ไม่จำเป็นต้อง "บอกรัก" กันตลอดเวลา....
ขอแค่..ในวันที่ "หัวใจอ่อนล้า" ยังอยู่ "เคียงข้างกัน" ก็พอ...
Acoustic Rockn'Roll
เคียงข้างกัน 在 Lipta Facebook 八卦
同時也有1部Youtube影片，追蹤數超過265萬的網紅WOODY，也在其Youtube影片中提到，เปิดตัวคู่แท้ของเจินเจินที่ดูแลซึ่งกันและกัน อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข ไม่เคยทะเลาะกัน คอยแต่จะพากันหัวเราะ เคียงข้างกัน นี่แหละคู่แท้...
「เคียงข้างกัน」的推薦目錄：
- 關於เคียงข้างกัน 在 Lipta Facebook
- 關於เคียงข้างกัน 在 Facebook
- 關於เคียงข้างกัน 在 Pop Siwapat Facebook
- 關於เคียงข้างกัน 在 WOODY Youtube
- 關於เคียงข้างกัน 在 เคียงข้างกัน - ป๋อ มุรธา (Official MV) - YouTube 的評價
- 關於เคียงข้างกัน 在 เคียงข้างกันตลอดไป - The DAY [Official MV] - YouTube 的評價
- 關於เคียงข้างกัน 在 เคียงข้างกัน [Official Lyric Video] - YouTube 的評價
- 關於เคียงข้างกัน 在 ออกเดินทางเคียงข้างกัน - กิ๊ฟเห็ด. ( Official Audio ) - YouTube 的評價
- 關於เคียงข้างกัน 在 ขอบคุณที่รักกัน ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกัน ขอบคุณที่ดูแล ห่วงใย ... 的評價
- 關於เคียงข้างกัน 在 ข้างกันคอร์ด432สล็อต V2.7.11 的評價
เคียงข้างกัน 在 Facebook 八卦
“เรื่องเล่าของสองตายาย”
รู้ว่าติดเชื้อโควิด จากผลตรวจ ATK แต่ยังไม่ได้ตรวจ rt-PCR
ประสานขอตรวจหลายหน่วย แต่ไร้การตอบรับ
สุดท้ายตาเสียชีวิต ยังไม่ทันได้เก็บร่าง
สุดท้ายกว่านั้น ยายก็เสียชีวิตตาม
ญาติร่ำไห้ สะท้อนปัญหาคนชรา ขอตรวจเชื้อยาก หากรู้ว่าติดเชื้อ ได้รับการรักษา ได้รับยา คงไม่เสียชีวิต …
#ร่วมแรงร่วมใจฝ่ามหันตภัยโควิด
ครอบครัวหนึ่ง อาศัยในซอยอ่อนนุช 66 ต้องสูญเสียทั้งคุณตาและคุณยาย เพราะโควิด ผู้เสียชีวิต คือคุณตาจิว อายุ 82 ปี และคุณยายนิตยา อายุ 80 ปี ซึ่งทั้งสองคนอาศัยในบ้าน ร่วมกับลูกหลาน โดยมีบ้านสองหลังในรั้วเดียวกัน
คุณกิ่ง หลานสาว เล่าว่า บ้านสองหลังมีสมาชิกทั้งหมด8คน ติดเชื้อโควิด 6 คน ส่วนเด็ก 2 คน ถูกแยกตัวไปอยู่บ้านญาติ
การติดโควิด เริ่มจากแฟนของคุณกิ่ง มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัด จึงไปหาหมอที่คลินิก เมื่อวันที่ 12 กค. แต่ผ่านไป 3 วัน อาการยังไม่ดีขึ้น จึงไปหาหมอที่รพ. ทางรพ.ตรวจเชื้อโควิด ต่อมาวันที่ 19 กค รพ.แจ้งกลับมาว่าติดเชื้อโควิด และมารับตัวไปรักษาที่ฮอสพิเทล จนหายและกลับมาพักฟื้นที่บ้าน
จากนั้นสมาชิกในบ้านหลังแรกทุกคน ไปตรวจเชื้อ ที่จุดตรวจเชิงรุกที่สนามกีฬาหัวหมาก ผลออกมาคือ ติดเชื้อ
ส่วนบ้านอีกหลัง มี ป้าต๋อย และคุณตาจิว กับ คุณยาย นิตยา ยังไม่ได้ไปตรวจเชื้อ เพราะคุณตาจิว เป็นผู้ป่วยอัมพาต ส่วนคุณยายก็ชรามาก เดินทางลำบาก มีเพียงป้าต๋อย ลูกสาวได้ไปตรวจเชื้อคนเดียว
รอบแรกไปตรวจที่คลินิก ผลคือไม่ติด ต่อมาป้าต๋อย จึงไปตรวจเชิงรุก อีกครั้ง ที่ศูนย์กีฬามีนบุรี พอผลออกเป็นลบอีก แต่ป้าต๋อยเริ่มมีอาการ จมูกไม่ได้กลิ่น
ในบ้านหลังนี้ เหลือเพียงคุณตา คุณยาย 2 คน ที่ยังไม่ได้ตรวจ ครอบครัวพยายามประสานขอไปตรวจเชื้อตามรพ.ต่างๆ ก็ไม่มีการตอบรับ บางรพ.บอกต้องเหมารถมาเอง และญาติต้องมาต่อคิวก่อนด้วย จึงจะตรวจได้
หลานโทรขอความช่วยเหลือ1669 ก็โอนสายไปมาเพราะตอบยืนยันไม่ได้ว่าคุณตาคุณยาย เป็นผู้ป่วยหรือไม่ พยายามโทรทุกทาง จนกระทั่งวันเสาร์ที่ผ่านมา แจ้งขอความช่วยเหลือไปที่หน่วยช่วยเหลือของหน่วยงานแห่งหนึ่ง ซึ่งได้แจ้งกลับมาว่า จะมาตรวจเชื้อให้ตากับยาย วันที่ 2 สค.
ระหว่างรอ เพื่อนบ้านจึงนำที่ตรวจแบบ ATK มาให้ตรวจ แล้วก็พบว่าตาและยาย ติดเชื้อโควิด ทั้ง 2 คน
ครอบครัวได้แต่รอการตรวจยืนยัน เพื่อหวังจะได้เข้ารับการรักษา หรือได้ยาต้านไวรัสมาให้ตากับยาย แต่แล้ว อาการของคุณตาก็เริ่มทรุด มีไข้ ไอ และหอบเหนื่อย ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 31 กค. ซึ่งครอบครัวทำได้เพียงให้กินยาตามอาการ
คืนวันที่ 1 สค คุณตาอาการหนัก ไอทุรนทุราย ส่วนคุณยายก็เฝ้ามองไม่ห่างด้วยความเป็นห่วง ทุกคนพยายามดิ้นรนหายา และดูแลคุณตา
คุณตาเสียชีวิตลง ช่วงประมาณสี่ทุ่ม
ครอบครัวเสียใจมาก เพราะไม่ทันได้รักษา หรือแม้แต่พาคุณตาไปรพ.
และเพราะเป็นช่วงเคอร์ฟิว มูลนิธิและตำรวจ ยังไม่ได้เข้ามาเก็บร่างของคุณตรในคืนวันนั้นทันที โดยบอกกับญาติว่า จะมาเก็บศพ ในเช้าวันที่ 2 สค.ซึ่งเดิมเป็นเวลานัดที่คุณตาจะได้ตรวจเชื้อ
ครอบครัวต้องใช้ผ้าคลุมร่างที่สิ้นลมหายใจไว้ในห้องนอน
คืนนั้น คุณตาเสียชีวิต ป้าต๋อยบอกกับคุณยาย ว่า คุณตาเสียแล้ว คุณยายบอกว่า ทำใจได้ ไม่เป็นไร
แต่ตกดึกหลังจากคุณตาเสีย ช่วงประมาณตีสอง คุณยายมีอาการไอ หอบเหนื่อย และเริ่มเบลอ พูดจาไม่รู้เรื่อง
ป้าต๋อยลูกสาว คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง จนกระทั่งเช้า เห็นคุณยายหลับไป ก็เข้าใจว่า คุณยายเพลียและคงหลับ จึงลงมาเตรียมอาหารและผ้าเช็ดตัวจะไปเช็ดตัวให้
แต่พอไปถึง คุณยายเสียแล้ว
ป้าต๋อย จึงแจ้งกลับไปที่กู้ภัยว่า ให้มาเก็บสองศพนะ เพราะยายก็เสียตามไปอีกคนแล้ว
ป้าต๋อยบอกทั้งน้ำตาว่า มันเศร้า เราพาคุณตาไปหาหมอไม่ได้ เสียชีวิตแล้ว คุณยายก็พาไปหาหมอไม่ได้อีก ศพคุณตา ยังนอนอยู่ในห้อง ยังไม่ทันได้เก็บ คุณยายก็มาจากไปอีก
“เราดูคุณตาคุณยาย เราร้องโอดโอย ไปหาหมอไม่ได้ จะไปรักษาก็ไม่มีใบตรวจ ใครจะรับตรวจ แต่อาการที่คุณตาและคุณยาย รอไม่ได้แล้ว คุณคุณตาทรมาน เราก็ช่วยไม่ได้ ช่วยไม่ได้ทุกอย่าง ต้องรอ แล้วก็ต้องรอ จนเสียชีวิต”
“รอผลตรวจก่อน ถ้าเค้าไม่แย่จริงๆ เค้าไม่ขอร้อง ไม่มีใครหรอกอยากไปโรงพยาบาล ไม่รู้ว่าจะแก้ไขยังไง แต่อยากขอร้อง พวกรากหญ้าขอร้องให้สนใจบ้าง ไม่ใช่จะรอผลตรวจ ช่วยรับรักษาเราด้วย”
ครอบครัวนี้เหลืออีก 4 คนที่ติดเชื้อ ซึ่งได้เข้ารับการรักษา แบบ home isolation ซึ่งก็ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์แล้ว ตอนนี้คนในบ้านเริ่มอาการดีขึ้น แต่ก็ต้องมาเจอกับเรื่องเศร้า ที่ต้องสูญเสียคุณตาและคุณยายไปพร้อมกัน ถ้าคุณตากับคุณยายมีผลตรวจเข้าระบบได้ อาจจะได้ยาฟาวิฯ และอาจจะไม่เสียชีวิต
วานนี้ มูลนิธิร่วมกตัญญู นำร่างคุณตาและคุณยาย ไปฌาปนกิจ ที่วัดกระทุ่มเสือปลา เขตประเวศ โดยใช้เตาเผาสองศพ เคียงข้างกัน เผาพร้อมๆ กัน
เคียงข้างกัน 在 Pop Siwapat Facebook 八卦
สิ่งที่ผมเรียนรู้จากปี 2019
1. ความปกติธรรมดา คือ ของขวัญล้ำค่าที่ต้องจ่ายมาซึ่งการถอดหัวโขน
ผมตัดสินใจจบคำว่า Dr.Pop,Master Pop
คำว่า ครู โค้ช ผู้ให้ อะไรทั้งหมด
เพื่อกลับมาเป็นตัวเอง
ในฐานะ “ชีวิตก้อนหนึ่งซึ่งดำรงอยู่ตามจริง”
ตำแหน่งต่าง ๆ มันทำให้เรารู้สึกเหนือกว่าชาวบ้าน
เราไม่ต้องการมันแล้ว เราเป็นคนปกติธรรมดาดีกว่า พอใจแล้ว เคารพทุกสิ่งอย่างที่มันเป็นทั้งกับตัวเองและสรรพสิ่ง แค่นี้พอ
.
.
2. "ให้ชีวิตเป็นไปตามกระแส"
ชีวิตมันมีหนทางของมัน ปล่อยให้มันนำทางเราไป
ตรงบ้าง เลี้ยวบ้าง เจออุปสรรคบ้าง ให้มันเป็นตามนั้น
.
.
3. "แผนการชีวิตเป็นเรื่องของความกลัว
การยืดหยุ่นได้คือการมีชีวิตจริง ๆ"
ต่อให้เราวางแผนดีแค่ไหนก็ไม่มีอะไรเป็นดั่งหวังได้
วางแผนพอประมาณแค่พอรู้ว่าอะไรอย่างไร
ส่วนมันจะทำได้แค่ไหน ปล่อยไป
อย่าให้อัตตามาชี้นำเกินเหตุ
.
.
4. ยุติการแข่งขัน ไม่อยากชนะอะไรแล้ว
ผมยึดติดการชนะมาตั้งแต่เด็กจนรู้ว่า
“เมื่อเราชนะก็มีผู้แพ้เสมอ”
แล้วมันได้อะไร?
ต่อให้เรามีข้ออ้างมากแค่ไหนที่จะชนะ
สุดท้ายเราก็เหนือกว่าอยู่ดี
ทำไมเราต้องเหนือกว่าล่ะ? เราขาดอะไร?
ผมพอแล้วกับการแข่งขัน ผมไม่เห็นค่าของมัน
ขอแค่เดินทางไปด้วยกันกับเพื่อนมนุษย์ก็พอ
.
.
5. ความรัก = การให้อิสระ ไม่ยึดติด
ไม่ครอบครอง ไม่ปรับเปลี่ยนธรรมชาติใคร
ปีนี้คือปีที่ได้ปล่อย ได้แค่เฝ้ามอง
ได้ชื่นชมคนที่เรารักมาก ๆ ตามแบบที่เขาเป็น
ได้เคารพว่าเขาก็เป็นเช่นนั้น
เห็นการเกิดดับของอารมณ์ ตัวตนเขา
รับรู้ได้ว่าเราควบคุมไม่ได้ เขาไม่ได้เป็นของเรา
การเห็นเขาเป็นอิสระคือการแสดงออกความรักที่ยิ่งใหญ่
.
.
6. การเดินทางคนเดียว คือ หนทางสู่การรู้จักตัวเองที่ยอดเยี่ยม
ได้ทดลองอยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียว
เดินทางไกลคนเดียว
ไม่ฟังเพลง ฟังแต่เสียงใจตัวเอง
ค้นพบกิเลส อัตตา ตัวตนเยอะมาก
และก็ไล่สังเกตไปทีละจุด
จนพบว่าทั้งหมดเป็นเพียง “ปรากฏการณ์”
มันเพียงผ่านมาและผ่านไป
เหนือสิ่งอื่นใดได้รู้ว่าศักยภาพของคนมันไร้ขีดจำกัดมาก
เราทำได้ทุกสิ่งที่เราต้องการ ให้เวลามันหน่อย
ออกเดินทางเองบ่อย ๆ จะยิ่งรู้จักตัวเองกว่าเดิม
.
.
7. หยุดการโต้เถียง โน้มนาว สร้างอิทธิพล
เพราะมันสร้างสภาวะ “ทาส”
เมื่อก่อนเข้าใจว่าการโต้เถียง
โน้นน้าวหรือมีอิทธิพลกับใครเป็นเรื่องยิ่งใหญ่
ตอนนี้เข้าใจว่า มันก็แค่สภาวะการเป็นทาสความรู้สึกคน
คือเราต้องมีคน ๆ หนึ่งมาเชื่อเรา เราถึงจะมีค่า แบบนั้นคืออิสระจริงหรือ?
ผมขอพอกับเรื่องนี้ ค้นพบว่า การเงียบปากคือเรื่องดีที่สุด
ไม่ต้องอวดรู้ อวดฉลาด ไม่ซ้ำเติมคนผิดพลาด
เคารพเขาอย่างที่เขาเป็นก็พอ
เขาถามก็บอกในมุมเราและก็ย้ำว่า "ไม่ต้องเชื่อนะ"
เพราะทุกสิ่งที่เราพูดก็มาจากการเรียนรู้ของเรา
ซึ่งไม่ได้มีหลักฐานว่ามันถูกกับทุกคน
.
.
8. เป็นเพื่อน > ผู้นำ
การนำเขา คือ กดเขาลงต่ำ
การเป็นเพื่อนเขา คือ เดินไปด้วยกัน
สนับสนุน เคียงข้างกัน สุขทุกข์ด้วยกัน
เป็นเพื่อนกันสามารถรัก ให้อิสระ เกื้อกูลกันได้
ไม่ต้องนำใครดีกว่า นำใจตัวเองให้ถ่อมตนได้แค่นั้นพอ
.
.
9. เราไม่รู้อะไรทั้งนั้น
เมื่อก่อนมองคนวิเคราะห์คนจะมีทฤษฏีเซ็ตความรู้เยอะแยะไปหมด
ประเด็นคือ “เราเอาความรู้มาตีค่าความเป็นมนุษย์ได้จริงหรือ?”
มีไหมคนที่อยู่นอกเหนือทฤษฏี?
มีไหมคนที่ทำอะไรต่างออกไป?
ทุกวันนี้แค่สังเกตคนแบบที่เขาเป็น
ไม่ตัดสิน ไม่ถือดีไปบอกว่าเขาเป็นไง
หุบปาก ไม่วิจารณ์ ไม่ก้าวก่าย
ชื่นชมเขาในแบบที่เขาเป็นนั่นแหละ
เพราะเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย
รู้แค่ว่าเราล้วนสุขทุกข์เหมือนกัน
เรารู้สึกตื่นเต้นกับทุกเหตุการณ์
เพราะมันเป็นประสบการณ์สดใหม่
ใจมันมีชีวิตชีวาขึ้น
.
.
10. การทำดีกับคนที่ไม่ชอบเรา
คือ การลดกิเลสและอัตตาตัวเองมากๆ
ปีนี้ได้ช่วยเหลือ ให้โอกาสคนที่เกลียดเรา ไม่ชอบเราหลายคน
และทำแบบไม่หวังผลอะไรทั้งนั้น รู้แค่ว่าช่วยได้ก็ช่วยไป
ช่วยแบบไม่ได้บอกอะไรใครเท่าไหร่ คือ ช่วยได้ก็ช่วย
ไม่ได้ช่วยเพราะมีเยอะกว่า สูงส่งกว่า หรือจะเอาหน้า
ช่วยเพราะ “เราเป็นก้อนชีวิตเหมือนกัน”
ถ้าเราเดือดร้อนแบบเขาเราก็คงต้องการความช่วยเหลือ
ได้รู้ใจเขาใจเรามากขึ้น
ได้เข้าใจว่าที่เขาไม่ชอบเราก็เป็นผลจากชีวิตของเขา
เขาอาจจะรู้จักเราในแบบนั้น
หรือ เราอาจไปพูดไปทำอะไรคุกคามเขาก็ได้
ก็ถอยมามองตัวเอง พิจารณาตัวเอง ปรับปรุงเอง
อะไรแก้ได้ เป็นการลดอัตา ขจัดกิเลศ ก็ทำ
อะไรที่คิดจะแก้แต่รู้ทันว่าแก้เพราะติดดี
อยากให้เขามารักเราแคร์เราก็ไม่ทำ
สุดท้ายการเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้อัตตาลดลง
ไม่ใช่เปลี่ยนตัวเองหวังเอาคะแนนใจจากใคร
มันก็เลยเป็นคนปกติกว่าเดิม
.
.
11. ทำงานเพื่อขัดเกลากิเลส ความถือดี และอัตตาตัวเอง
ปกติทำงานเพราะอยากเด่น อยากสำเร็จ อยากเป็นที่ยกย่อง
ปีนี้คำว่าความสำเร็จของเรา ขอแปลตรงตัวตามรากศัพท์
คือ “ผลลัพธ์ที่เป็นสุข” อะไรสุขนั่นแหละสำเร็จ
ตามดูลมหายใจได้ สุข คือ สำเร็จ
กินอิ่มพอเหมาะ สุข คือ สำเร็จ
เราไม่วัดค่าตัวเองจากเงินทองหรือจากคำชมใคร
ไม่เอาค่านิยมใครมาเป็นเครื่องมือตีตราตัวเอง
และไม่มีอะไรต้องพิสูจน์กับใครทั้งนั้น
เราทำงานเพื่อจะได้ฝึกเมตตามากขึ้น
เห็นกิเลสเรื่องไหนก็จัดการให้ได้
ค่อยเป็นค่อยไปเพราะเป็นคนกิเลสหนาอยู่ 555
.
.
12. เราคือความรัก ไม่ใช่ให้คนอื่นมาเป็นความรัก
เราเคยยึดติดว่าถ้าคนนี้บอกว่าเรารักต้องทำ 1 2 3 4
ปีนี้เราตัดสินใจจะให้รักไปเลย ช่วยไปเลย
และเราก็ไม่สนว่าเขาจะรักเรา หรือขอบคุณหรือเห็นค่าไหม
คุณค่าชีวิตเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับใคร
เราไม่ได้ทำดีกับเขาเพื่อให้เขารักเรา
เราทำดีเพื่อจัดการกิเลสอัตตาตัวเอง
เรารักเพื่อนมนุษย์ได้หมดใจมากขึ้น
ท้ายที่สุดเรารู้สึกว่ากราบไหว้ตัวเองได้
ต่อให้คนจะรู้สึกยังไงกับเรา เราก็โอเคที่ได้ทำ
.
.
13. รับทุกอารมณ์ตัวเองให้ได้อย่างเท่าเทียม
ทุกอารมณ์เป็นกลาง ไม่มีดีกว่าด้อยกว่า
ผมยุติการบอกตัวเองว่า "โกรธไม่ดี เกลียดไม่ดี"
ผมได้เข้าใจว่าโกรธก็แค่โกรธ มาได้ ไปได้
ผมได้อนุญาตให้ตัวเองได้เห็นทุกอารมณ์แบบไม่ติดโลกสวย
โกรธได้ เสียใจได้ ท้อได้ เศร้าได้ ผิดหวัง ดีใจ เบิกบาน
แค่เห็นมัน มองมันมา เปลี่ยน และไป ไม่ยึดติดอะไรทั้งนั้น
จริง ๆ แล้วผมพบว่าความโกรธเป็นมิตรกับเรามาก
มันมาขัดเกลากิเลส อัตตา ความถือดีในตัวเรา
คำถามคือ "โกรธแล้วจัดการอย่างไรต่อ?"
เมื่อก่อนโกรธก็วีนละ โน้มน้าวละ
เดี๋ยวนี้โกรธก็ไปจัดการตัวเองให้สงบ
ส่วนจะพูดเคลียร์กันแบบสุภาพ ๆ ตรงไปตรงมา
หรือจะจบที่ตัวเราเองก็ได้ แล้วแต่ว่าคนที่มีปัญหาด้วยคือใคร
บางทีเราก็ไม่จำเป็นต้องเอาความโกรธไปลงที่คนก็ได้
มันมาแบบธรรมชาติก็คืนธรรมชาติไป
คืนให้ความไม่เที่ยง ไม่มีตัวตนของมัน แค่นั้น โอเคเลย
.
.
.
โพสนี้โพสไว้เตือนสติตัวเอง ว่าปีนี้เป็นแบบนี้นะ
เพราะกลับไปอ่านของปีที่แล้วก็ได้เรียนรู้หลายอย่างเหมือนกัน หากมีประโยชน์กับคุณก็ยินดีด้วยครับ
ขอให้ทุกชีวิตเบิกบานทุกลมหายใจ
== ช่องทางการติดต่ออื่น ๆ ==
Siwapat Line : https://lin.ee/apVXTfv
Siwapat Ig : www.instagram.com/siwapatnow
Siwapat Youtube : www.youtube.com/siwapatnow
#Siwapat #WhiteRoad
เคียงข้างกัน 在 WOODY Youtube 的評價
เปิดตัวคู่แท้ของเจินเจินที่ดูแลซึ่งกันและกัน อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข ไม่เคยทะเลาะกัน คอยแต่จะพากันหัวเราะ เคียงข้างกัน นี่แหละคู่แท้
เคียงข้างกัน 在 เคียงข้างกันตลอดไป - The DAY [Official MV] - YouTube 的八卦
Artist : The DAY เนื้อร้อง : วันวิสาข์ ศิลปผดุง ทำนอง : วระภัทร พงศ์เสาวภาคย์ เรียบเรียง : วระภัทร พงศ์เสาวภาคย์ เคียงข้างกัน ตลอดไป : Lyrics ... ... <看更多>
เคียงข้างกัน 在 เคียงข้างกัน [Official Lyric Video] - YouTube 的八卦
เพลง: เคียงข้างกัน (Alongside) Verse 1: บ่อยครั้งที่เราต้องเจอเรื่องราวที่ไม่เข้าใจ มันยากเกินที่จะผ่านไหวเพียงคนเดียวลำพัง เรื่องราวในรอยน้ำตาไม่เคยมีใครได้ฟัง ... ... <看更多>
เคียงข้างกัน 在 เคียงข้างกัน - ป๋อ มุรธา (Official MV) - YouTube 的八卦
มีความสุขกับเสียงเพลง # เคียงข้างกัน เพลง เคียงข้างกัน เนื้อร้อง มุรธา นามพลกรัง ทำนอง มุรธา นามพลกรัง สุภกิจ ไพรจิตรสุวรรณ ดนตรี warrattapol มุรธา นามพลกรัง สุภกิจ ... ... <看更多>