เศรษฐกิจทำพิษ
ขายของไม่ได้
โดนเอาเปรียบเรื่องราคา
สารพันปัญหาที่ต้องแก้ไข
ต้องปรับตัวอย่างไรให้อยู่รอดในยุคนี้ ต้องฟัง!!
.
The Inspirational คลิปนี้ เป็นเรื่องราวของหญิงสาวนักสู้ ที่ตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาทำธุรกิจอาหารทะเล และแม้ว่าจะถูกเอาเปรียบ กดราคา แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ มองหาช่องทางที่จะสามารถพาธุรกิจไปต่อได้
.
เธอตัดสินใจปรับการขายกลายเป็น Food Delivery ที่พร้อมทาน และส่งตรงถึงบ้าน ขยายสาขาออกไปกว่า 5 สาขา ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัล สร้างยอดขายกว่า 100 ล้านบาท ด้วยระยะเวลา 3 ปี
.
ติดตามเวอร์ชั่นเต็ม อายุน้อยร้อยล้าน JQ ปูม้านึ่ง (2018) https://youtu.be/k4woKFWlsLo
-----------------------
ติดตามเพิ่มเติมที่ได้
Website : ryounoi100lan.com http://bit.ly/2LdmyuV
Facbook : อายุน้อยร้อยล้าน http://bit.ly/2zvF8c1
Youtube : อายุน้อยร้อยล้าน http://bit.ly/2YnwtmG
IG IGTV : ryounoi100lan http://bit.ly/2UFdwKK
Line : @ryounoi100lan http://bit.ly/2Tq0oMH
Soundcloud : http://bit.ly/2zrtuyP
.
#TheInspirational #อายุน้อยร้อยล้าน #เจคิวปูม้านึ่ง
#ryounoi100lan #Business #ธุรกิจ #SME
#mushroomtv #mushroomgroup
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過131萬的網紅ืNANAKE555,也在其Youtube影片中提到,#มหากาพย์ไลฟ์สดรีวิวอาหารช่วยชาติ #เจคิวปูม้านึ่งDelivery #เมนูอาหารสามซ้ำ ความอร่อยระดับ 3 ซ้ำ !!! กรรเชียงปูม้านึ่ง เเน่นๆ เรียงมาสวยงาม รสชาติด...
เจคิวปูม้านึ่ง 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
เฟซบุ๊คไม่จ่ายภาษีให้ไทย? / เพจลงทุนแมน
นายตู่ตื่นเช้ามาเล่นเฟซบุ๊คเพื่อเช็คว่าวันนี้มีข่าวอะไรน่าสนใจเกิดขึ้นบ้าง ต่อมาก็เปิดไลน์เพื่อเช็คดูว่ามีเพื่อนคนไหนทักมาบ้าง หลังจากนั้นก็เข้ากูเกิ้ลเพื่อค้นหาข้อมูลเพื่อที่จะไปเที่ยวในวันหยุดยาวที่จะถึงนี้ เมื่อเจอโรงแรมที่น่าไปแล้วก็จองตั๋วผ่านบุ๊คกิ้งดอทคอม ด้วย บัตรเครดิตวีซ่า เมื่อจองเสร็จแล้วจึงลุกจากเตียงไปแปรงฟันต่อไป
จากเรื่องนี้นายตู่ยังไม่ทันได้ลุกจากเตียง มีบริษัทที่ได้เงินจากนายตู่ไปแล้วกี่บริษัท?
คำตอบ คือ 5 บริษัท
1) เฟซบุ๊ค
2) ไลน์
3) กูเกิ้ล
4) บุคกิ้งดอทคอม
5) วีซ่า
แล้ว 5 บริษัทนี้ได้รายได้จากอะไรบ้าง?
เฟซบุ๊ค ไลน์ กูเกิ้ล ได้รายได้จากค่าโฆษณาที่ให้นายตู่เห็นระหว่างที่ใช้งาน
บุคกิ้งดอทคอม และ วีซ่า ได้รายได้จากค่าธรรมเนียมที่เก็บจากโรงแรม
คำถามต่อไปคือ รายได้ที่ทั้ง 5 บริษัทนี้ได้ ควรจะจ่ายภาษีให้กับรัฐบาลไทยไหม?
คนที่บอกว่าควรเสียภาษี ก็จะบอกว่ากิจกรรมที่นายตู่กำลังทำเกิดขึ้นที่ประเทศไทย ดังนั้นควรเสียภาษีให้กับประเทศไทย
อีกฝ่ายหนึ่งก็บอกว่า นายตู่กำลังทำกิจกรรมนี้บนอินเตอร์เน็ต ซึ่งไม่มีพรมแดน การจ่ายเงินนี้เกิดขึ้นที่ต่างประเทศ ไม่เกี่ยวกับประเทศไทย
ผมก็ไม่รู้ว่า เรื่องนี้ควรจะเป็นแบบไหน
แต่ที่รู้คือไม่ใช่เฉพาะ แค่ 5 บริษัทนี้เท่านั้น ตอนนี้กำลังมีบริษัทอื่นๆอีกมากที่เป็นแบบนี้
และบริษัทข้ามชาติพวกนี้ กำลังทำให้บางบริษัทในประเทศขายสินค้าได้น้อยลง
การขายสินค้าได้น้อยลงหมายถึง ภาษีที่เสียให้รัฐบาลไทยก็จะน้อยลงตามเช่นกัน
แต่ในทางกลับกัน ก็มีบางบริษัทในประเทศขายสินค้าได้มากขึ้นโดยใช้เครื่องมือจากบริษัทข้ามชาติพวกนี้
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนใช้เฟซบุ๊คมากที่สุดในโลก คือ 25 ล้านคน ไม่ใช่ นิวยอร์ค โตเกียว หรือ ลอนดอน
ตอนนี้มีธุรกิจเกิดใหม่ในประเทศหลายธุรกิจที่ขายสินค้าผ่านเฟซบุ๊คแล้วประสบความสำเร็จ หนึ่งในนั้นคือ เจคิวปูม้านึ่ง ที่มียอดขายปีที่แล้ว 600 ล้านบาท โดยที่ไม่มีหน้าร้านซักร้านเดียว
ยอดขาย 600 ล้านบาท เป็นยอดขายเดียวกันกับ after you ร้านขนมหวานชื่อดังที่มีสาขาทั่วกรุงเทพ
ทุกวันนี้จะมีร้านต่างๆมากมายที่เปลี่ยนจากการเช่าพื้นที่ห้าง มาเช่าพื้นที่เฟซบุ๊ค ซึ่งนั่นก็คือ การจ่ายค่าโฆษณาให้เฟซบุ๊ค
ถ้าคิดเป็นเรื่องแบบนี้ เฟซบุ๊คก็น่าจะเสียภาษีให้กับประเทศไทย ใช่ไหม?
หรือว่าเราต้องยอมรับว่า ทุกอย่างมันเกิดขึ้นที่อินเตอร์เน็ต ซึ่งอินเตอร์เน็ตไม่ได้อยู่ในประเทศไทย
เป็นคำถามที่น่าคิด ที่ตอนนี้รัฐบาลไทยกำลังคิดหนักว่าจะเอาอย่างไรดี..
อ่านบทความทั้งหมดของลงทุนแมนได้ที่
https://www.facebook.com/longtunman/posts/179575082575108:0
กด add ไลน์ได้ที่ https://line.me/R/ti/p/%40longtunman
กด add เฟซบุ๊คได้ที่ facebook.com/longtunman
เจคิวปูม้านึ่ง 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
Wongnai มีแผน IPO / โดย เพจลงทุนแมน
Wongnai จัดได้ว่าเป็นตัวอย่าง startup ที่เป็นรูปเป็นร่างมากสุดในประเทศไทย
Wongnai เพิ่งฉลองการเปิดบริษัทครบ 7 ปี กับพนักงาน 165 คน เมื่อเดือน กรกฏาคม ที่ผ่านมา
บริษัทก่อตั้งโดย คุณยอด ชินสุภัคกุล เพราะเคยใช้ Yelp ในอเมริกาสมัยเรียนที่นั่น เมื่อกลับมาจึงได้ตั้ง ธุรกิจนี้ขึ้น
เริ่มแรก Wongnai ให้บริการข้อมูลร้านอาหารแก่ผู้บริโภคเพื่อค้นหาร้าน ตามประเภทอาหาร ตามสถานที่ตั้ง และตามรีวิวของ ของคนที่เคยทานแล้วแนะนำไว้ว่าอย่างไร
Wongnai เป็น content platform ให้สมาชิก เข้ามาใช้งาน โดยการร่วมสร้างและแบ่งปันข้อมูล ดังนั้น ข้อมูลที่มีคุณภาพ รวมทั้ง จำนวนสมาชิก จำนวนคนที่มาใช้ และ ความถี่ในการใช้งาน มีส่วนสำคัญที่จะสร้างการเติบโตให้ธุรกิจ
รายได้หลักของ Wongnai คือ ค่าโฆษณาจากแบรนด์ต่างๆ จากร้านอาหารที่ต้องการโปรโมท ต้องการเข้าถึง คนใช้งานในทุกสื่อของ Wongnai
ตอนนี้ Wongnai มีช่องทางต่างๆดังนี้ Facebook, Instargram, Website, Wongnai app, Wongnai Line, Wongnai event และโอกาสที่มหาศาลคือการจับมือกับ LINEMAN ในการส่งอาหารถึงบ้าน
ด้วยข้อมูลร้านอาหารมากกว่า 200,000 ร้านค้าของ Wongnai และ การมีผู้ใช้ไลน์ 50 ล้านคนในไทย บวกด้วยฐานคนส่งของด้วยมอเตอร์ไซด์ของ LalaMove ทำให้ LINEMAN เป็นผู้นำของ FOOD DELIVERY ในเวลาอันรวดเร็ว เบียดผู้ทำตลาดก่อนหน้านี้ Foodpanda และ UberEats อย่างชัดเจน
การไม่หักเปอร์เซนต์ กับร้านอาหาร เป็นข้อได้เปรียบอีกข้อ ที่ทำให้มีร้านค้าใน LINEMAN มากขึ้นนับเป็นตัวอย่าง ecosystem ของ startup ที่ประสบความสำเร็จ
จำนวนสมาชิกตอนนี้ของ Wongnai ที่ลงทะเบียนมี 2.9 ล้านคน มีการเข้ามาดูข้อมูลประมาณ 3 ล้านหน้าต่อวัน หรือ 100 ล้านหน้าต่อเดือน มี active user 6 แสนรายต่อเดือน
จำนวนคนใช้ที่เข้ามาใช้ข้อมูลที่มากขึ้น ย่อมทำให้มีการลงโฆษณามากขึ้น
แล้ว Wongnai มีรายได้เท่าไร?
รายได้ของ Wongnai โตอย่างก้าวกระโดด
ปี 2558 มีรายได้ 50,034,781 บาท
ปี 2559 มีรายได้ 89,469,540 บาท
และได้ข่าวมาว่า 8 เดือนแรกของปีนี้ มีรายได้มากกว่าปี 2559 ทั้งปีไปเรียบร้อยแล้ว ก้าวกระโดดจริงๆ
ปี 2559 Invent บริษัทภายใต้ Intouch Holding ได้เข้ามาลงทุน และ ถือหุ้น Wongnai 10%
Wongnai มีแผนที่จะเข้า IPO ใน ปี 2019 โดยการมุ่งมั่นให้เป็น Lifestyle platform โดยให้สัดส่วนของรายได้ตามกลุ่มคือ Food 60%, Beauty 20%, Delivery & Deal 10% และ Cooking 10%
Wongnai Beauty เป็นคอมมิวนิตี้ความสวยความงาม เป็นอีกหนึ่ง content platform โดยใช้ influencer เป็นตัวช่วย ตลาดความงาม เป็นตลาดใหญ่ไม่แพ้ร้านอาหาร มูลค่ามากกว่า 350,000 ล้านบาท
ที่น่าสนใจคือ ถึงแม้รายได้จะเติบโตทุกปี แต่ผลการดำเนินการปี 2559 Wongnai ยังขาดทุน 7,676,344 บาท
แต่ก็ต้องยอมรับว่าการขาดทุนในช่วงแรกเป็นเรื่องธรรมดาของบริษัท startup ลักษณะนี้ การบริหารให้ขาดทุนแค่นี้ได้เป็นเรื่องที่เก่งมากๆแล้ว
ย้อนกลับไป..
ปีที่แล้ว Wongnai มีรายได้ 89 ล้านบาท
เรื่องนี้ทำให้ลงทุนแมนนึกถึงบริษัทหนึ่งที่เกี่ยวกับเรื่องอาหารเหมือนกัน แต่ไม่ได้มีแอพ หรือ เทคโนโลยีอะไรที่ซับซ้อนเท่า Wongnai
บริษัทนั้นคือ เจคิวปูม้านึ่ง
เจคิวปู้ม้านึ่งเพียงแค่ใช้ประโยชน์จากเฟซบุ๊คในการทำการโฆษณา และขายปูม้าส่งถึงบ้าน
เจคิวปูม้านึ่ง ปีที่แล้วมีรายได้ 600 ล้านบาท ทิ้งห่าง Wongnai อย่างไม่เห็นฝุ่น
และที่สำคัญคือ เจคิวปูม้านึ่ง น่าจะมีกำไรทันทีที่ขายได้..
เจคิวปูม้านึ่ง 在 ืNANAKE555 Youtube 的評價
#มหากาพย์ไลฟ์สดรีวิวอาหารช่วยชาติ #เจคิวปูม้านึ่งDelivery #เมนูอาหารสามซ้ำ
ความอร่อยระดับ 3 ซ้ำ !!!
กรรเชียงปูม้านึ่ง เเน่นๆ เรียงมาสวยงาม
รสชาติดีมาก เนื้อปูสดมาก น้ำจิ้มดี
ราคา :
- กรรเชียงปูจัมโบ้พาสเจอร์ไรซ์
45-50ชิ้น/กระป๋อง 454กรัม1550฿
พร้อมน้ำจิ้ม #สินค้าขายดี
- กรรเชียงปูพาสเจอร์ไรซ์
80-100ชิ้น/กระป๋อง 454กรัม1400฿
พร้อมน้ำจิ้ม
FB:https://web.facebook.com/JQPUUMANUNG/?_rdc=1&_rdr
เบอร์โทร:02-105-4205
LINE:http://bit.ly/2JaMoQr
Shopee : https://shp.ee/jszm6uh
Youtube url :https://youtu.be/p5hfvbDzCV0