SAP อดีตลูกจ้าง IBM ที่ตอนนี้ใหญ่กว่านายจ้าง /โดย ลงทุนแมน
หากเราเป็นพนักงานในบริษัทแห่งหนึ่ง
แล้วโปรเจกต์ที่ทำอยู่ ถูกเจ้านายบอกให้ยกเลิกกะทันหัน
เราจะตัดสินใจอย่างไร?
วันนี้ เรามาดูตัวอย่างของอดีตลูกจ้างของบริษัท IBM
ที่เคยเผชิญปัญหานี้ แต่พวกเขากลับเปลี่ยนให้มันเป็นโอกาสทางธุรกิจ
โอกาสทางธุรกิจคือการก่อตั้งบริษัท SAP
ที่ปัจจุบัน มีมูลค่าบริษัท 5.2 ล้านล้านบาท
เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี
แถมยังใหญ่กว่า IBM บริษัทนายจ้างในอดีต
ที่มีมูลค่าบริษัท 3.5 ล้านล้านบาท
แล้วอดีตพนักงาน IBM เห็นโอกาสอะไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เรื่องราวของ SAP เกิดขึ้นกับวิศวกรชาวเยอรมัน 5 คน
คือคุณ Dietmar Hopp, Hans-Werner Hector, Hasso Plattner, Klaus Tschira
และ Claus Wellenreuther ในปี ค.ศ. 1971 หรือ 49 ปีก่อน
พวกเขาเป็นพนักงานของบริษัท IBM สาขาประเทศเยอรมนีที่ได้รับมอบหมาย
ให้ออกแบบ และพัฒนาซอฟต์แวร์องค์กรสำหรับลูกค้ารายหนึ่งของบริษัท
แต่อยู่ดีๆ ทางบริษัท IBM ก็ได้ยกเลิกโปรเจกต์ดังกล่าวกะทันหัน
และแจ้งกับวิศวกรทั้ง 5 คนว่างานที่พวกเขาทำอยู่ “ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว”
หากเราเป็นหนึ่งในวิศวกรที่อยู่ในสถานการณ์นั้น
เราจะตัดสินใจกันอย่างไร?
วิศวกรทั้ง 5 คนนี้ตัดสินใจลาออก และร่วมกันก่อตั้งบริษัทขึ้นมาในปี ค.ศ. 1972
บริษัทนี้ชื่อว่า SAP ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อทำธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับองค์กร เพราะพวกเขามองว่าธุรกิจนี้จะกลายเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต
ในปีนั้น SAP ได้จ้างพนักงานทั้งหมด 9 คน และเริ่มต้นพัฒนาระบบเก็บข้อมูลทางบัญชี
นอกจากนั้น บริษัทก็ได้ต่อยอดระบบบัญชีไปยังซอฟต์แวร์สำหรับวางแผนข้อมูลและทรัพยากร
ทางธุรกิจขององค์กร หรือที่เรียกกันว่า Enterprise Resource Planning (ERP)
แล้วระบบบัญชี ที่เป็นระบบ ERP
มันสำคัญสำหรับธุรกิจขนาดไหน?
เราลองมาดูตัวอย่างง่ายๆ เช่น..
บริษัท Adidas ส่งคำสั่งผลิตรองเท้ารุ่นใหม่
หลังจากโรงงานผลิตเสร็จแล้ว จึงส่งสินค้าไปเก็บไว้ที่คลังสินค้า
ขั้นตอนสุดท้าย หากมีการสั่งของ
ก็จะทำการจัดส่งสินค้าให้กับผู้จัดจำหน่าย
หากธุรกิจเรามีขนาดใหญ่
การที่เราจะติดต่อระหว่างโรงงานผลิต คลังสินค้า ฝ่ายขาย บัญชี ที่อยู่ต่างสถานที่กันนับว่ายากแล้ว
แต่การที่เราจะอัปเดตข้อมูลให้ตรงกัน ไม่คลาดเคลื่อนถือเป็นเรื่องที่ยากกว่ามาก
ปัญหาสมัยก่อนก็คือ
เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ถ้าเราขายสินค้าออกจากคลังไปแล้ว
แล้วรายได้ที่เราบันทึก จะตรงกับฝั่งบัญชีหรือไม่?
ถ้าเราไม่บันทึก ก็จะแปลว่าสินค้าหายไป แต่เราไม่มีรายได้
เรื่องนี้เป็นปัญหาที่ SAP มองเป็นโอกาสที่จะพัฒนาซอฟต์แวร์องค์กรเพื่อให้บริษัทต่างๆ นำไปประยุกต์ใช้ และวางแผนข้อมูลทั้งหมดของบริษัทให้อยู่บนแพลตฟอร์มเดียวกัน
ซอฟต์แวร์องค์กรที่ SAP คิดค้นจะทำให้
เมื่อมีคำสั่งการผลิต โรงงานรู้ทันที
เมื่อโรงงานส่งของไปแล้ว คลังรู้ทันที
เมื่อคลังจำหน่ายสินค้าไปแล้ว ฝ่ายขายรู้ทันที
ที่สำคัญที่สุดก็คือ ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นข้อมูลแบบเรียลไทม์
ซึ่งจะทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ทันต่อเหตุการณ์มากขึ้น
และประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจก็จะมากขึ้นตามเช่นกัน
ด้วยคอนเซ็ปต์นี้ จึงทำให้ SAP เป็นบริษัทที่มีผู้ใช้บริการทั่วโลกให้ความสนใจ และเติบโตตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
แล้วผลประกอบการตอนนี้เป็นอย่างไร?
บริษัท SAP
ปี 2017 รายได้ 8.4 แสนล้านบาท กำไร 1.4 แสนล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 8.7 แสนล้านบาท กำไร 1.4 แสนล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 9.7 แสนล้านบาท กำไร 1.2 แสนล้านบาท
โดยแบ่งโครงสร้างรายได้ตามแต่ละภูมิภาคมาจาก
โซนเอเชีย 15%
โซนอเมริกา 41%
โซนยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา 44%
ซึ่งบริษัทก็มีฐานลูกค้าเป็นองค์กรชั้นนำมากมาย
โดยเฉพาะองค์กรในประเทศเยอรมนีที่ทุกๆ 100 บริษัท
จะใช้ซอฟต์แวร์ของ SAP รันระบบหลังบ้านอยู่กว่า 80 บริษัท
ตอนนี้ SAP เริ่มปรับโมเดลรายได้จากการขายสิทธิ์ไปเป็นบริการบนเทคโนโลยีคลาวด์ ทำให้บริษัทเข้าถึงกลุ่มธุรกิจที่มีขนาดเล็กลงได้มากขึ้น จากเดิมที่มีฐานลูกค้าเป็นองค์กรขนาดใหญ่
ทั้งหมดนี้ทำให้บริษัท SAP มีมูลค่าเพิ่มขึ้น
จนกลายเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี
มีมูลค่า 5.2 ล้านล้านบาท ใหญ่กว่านายจ้างอย่าง IBM
ที่พวกเขาลาออกมาเมื่อ 49 ปีก่อน..
แล้วเรื่องนี้ให้ข้อคิดอะไรเรา?
หากเราเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราทำอยู่มันมีคุณค่า
เราก็ต้องไม่ย่อท้อ ไม่ว่าจะเผชิญกับอุปสรรคอะไรก็ตาม
เหมือนอย่างวิศวกรผู้ก่อตั้งบริษัท SAP
ที่แม้ว่าจะโดนยกเลิกโปรเจกต์ไป แต่พวกเขาก็ยังเชื่อมั่น
เชื่อมั่นถึงขนาดที่ตัดสินใจลาออก
และร่วมกันก่อตั้งบริษัทเพื่อสานต่อโปรเจกต์ต่อไป
จนโปรเจกต์เล็กๆ ที่ไม่มีใครเห็นค่าในตอนนั้น กลับมีมูลค่าสูงกว่าบริษัทนายจ้างไปแล้ว นั่นเอง..
╔═══════════╗
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://www.featuredcustomers.com/vendor/sap-hana/customers
-https://www.readycontacts.com/target-account-profiling/sap/
-http://www.fundinguniverse.com/company-histories/sap-ag-history/
-https://en.wikipedia.org/wiki/SAP_SE
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過304萬的網紅MosoGourmet 妄想グルメ,也在其Youtube影片中提到,今やどれを買おうか迷うくらい⇒ http://douga.rakuten.ne.jp/v?7h20e9...
adidas wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
รัฐบาเยิร์น รัฐที่มี GDP มากกว่าประเทศไทย /โดย ลงทุนแมน
รัฐเล็กๆ รัฐหนึ่ง ที่มีประชากรน้อยกว่าไทยเกือบ 6 เท่า
มีพื้นที่น้อยกว่าไทย 7 เท่า
แต่กลับมี GDP มากกว่าไทยทั้งประเทศ
รัฐแห่งนี้ตั้งอยู่ในประเทศเยอรมนี
ทั่วโลกรู้จักในชื่อ บาวาเรีย
แต่ชาวเยอรมันจะเรียกกันว่า “ไบเอิร์น” หรือ “บาเยิร์น”
ปี 2019 รัฐบาเยิร์นมี GDP 23.5 ล้านล้านบาท
ซึ่งมากกว่าประเทศไทยที่มี GDP 16.6 ล้านล้านบาท
หากไม่นับรัฐเล็กๆ ที่มีขนาดเท่ากับเมืองเมืองหนึ่ง เช่น รัฐฮัมบวร์คแล้ว
บาเยิร์นจะเป็นรัฐที่ประชากรมี GDP ต่อหัวมากที่สุดในเยอรมนี
ประชากร 13 ล้านคน มี GDP ต่อหัว สูงถึง 1.8 ล้านบาทต่อปี
ความร่ำรวยนี้มีอะไรอยู่เบื้องหลัง?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
╚═══════════╝
รัฐบาเยิร์นตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี
ด้วยพื้นที่ 70,542 ตารางกิโลเมตร จึงเป็นรัฐที่มีพื้นที่ใหญ่สุดของประเทศ
มีที่ราบลุ่มแม่น้ำดานูบอยู่ตอนกลาง และค่อยๆ ลาดสูงขึ้นเป็นเทือกเขาแอลป์อยู่ทางทิศใต้
ในแง่ประวัติศาสตร์ เดิมบาเยิร์นเป็นอาณาจักรอิสระของชาวคาทอลิก
ปกครองโดยราชวงศ์ Wittelsbach มาตั้งแต่ยุคกลาง
แม้ในช่วงที่รัฐต่างๆ ของชนชาติเยอรมันมารวมกันก่อตั้งเป็นประเทศเยอรมนี ในปี ค.ศ. 1871
บาเยิร์นก็ยังมีราชวงศ์ปกครองตนเอง มีสิทธิ์ควบคุมดูแลกิจการสำคัญ ทั้งด้านวัฒนธรรม
การเก็บภาษี และการขนส่งด้วยตัวเอง
จนในปี ค.ศ. 1918 หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 บาเยิร์นได้ถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนีอย่างสมบูรณ์ โดยมีเมืองหลวงของรัฐคือ มึนเชิน (München)
หรือที่ชาวโลกรู้จักกันในชื่อ “มิวนิก”
ด้วยความที่รัฐบาเยิร์นเป็นรัฐที่มีทรัพยากรธรรมชาติน้อย
แต่เดิมจึงส่งออกผลิตภัณฑ์จากภาคการเกษตรเป็นหลัก เช่น ข้าวบาร์เลย์ เบียร์ ผลิตภัณฑ์นม
อย่างไรก็ตาม การก่อตั้งมหาวิทยาลัยด้านเทคนิคแห่งเมืองมิวนิกในช่วงปลายศตวรรษที่ 19
ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นของภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะด้านวิศวกรรมและยานยนต์
จุดเปลี่ยนสำคัญคือช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อเยอรมนีพ่ายแพ้สงคราม
และถูกประเทศผู้ชนะสงครามเข้ายึดครอง แบ่งเยอรมนีออกเป็นสองประเทศ
เยอรมนีตะวันออก อยู่ภายใต้การควบคุมของสหภาพโซเวียต ซึ่งเป็นผู้นำโลกคอมมิวนิสต์
และเยอรมนีตะวันตก อยู่ภายใต้สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้นำโลกทุนนิยมเสรี
ประเด็นที่สำคัญคือ รัฐบาเยิร์นตั้งอยู่ในประเทศเยอรมนีตะวันตก..
แม้เมืองหลายแห่งโดยเฉพาะมิวนิก จะถูกทำลายเสียหายอย่างหนักจากสงคราม
แต่เมื่อสหรัฐอเมริกาได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินในการฟื้นฟู ผ่านแผน Marshall
เพื่อสกัดกั้นการแพร่ขยายของลัทธิคอมมิวนิสต์ โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งก็เริ่มฟื้นตัว
การตั้งอยู่ในเยอรมนีตะวันตกซึ่งเป็นโลกเสรี
ทำให้การส่งออกและติดต่อค้าขายมีความสะดวกกว่า บริษัทจากเยอรมนีตะวันออกหลายแห่งจึงย้ายสำนักงานใหญ่มาตั้งอยู่ในเมืองมิวนิก
หนึ่งในนั้นคือ Siemens บริษัทด้านวิศวกรรมที่ย้ายสำนักงานมาจากกรุงเบอร์ลิน
เศรษฐกิจของบาเยิร์นในช่วงนี้จึงเติบโตอย่างรวดเร็ว
ทั้งจากความช่วยเหลือด้านการเงิน การย้ายฐานบริษัทจากเยอรมนีตะวันออก และองค์ความรู้ที่มีอยู่แต่เดิม จนกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญของทั้งเยอรมนีและยุโรป
นอกจากสโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิกที่โด่งดังแล้ว
หากสังเกตให้ดีๆ ยังมีสิ่งรอบตัวเราอีกมากมาย ที่เป็นผลผลิตจากบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในรัฐแห่งนี้..
ไม่ว่าจะเป็น รองเท้าและเสื้อผ้ากีฬา Adidas และ Puma
บริษัทเครื่องแต่งกายระดับโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่เมือง Herzogenaurach
ทางตอนเหนือของรัฐบาเยิร์น
รถไฟฟ้า Siemens
บริษัทด้านวิศวกรรมไฟฟ้าชั้นแนวหน้าของโลก มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย
ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือแพทย์ ระบบอาณัติสัญญาณรถไฟฟ้า ไปจนถึงเทคโนโลยีกังหันลม มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองมิวนิก
รถยนต์ BMW
บริษัทรถยนต์หรูที่มีมูลค่าเป็นอันดับ 7 ของโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในมิวนิก
และ Audi บริษัทรถยนต์หรู มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมือง Ingolstadt ทางตอนเหนือของมิวนิก
ประกันภัย Allianz
บริษัทด้านประกันภัยที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี มีสำนักงานใหญ่อยู่มิวนิก
หลอดไฟ Osram
บริษัทหลอดไฟที่แยกตัวมาจาก Siemens ก็มีสำนักงานใหญ่อยู่มิวนิก
เครื่องเขียน Faber-Castell, Staedtler และ Schwan-Stabilo
บริษัทเครื่องเขียนที่ล้วนมีอายุมากกว่า 150 ปี มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมือง Nürnberg
ใจกลางรัฐบาเยิร์น
นอกจากนี้ยังมีบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ Infineon และบริษัทหุ่นยนต์อุตสาหกรรม Kuka
ซึ่งก็ล้วนมีสำนักงานใหญ่อยู่ในรัฐแห่งนี้
นอกจากอุตสาหกรรมไฟฟ้า วิศวกรรม ยานยนต์ และการเงินแล้ว
บาเยิร์นยังพัฒนาตัวเองเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีแห่งอนาคต โดยเฉพาะด้านไบโอเทคโนโลยี
โดยมีผู้สนับสนุนหลักคือเหล่ามหาวิทยาลัยเทคนิค และบริษัทอุตสาหกรรมนั่นเอง
จากบริษัททั้งหลายเหล่านี้ ก็คงจะเป็นคำตอบได้ว่า ทำไมบาเยิร์นถึงเป็นรัฐที่ร่ำรวยที่สุดในเยอรมนี และมี GDP มากกว่าประเทศไทย ทั้งที่มีประชากรน้อยกว่าถึง 6 เท่า
อย่างไรก็ตาม..
ความมั่งคั่งของบาเยิร์นก็กลับกลายเป็นปัญหา เมื่อชาวบาเยิร์นส่วนใหญ่รู้สึกว่า
รายได้ที่หามาอย่างยากลำบาก กลับต้องเสียเป็นภาษีไปหล่อเลี้ยงสวัสดิการให้กับผู้คนในรัฐที่ยากจนกว่าโดยเฉพาะรัฐที่อยู่ในเขตอดีตเยอรมนีตะวันออก
นอกจากนั้นยังต้องเลี้ยงดูผู้อพยพจากทั่วโลกนับล้านคน ที่เข้ามาสู่ประเทศเยอรมนี
เมื่อรวมกับความรู้สึกแปลกแยกจากชาวเยอรมันที่ส่วนใหญ่นับถือนิกายโปรเตสแตนต์
ทำให้ชาวบาเยิร์นไม่น้อยที่มีความคิดอยากแยกตัวออกจากประเทศเยอรมนี
จนมีนักการเมืองท้องถิ่นของบาเยิร์น พยายามยื่นข้อเสนอให้มีการลงประชามติในปี ค.ศ. 2016
ว่าชาวบาเยิร์นอยากรวมหรือแยกออกจากเยอรมนี
แต่อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญเยอรมันก็ไม่ได้เปิดให้ทำการลงประชามติแต่อย่างใด
ทั้งหมดนี้ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลกลางที่ต้องบริหารการใช้ภาษีให้มีประสิทธิภาพ
บริหารเศรษฐกิจให้ดีในทุกๆ รัฐ และปิดช่องโหว่ทางกฎหมายให้ดี
เพราะหากเกิดปัญหาเศรษฐกิจขึ้นมาเมื่อไหร่ และรัฐธรรมนูญถูกแก้ไขให้ลงประชามติได้
ชาวบาเยิร์นก็คงไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือ
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้หรือไม่ว่า เมือง Ingolstadt ในรัฐบาเยิร์น
นอกจากจะเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทรถยนต์ Audi แล้ว
เมืองแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ให้กำเนิดของสมาคมลับในอดีต ที่ชื่อ “Illuminati” อีกด้วย..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://www.stmwi.bayern.de/fileadmin/user_upload/stmwi/Publikationen/2019/2019-09-17_Bayerns_Wirtschft_in_Zahlen_englisch_2019.pdf
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_German_states_by_GRP
-https://www.theguardian.com/world/2011/mar/15/bavaria-reinvents-itself-germany-silicon-valley
-https://www.rt.com/news/396600-bavaria-independence-germany-poll/
-https://www.kora.ch/malme/05_library/5_1_publications/B/Bayerisches_Staatsministerium_2002_Agriculture_and_forestry_in_Bavaria.pdf
adidas wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
ทำความรู้จักกับ รองเท้า Yeezy /โดย ลงทุนแมน
Yeezy เป็นรองเท้า Sneaker ที่กำลังได้รับความนิยม
ไม่ว่าจะปล่อยออกมากี่รุ่น ก็ถูกจับจองจนหมดในเวลาอันรวดเร็ว
แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า ร้องเท้า Yeezy นั้น เป็นของใคร
แล้วเกี่ยวอะไรกับนักร้อง Rapper อย่าง Kanye West
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ไม่พลาดวิดีโอสาระน่ารู้จาก ลงทุนแมน
กดติดตามที่ youtube.com/longtunman
╚═══════════╝
หากใครเคยได้ฟัง เพลงฮิปฮอป
อาจจะคุ้นเคยกับนักร้องชื่อ Kanye West
ผู้แต่งเพลงที่ได้รับความนิยม อย่าง Gold Digger และ E.T.
ซึ่งเคยขึ้นอันดับหนึ่งเพลงที่ได้รับความนิยมสูงสุดในสหรัฐอเมริกา
แล้วเส้นทางของ Kanye เป็นอย่างไร
อะไรทำให้เขาเข้ามาในวงการรองเท้า Sneaker ได้?
ถึงแม้จะเป็นศิลปินด้านการร้องเพลง
แต่ตัว Kanye เองก็มีความชอบทางด้านแฟชั่นด้วย
ส่งผลให้เขาได้มีโอกาสร่วมงานออกแบบรองเท้ากับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำต่างๆ
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีแบรนด์อย่าง Louis Vuitton
ต่อมาเขาได้มีโอกาสมาร่วมมือกับแบรนด์รองเท้า อย่าง Nike
ในการออกแบบรองเท้ารุ่น Nike Air Yeezy
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองอาจจะไม่ได้ลงรอยกันเสียทีเดียว
Kanye มีปัญหากับ Nike จนต้องลาออกจากการเป็นผู้ออกแบบรองเท้า
แล้วในปี 2013 เขากลับไปเซ็นสัญญากับคู่แข่ง อย่าง Adidas ในฐานะหุ้นส่วนและผู้ออกแบบ จนกลายมาเป็นรองเท้า Adidas Yeezy ในปัจจุบัน
แล้วใครเป็นกลุ่มเป้าหมายของ Adidas Yeezy?
Yeezy วางตัวเป็นรองเท้าผ้าใบราคาสูง โดยมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 6,600 บาท ต่อคู่
ในสมัยก่อน การที่จะได้รองเท้า Yeezy มาเป็นเจ้าของนั้น อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะในการผลิตแต่ละรุ่นจะผลิตในจำนวนที่ไม่มาก ทำให้สินค้าหมดในเวลาอันรวดเร็ว
โดยต้องอาศัย การ Raffle หรือการสุ่มผู้ที่จะได้สิทธิ์ซื้อจาก Shop ตัวแทนจำหน่ายต่างๆ เพราะรองเท้ามีจำนวนจำกัด
และนี่ก็ส่งผลให้ Yeezy มีราคาที่สูงมากในตลาดรอง
แต่ในช่วงปีที่ผ่านมานี้ Kanye ต้องการให้ทุกคนได้มีโอกาสได้ใส่รองเท้า Yeezy กันมากขึ้น
เขาจึงตัดสินใจเพิ่มจำนวนการผลิตใหม่ โดยเริ่มจากรุ่น Yeezy Boost 350 Triple White
ซึ่งถึงแม้จะทำให้ราคาบางรุ่นในตลาดรองของ Yeezy ลดลง แต่กลับทำให้ยอดขายของ Yeezy นั้นเพิ่มสูงขึ้น
เรามาดูรายได้ของ Adidas ในแต่ละปีกัน
ปี 2016 รายได้ 647,000 ล้านบาท
ปี 2017 รายได้ 743,000 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 767,000 ล้านบาท
ในปี 2018 รายได้โตขึ้นอย่างมากทั้งในแถบอเมริกาและเอเชีย
โดยมีการเติบโตของรองเท้ากีฬากว่า 9% ซึ่งมีสัดส่วนหลักมาจาก การจำหน่ายรองเท้า Yeezy ที่สูงขึ้นอย่างมากในปี 2018
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าแบรนด์ Yeezy มีมูลค่าสูงถึงประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 46,000 ล้านบาทแล้วในปัจจุบัน
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นเจ้าของอย่างเต็มตัว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า Yeezy นั้น ก็คือตัวตน Kanye
ความสำเร็จของแบรนด์นี้ ส่งผลให้ในปัจจุบัน Kanye กลายเป็น ศิลปินฮิปฮอป ที่รวยที่สุดอันดับที่ 4 ของโลก จากการจัดอันดับโดย นิตยสาร Forbes โดยมีทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 7,400 ล้านบาท
ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งก็มาจากส่วนแบ่งการขายรองเท้า Yeezy ที่ได้มาจาก Adidas นั่นเอง..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
หากใครคิดว่ารองเท้า Yeezy นั้นราคาแพงแล้ว ราคารองเท้าที่ Kanye เคยทำกับ Louis Vuitton ในปี 2009 อย่างรุ่น Jaspers นั้น ปัจจุบันราคาในตลาดรองอยู่ที่ประมาณ 300,000 บาท..
╔═══════════╗
ไม่พลาดวิดีโอสาระน่ารู้จาก ลงทุนแมน
กดติดตามที่ youtube.com/longtunman
╚═══════════╝
References
-https://www.forbes.com/…/kanye-west-net-worth-240-million…/…
-https://en.wikipedia.org/wiki/Adidas_Yeezy
-https://www.highsnobiety.com/p/kanye-west-adidas-yeezy-ear…/
-https://hypebae.com/…/kanye-west-billionaire-yeezy-valuation
-Adidas Annual Report
-https://sneakernews.com/…/kanye-west-x-louis-vuitton-compl…/
adidas wiki 在 阿迪達斯 - MBA智库百科 的相關結果
阿迪達斯公司(Adidas):歐洲最大體育用品製造商、世界第二大體育運動品牌公司官方網站網址:http://www.adidas.com/ 英文http://www.adidas.com.cn/ 中文1972 ... ... <看更多>
adidas wiki 在 Adidas - Wiki | Golden 的相關結果
Adidas is a-German based multinational corporation that sells athletic clothing, shoes, and accessories. It is the second largest sportswear producer in the ... ... <看更多>
adidas wiki 在 愛迪達- 维基百科,自由的百科全书 的相關結果
愛迪達(德語:adidas)是一間德國運動用品製造商,是Adidas AG的成員公司。愛迪達以其創辦人阿道夫·達斯勒(Adi Dassler)命名,在1920年於接近紐倫堡的黑措根奥拉赫 ... ... <看更多>