Ep. 58 - คนแบบไหนที่ควร "เมตตา?"
.
พรหมวิหาร 4 ก็เหมือนขนมปัง
ที่มีไส้อยู่ข้างใน มันเคลือบด้วยความ ”เมตตากรุณา”
แป้งคือความ “เมตตา” น้ำตาลคือความ “กรุณา”
กัดไปเจอไส้ อันนั้นน่ะ คือ “มุทิตา”
แต่ถ้าหมดไป
มันต้อง “อุเบกขา”
.
มันคือก้อนเดียวกัน มึงไม่สามารถ
ที่จะกินครีมอย่างเดียว
แล้วอร่อยได้ มึงต้องกินทีเดียว
.
การกินหนึ่งคำเนี่ยทำให้เกิดจิตที่
ได้บทเรียนเรื่องพรหมวิหาร
มันต้องมาเกือบจะพร้อม ๆ กัน
อย่ารีบอุเบกขา ถ้ารีบอุเบกขา
นั่นคือมึงไม่รับผิดชอบ
ต่อสิ่งที่มึงรับผิดชอบได้
.
พระพุทธเจ้า ไม่ได้ให้ใช้ชีวิต
ด้วยความอุเบกขา
ท่านให้เมตตานำ ใช้เมตตาก่อน
ถ้าเมตตากรุณาแล้ว
ก็คือรัก
แล้วก็สงสารแล้ว
ถ้าเขาเปลี่ยนแปลงได้
“มุทิตา”
นี่คือโอเค…
Celebrate ด้วย ดีใจด้วย มึงเปลี่ยนแปลงได้
แต่ถ้ามันสุด ความสามารถเราแล้ว
ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงเขาได้แล้ว
“อุเบกขา”
วางเฉย…
.
ต้องย้อนกลับไปว่า
คนที่คุณเมตตาน่ะ
เป็นใคร?
.
พระพุทธเจ้า
ตรัสสิ่งนี้ไว้ชัดเจนแล้วว่า
เวลาจะทำบุญน่ะ
“ปุญฺญเขตฺตํ”
มึงต้องดูเนื้อนาบุญด้วย หว่านเมล็ดลงไป
ในคอนกรีต
เป็นไง?
ขึ้นมั้ยอะ?
ไม่ขึ้น
หว่านลงไปต้องเป็นพื้นดิน
พืชถึงจะขึ้น
.
‘พรหมวิหาร’
พรหม แปลว่า ผู้ประเสริฐ
วิหาร แปลว่า ที่อยู่
ใครที่มีพรหมวิหาร นั่นแปลว่าในใจ
มีที่อยู่ของความเป็นผู้ประเสริฐอยู่
คนที่มี พรหมวิหารประจำใจ
เป็นคนที่ ไปในทางดีแน่นอน
.
คนรักษาศีลไม่ได้ถ้าเกิดไม่มีพรหมวิหาร
พรหมวิหารมันเกิดจากความรัก
และสงสาร ในสรรพสัตว์
ในสรรพสิ่งทั้งตัวเองด้วย
ถ้าเราไม่มีเมตตาไม่สงสารคน
เรามีโอกาสที่จะทำร้ายเขาได้มั้ย?
มี!
ถูกปะ?
.
แต่ถ้าเราเป็นคนสงสาร เราจะเอาที่ไหน
ไปทำร้ายคน เราจะเอาที่ไหน
ไปลักทรัพย์คน เอาที่ไหน
ไปผิดลูกผิดเมียเขา จะเอาที่ไหน
ไปโกหกหลอกลวงเขา
ถูกมั้ย?
.
เพราะฉะนั้นแล้ว
คนจะรักษาศีลได้
ต้องมีพรหมวิหารเป็นที่ตั้ง
ธรรมะของพระพุทธเจ้า
สอดคล้องต้องกันหมด
ไม่มีขัดกันเลย
แม้แต่บทเดียว
.
จริง ๆ พระพุทธเจ้า ท่านก็บอกแบบนี้
ถ้าจะช่วยโจรช่วยคนร้ายเนี่ย
ไม่ต้องช่วยด้วยอะไรเลย
ช่วยด้วยการเอาใจช่วยเขา
เนี่ยแค่นี้ก็ช่วยแล้ว
แต่ถ้าเจอคนพวกนี้
“สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ”
ให้อะไรไม่สู้
ให้ธรรมเป็นทาน
ให้อะไรไม่สู้ให้ความคิด
ให้อะไรก็ไม่สู้ให้ความรู้
ดีที่สุด
.
ช่วยโจรได้
ช่วยเพื่อให้เขาเป็นคนดี
ไม่ใช่ช่วยให้เขา
เป็นโจรที่ดีขึ้น
เข้าใจปะ?
.
โจรที่แบบ…
ปล้นเก่งมากขึ้น
นี่ไม่ใช่การช่วยละ
ส่งเสริมคนไปในทางชั่ว
อย่างนี้เราทำตัวเป็นคนพาลละ
คนประกอบด้วย 3 อย่าง
อะไรบ้าง?
.
กำลังกาย
กำลังความคิดสติปัญญา
กำลังความดี
เราช่วยคนพาลอยู่หรือไม่
ดู 3 กำลังนี้
ถ้ามีกำลังกาย
แต่ไม่มีกำลังความดี
นี่ไม่ใช่คนดี
ไม่ใช่สาธุชน
เป็นพาลชน
.
ถ้ามีแต่กำลังความคิด
แต่ไม่มีกำลังความดี
นี่ก็เป็นคนพาลเช่นกัน
ไม่ใช่สาธุชน ใครก็แล้วแต่
ประกอบด้วย กำลังความดีเป็นหลัก
คนนั้นเป็นสาธุชน
ไม่ใช่คนพาล
.
การพัฒนาตัวเอง มันเหมือนเดินขึ้นบันได
ต้องใช้กำลังกาย กำลังใจ กำลังสติปัญญา กำลังความดี
แล้วถามจริง คนเดินขึ้นบันได
มีเสียงมั้ย?
สมมุติบันไดไม้
ก็มีเสียง
ตึก ๆ ๆ ๆ
ถ้าคนตกบันได
เสียงยังไง?
ตุ๊บๆ ๆ
ถูกปะ?
.
เหมือนกันเลย ฉันใดฉันนั้น
การขึ้นมันยาก การลงมันง่าย
จิตถ้าไม่ระวัง มันลงอยู่แล้ว
แล้วลงทีนึง มันลง ตุ๊บๆ
.
จริง ๆ แล้ว
การที่เราพูดคำว่าสาธุ
“เออ…”
“ดีแล้ว ๆ” เนี่ย จิตเรา ณ ตอนนี้
เขาเรียกว่ามันเป็น
“ปตฺตานุโมทนามย”
ก็คือได้บุญ บุญที่เกิดจากการ พลอยยินดี
บุญที่เกิดจากการ
“โอเค”
“เฮ้ยเยี่ยม”
“เจ๋งว่ะ”
“ดีว่ะ”
.
เวลาเราเห็นคนที่ เขาเก่งกว่าเรา
มีทางเลือก ถ้าคุณจะอิจฉาเนี่ย
ไม่ได้อะไรเลยนะ มีแต่ความโกรธ
แต่ถ้าเกิดว่า คุณเห็นคนดีปุ๊บ
.
“แ-่งเจ๋งว่ะ!”
มึงพูดแค่นี้
“ปตฺตานุโมทนามย”
แ-่งเกิดเลยนะ
ได้บุญจากการอนุโมทนา
มันอยู่ที่คุณ ว่าคุณจะเลือกยังไง
ใช่ปะ?
.
มันเลือกที่จะอิจฉา
ก็เอาเถอะ
เอาความโกรธ
เอาความพยาบาทอาฆาต
ผูกไป
แต่ถ้าคุณจะเลือก
“โอ้โหแ-่งเจ๋งว่ะ”
นี่
แค่นี้บุญก็เกิดแล้ว
.
#ผู้กองเบนซ์
ปล. ตรวจสอบคนพาล ด้วยการดูความดี
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
*ติดต่องานวิทยากร,อบรมสัมมนา,สนับสนุนช่อง โทร 094-449-9464 (คุณจี้)
ช่องยูทูป : ผู้กองเบนซ์ - Capt.Benz
blockdit : ผู้กองเบนซ์ - Capt.Benz
IG : capt.benz
Line OA : @ captbenz
twitter : @ captbenz
พรหมวิหาร 4 คือ 在 sittikorn saksang Facebook 八卦
วันหยุดวันรัฐธรรมนูญ 10 ธันวา ผมหยิบหนังสือ ของ อาจารย์ภูภณัช รัตนชัย เรื่อง "นิติศาสตร์แนวพุทธ" แต่งโดย ศาสตราจารย์พิเศษพระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) (นามเดิม:ประยุทธ์ อารยางกูร) หรือที่รู้จักกันดีทั่วไปในนามปากกา "ป.อ. ปยุตฺโต" เกิดเมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2481 ที่อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ 12 ปี เมื่อ ปีพ.ศ. 2494 และเข้ามาจำพรรษาที่วัดพระพิเรนทร์ กรุงเทพมหานคร จนสอบได้นักธรรมเอก และเปรียญธรรม ๙ ประโยค ขณะยังเป็นสามเณร เป็นรูปที่สองในรัชกาลปัจจุบัน และเป็นรูปที่สี่ในสมัยรัตนโกสินทร์ โดยได้รับการอุปสมบทโดยเป็นนาคหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2505 ณ พัทธสีมาวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตฺติโสภโณ) เป็นพระอุปัชฌาย์
ในหนังสือเรื่องนี้ มีเรื่องที่น่าสนใจ เรื่องหนึ่งที่อ่านเทียบเคียงเพื่อเตือนสติของคนไทยได้ในเวลานี้ คือ
"จะรักษาธรรมให้แก่สังคมได้ต้องรักษาดุลยภาพให้แก่ใจของตน ด้วยพรหมวิหาร 4"
พรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตาและอุเบกขา ในส่วนนี้จะอธิบายเรื่องอุเบกขา หลักการแห่งควมจริงตามธรรมชาติ ความเป็นเหตุผลในสิ่งทั้งหลายหรือความเป็นเหตุปัจจัย การที่มนุษย์มีความสัมพันธ์กันดี ไม่พอที่จะทำให้สังคมอยู่ได้ แม้มนุษย์จะมีความสัมพันธ์กันดีใน 3 สถานการณ์ แต่ถ้าเขาไม่รักษาธรรมไว้สังคมก็อยู่ไม่ได้
บนฐานแห่งหลักการความแท้จริงตามกฎธรรมชาตินั้น เมื่อมนุษย์เอาความรู้ในความจริงมาตั้งเป็นหลักการ เป็นกฎเกณฑ์กติกาในสังคมเราก็พลอยเรียก หลักชั้นสองที่มนุษย์บัญญัติขึ้น เรียกว่า "ธรรม"
ฉนั้นอุเบกขาจึงเป็นข้อธรรมใหญ่ที่คุมท้าย เพราะเป็นตัวรักษาหลักการไว้ ถ้าไม่รักษาหลักการนี้สังคมนั้นจะสูญเสียดุลยภาพ
สรุป "อุเบกขา" ที่เกิดจากปัญญา เป็นดุลภาพในจิตใจที่ช่วยให้เกิดผลภายนอก 3 ด้าน คือ
1. "ช่วยรักษาบุคคล" ด้วยการสร้างโอกาสให้เขารู้จักรับผิดชอบต่อเหตุผลและความจริงของโลกและชีวิต เช่น คอยดูดูแลให้เด็กทำการต่างๆด้วยตนเองเพื่อช่วยให้เขาพัฒนาตนเองให้เข้มแข็ง คิดเป็นทำเป็น เป็นต้น
2. "ช่วยรักษาสังคม" ด้วยการสนองเจตนารมณ์ของข้อตกลง(สมมติ) ที่วางไว้โดยปฏิบัติ เป็นต้น ทำให้เกิดความเสมอภาค เช่น การที่ทุกคนจะมีความเสมอภาคกันต่อหน้าหลักการกฎเกณฑ์กติกาและกฎหมาย เป็นต้น
3. "ช่วยรักษาธรรม" ด้วยการทำให้มีการปฏิบัติตาม ไม่ถูกคนล่วงละเมิด ดำรงรักษาไว้ได้ซึ่งความถูกต้อง ความชอบธรรม ความดีงามหรืออย่างน้อยความสมเหตุสมผล (ซึ่งมักถือเอาความลงตัวโดยเหตุผลหรือการลงความเห็นตามเหตุผลและหลักฐาน ที่เรียกว่า "ความยุติธรรม" อันได้แก่ "ธรรม คือ ยุติ" หรือ "ธรรมโดยยุตติ")
เมื่อตั้งอยู่ใน "อุเบกขา" ตัวของผู้ปฏิบัติก็พร้อมที่จะรักษาตนเองไว้ไม่ให้ล่วง "อคติ" คือ การออกนอกทางที่ควรจะไปหรือความประพฤตินอกทางแห่งธรรม ที่แปลง่ายๆว่าความว่าความลำเอียง 4 ประการ คือ
(1) ฉันทาคติ ลำเอียงเพราะ "รัก" หรือ เพราะชอบกัน
(2) โทสาคติ ลำเอียเพราะ "ชัง" หรือ เพราะขัดเคือง
(3) ภยาคติ ลำเอียงเพราะ "ขลาด" หรือ เพราะกลัว
(4) โมหาคติ ละเอียงเพราะ "เขลา" หรือ เพราะหลงผิดรู้ไม่เท่าถึงการณ์
นี้คือ ภาวะแห่งดุลยภาพในจิตใจของบุคคลที่ส่งผลออกมาทำให้รักษาดุลยภาพในสังคมไว้ได้
(ซึ่งทุกวันนี้ปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ผมเห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่มัก "ขาดดุลยภาวะแห่งดุลยภาพจิตในของบุคคล" ดังนั้น คนไทยควรจะหันเข้ามาศึกษาและปฏิบัติด้วย พรหมวิหาร 4 โดยเฉพาะ "อุเบกขา" ควรที่จะยึดมั่นบนพื้นฐานที่จะรักษาธรรมให้แก่สังคมได้ต้องรักษาดุลยภาพให้แก่ใจของตนเองและสังคมไทยนะครับ)
พรหมวิหาร 4 คือ 在 24. พรหมวิหาร 4 : หลักธรรมสำหรับผู้บริหาร และการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ... 的八卦

วิทยากร พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต พระ ดร. สมพงษ์ รัตนวํโส ผู้ดำเนินรายการ พสฎ แสงแก้ว พรหมวิหาร ๔ 1. เมตตา คือ ความปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข 2. ... <看更多>
พรหมวิหาร 4 คือ 在 พรหมวิหาร 4 สรุปย่อเข้าใจง่ายใน 2 นาที | B Kind Story 的八卦
พรหมวิหาร 4 สรุปย่อเข้าใจง่ายใน 2 นาที 1. เมตตา 2. กรุณา 3. มุทิตา 4. อุเบกขา # พรหมวิหาร4 #พรหมวิหาร #BKindStory #หลักธรรม #สรุปย่อ. ... <看更多>