไม่รู้จะใช้วิธีไหน
เพราะ Saverin เป็นทั้งผู้ร่วมก่อตั้งและที่สำคัญคือเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท
Parker เลยแนะนำวิธีหนึ่งให้กับ Zuckerberg ซึ่งเป็นทริกที่ Thiel เคยใช้และเรียนรู้ต่อมาจากนักลงทุนระดับตำนานคนหนึ่ง
วิธีการนั้นก็คือ การลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทของ Saverin ลง ด้วยการตั้งบริษัทใหม่ เพื่อมาซื้อบริษัทเดิม หลังจากนั้นก็ออกหุ้นเพิ่ม และจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่ให้กับทุกคน ยกเว้น Saverin
Zuckerberg ได้ลองอธิบายแผนการนี้ผ่านทางอีเมลเพื่อขอคำปรึกษาจากนักกฎหมายของเขา ซึ่งนักกฎหมายก็เตือนว่าอาจจะเกิดการฟ้องร้องตามมาได้ แต่สุดท้ายแผนการนี้ก็ยังดำเนินต่อไป
ขั้นตอนแรกเริ่มขึ้นในปลายเดือนกรกฎาคม ทีม Zuckerberg จัดตั้งบริษัทใหม่และใช้บริษัทใหม่นี้ไปซื้อบริษัทเดิม ซึ่งสัดส่วนผู้ถือหุ้นของบริษัทใหม่ จะถูกจัดสรรโดยรวมผู้ลงทุนอย่าง Thiel เข้าไปด้วย ดังนี้
Zuckerberg ถือหุ้น 40%
Saverin ถือหุ้น 24%
Moskovitz ถือหุ้น 16%
และ Thiel ถือหุ้น 9%
ส่วนอีก 11% ที่เหลือ เก็บไว้เผื่อแจกเป็นอ็อปชันให้กับผู้ร่วมทีมในอนาคต
ขั้นตอนนี้ ทำให้สัดส่วนหุ้นของ Saverin ลดลงจากเดิม 30% มาเป็น 24%
หลังจากนั้น ทาง Zuckerberg ก็ได้ให้ Saverin เซ็นชื่อในข้อตกลงจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่นี้ในเดือนตุลาคม โดย Saverin ตกลงให้ทรัพย์สินทางปัญญาทุกอย่างของบริษัท รวมถึงสิทธิ์ในการออกเสียงในบริษัท ที่เคยเป็นส่วนของเขา โอนมาเป็นของ Zuckerberg แทน
และเมื่อปิดเทอมหน้าร้อนสิ้นสุด ความสำเร็จเกินคาดของ TheFacebook.com ก็ทำให้ Zuckerberg และ Moskovitz ตัดสินใจออกจากมหาวิทยาลัยและอยู่ที่แคลิฟอร์เนียต่อ ขณะที่ Saverin กลับมาเรียนต่อที่ฮาร์วาร์ดในปีสุดท้าย
ต่อมา ในต้นเดือนมกราคม ปี 2005 บริษัท Facebook ก็ได้ออกหุ้นสามัญเพิ่ม 9 ล้านหุ้น โดยถูกจัดสรรเป็นของ Zuckerberg 3.3 ล้านหุ้น Parker และ Moskovitz ได้ไปคนละ 2 ล้านหุ้น ส่วน Saverin ไม่ได้อะไรเลย
ขั้นตอนนี้ ทำให้สัดส่วนหุ้นของ Saverin ลดลงจาก 24% จนเหลือไม่ถึง 10%
Saverin ผู้ที่ไม่รู้อะไรเลยก็เพิ่งมารับรู้ถึงวิธีที่เขาโดนลดสัดส่วนการถือหุ้นหลังผ่านไปเกือบ 4 เดือน
ซึ่งในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เขาก็ต้องออกจากบริษัทและถูกลบชื่อออกจากผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท
ความขัดแย้งนี้ก็นำไปสู่การฟ้องร้อง ตามที่นักกฎหมายของ Zuckerberg เคยเตือนไว้
Zuckerberg ยื่นฟ้อง Saverin โดยอ้างว่า Saverin ทำให้บริษัทเสียหาย จากการระงับบัญชีธนาคารของบริษัทเมื่อช่วงปิดเทอมหน้าร้อน รวมถึงอ้างว่าข้อตกลงเรื่องการจัดสรรหุ้นตอนจัดตั้งบริษัทใหม่ไม่มีผลบังคับใช้
Saverin ฟ้อง Zuckerberg กลับ โดยอ้างว่าในช่วงปิดเทอมหน้าร้อน Zuckerberg นำเงินทุนของบริษัทในตอนแรก ซึ่งเป็นส่วนที่เขาร่วมลงทุนด้วย ไปใช้กับเรื่องส่วนตัว และอีกข้อหาคือเรื่องที่เขาถูกบังคับให้ออกจากบริษัท
แต่สุดท้ายแล้ว ในปี 2009 ทั้งสองฝ่ายก็มาทำความตกลงกันนอกศาล ซึ่งจบที่การยอมความ
และชื่อของ Saverin ก็กลับมาอยู่ในผู้ร่วมก่อตั้งเหมือนเดิม
ตั้งแต่นั้นมา Saverin ก็ย้ายไปอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์
และได้เปลี่ยนสัญชาติจากอเมริกันเป็นสิงคโปร์ ในปี 2011
ซึ่งนอกจากจะแต่งงานและสร้างครอบครัวที่สิงคโปร์แล้ว ในปี 2015 Saverin ได้ร่วมก่อตั้งบริษัท Venture Capital ที่ชื่อ “B Capital” กับเพื่อนสมัยเรียนฮาร์วาร์ดที่ชื่อ Raj Ganguly ซึ่งเคยทำงานในบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจระดับโลกอย่าง McKinsey & Company และ Boston Consulting Group
โดย B Capital จะเน้นให้เงินทุนกับสตาร์ตอัปในเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย อย่างเช่นบริษัทจากอินเดียที่ชื่อ BYJU’S ซึ่งปัจจุบันเป็นสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีการศึกษาที่มูลค่ามากสุดในโลก
แต่เรื่องการเปลี่ยนสัญชาตินี้ก็ได้ทำให้เขาถูกวิจารณ์ เพราะหลังจากนั้นไม่นาน Facebook ก็เตรียม IPO ในปี 2012 Saverin จึงถูกมองว่าเขาสละสัญชาติอเมริกันเพราะต้องการเลี่ยงภาษีกำไรจากเงินลงทุน
เพราะแม้ว่าการระดมทุนในตลาดหุ้นของ Facebook จะทำให้สัดส่วนการถือหุ้น Facebook ของเขาลดลงเหลือเพียง 2% ก็คิดเป็นมูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งถ้าเขาขายทำกำไร เขาจะถูกคิดภาษีกำไรจากเงินลงทุนราว 2 หมื่นล้านบาท
แต่ Saverin ก็ยืนยันว่าเขาตั้งใจจะทำงานและใช้ชีวิตที่สิงคโปร์มาตั้งแต่แรกจริง ๆ
และจากตอน IPO ปี 2012 มาถึงวันนี้ ปี 2021 Saverin ก็ไม่ได้ขายหุ้น Facebook เพื่อทำกำไร ในทางกลับกันเขากลับซื้อเพิ่มอีกเล็กน้อยด้วยซ้ำ
ปี 2012 Saverin มีหุ้น Facebook 53.13 ล้านหุ้น
ปี 2021 Saverin มีหุ้น Facebook 53.46 ล้านหุ้น
ปัจจุบัน Saverin ในวัย 39 ปี ได้กลายเป็นชาวบราซิลที่รวยสุดในโลก และเป็นคนที่รวยสุดเป็นอันดับ 2 ในสิงคโปร์ ด้วยมูลค่าทรัพย์สินกว่า 6.5 แสนล้านบาท ซึ่งความมั่งคั่งเกือบทั้งหมดมาจากการที่เขายังถือหุ้น Facebook โดยที่ยังไม่ได้ขายออกไป
โดยถ้าคิดจากราคา IPO ของ Facebook ที่ 38 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ปัจจุบันราคาหุ้น Facebook อยู่ที่ 355 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น
ซึ่งมูลค่าหุ้นที่ Severin ถืออยู่ตอน IPO ปี 2012 ที่กว่า 6 หมื่นล้านบาท ตอนนี้ได้เพิ่มขึ้นกลายเป็น 6.2 แสนล้านบาทแล้ว
ที่น่าสนใจคือ 6.2 แสนล้านบาทนี้มีจุดเริ่มต้นจากเงินลงทุนหลักแสน
และเขาใช้เวลาอยู่ในบริษัท Facebook เพียงปีเดียว โดยแทบไม่ต้องทำอะไรเลย
สิ่งที่เขาทำหลังจากนั้น เป็นเพียงการถือหุ้น Facebook ที่มีอยู่ไปเรื่อย ๆ เท่านั้นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.businessinsider.com/how-mark-zuckerberg-booted-his-co-founder-out-of-the-company-2012-5
-https://www.businessinsider.com/goodbye-america-billionaire-facebook-cofounder-renounces-citizenship-2012-5
-https://www.forbes.com/sites/alexkonrad/2019/03/19/life-after-facebook--the-untold-story-of-billionaire-eduardo-saverins-highly-networked-venture-firm/?sh=21f9b3462c8c
-https://www.forbes.com/sites/briansolomon/2012/05/18/eduardo-saverins-net-worth-publicly-revealed-more-than-2-billion-in-facebook-alone/?sh=47dee32a32ac
-https://www.rollingstone.com/culture/culture-news/the-battle-for-facebook-242989/
-https://www.dailymail.co.uk/news/article-2143764/Facebook-founder-Eduardo-Saverin-risk-kidnapping-moving-US.html
-https://www.forbes.com/profile/eduardo-saverin/?sh=dbbbb3b7bd56
-https://www.sec.gov/Archives/edgar/data/1326801/000132680121000022/facebook2021definitiveprox.htm
after life 2009 在 周慧敏 Vivian Chow Facebook 八卦
聖誕快到,藉著《HIM》大碟的推出,我再在這裡分享我在去年聖誕寫下的見證文章。
祝福大家,愛你們!
...................................................................................................................
《周慧敏2013信仰見證文章》
2013聖誕快樂
Dear all
成為基督徒後,聖誕節對我的意義不一樣了。聖誕再不是關於聖誕老人、聖誕禮物、或聖誕狂歡派對的節日,聖誕是紀念著耶穌基督的愛而普世歡騰的日子。這天,提醒我祂賜給我們的恩典,讓我時刻都感受到被愛與能愛的幸福。所以,這個聖誕,我希望向您們表達愛和思念的同時,也藉著這個特別的日子為我的信仰作見證。
其實,訓練了自己40多年建立而來的一套信念,理應根深蒂固,能讓我心甘情願地放下這套建立已久的信念,由零開始,真的不可思議,神的力量遠遠超乎人能想像的。
未信主前,我曾經視個人修為作生活一大指標。因為自信,我認為依靠他人或宗教是軟弱的行為,所以,並不理解和輕視聖經強調因信才能得救的重要性。一天,我與朋友偶然談起宗教,意識到基督教以外的宗教大都強調自我修為的重要,然而,那套準則,幾乎是凡人不可能達到的。再者,我想到若聖經所說的屬實,那麼因我沒有信主,未接受基督的救贖,我即使在個人修為上到達到甚麼境界,都是沒有資格進天堂的罪人。相反,就算聖經所說的不實,我即使成為基督徒,其實都沒半點捐失,因為我不會在個人修為上退步。想到這裡,我決意用開放心認識基督教,了解聖經所強調的信,生命就這樣逆轉。
記得第一次到教會,適逢2009年的復活節崇拜,那天我的心情異常激動,我抖震的聲音無法唱出半句聖詩,但我在心裡,卻重覆地向神說著一句話:「天父,我回家了!」
初信主的那段日子,特別需要私人空間,好讓自己專注尋求神,免於因瑣事分心。但因為我是公眾人物,這個要求談何容易,我無法控制人,只能憑信心祈求神。一年下來,我與丈夫到教會崇拜,與教友查經,一切與尋求神有關的事宜,都被聖靈保護著,進行得很順利。記得決志當晚,我決心棄掉家裡一切與拜偶像有關的物件,禱告承認自己的罪,接受耶穌基督的救贖,感受到前所未有的輕鬆、平安,與寧靜。
聖經讓我明白得救不是靠自身修煉,而是靠基督的救贖,無人能夠憑行為自誇。就是因為世上沒有完美的人,世人就無需把個人修為的高低定位,因為永遠高處未算高。當我放下剛硬的心看清自己的罪,我喜見自己逐步放下了舊我,放下了盲目靠個人力量的一套自信,放下呈強的擔子。摒棄了成年人的外殼,讓我從孩提階段再生,而建立起對人對事的謙讓。越是懂得把自身的不足放大,把自滿縮小,我發覺自己更有勇氣包容憐惜人的軟弱。信仰令我的價值觀改變了很多。現在,我不會執著世界的眼光,更不時提醒自己不以自己的準則要求或論斷別人。就是因為信念明確,自己就更有能力去取捨和追求,尋到真正喜樂的根源,和那份靠個人力量無法相比的強大信心。
如果不是神的安排,很難想像在我尋找祂的道路上,能走得這般通暢無阻。回想這段路,其實神的使者早已陸續在我的生活裡出現,為我的信作預備,保守我的心直到受浸。隨著2010年浸禮的進行,我的舊我就如跟著基督死去般浸進水裡去。我從水裡起來那刻,我就如跟隨著基督復活,成為新造的人。哥林多後書5章17節記著說:「若有人在基督裡,他就是新造的人,舊事已過,都變成新的了。」
受浸後,相信神會藉著更多試煉,讓我學習信靠和順服祂,而得以在靈裡成長,以神喜悅的方式生活。今後,因著信,我已得著平安的心,欣然面對未來的考驗,走在光明與愛的道路中,盼望基督再來。我感謝神讓我看清自身的不足,給我謙卑的心去繼續尋求,好好愛神,愛人,愛自己。
2014年,是我踏進演藝界的第28個年頭。這些年來,與大家建立了的一份友誼,相信是我回顧演藝生涯裡得著最珍貴的禮物。過去,我接收了很多愛,今天我可以藉著同樣的藝人身份和崗位透過工作回報支持者,是我最大的福氣。感謝神讓我們相遇,以愛互動。2013的聖誕,無論您們身在高處或低處,願您們都能感受到祂給我們的愛,而得著那份平安與喜樂!
親愛的,聖誕快樂!God Bless!
Love
V :)
2013 Merry Christmas
Dear all
Christmas has a new meaning to me after I have become a Christian. The festival, no longer about Santa Claus, Christmas present or rave party – it is now a time to celebrate the love of Jesus Christ and the joy to the world. This day reminds me of the grace given by God, I feel so blessed that I am able to love and be loved. At this Christmas, when I am telling you how much I love and miss you, I would like to take this special opportunity to witness for Christ.
Honestly, I have trained myself to follow my own rules for more than 40 years. These principals are supposed to have deep-rooted in my mind. But I have changed, I am willing to let go my long-established self-belief and rebuild a new me. God’s power, far beyond our imagination, is truly amazing.
Prior to my believing in God, I regarded personal development as an ultimate goal in my life. I was always self-confident, regarding the dependence on others or relying on religion is a kind of weakness. You can imagine - it was reasonable that I didn’t understand and even look down on what is emphasized in the Bible – salvation only comes from faith in God. One day, my friends occasionally chatted with me about religion, I then realized that the other religions (other than Christianity) stress on the importance of self-development. But the standards set by them are almost impossible to accomplish. Then I thought more about it - if what the Bible tells us is true, I would consider myself not yet qualified to believe in God - because I have not obtained salvation from Jesus Christ, that means no matter how well I have developed myself, I am still a sinner, still not eligible to get into the gate of heaven.
But, how about the Bible is wrong? I won’t lose anything even if I decide to be a Christian – I am still the same person and my personal quality will not be affected. I decided to open my heart to learn about Christianity, to understand the faith emphasized in the Bible. My life has been changed since then.
I remember it was the 2009 Easter Service, the first time I went to church. I was extremely excited and I couldn’t sing the hymn at all with my trembling voice. But in my heart, I kept praying to God: “Father, I am home! I am home!”
In my early stage of becoming a Christian, I tried to minimize distractions from trivial issues and spare more room for myself to focus on seeking God’s mercy. But being a public figure, it is not easy to have a lot of privacy, I couldn’t do anything but only pray to God for help. For the whole year I felt very blessed by the Holy Spirit, everything relating to my seeking of God went on smoothly, such as going to church with my husband and gathering with fellow Christians for bible study groups. On the night when I made a commitment to follow Jesus, I decided to clear away everything at home that is in relationship to false idol worshipping. Then I prayed to God and confess my sins, and received salvation from Jesus Christ. Immediately, I felt so relaxed, peaceful and calm, I have never felt as easy.
The Bible teaches me a lesson – salvation comes from Jesus and not self-development, nobody can boast about themselves a well developed person. In fact, no one is perfect and there is no need to judge the level of self-development. After I have let go of my stubborn mind and seen my own sin, I am happy to see that I have gradually left my old self behind and no longer solely depend on my own confidence or strength. I don’t have to gear up and show my strong sides anymore, I am free from the hardship. Abandoning the adult self, I am reborn as a kid and I have more courage to accept the weakness of human. My value changes after I am in God - no longer persistent to man’s value. And I always remind myself not to judge others with my own criteria. Now I have a clear direction towards seeking God, I am more powerful to let go and seek for the ultimate source of joy, as well as the great faith which self-strength can never compare to.
I cannot imagine without God’s mercy, how can I walk so well on the path leading to Him? But when I look back, God’s messengers have gradually come into my life and prepared me for my change, as well as preserving my heart till my baptism. At my 2010 baptism ceremony, the ‘old me’ died, just like Jesus Christ immersed into water after his death. At the moment I was raised from water, I was reborn just as Jesus’ resurrection and became a new person. “Therefore, if anyone is in Christ, the new creation has come: The old has gone, the new is here!” 2 Corinthians 5:17.
After my baptism, God allows trials and testings to help me grow deeper in my trust in Him. I learned to grow in the Holy Spirit, and to live my life in a way pleasing to God. I now have a peaceful mind and I am contented to face the coming challenges, walking on the path of light and love and wait for Jesus to come again. I am really thankful to God for guiding me and grant me a humble mind to seek for Him, to love God, love everyone and myself.
The coming year 2014 is my 28th year being an artist. I am very happy that we have built friendship and stayed close, this is the most treasured gift in my career. In the past I received a lot of love from you, today I am glad that I am able to return my love as an artist, this is a real blessing. Thank God for letting us gather together and interact with love. At 2013 Christmas, no matter you are struggling or enjoying life, I hope that you can feel the love, peace and joy from Him!
My dear, Merry Christmas! God Bless!
Love
V :)
after life 2009 在 Dan Lok Youtube 的評價
★☆★BONUS FOR A LIMITED TIME★☆★
You can download Dan Lok's best-selling book F.U. Money for FREE: http://learnmartialartsjkd.danlok.link
You don’t need a gym, a training buddy, or an instructor to learn martial arts. In fact, you can learn martial arts at home by yourself. Watch this video to find out how.
Enjoyed this video? Click here to discover how the PROPER Jeet Kune Do stance: https://youtu.be/UlPvJdtFZ1o
★☆★ SUBSCRIBE TO DAN'S YOUTUBE CHANNEL NOW ★☆★
https://www.youtube.com/user/vanentrepreneurgroup?sub_confirmation=1
With over 24 years of martial arts experience, Octavio Quintero is a certified Jeet Kune Do Instructor and a Warrior Athlete Coach located in Portland Oregon. He has appeared in numerous instructional videos, books, magazines such as Inside Kung Fu, Black Belt and supported the Bruce Lee Foundation with seminars and demonstrations in 2008-2009. (http://www.theartofjkd.com)
Check out Sifu Octavio Quintero's YouTube Channel videos here:
https://youtu.be/QGrTzGYc_gs
One of Dan Lok’s passions in life is martial arts. Like many young kids, after watching a Bruce Lee movie, it changed his life forever. At 17 years old, Dan started training in martial arts seriously because he was being bullied in school. It wasn’t long for Dan to learn the techniques he needed, and gain the confidence necessary to defend himself.
Dan has studied with legendary martial artist such as Bruce Lee’s original student Ted Wong (http://tedwongjkd.net) and Joe Lewis “The Worlds Greatest Fighter” (http://joelewisassociation.com), making him a second generation student of Bruce Lee - in Bruce Lee's authentic art of Jeet Kune Do (JKD). He's also a third generation student of Ip Man (Wing Chun Kung Fu).
Dan has also trained with other great instructors like Sifu Adam Chan (https://www.pragmaticmartialarts.com), Canadian lightweight boxing champion Tony "Fire Kid" Pep (https://www.facebook.com/pepboxing), and Octavio Quintero (https://www.theartofjkd.com)
For Dan, martial arts training permeates every area of life. It’s not a hobby, it’s a way of life, and it influences how he does business.
Martial arts gave him the confidence, focus, and patience to push through these obstacles and to keep fighting when he felt like giving up.
IMPORTANT NOTE: Dan is NOT a full-time martial artist and he doesn't even claim to be that good of a fighter.
He's simply a successful businessman who enjoys the art and philosophy of Bruce Lee, just like you.
He doesn't have any online martial art videos, seminars or expensive "private training" to sell you. Quite frankly, he doesn't need the money.
He simply wants to share his passion for the art of JKD (his own version of Jeet Kune Do) through his YouTube channel.
Check out the other Jeet Kune Do (JKD) Fighting Tactics and Training Videos: https://www.youtube.com/playlist?list=PLEmTTOfet46Ocn3bqnUIaAB-cTUzsAXOG
More Wing Chun (Ving Tsun) Techniques in this Playlist: https://www.youtube.com/playlist?list=PLEmTTOfet46PuW-CM4gmmMnebKMq3WFMp
★☆★ CONNECT WITH DAN ON SOCIAL MEDIA ★☆★
Blog: http://www.danlok.com/blog/
Podcast: http://www.shouldersoftitans.com/
Twitter: https://twitter.com/danthemanlok
Instagram: https://www.instagram.com/danlok/
YouTube: https://www.youtube.com/user/vanentrepreneurgroup
Linkedin: https://www.linkedin.com/in/danlok
Amazon: http://www.amazon.com/Dan-Lok/e/B002BLXW1K
This video is about How You Can Learn Martial Arts At Home By Yourself
https://youtu.be/eWrYe8UZSss
https://youtu.be/eWrYe8UZSss
after life 2009 在 Dan Lok Youtube 的評價
★☆★BONUS FOR A LIMITED TIME★☆★
You can download Dan Lok's best-selling book F.U. Money for FREE: http://blockingtechniquesjkd.danlok.link
In Bruce Lee's JKD philosophy, he strongly believed the best form of defense is a good offense. Find out how to defend yourself with these powerful blocking techniques from Sifu Dan Lok and Sigong Octavio Quintero in this video. Watch the entire JKD video playlist here: https://www.youtube.com/watch?v=BVZtUGOl94A&list=PLEmTTOfet46M4JhAnk9pgZvXqXGS1iHye
Discover more of the infamous JKD Footwork Drill that Bruce Lee uses Part 2: https://youtu.be/lU-u5kQdbQA
The MOST detailed explanation on Footwork about Jeet Kune Do you will ever find: https://youtu.be/wmFPVRe44q4
★☆★ SUBSCRIBE TO DAN'S YOUTUBE CHANNEL NOW ★☆★
https://www.youtube.com/user/vanentre...
With over 24 years of martial arts experience, Octavio Quintero is a certified Jeet Kune Do Instructor and a Warrior Athlete Coach located in Portland Oregon. He has appeared in numerous instructional videos, books, magazines such as Inside Kung Fu, Black Belt and supported the Bruce Lee Foundation with seminars and demonstrations in 2008-2009. (http://www.theartofjkd.com)
Check out Sifu Octavio Quintero's YouTube Channel videos here:
https://youtu.be/QGrTzGYc_gs
One of Dan Lok’s passions in life is martial arts. Like many young kids, after watching a Bruce Lee movie, it changed his life forever. At 17 years old, Dan started training in martial arts seriously because he was being bullied in school. It wasn’t long for Dan to learn the techniques he needed, and gain the confidence necessary to defend himself.
Dan has studied with legendary martial artist such as Bruce Lee’s original student Ted Wong (http://tedwongjkd.net) and Joe Lewis “The Worlds Greatest Fighter” (http://joelewisassociation.com), making him a second generation student of Bruce Lee - in Bruce Lee's authentic art of Jeet Kune Do (JKD). He's also a third generation student of Ip Man (Wing Chun Kung Fu).
Dan has also trained with other great instructors like Sifu Adam Chan (https://www.pragmaticmartialarts.com), Canadian lightweight boxing champion Tony "Fire Kid" Pep (https://www.facebook.com/pepboxing), and Octavio Quintero (https://www.theartofjkd.com)
For Dan, martial arts training permeates every area of life. It’s not a hobby, it’s a way of life, and it influences how he does business.
Martial arts gave him the confidence, focus, and patience to push through these obstacles and to keep fighting when he felt like giving up.
IMPORTANT NOTE: Dan is NOT a full-time martial artist and he doesn't even claim to be that good of a fighter.
He's simply a successful businessman who enjoys the art and philosophy of Bruce Lee, just like you.
He doesn't have any online martial art videos, seminars or expensive "private training" to sell you. Quite frankly, he doesn't need the money.
He simply wants to share his passion for the art of JKD (his own version of Jeet Kune Do) through his YouTube channel.
Check out the other Jeet Kune Do (JKD) Fighting Tactics and Training Videos: https://www.youtube.com/playlist?list...
More Wing Chun (Ving Tsun) Techniques in this Playlist: https://www.youtube.com/playlist?list...
★☆★ CONNECT WITH DAN ON SOCIAL MEDIA ★☆★
Blog: http://www.danlok.com/blog/
Podcast: http://www.shouldersoftitans.com/
Twitter: https://twitter.com/danthemanlok
Instagram: https://www.instagram.com/danlok/
YouTube: https://www.youtube.com/user/vanentre...
Linkedin: https://www.linkedin.com/in/danlok
Amazon: http://www.amazon.com/Dan-Lok/e/B002B...
Special Credit given to
Power3 Academy for permission to film in their gym.
be sure to check them out for more info:
http://www.power3academy.com
This video is about Bruce Lee JKD Blocking Techniques
https://youtu.be/fOFHFta8aFw
https://youtu.be/fOFHFta8aFw
after life 2009 在 serpentza Youtube 的評價
It's a serious question! A lot has changed in the Chinese Automotive industry since I bought my Chinese car 8 years ago, come and find out if Chinese cars can now stand up to their international competition.
The automotive industry in China has been the largest in the world measured by automobile unit production since 2008. Since 2009, annual production of automobiles in China exceeds that of the European Union or that of the United States and Japan combined.
The traditional "Big Four" domestic car manufacturers are SAIC Motor, Dongfeng, FAW and Chang’an. Other Chinese car manufacturers are Beijing Automotive Group, Brilliance Automotive, BYD, Chery, Geely, Jianghuai (JAC), Great Wall, and Guangzhou Automobile Group. In addition, several multinational manufacturers have partnerships with domestic manufacturers.
While most of the cars manufactured in China are sold within China, exports reached 814,300 units in 2011. China's home market provides its automakers a solid base and Chinese economic planners hope to build globally competitive auto companies that will become more and more attractive and reliable over the years.
China's automobile industry had mainly Soviet origins (plants and licensed auto design were founded in the 1950s, with the help of the USSR) and had small volumes for the first 30 years of the republic, not exceeding 100–200 thousands per year. Since the early 1990s, it has developed rapidly. China's annual automobile production capacity first exceeded one million in 1992. By 2000, China was producing over two million vehicles. After China's entry into the World Trade Organization (WTO) in 2001, the development of the automobile market accelerated further. Between 2002 and 2007, China's national automobile market grew by an average 21 percent, or one million vehicles year-on-year. In 2009, China produced 13.79 million automobiles, of which 8 million were passenger cars and 3.41 million were commercial vehicles and surpassed the United States as the world's largest automobile producer by volume. In 2010, both sales and production topped 18 million units, with 13.76 million passenger cars delivered, in each case the largest by any nation in history. In 2014, total vehicle production in China reached 23.720 million, accounting for 26% of global automotive production.
The number of registered cars, buses, vans, and trucks on the road in China reached 62 million in 2009, and is expected to exceed 200 million by 2020. The consultancy McKinsey & Company estimates that China's car market will grow tenfold between 2005 and 2030.
The main industry group for the Chinese automotive industry is the China Association of Automobile Manufacturers (中国汽车工业协会).